“คุณหนูใจกว้างเกินไปแล้วเ้าค่ะ” ชุนหงรู้สึกว่าเหนียนหงซานจะต้องมาพัวพันกับคุณหนูของนางไม่เลิกแน่
กู้เจิงย่อมต้องทำใจให้กว้าง นางไม่อยากจะสร้างปัญหาขึ้นที่นี่ เสิ่นเยี่ยนจำต้องแต่งงานกับนางเพราะไม่มีทางเลือกไม่แน่ว่าในใจอาจจะยังดูถูกนางอยู่ บทสนทนาของเสิ่นเยี่ยนกับเหนียนหงซานในวันนี้ทำให้นางประหลาดใจไม่น้อยคำพูดของเหนียนหงซานนั้นนางไม่เชื่อว่าเสิ่นเยี่ยนจะไม่เข้าใจถึงคำนัยแต่เขากลับกันตัวเองออกมาอย่างชัดเจน นี่แสดงให้เห็นว่าเขาก็ใส่ใจนางอยู่เหมือนกัน
ในจุดนี้กู้เจิงดีใจมาก ดังนั้นต่อหน้าเสิ่นเยี่ยนนางจึงไม่ได้ซ่อนสีหน้ามีความสุขของตนเองไว้เขาเคารพให้เกียรตินาง นางย่อมต้องแสดงความรู้สึกตอบกลับไปเช่นกันวันข้างหน้าหากปฏิบัติต่อกันอย่างนี้ต่อไปได้ ชีวิตนี้นางก็พอใจแล้ว
“คุณหนู ท่านคุ้นชินกับการอยู่ที่นี่หรือยังเ้าคะ?” ชุนหงนั่งยองๆอยู่ข้างเตียงมองคุณหนูของตน
“เริ่มคุ้นแล้ว”
“คุณหนูพูดจริงหรือเ้าคะ?”
“จริงสิ ข้าแต่งงานเข้าตระกูลเสิ่นแล้วข้ายังต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ไปอีกยาวนาน” ความจริงนางเองก็ไม่มีที่จะไปอีกแล้ว
กู้เจิงรู้ว่าชุนหงเป็ห่วงอะไร จากที่เป็คุณหนูใหญ่แห่งตระกูลกู้กลับตกต่ำถึงกับต้องแต่งงานเข้าตระกูลเสิ่นซึ่งเป็ตระกูลชาวบ้านธรรมดาหากเป็กู้เจิงคนเดิมคงทนไม่ไหวแน่
อยู่ที่นี่ไปอีกยาวนาน? ไม่ใช่ว่าต้องอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตหรอกหรือ? ชุนหงไม่ได้ติดใจสงสัยนัก นางเชื่อฟังคุณหนูขอเพียงคุณหนูไม่รู้สึกน้อยใจ นางก็พอใจเช่นกัน
ตอนที่กู้เจิงตื่น และกลับเข้าห้อง เสิ่นเยี่ยนไม่อยู่ที่ห้องแล้วเขาไปที่จวนขององค์ชายห้า นางไม่มีอะไรให้ทำจึงนั่งทำงานเย็บปักถักร้อยอยู่ใต้ระเบียง นายหญิงเสิ่นที่กำลังทำงานบ้านอยู่ก็แอบมองลูกสะใภ้คนนี้เห็นท่าทางตั้งใจจดจ่อของนาง สีหน้าก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
กลับกันชุนหงกลับไม่ชินกับท่าทางแบบนั้นของคุณหนูเอาเสียเลยนิสัยของคุณหนูเปลี่ยนไปมากจากแต่ก่อน แต่นางก็ปล่อยความสงสัยนี้ให้ผ่านไป
กู้เจิงหันมาสนใจงานเย็บปักถักร้อยก็เพราะนางไม่มีสิ่งใดให้ต้องทำเวลาว่างของนางจึงมีมากมาย แต่นางก็คาดไม่ถึงว่านายหญิงเสิ่นจะคอยจับจ้องการกระทำของนางอยู่ตลอด
สิ่งที่ทำให้กู้เจิงลำบากใจที่สุดเมื่อมาอยู่ที่นี่ก็คือการนอนเวลาที่นางล้มตัวลงนอน เสิ่นเยี่ยนมักจะอ่านหนังสืออยู่ ส่วนตอนที่เสิ่นเยี่ยนนอนนั้นนางก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เพราะนางหลับไปแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น เตียงด้านข้างว่างเปล่า แต่ยังอุ่นอยู่เล็กน้อย เสิ่นเยี่ยนคงเพิ่งตื่นได้ไม่นาน
