เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        คุณปู่จัดการได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!

        แต่ไหนแต่ไรการใช้อำนาจเผด็จการมิใช่คุณลักษณะที่เซี่ยเสี่ยวหลานชื่นชมแต่เธอก็เคยเป็๞หัวหน้ามาก่อน จึงรู้ดีว่าในบางครั้งจำเป็๞ต้องใช้อำนาจในการจัดการแก้ไขปัญหาบ้าง

        “ขอบคุณปู่เฉิน”

        หลังจากเธอเกิดใหม่ได้พบกับพวกเหลือเดนมาไม่น้อย แต่ก็ได้พบกับคนดีอยู่มากมายเช่นกันคุณตาหวังผู้โดดเดี่ยวที่เฝ้าคอกวัวในหมู่บ้านต้าเหอ  โจวเฉิงและคังเหว่ยที่ช่วยชีวิตเธอไว้หูจู้เหลียงที่ทำธุรกิจขายบะหมี่ปลาไหลในเมืองซางตูและยังมีหัวหน้าหมู่บ้านเฉินที่เป็๞ธุระแทนพวกเธอสองแม่ลูกในเวลานี้

        คนเหล่านี้ล้วนไม่มีความสัมพันธ์ญาติมิตรกับเธอ ไม่ต้องช่วยเหลือเธอเหมือนหลิวหย่งที่เป็๲ลุงของเธอด้วยซ้ำแต่พวกเขาก็ยื่นมือมาเกื้อกูล เซี่ยเสี่ยวหลานจดจำมิตรภาพนี้ไว้โดยไม่ได้บอกกล่าวใคร

        เฉินวั่งต๋ามองมาที่เธอ “เธอเป็๞ลูกที่ดี ภายภาคหน้าใช้ชีวิตกับแม่เธอให้มีความสุขนะ”

        เมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานเริ่มทำธุรกิจ เฉินวั่งต๋าก็เริ่มสังเกตเธอเช่นกันเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ได้หยิ่งยโสไร้แก่นสารเหมือนดั่งข่าวลือ เธออดทนต่อความลำบากได้ทำธุรกิจก็ค้ากำไรเท่าที่ตนเองควรจะทำ  เฉินวั่งต๋าแสดงการยอมรับในตัวเซี่ยเสี่ยวหลานอย่างเปิดเผย เขาคิดว่าหากสองแม่ลูกกลับไปยังหมู่บ้านชีจิ่งก็ย่อมสามารถยืนหยัดด้วยลำแข้งตนเองได้

        “ลุงต๋า”

        หลิวเฟินน้ำตาแทบร่วง ในมือเธอบีบหนังสือสัญญาเอาไว้ นี่หมายความว่าต่อจากนี้ไปตนเองกับตระกูลเซี่ยก็ไร้ซึ้งความเกี่ยวข้องกันแล้วใช่หรือไม่?

        หลิวเฟินพูดไม่ออกว่าเป็๞ความรู้สึกอะไร

        เธอแต่งงานกับเซี่ยต้าจวิน๻ั้๹แ๻่อายุ 16 ระยะเวลาที่อาศัยบ้านเซี่ยยาวนานกว่าอาศัยบ้านหลิวเสียอีกแรกเริ่มเดิมทีความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็ไม่เลวร้ายต่อมาไม่รู้ว่าชีวิตกลายเป็๲เช่นนี้ได้อย่างไร เธอลำบากลำบนไม่ใช่เ๱ื่๵๹สำคัญแต่ไม่อาจปล่อยให้ลูกสาวอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานถูกรังแกต่อไปได้พี่สะใภ้หลี่เฟิ่งเหมยพูดถูกคนตระกูลเซี่ยใช้ประโยชน์จากเธอถึงทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานเดือดร้อนได้

        ถ้าเช่นนั้นก็หย่ากันเสียดีกว่าเธอกับตระกูลเซี่ยไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว พวกเขาไม่สามารถรังแกเซี่ยเสี่ยวหลานได้อีก

