พรมหนานุ่มใต้ฝ่าเท้า เริ่มเป็เหมือนสนามรบลับๆ ที่รอให้ใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาก่อน ปพนต์ก้าวเดินช้าๆ ไปหาภรรยาสาวอย่างเงียบๆ ััมือเธอเบาๆ เหมือนจะปลอบใจ “พร้อมมั้ยจ๊ะ” เสียงของเขานุ่ม ลมหายใจอุ่นๆ กระซิบข้างหู มารตีพยักหน้าแม้มือจะยังสั่นๆ อยู่ก็ตาม
มารตีถูกประคองให้นั่งลงบนเตียงนุ่ม ส่วนจิรภาย่อตัวลงนั่งข้างเธอ ลูบแขนเบาๆ “วันนี้ไม่ต้องรีบ ไม่มีใครคาดหวังอะไรทั้งนั้น” จิรภาพูดพร้อมรอยยิ้มที่เธอคุ้นเคย
แต่หัวใจมารตียังคงไม่ได้อยู่ที่นั่น...ภาพนัทพงษ์ที่หันมายิ้มให้เธอจากโต๊ะฝั่งตรงข้ามในสำนักงาน วนกลับมาในหัว เขามักจะมองเธอเหมือนเด็กที่หลงใหลโลกของผู้ใหญ่ แต่แววตาคู่นั้น...ก็มีประกายอบอุ่นบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นจากใครอื่นมาก่อนเลย
เสียงผ้าลื่นผ่านผิวเนื้อทำให้เธอสะดุ้งนิดๆ เมื่อปพนต์เริ่มปลดสายเดรสเธอลงช้าๆ จนมันไหลร่วงลงมากองที่เอว เผยให้เห็นสองเต้าอวบชูชัน และผิวเนียนเรียบที่สั่นน้อยๆ จากอารมณ์หลากหลาย
จิรภาโน้มตัวเข้ามาใกล้ สูดกลิ่นผิวหอมอ่อนๆ จากบ่าของเธอ ก่อนจะจูบเบาๆ ไล่ลงมาถึงส่วนปลายเต้าเต่ง“รตีหอมเหมือนกลีบดอกไม้หลังฝน” เธอกระซิบเบาๆ จนมารตีขนลุก ก่อนที่จิราภาจะครอบริมฝีปากลงไปบนยอดสีชมพูนั้น
วรเมธตามเข้ามาสมทบ ริมฝีปากของเขาััเบาๆ ตรงข้อเท้า ไล่ขึ้นมาลงถึงต้นขาด้านใน อย่างช้าๆ ไม่เร่งร้อนเกินไป แค่เพียงทักทาย กับรอยแย้มของเนื้อนุ่มที่เริ่มชื้นเบาๆ
มารตีหลับตา ร่างกายค่อยๆ รับรู้ความร้อนที่แทรกซึมเข้ามา มือของปพนต์วางบนหลังเธออย่างมั่นคง ก่อนจะเลื่อนลงไปที่สะโพกอวบแน่น มันเป็จังหวะที่คุ้นเคย พลางส่งบางส่วนเข้ามาในร่างสวยทางด้านหลัง
แต่ในใจ...หญิงสาวกำลังนึกถึงเสียงหัวเราะแ่เบาของนัทพงษ์ เสียงที่เคยสะท้อนในห้องประชุมวันก่อน เธอจำได้แม่นว่าเขาพูดติดตลกกับเธอเื่การวางฟอนต์ในพรีเซนเทชัน แววตาเขาตอนนั้นไม่ใช่แค่มองงาน มันเหมือนมองเธอในแบบที่...ต่างออกไป
เสียงลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น เมื่อปพนต์ขยับกายเข้าออกเป็จังหวะช้าสลับเร็ว ขณะที่วรเมธก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากตรงนั้น ร่างกายเธอโน้มไปเกาะหัวเตียงไว้ ส่วนจิรภาเริ่มปลดเสื้อผ้าของตัวเอง ฝ่ายวรเมธก็ใช้ลิ้นไล้ไปมาไม่หยุด ทุกััมันเร่าร้อนแต่แฝงความอ่อนโยน ไม่ได้เร่งเร้า แต่กำลังเชื้อเชิญอย่างช้าๆ
มือเรียวสวยของมารตีกำผ้าปูเตียงแน่น กลั้นความรู้สึกที่กำลังประทุอยู่ทั้งจากด้านนอก...และในใจเพราะแม้ร่างกายจะถูกััด้วยผู้ชายสองคนในเวลาเดียวกันนี้ แต่หัวใจกลับล่องลอยไปหาชายหนุ่มคนหนึ่งที่เธอไม่เคยแม้แต่จะกุมมือเขา และในวินาทีนั้นเอง มารตีก็เข้าใจว่า ความปรารถนาทางใจอาจจะทรงพลังยิ่งกว่าความเร่าร้อนทางกาย หญิงสาวอาจจะยังควบคุมร่างกายให้ตอบสนองได้ แต่หัวใจของเธอกำลังเริ่ม “เลือก” แล้ว...เลือกที่จะเฝ้ามองใครบางคนจากระยะไกล แม้จะยังไม่รู้เลยว่า อีกฝ่ายจะรู้สึกเหมือนกันหรือเปล่า
และแล้ว คืนอันเร่าร้อนจบลง อย่างอ่อนล้า...
