เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรรีบไปหยางเฉิงทันทีหรือไปที่ใดกันแน่
หน่วยงานมีกฎระเบียบที่เคร่งครัด เขาเพิ่งกลับจากการลางานยาวหน่วยงานไม่มีทางอนุมัติวันหยุดให้เขาอีกแน่นอน อีกอย่างรีบร้อนจะไปขนาดนี้ ธุระการงานก็ยังไม่ได้วางแผนไว้เสียด้วย
ในที่สุดก็มีโทรศัพท์จากเซี่ยเสี่ยวหลานติดต่อมา
โจวเฉิงโกรธที่เซี่ยเสี่ยวหลานชะล่าใจ ทั้งเป็ห่วงความปลอดภัยของเธอเสียงเรียก ‘เสี่ยวหลาน’ นี้ดังมากเหลือเกินทว่าพอได้ยินเสียงอีกฝ่ายที่เรียกชื่อตนนั้นสุ้มเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานออกจะแหบแห้ง
“ฉันเอง”
“โจวเฉิง ฉันคิดถึงเธอนิดหน่อยเสียแล้ว”
อารมณ์โกรธนั่นราวกับถูกราดจนดับด้วยน้ำเย็นหนึ่งอ่าง โจวเฉิงรู้สึกปวดหัวใจ
น้ำเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ค่อยปกติ
“เสี่ยวหลาน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?”
“ฉันอยู่เยว่หยาง... ฉันเจอเื่ยุ่งยากเล็กน้อยที่หยางเฉิงเลยส่งของกลับซางตู ส่วนตัวฉันลงรถที่สถานีเยว่หยางวันนี้เตรียมตัวซื้อตั๋วกลับซางตู”
โจวเฉิงโล่งใจไปเปราะหนึ่ง เธอไม่เป็ไรก็ดีแล้ว
เขาจะโกรธเซี่ยเสี่ยวหลานจริงๆ ได้ที่ไหน “สถานการณ์ที่หยางเฉิงฉันรู้จากไป๋จื้อหย่งแล้ว่นี้เธออย่าไปหยางเฉิงนะ ให้ฉันดูก่อนว่าเื่นี้ควรแก้ไขอย่างไร”
“อือ ก่อนปีใหม่ฉันถึงจะไป”
โจวเฉิงฟังออกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคงไม่้าฝากความหวังให้เขาจัดการ ‘เคออีสฺยง’
เขาก็ไม่สามารถรับประกันได้อย่างหนักแน่นเช่นกัน บุรุษจะกระทำสิ่งใดก็มิได้อาศัยปากดังนั้นนำผลงานมาวางต่อหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานเป็พอในหัวของเขาวนเวียนด้วยความคิดมากมาย “ตอนเธอไปหยางเฉิงครั้งหน้าฉันจะให้คังจื่อเดินทางไปกับเธอด้วย”
โจวเฉิงนึกว่าความผิดปกติในน้ำเสียงของเซี่ยเสี่ยวหลานมีเหตุมาจากการถูกอันธพาลข่มขวัญ
เขาไม่รู้เลยว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเพิ่งรู้สึกตัวจากความฝันอันล้ำลึกคิดไปคิดมา มีเพียงโจวเฉิงที่คุยเป็เพื่อนเธอได้ ทว่าเื่นี้คือความลับยิ่งใหญ่ที่สุดของเซี่ยเสี่ยวหลานพิจารณาด้วยปัญญาของเธอแล้ว เธอไม่อาจเล่าความลับนี้ให้ใครฟังได้ทั้งนั้นไม่แน่ว่าแม้แต่สหายสนิทชิดใกล้ก็อาจผิดใจกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโจวเฉิงผู้ซึ่งเพิ่งเริ่มต้นกับเธอเพียงไม่นานคนนี้
หากชีวิตยังไม่โชกโชน คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนคนหนึ่งควรค่าแก่การเชื่อใจหรือไม่
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่พร้อมลองใจใครทั้งนั้น
เมื่อเธอได้ยินเสียงของโจวเฉิง ก็รู้สึกว่าจิตใจที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศค่อยๆตั้งหลักลงบนพื้นดิน เธอมีตัวตนอยู่โดยจริงแท้แน่นอน ในห้วงเวลาปี 1983 เธอถึงขั้นได้เป็เ้าของสิ่งล้ำค่าที่ชาติก่อนไม่เคยมี