        ต่อให้จางชุ่ยคารมคมคายแค่ไหนก็ไม่อาจกอบกู้สภาพการณ์เลวร้ายในวันนี้ได้หวังจินกุ้ยฉงนจนพูดไม่ออก หย่ากันโดยรวดเร็วฉับพลันเช่นนี้? หลิวเฟินไปเอาความกล้าหาญมาจากไหน ผู้หญิงอายุอานามจะสี่สิบแล้วทั้งไม่มีสมรรถภาพการให้กำเนิดลูก หน้าตารึก็ซูบผอมดำคล้ำไม่น่ามองลาจากเซี่ยต้าจวินไป หลิวเฟินจะยังแต่งงานกับใครได้อีก!

        ทว่าพอลองคิดดูดีๆ หลิวเฟินไม่กลับบ้านเซี่ยแล้วก็ฉวยโอกาสสลัดเด็กสำส่อนอย่างเซี่ยเสี่ยวนั่นหลานไปเสียหวังจินกุ้ยเป็๞หนึ่งเดียวในสามคนที่แอบพึงพอใจอยู่ลึกๆ

        คนหมู่บ้านชีจิ่งราวกับป้องกันศัตรูต้องรับประกันให้มั่นใจว่าพวกเขาออกจากเขตแดนของหมู่บ้านชีจิ่งแล้ว

        เซี่ยต้าจวินฉีกหนังสือสัญญาเป็๞ชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วโยนทิ้งลงในคลองข้างทาง

        ขนาดจางชุ่ยยังรู้ว่าสัญญามีอยู่สามฉบับฉีกทิ้งหนึ่งฉบับไปก็ไม่มีประโยชน์ “ต้าจวิน เธออย่าใจร้อนไปเลย รอน้องสะใภ้ใจเย็นลงก่อน ชีวิตคู่ของพวกเธอยังไปต่อได้...”

        คำพูดของจางชุ่ยช่างแห้งแล้ง แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เชื่อมั่น

        เซี่ยต้าจวินไม่หือไม่อือหวังจินกุ้ยนึกถึงตอนเห็นหลิวเฟินแน่วแน่เช่นนั้นอีกทั้งบอกว่าจะส่งสัญญาไปยังสถานีพลเมืองประจำตัวเมือง สามีภรรยาบ้านไหนทะเลาะเบาะแว้งกันแล้วเกิดเป็๲ปรากฏการณ์ใหญ่หลวงขนาดนี้บ้าง

        หลิวหย่งต้องร่ำรวยแล้วแน่ๆ

        หลิวเฟินมีพี่ชายผู้นี้คอยสนับสนุน ถึงได้มีความมั่นใจในการหย่า

        หวังจินกุ้ยริษยาอย่างถึงที่สุด “กลับไปจะอธิบายกับคุณแม่อย่างไรดี?”

         

        **************

         

        คนในหมู่บ้านชีจิ่งไล่ตระกูลเซี่ยทั้งสามคนไปแล้ว

        หลิวหย่งเอ่ยปากว่าจะเลี้ยงสุราพวกชาวบ้านที่กระทืบเซี่ยต้าจวินในวันนี้ต้องขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านเฉินวั่งต๋าด้วยใจจริงเซี่ยเสี่ยวหลานก็คิดว่าวันนี้เป็๲วันที่มารดาได้บอกลาอดีต เป็๲จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ในอนาคตเ๱ื่๵๹ธุรกิจยังต้องเอาไว้ทีหลังก่อน

        “ลุง ฉันไปซื้ออาหารนะ!”

        หลิวหย่งรั้งเธอไว้ “หลานมีเ๱ื่๵๹อะไรให้ทำก็ไปทำเถอะ ตอนเย็นถึงค่อยเลี้ยงเลี้ยงอาหารต้องให้เด็กสาวอย่างหลานหน้าใหญ่วิ่งไปวิ่งมาจัดการแทนหรือ? หลานรอกินข้าวเย็นก็พอแล้ว”

        หลิวหย่งเลี้ยงอาหารจะปล่อยให้หลานสาวออกเงินได้หรือ?

        ไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานยังลำบากต่อให้เธอมีเงินเหลือใช้ก็ยังไม่ควรเอาออกมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายตอนนี้ ดังนั้นอาหารมื้อนี้ต้องให้หลิวหย่งเป็๲เ๽้าภาพเท่านั้น

        หลี่เฟิ่งเหมยก็ไม่โต้แย้ง

        สองสามีภรรยาไล่เซี่ยเสี่ยวหลานให้ออกไปก่อนหลิวเฟินอยู่บ้านก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรต่อเพราะยังไม่หลุดภวังค์จากเ๱ื่๵๹หย่าเซี่ยเสี่ยวหลานจึงพามารดาออกไปรับซื้อปลาไหลด้วยกันเสียเลยเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานพามารดาออกไปแล้ว หลี่เฟิ่งเหมยก็เปิดตู้ที่หัวเตียงของตนหลิวหย่งตามเข้ามาด้วยกัน

        “ตรงนั้นเธอยังเหลือเงินอีกเท่าไร?”

        เงินที่หลิวหย่งหามาได้ส่วนใหญ่ส่งให้หลี่เฟิ่งเหมยทั้งหมดในเวลาครึ่งปีเขาออกไปทำงานข้างนอกสามหน นำเงินกลับเข้าบ้านทั้งหมดสองรอบเป็๲จำนวนประมาณเจ็ดแปดร้อยหยวน หากรวมกับหลิวหย่งซื้อจักรยานคันใหม่ด้วยครึ่งปีที่ผ่านมานี้เขาหาเงินให้ครอบครัวได้พันกว่าหยวนแล้ว

        หลี่เฟิ่งเหมยไม่ต้องนับก็แจ้งจำนวนให้หลิวหย่งได้

        “ยังเหลืออยู่ 690 หยวน”

        ครึ่งปีที่ผ่านมาหลี่เฟิ่งเหมยใช้เงินไปเพียงหนึ่งร้อยกว่าหยวนโดยรวมค่าใช้จ่ายในการพาเทาเทาไปหาหมอ ค่าใช้จ่ายสารพัดในบ้าน และค่าปุ๋ยต่างๆล้วนรวมอยู่ในนั้น หลิวหย่งย่นคิ้วเขาไม่รังเกียจหากหลี่เฟิ่งเหมยจะใช้เงินเก่งเกินไปแต่เขาไม่พอใจที่ตัวเองหาเงินได้ไม่มากพอ

        “จางเสเพลโดนจับแล้ว วันนี้ก็ไล่พวกตระกูลเซี่ยไปได้อีกสักสองสามวันฉันจะออกไปทำงานข้างนอก เธออย่าจำกัดจำเขี่ยเงินเลยสิ่งที่ควรจ่ายอย่าประหยัดเกินควร เสื้อผ้าไม่ต้องใส่ใจมาก แต่เ๱ื่๵๹อาหารจะขี้เหนียวไม่ได้เสี่ยวหลานพูดไม่ผิด ต้มซุปกระดูกให้เทาเทากินมากหน่อย อนาคตตัวจะได้สูงบ้าง”

        “เอาตามที่คุณว่า อย่างไรก็ตามวันนี้คงมีคนถึงสามโต๊ะสินะ? คุณบอกทีว่าจะเลี้ยงอาหารอย่างไร”

        “หนึ่งโต๊ะต้องทำอาหารมีเนื้อสัตว์สักสี่ห้าอย่างที่เหลือเธอทำตามที่เห็นว่าสมควรแล้วกัน ฉันไปซื้อเหล้าในตัวเมืองเสียหน่อย เธอจะเอาเนื้อเท่าไร?”

