“กู้เจิงแม่คิดถึงเ้าจะตายอยู่แล้ว” หวังซู่เหนียงน้ำตาคลอโอบกอดบุตรสาว หลังจากกู้เจิงแต่งงานออกไปนางเฝ้าคิดทุกวันว่าลูกอยู่ที่บ้านสามีจะเป็อย่างไรบ้าง จะโดนพ่อแม่สามีรังแกไหมเพื่อนบ้านจะใจดีกับนางหรือเปล่า
“ข้าก็คิดถึงซู่เหนียงเช่นกันเ้าค่ะ” ในโลกนี้มีเพียงซู่เหนียงที่ห่วงใยนาง
“ไหนให้ข้าดูหน้าเ้าให้เต็มตาหน่อยสิไม่เจอหน้ากันหนึ่งวันก็เหมือนไม่เจอกันสามปี”
กู้เจิงดีใจ “ร่างกายของท่านดีขึ้นแล้วหรือเ้าคะ?”
“ดีขึ้นบ้างแล้ว เมื่อวานตอนที่ท่านหมอมาตรวจดูยังบอกว่าฟื้นตัวได้ดีทีเดียว”
“ท่านไม่ได้ลงจากเตียงบ่อยใช่ไหมเ้าคะ?”
“ไม่เลย ไม่เลย แม่ล้วนฟังคำเ้า นอนพักผ่อนมากๆร่างกายถึงได้ฟื้นตัวเร็ว อย่าคุยเื่แม่เลย คุยเื่เ้าดีกว่า เสิ่นเยี่ยนดีต่อเ้าหรือไม่?”
“ดีเ้าค่ะ” กู้เจิงกุมมือเรียวเล็กของซู่เหนียงเสิ่นเยี่ยนให้เกียรตินาง สำหรับบุรุษในยุคนี้แล้ว หาได้ยากยิ่ง
“จริงหรือ?”
“จริงเ้าค่ะ”
หวังซู่เหนียงหยิกแก้มกู้เจิง “รูปโฉมเช่นเจิงเอ๋อร์ของเรานั้น จะมีบุรุษคนไหนไม่ถูกตาบ้าง แล้วแม่สามีเ้าเล่า เป็คนเช่นไร?”
กู้เจิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นางเป็คนขยันขันแข็ง นางกับเสิ่นเยี่ยนลักษณะนิสัยคล้ายกันคือพูดน้อยแต่ก็เข้ากันได้ดีเ้าค่ะ”
หวังซู่เหนียงได้ฟังเช่นนั้นก็วางใจ นางสำทับต่อว่า “เจิงเอ๋อร์ต่อไปเ้ากับคุณหนูสามจะต้องใกล้ชิดสนิทสนมกันให้มากขึ้น เข้าใจหรือไม่?”
“ทำไมหรือเ้าคะ?" กู้เจิงแปลกใจ
“วันแต่งงานขององค์ชายห้าและคุณหนูสามมีกำหนดออกมาแล้วต่อไปคุณหนูสามก็จะเป็พระชายาขององค์ชายห้า เสิ่นเยี่ยนเป็คนขององค์ชายห้าเ้ากับคุณหนูสามย่อมควรต้องสนิทสนมกันไว้ เสิ่นเยี่ยนก็จะได้รับผลดีไปด้วย”
กู้เจิงกลัดกลุ้ม “...”ซู่เหนียงท่านลืมความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับนายหญิงเว่ยซื่อไปแล้วหรือ?
หวังซู่เหนียงหัวเราะคิกคัก “เ้าเด็กคนนี้ เ้าคงคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับนายหญิงกระมัง?”
“ท่านรู้ด้วยหรือเ้าคะ?”
“โธ่เอ๊ย ยังจะมีอะไรได้อีก เว่ยซื่อผู้นั้น ขอเพียงเสิ่นเยี่ยนยังเป็คนสนิทที่สำคัญขององค์ชายห้าเว่ยซื่อนางยังจะพูดอะไรได้อีก”
กู้เจิงอึ้งกับความคิดของหวังซู่เหนียง
“ซู่เหนียง” กู้เจิงเอ่ยถาม “ท่านเคยคิดจะออกไปจากที่นี่หรือไม่เ้าคะ?”
“ไปไหนหรือ?”
“ไปไหนก็ได้ให้ไกลจากจวนกู้ แล้วใช้ชีวิตอย่างอิสระเ้าค่ะ”
หวังซู่เหนียงอึ้งไป นางนึกว่าสิ่งที่บุตรสาวพูดว่าออกไปคือออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก ไม่คิดว่าจะหมายถึงออกจากจวนกู้ จึงถามอย่างแปลกใจว่า “เหตุใดแม่ต้องออกจากจวนกู้เล่า? ที่นี่คือบ้านของแม่ เ้าเด็กคนนี้พูดเื่เหลวไหลอะไรกัน?”