มีหลิวเฟินที่ห่วงใยเธอ มีความรักจากครอบครัวลุงเธอยังเชื่อฟังคำสั่งของความรู้สึกด้วยการคบหาแฟนหนุ่มสักคน
คบกับโจวเฉิงคือความชอบพอระหว่างชายหญิงโดยสมบูรณ์ เขาไม่ใช่พวกบ้านในเขตการศึกษาไม่มีความเกี่ยวโยงทางผลประโยชน์ของทรัพย์สินหรือตำแหน่งใดเซี่ยเสี่ยวหลานรู้สึกว่าการคบหาดูใจแบบนี้ทำให้เธอสบายใจยิ่งนัก
เธอใช้ชีวิตคุ้มเสียจนคุ้มกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
พอคิดถึงจุดนี้ น้ำเสียงของเธอจึงอ่อนโยนขึ้น
“อือ ฉันจะรอคังเหว่ยไปด้วยกัน โจวเฉิง ฉันจะวางโทรศัพท์แล้วนะ”
“หลังจากถึงซางตูจำไว้ว่าต้องรายงานความปลอดภัยนะ... ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน!”
การหาคนไม่พบในเยว่หยาง ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานมีความผิดหวัง แต่ถือว่าได้ปลดเปลื้องภาระใหญ่ในจิตใจแล้ว
นอกจากไร้ร่องรอยชีวิตของ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ โลกใบนี้ก็เหมือนในความทรงจำของเธอทุกกระเบียดนิ้ว วิสัยทัศน์ที่ล้ำหน้าผู้อื่นและประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาในชาติก่อนรวมถึงความรู้ของเธอจะเป็ที่พึ่งพาในชาตินี้ในฐานะที่เธอเป็ผู้เข้าร่วม ‘การทดสอบภายใน [1]’ ล่วงหน้า เป็ผู้เล่นที่ยังไม่ลบประสบการณ์การเล่นเกมทิ้ง เซี่ยเสี่ยวหลานเรียกความกระตือรือร้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
เธอคืนห้องให้บ้านพักรับรอง และไปซื้อผลไม้รวมถึงขนมหวานจำนวนหนึ่งจากนั้นถือไปยังสถานีตำรวจ
เมื่อวานเ้าหน้าที่คนนั้นช่วยเหลือโดยติดตามเธอวิ่งวุ่นหา ‘ญาติ’ อยู่นาน เซี่ยเสี่ยวหลานจะไปขอบคุณน้ำใจของเขา
ส้มหนาน [2] ราคาเพียงชั่งละห้าเหมาเงินไม่กี่หยวนก็ซื้อหนึ่งถุงใหญ่ได้ ของแบบนี้ไม่ถือว่าเป็การส่งของขวัญเพิ่มขนมหวานอีกสองถุงก็เพียงสิบกว่าหยวนเท่านั้นเ้าหน้าที่ผู้ให้ความช่วยเหลือเมื่อวานถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรดี
“คุณ พวกเรารับของไม่ได้”
“คุณตำรวจคะ นี่เป็แค่การแสดงความนับถือเล็กน้อยของฉันเมื่อวานคุณยังจ่ายเงินค่าห้องพักให้ฉันก่อนอีกด้วย”
ตอนนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ได้เ้าหน้าที่แซ่อู่คนนี้พาเธอไปยังบ้านพักอีกทั้งจ่ายค่าห้องพักให้เธอก่อน อันดับแรกเซี่ยเสี่ยวหลานมาเพื่อมอบผลไม้อย่างที่สองคือมาคืนเงิน
เ้าหน้าที่อู่ไม่ยอมรับเงินของเธอ ดังนั้นเซี่ยเสี่ยวหลานจึงดึงดันมอบผลไม้ให้เ้าหน้าที่จนได้
คนเข้าออกสถานีตำรวจมากมาย การยื้อยุดกับสุภาพสตรีวัยรุ่นแสนสวยนั้นไม่เหมาะสมเ้าหน้าที่อู่ทำได้เพียงนำผลไม้วางลงบนโต๊ะเขาเห็นอกเห็นใจหญิงสาวผู้ตามหาญาติไม่พบคนนี้มากทีเดียวเซี่ยเสี่ยวหลานยังมีดวงหน้าที่หลอกลวงคนได้มากอีกด้วยหน้านิ่วคิ้วขมวดนิดหน่อยก็ทำเอาคนอื่นสงสารเหลือเกิน
“คุณยังจะตามหาต่อไปไหม?”