วันนี้...ในห้องนวด
กลิ่นหอมของน้ำมันอโรมาลอยอ้อยอิ่งในอากาศ ห้องสปาส่วนตัวภายในวิลล่าริมทะเลถูกจัดแต่งอย่างเรียบหรู ผ้าม่านบางปลิวไหวไปตามลมทะเลอ่อนๆ แสงแดดตกกระทบผิวไม้และเตียงนวดผ้าขาวสะอาดกลายเป็ภาพที่ชวนให้หลับตาและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับบรรยากาศ
มารตีนอนคว่ำบนเตียงนวด ร่างกายของเธอมีเพียงผ้าบางปกปิดด้านหลังของ่ล่างเท่านั้น ส่วน้าเปลือยเปล่าเผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนละเอียดตัดกับแสงอุ่นของยามบ่าย มือของวรเมธชโลมน้ำมันอุ่น ๆ ก่อนจะเริ่มต้นนวดที่ไหล่ของเธอ จังหวะมือของเขาไม่ได้เร่งรีบ…แต่แน่น ลึก และมีจังหวะที่เสมอต้นเสมอปลาย นิ้วเขาค่อยๆ ไล้ไปตามแนวกล้ามเนื้อ ไล่ลงมาจนถึงแผ่นหลัง และข้างเอวบางของเธอ บางครั้งก็ไล้ผ่านชายผ้าบางเบาลงไป เสียงน้ำมันลื่นไหลบนผิวกายประสานกับเสียงหายใจแ่เบาของมารตี เธอหลับตาแน่น
ร่างกายกำลังตอบสนองต่อการัั...แต่หัวใจกลับพาเธอล่องลอยไปไกล
หญิงสาวเห็นภาพนัทพงษ์ นั่งเท้าคางฟังเธออธิบายงานหน้าห้องประชุม สีหน้าสนใจปนขัดเขินนิดๆ เห็นเขาเผลออมยิ้มตอนเธอยกแก้วกาแฟผิด เอาแก้วของเขาไปจิบ มารตีจำได้ว่าแค่ปลายนิ้วของเขาแตะหลังมือเธอขณะยื่นเอกสาร ก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนกระแสไฟฟ้าช๊อตแล้ว
ตอนนี้...แม้มือของวรเมธจะคลึงเคล้าและบรรจงนวดไปทั่วตัว แต่ััของเขากลับไม่สามารถแทนความรู้สึกเล็กๆ ที่นัทพงษ์เคยมอบให้เธอโดยไม่ตั้งใจได้เลย
“รู้สึกยังไงบ้างครับ?” เสียงของวรเมธดังขึ้นอย่างนุ่มนวล มารตีหลับตา พยักหน้าน้อยๆ พลางฝืนยิ้ม
“ดีค่ะ...ผ่อนคลายดีมากเลย” แม้คำพูดจะราบเรียบ แต่ในใจเธอกลับปั่นป่วน มันเป็ความวาบหวามที่ก่อตัวจากภายนอก กับความว่างเปล่าบางอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างใน เธอรู้สึก...เหมือนถูกเติม แต่ไม่เต็ม
ฝั่งอีกมุมหนึ่งของห้อง ปพนต์กับจิรภากำลังหัวเราะเสียงใส จิรภาใช้ศอกกดที่ต้นขาของปพนต์เบาๆ ขณะเขานอนคว่ำอย่างสบายๆ “โอ๊ย เบาๆ นะครับคุณหมอจิรภา เดี๋ยวของผมหัก!”
จิรภาหัวเราะคิก “บ้าน่า ของคุณน่ะ ทั้งใหญ่ ทั้งแข็ง และร้อนขนาดนั้นจะกลัวอะไร แค่กดนิดเดียวเอง”
ขณะที่ภายในห้องนวดอารมณ์เริ่มร้อนระอุ...มารตีเลื่อนสายตาออกไปนอกห้อง ผ่านประตูบานใหญ่ที่เปิดกว้างออกไปยังสวนด้านข้าง...ที่นั่นหนุ่มสาวต่างชาติ 7-8 คนกำลังมีกิจกรรมรักกลางแจ้งกันอย่างดุเดือดเร่าร้อน เหมือนทั้งโลกมีเพียงพวกเขา...ถ้าเป็เมื่อสามเดือนก่อนเธอคงมองว่าเป็เื่น่าอาย แต่วันนี้ไม่ใช่...