ซู่เหนียงคิดว่าที่นี่เป็บ้านหรือ? กู้เจิงกลับรู้สึกสะอึก คิดไปคิดมาก็จริงสตรีในสมัยโบราณั้แ่เกิดจนตาย เมื่อแต่งงานแล้ว บ้านสามีย่อมเป็บ้านของนางไปจนตาย
ซู่เหนียงมองนางอย่างสงสัย กู้เจิงจึงยิ้มและกอดแขนของนางไว้ “ข้ายังคิดว่าซู่เหนียงไม่ชอบที่นี่เสียอีกขอเพียงท่านบอกว่าไม่ชอบ ข้าจะหาเงินเพิ่มให้มากๆ แล้วพาท่านออกไปจากที่นี่เองให้ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างที่ตนเองปรารถนา”
หัวใจของหวังซู่เหนียงเต็มตื้นขึ้นมาแม้ความคิดของบุตรสาวจะผิดแปลกไปจากคนทั่วไปแต่นางกลับรับรู้ได้ถึงความรักของกู้เจิงที่มีต่อนาง “เด็กโง่ บิดาเ้าอยู่ที่ไหน แม่ย่อมอยู่ที่นั่นหลังจากนี้อีกร้อยปี แม่ก็ต้องถูกฝังอยู่ข้างกายบิดาเ้าและเว่ยซื่ออย่างแน่นอน”
กู้เจิงไม่ค่อยเข้าใจความคิดของคนสมัยนี้เท่าไรนัก
“นี่เรากำลังพูดถึงเื่อะไรกัน จริงๆ เลยเชียว มาคุยเื่ไร้สาระเสียได้” หวังซู่เหนียงจิ้มหน้าผากของบุตรสาวอย่างรักใคร่ “เื่ที่แม่พูดเมื่อครู่ เ้าเข้าใจไหม?”
กู้เจิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย เข้าใจน่ะเข้าใจแต่จะทำหรือไม่ก็เป็อีกเื่ ต่อให้นางแสร้งทำประจบกู้อิ๋งก็ไม่แน่ว่ากู้อิ๋งจะเล่นด้วยกับนาง
ในเวลานี้เอง ชุนหงก็เข้ามาเรียก “ซู่เหนียง ท่านบุตรเขยรออยู่ที่โถงของเรือนเล็ก เขาให้มาตามคุณหนูใหญ่ไปทานอาหารเ้าค่ะ”
หวังซู่เหนียงกับกู้เจิงตะลึงงัน เสิ่นเยี่ยนมาที่เรือนของพวกนางหรือ?
หวังซู่เหนียงพอใจยิ่ง “มาเร็ว มาแต่งตัวให้ข้า ข้าจะไปพบบุตรเขยแสนดีของข้า” นางเป็แค่อนุภรรยา ไหนเลยจะมีเหตุผลที่ให้บุตรเขยมาเยี่ยมนางที่ห้องนางต้องเป็ฝ่ายออกไปหาเอง
“ซู่เหนียง ท่านยังไม่ควรลงจากเตียงนะเ้าคะ”
“ข้าไม่เป็ไร ไปพบบุตรเขยสำคัญกว่า”
กู้เจิง “...” นางไม่เคยเห็นซู่เหนียงตื่นเต้นถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ก็ไม่น่าแปลกใจที่ซู่เหนียงจะตื่นเต้น
เสิ่นเยี่ยนถึงกับเป็ฝ่ายมาหานางถึงเรือนอนุด้วยตนเอง
เสิ่นเยี่ยนไม่ได้เข้าไปถึงห้องด้านในของเรือนเล็กเพียงยืนอยู่ในโถงด้านข้างของเรือน เมื่อหวังซู่เหนียงออกมาเขาเพียงก้มหัวให้นางเล็กน้อย แต่ไม่ได้คารวะนาง ทว่าสายตาของเสิ่นเยี่ยนที่มองหวังซู่เหนียงนั้นมีความเคารพนับถืออยู่หลายส่วนเพียงเท่านี้ก็ทำให้หวังซู่เหนียงรู้สึกดีอย่างยิ่งแล้ว
“ดีๆ” ซู่เหนียงมองบุตรเขยอย่างชอบใจยิ่งนางยิ้มจนปากแทบฉีกถึงรูหู “ท่านบุตรเขยถ้าเจิงเอ๋อร์ทำอะไรไม่ดี ท่านก็สั่งสอนนางได้เลยนะเ้าคะ”
“ซู่เหนียงพูดเล่นแล้ว แม้อาเจิงจะเพิ่งแต่งเข้าตระกูลเสิ่นได้ไม่นานแต่นางต้องเป็ภรรยาที่ดีและลูกสะใภ้ที่ดีแน่นอนขอรับ”
กู้เจิงเหลือบมองเสิ่นเยี่ยน ถ้อยคำที่เขากล่าวมานั้นพูดได้ดีจริงๆ
หวังซู่เหนียงหัวเราะอย่างดีใจยิ่ง “อาเจิงของข้าเป็เด็กดีอย่างที่ท่านพูดจริงๆ แหละท่านบุตรเขยพูดถูกจริงๆ”
กู้เจิง “...” นางแอบมองเสิ่นเยี่ยนแวบหนึ่งก็เห็นมุมปากของเขากระตุก