“ไม่หาแล้วค่ะ วันนี้ฉันจะซื้อตั๋วออกจากเยว่หยางแล้ว”
เ้าหน้าที่อู่นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง หยิบหมวกบนโต๊ะขึ้นสวมใส่ศีรษะ
“ไปเถอะ ผมไปส่งคุณที่สถานีรถเอง”
เซี่ยเสี่ยวหลานกล่าวเลี่ยงตามมารยาทสองสามประโยคแต่ไม่ปฏิเสธความหวังดีของสหายเ้าหน้าที่ เธอไม่เอะอะอย่างไร้เหตุผลในเวลาเช่นนี้เธอ้าการคุ้มครองจากเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประชาชนเป็อย่างยิ่ง
เธอซื้อตั๋วรถไฟไปยังซางตูหนึ่งใบด้วยความยากเย็นเ้าหน้าที่อู่ซื้อหมั่นโถวปิ้งในสถานีสองลูกและให้เซี่ยเสี่ยวหลาน
“หญิงสาวเดินทางข้างนอกต้องใส่ใจในเื่ความปลอดภัย ควรระมัดระวังตลอดการเดินทางด้วยนะ!”
เซี่ยเสี่ยวหลานพยักหน้ารับ
“ขอบคุณที่เตือนนะคะ”
เธอไม่รู้ว่าตนเองจะมาเยว่หยางอีกหรือไม่กับเ้าหน้าที่อู่เป็การพานพบกันโดยบังเอิญ ทำให้เธอรู้สึกซาบซึ้งในไมตรีของผู้อื่นตลอดไป
แกะเปลือกส้มหนานออกหนึ่งลูก ช่างหวานฉ่ำไปจนถึงหัวใจเสียจริงเ้าหน้าที่อู่แบ่งปันผลไม้และขนมให้แก่เพื่อร่วมงานในสถานีตำรวจเซี่ยเสี่ยวหลานมีสิ่งใดแตกต่างจากประชาชนทั่วไปอย่างนั้นหรือ? เธอหน้าตาสะสวย ทั้งสวยและมารยาทงาม พอตามหาญาติไม่พบก็ยิ่งดูน่าสงสารเข้าไปอีก
โชคชะตาลิขิตให้เ้าหน้าที่อู่และเซี่ยเสี่ยวหลานเกิดความเกี่ยวข้องกันโดยบังเอิญแม้ความงามเลิศล้ำจากไปอย่างรวดเร็ว แต่สุดท้ายก็ทำให้เขาประทับใจไม่รู้ลืมอยู่ดี
----------------------------------------
ณ หยางเฉิง
เคออีสฺยงฟังคำรายงานของเฉาลิ่ว ทว่ายังคงยิ้มแย้มดั่งเดิม
“พี่ใหญ่ พี่ไม่โกรธหรือ?”
เคออีสฺยงถามกลับอย่างสงสัย “ทำไมฉันต้องโกรธล่ะ? ฉันแค่อยากรู้จักเธอ นายดูสิว่าเธอไม่เพียงแต่อาจหาญ ทั้งยังฉลาดไม่เบา จะเป็พี่สะใภ้ของพวกนายไม่ได้เรียกว่าเหมาะสมมากหรือ?”