หญิงสาวเบือนหน้ากลับมา เห็นปพนต์แกล้งยกตัวขึ้นมากอดเอวจิรภาจากด้านหลัง ทำให้ทั้งคู่กลิ้งตกลงมาจากเบาะนวดอย่างตั้งใจเสียงหัวเราะของทั้งสองคนลอยมากระทบหูของมารตี บรรยากาศดูเบาสบาย เป็กันเอง และเต็มไปด้วยความร้อนระอุที่พร้อมจะลุกลาม เธอมองพวกเขา แล้วก็ยิ้มให้กับภาพตรงหน้า เธอดีใจแทนปพนต์ที่มีคนที่เข้าใจเขา และเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับสามี แต่ก็อดไม่ได้...ที่จะรู้สึกเหมือนตัวเองเป็เงาที่ลอยแยกออกจากภาพนั้น
มือของวรเมธยังคงนวดบริเวณเอวลงไปถึงสะโพก และเริ่มไถลลงถึงรอยแยกกลางตัวเธอบ่อยขึ้น เขาใช้ปลายนิ้วไล้วนเป็วงกลมเหนือกลีบเนื้อนุ่ม ก่อนสะกิดปากทางเข้าไปภายใน เป็บางครั้ง มารตีเริ่มขมวดคิ้ว เธอรู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะตอบสนองเกินกว่าที่ใจเธอพร้อมจะเดินไปต่อ “คุณวรเมธ...” เธอเอ่ยเบาๆ พลิกตัวนอนตะแคงและยกมือห่มผ้าให้แน่นขึ้น
วรเมธยิ้ม ไม่ขัด “แน่นไปหรือครับ?”
มารตีส่ายหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อเบาๆ “ไม่ค่ะ แค่...ขอพักนิดนึง”
วรเมธไม่พูดอะไร เขาแค่เดินไปเทน้ำมันล้างมือ แล้วนั่งลงเงียบๆ มองเธออย่างไม่ตัดสิน
มารตีนอนนิ่ง เธอมองออกไปทางหน้าต่างที่ผ้าม่านปลิวไหว ฟ้าครามทะเลกับเสียงคลื่นเหมือนกล่อมใจ...แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ทำไมกันนะ…? แค่คิดถึงรอยยิ้มของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ทำไมมันถึงปั่นป่วนได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความสุขกับชีวิตที่เธอเลือก แต่กับนัทพงษ์...มันไม่ใช่แค่ความเร่าร้อน ไม่ใช่แค่ไฟ มันคือบางอย่างที่บริสุทธิ์และอ่อนโยน…บางอย่างที่ยังไม่ถูกรุกล้ำ และเธอกำลังกลัวว่ามันอาจจะสวยงามเกินกว่าจะเอื้อมถึง
จิรภาเดินเข้ามานั่งข้างๆ พร้อมยื่นแก้วน้ำให้ “วันนี้เหนื่อยหรือเปล่า?”
มารตีรับแก้ว แล้วมองจิรภาตรงๆ “เหนื่อยนิดหน่อย...แต่ไม่ใช่เพราะกิจกรรม...เอ่อรักหรอกจ้ะ”
“อุ้ย พวกนั้นมากันั้แ่เมื่อไรเหรอ...” มารตีมองตามสายตาของจิรภาออกไป...กลุ่มหนุ่มสาวต่างชาติที่เธอเห็นเมื่อครู่นั่นเอง แต่ภาพสองคนที่อยู่ไม่ไกลทำให้สองสาวตาโต...
“จุ๊ๆ แม่เ้า ฉันเคยแต่ดูจากหนังโป๊...ผู้ชายผิวดำนี่มันม้าชัดๆ เลย” จริภาทำเสียงวี๊ดว้าย ก่อนฟาดมือบนไหล่เพื่อสาวเบาๆ พลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
มารตีหัวเราะเบาๆ หน้าขึ้นสีระเรื่อ...ก็มันใหญ่มากจริงๆ นี่นา “บ้าน่า จริภา ไปเหอะ อย่าไปดูพวกเขาเลย...เอ่อไปดูของพวกเราดีกว่า...” หญิงสาวลืมเื่ในใจไปชั่วขณะ
จิรภาไม่ได้ว่าอะไร แค่ยิ้มน้อยๆ ก่อนหันกลับไปดูคู่นั้นนั้นอีกแว่บ ก่อนขยับตัวเดินตามมารตีไป ทุกคนเคลื่อนย้ายไปที่ห้องอาบน้ำ
ห้องนี้ถูกแต่งเป็ห้องอาบน้ำแบบเปิดโล่ง มองเห็นท้องฟ้าใส ข้างในปูพื้นไม้กันลื่น กลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ลอยฟุ้งจากไอน้ำที่กระทบผิวอุ่นของฝักบัว เสียงน้ำไหลแ่ผสมกับเสียงลมทะเลยามค่ำที่พัดแ่ผ่านม่านบางรอบวิลล่า
มารตียืนหันหลังอยู่ใต้ฝักบัว สายน้ำไหลผ่านแผ่นหลังเนียนลื่นลงมาตามแนวสันหลังเปลือยงดงาม หยดน้ำหยอกล้อกับเส้นผมเปียกแนบหลัง ร่างเปลือยเปล่าของเธอชุ่มด้วยฟองครีมอาบน้ำ กลิ่นหอมอ่อนๆ ยิ่งทำให้ภาพตรงหน้าเหมือนหลุดมาจากจินตนาการของใครหลายคน