วันนี้เป็วันที่ต้องกลับบ้านเดิมตามธรรมเนียม ดังนั้นนางกับเสิ่นเยี่ยนจึงต้องไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่ที่เรือนตระกูลกู้
“คุณหนู เมื่อวานตอนที่ท่านน้าเฝิงมาได้นำเสื้อผ้ามาให้ท่านสามชุดเป็ของขวัญแต่งงาน ท่านป้าเสิ่นบอกว่าเมื่อวานนางยุ่งมากจนลืมไปวันนี้ถึงให้บ่าวเอามาให้เ้าค่ะ” ชุนหงวางเสื้อผ้าที่พับเก็บอย่างเป็ระเบียบลงบนเตียง
กู้เจิงลุกขึ้นพิศดูเสื้อผ้าสามชุดนี้แต่ละชุดนั้นดูเรียบง่ายแต่ใช้วัสดุอย่างดีนางคิดอยู่ว่าเสื้อผ้าที่นางมีนั้นสดใสและสะดุดตาเกินไปการใส่เสื้อผ้าเช่นนั้นไม่เหมาะสมที่จะใส่ที่นี่ เมื่อได้ชุดใหม่มาในตอนนี้นางจึงรีบใส่อย่างไม่ลังเล
พอนางออกไปก็เห็นเสิ่นเยี่ยนสวมเสื้อผ้าธรรมดาแบบเดียวกับนาง
รถม้าที่จะพานางกลับบ้านนั้น ตระกูลเสิ่นเป็คนจ้างมา
ภายในรถม้าคับแคบแต่ก็พอที่จะนั่งได้สองคน
กู้เจิงนั่งตรงข้ามกับเสิ่นเยี่ยน เมื่อสบตากันนางก็จะส่งยิ้มน้อยๆให้เขา
“เ้าไม่เหนื่อยที่จะเสแสร้งบ้างหรือ?” เสิ่นเยี่ยนถามอย่างเ็าและดูิ่
“ข้าเสแสร้งอะไรเ้าคะ?”
“เสแสร้งวางตัวดี ทำให้ท่านแม่ข้ารู้สึกดีกับเ้า”
นางเสแสร้งที่ไหนกัน ‘การที่ลูกสะใภ้ทำให้แม่สามีพึงพอใจไม่ใช่เื่ปกติหรอกหรือ?’ ยิ่งไปกว่านั้น นางก็แค่ทำตัวให้ดูขยันขึ้นหน่อยเท่านั้นเองไม่ได้ทำอะไรอื่นอีก
“ข้ายอมแต่งงานกับเ้าท่านพ่อและท่านแม่ย่อมปฏิบัติต่อเ้าด้วยความจริงใจ ข้าหวังว่าเ้าจะจริงใจต่อพวกท่านเช่นกัน”
“ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจนั้นไม่ยากแต่ผู้อื่นจะยอมรับความจริงใจนี้หรือไม่ ข้าไม่รู้เ้าค่ะ”
เสิ่นเยี่ยนขมวดคิ้ว “ถ้าเ้าจริงใจต่อผู้อื่นจริง เขาย่อมจะรู้สึกได้เอง”
“ผู้อื่นจะรู้สึกถึงความจริงใจ หรือจะสงสัยในความจริงใจนี้มันยากที่จะพูดนะเ้าคะ”
“ถ้าเ้าเดินให้ถูก นั่งให้ตรง* ผู้อื่นจะมาสงสัยเ้าได้อย่างไร?”
(*เดินให้ถูก นั่งให้ตรง หมายถึง ประพฤติตนถูกต้อง มีคุณธรรม)
กู้เจิงรู้ว่าประโยคนี้หมายถึงอะไร เขาเอ่ยถึงเื่ที่เคยเกิดขึ้นนางจึงขุ่นเคืองใจขึ้นมา “ข้าจะเดินไม่ถูกนั่งไม่ตรงแล้วอย่างไร? เสิ่นเยี่ยนท่านบอกเองว่าจะแต่งงานกับข้า ตอนแรกข้าไม่ได้คิดจะแต่งงานกับท่านด้วยซ้ำ”
“นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเ้ากระมัง?”
กู้เจิงมองเขาเงียบๆ อย่างเฉยชา
“ท่านแม่ไม่ใช่คนเข้มงวด ขอเพียงเ้าทำตัวให้ดีท่านแม่ก็จะยอมรับเ้า อีกอย่าง แม้ข้าจะถูกบีบบังคับให้ต้องแต่งงานกับเ้าแต่เ้าก็เป็ภรรยาเพียงคนเดียวของข้า ข้าย่อมต้องเคารพเ้าเ้าไม่จำเป็ต้องเสแสร้งทุกการกระทำ ตัวเ้าจะเหนื่อยเองเสียเปล่า”
กู้เจิงถลึงตาใส่เขาอย่างโมโหนางไปเสแสร้งแกล้งทำให้เขาเห็นตอนไหนกัน