ลูกน้องสองคนที่เฉาลิ่วส่งออกไปสะกดรอยตามทำเซี่ยเสี่ยวหลานหลุดมือไปแล้วนั่งรถถึงสถานีถัดจากเยว่หยาง และย้อนกลับหยางเฉิงอีกรอบเวลาและแรงกายล้วนเสียไปกับการนั่งบนรถไฟ แต่กลับไม่รู้สถานการณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานเลยแม้แต่น้อย
เคออีสฺยงก็ไม่ได้โกรธเคือง
เซี่ยเสี่ยวหลานมีแนวโน้มว่าจะมาหยางเฉิงอีกครั้งขอเพียงดักเฝ้าที่สถานีรถไฟเป็อย่างดี เขาสามารถเจอเธอในไม่ช้าก็เร็วมีมิตรสหายเก่าที่ไป๋จื้อหย่งรู้จักส่งสารมายังเขาด้วย บอกว่าจะกระทำสิ่งใดก็ให้มันเอิกเกริกน้อยๆหน่อย เคออีสฺยงครุ่นคิด ทำไมไป๋จื้อหย่งต้องปกป้องเธอกันนะ
เป็ผู้หญิงของไป๋จื้อหย่งหรือ?
หากอยู่กับไป๋จื้อหย่ง คนที่สินทรัพย์ครอบครัวยังดูแลไม่ได้เข้าสู่วงการก็ไม่รอด ทหารยากจนคนหนึ่งจะมีอนาคตอะไรได้!
แม้จะมีไป๋เจินจูคุ้มครองอยู่ แถมไป๋จื้อหย่งยังวานคนมาส่งสารเคออีสฺยงก็คิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่ผู้หญิงของไปจื้อหย่งอยู่ดีหญิงสาวงดงามไร้เทียมทานเช่นเธอผู้นี้ ผู้ชายธรรมดาสามัญจะสามารถปกป้องได้ที่ไหน?
เคออีสฺยงตามหาแผงลอยที่เซี่ยเสี่ยวหลานซื้อสินค้าพบได้อย่างรวดเร็ว
เฉินซีเหลียงเกือบทิ้งแผงแล้ว
“เถ้าแก่เฉิน ขอให้ค้าขายรุ่งเรืองนะ!”
“พี่สฺยง มีธุระอะไรพี่ก็สั่งมาได้เลย พี่สูบสักมวนไหม?”
ตลาดค้าส่งปะปนระหว่างปลาและั [3] ใกล้สถานีรถไฟไม่น้อยและเป็อาณาเขตของเคออีสฺยงพอดิบพอดี เฉินซีเหลียงเจียมเนื้อเจียมตัวยิ่งนักทำธุรกิจต้องอัธยาศัยดี เขาไม่้ากระตุกหนวดเสือ โดยปกติค่าแผงและค่าความเคารพ[4] เขาก็ส่งเต็มจำนวนเสมอ ไม่รู้จริงๆว่าเคออีสฺยงเรียกหาเขาทำไม
พอเฉาลิ่วอธิบายจุดประสงค์ของการมา เฉินซีเหลียงได้แต่สาปแช่งอยู่ในใจให้ตายเถอะเขาช่างซวยเหลือเกิน! ไม่ว่าจะเซี่ยเสี่ยวหลานหรือเขาล้วนโชคร้ายทั้งคู่ทำธุรกิจยากเย็นแสนเข็ญ ส่งค่าความเคารพแล้วยังประสบเื่แบบนี้ได้อีก!
“พี่สฺยง ผมไม่รู้หรอก เธอแค่เคยซื้อของจากผมไม่กี่ครั้ง ผมจะรู้ที่อยู่และรายละเอียดอื่นของคนเขาได้อย่างไร...”
เคออีสฺยงตบบ่าของเฉินซีเหลียง “เถ้าแก่เฉินฉันไม่ชอบเวลาที่มีคนโกหกฉันนะ”
เชิงอรรถ
[1]内测 การทดสอบภายใน มาจาก 内部测试 หมายถึงการทดสอบภายในของโปรแกรมหรือเกมก่อนขั้นตอนเปิดตัวสู่สาธารณะ
[2]南桔 ส้มหนาน คือ ส้มเปลือกบางชนิดหนึ่ง
[3]鱼龙混杂 ปลาและัปนกัน หมายถึง คนดีและคนไม่ดีปะปนกัน
[4]孝敬费 ค่าความเคารพ หมายถึง เงินที่ให้เพื่อแสดงความเคารพเกรงใจคล้ายค่าคุ้มครอง