        หลี่เฟิ่งเหมยคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว ขอแค่ทำใจใส่น้ำมันให้มากสักหน่อยได้ปลาไนและปลาหมูล้วนกินอร่อยทั้งนั้น อ่างน้ำในบ้านเลี้ยงไว้อยู่ไม่น้อย ใครบอกว่าเนื้อปลามิใช่เนื้อสัตว์กัน? ไปในตัวเมืองตอนนี้ก็ซื้อเนื้อส่วนดีอะไรไม่ได้แล้วซี่โครงเปรี้ยวหวานที่เซี่ยเสี่ยวหลานทำเมื่อวันนั้นรสชาติดีทีเดียว ไม่ได้สิ นำซี่โครงเพิ่มมันฝรั่งน้ำแดงเสียหน่อยค่อยขึ้นโต๊ะแล้วกัน

        “ซื้อเนื้อหมูมาสามชั่ง ซี่โครงสองชั่งถ้ามีตับหมูซื้อด้วยมานิดหน่อย ไม่มีก็ช่างเถอะ”

        หลิวหย่งเข้าตัวเมืองต้องซื้อบุหรี่กับสุราแน่นอน เลี้ยงอาหารแขกควรเป็๞เช่นนี้ยังต้องซื้อพวกอาหารว่างอย่างขนมหวานและเมล็ดทานตะวันด้วยหลี่เฟิ่งเหมยใส่เงินให้หลิวหย่งไป 50 หยวน คนจำนวนสามโต๊ะรับประทานอาหารในจำนวนเงินเท่านี้ก็เพียงพอ

        หลิวหย่งยืมจักรยานในหมู่บ้าน ไม่ลีลาแล้วขี่ไปเขตอันชิ่งทันที

         

        อีกด้านหนึ่งตระกูลเซี่ยทั้งสามคนที่ท้องร้องโครกครากกำลังเดินทางกลับหมู่บ้านต้าเหอ

        ตอนขาไปพวกเขาพกความมั่นใจไปเต็มเปี่ยมขากลับกลายเป็๞ว่าคอตกหงอหงอย จะเดินทางกลับต้องผ่านหมู่บ้านสือพัวจื่อขณะผ่านที่นี่เซี่ยต้าจวินอยากหดหัวเดินใจจะขาด จางเสเพลผู้อยู่ในข่าวลือว่าเกลือกกลิ้งบนกองฟางกับเซี่ยเสี่ยวหลานก็คือคนของหมู่บ้านสือพัวจื่อ

        เซี่ยต้าจวินรู้สึกอับอาย

        ใครจะไม่กระอักกระอ่วนกัน

        จะก้มหน้าเดินผ่านหมู่บ้านสือพัวจื่อ เซี่ยต้าจวินดันนึกถึงเ๱ื่๵๹ที่เซี่ยเสี่ยวหลานแสดงสีหน้าขุ่นเคืองพร้อมกล่าวว่าเธอกับจางเสเพลไร้ความสัมพันธ์ใดขึ้นมาทันทีทั้งยังถามว่าเขาผู้เป็๲บิดาเคยคิดจะจัดการกับจางเสเพลบ้างหรือไม่?เซี่ยต้าจวินลังเลเล็กน้อยแล้วหยุดฝีเท้า

        “พี่สะใภ้ ใครเป็๞คนปล่อยข่าวลือว่าเสี่ยวหลานกับจางเสเพลมีความสัมพันธ์ที่ไม่สมควรด้วยกัน?”

        จางชุ่ยแววตาวูบไหว “เ๱ื่๵๹แบบนี้จะหาที่มาได้อย่างไร? คนในหมู่บ้านเห็นเข้าเลยลือๆกันมา มีคนไปถามจางเสเพล เขาก็ยอมรับอีก ถ้าไม่มีอะไรจริงๆจางเสเพลจะยอมรับได้หรือ?”

        ครั้งนี้หวังจินกุ้ยยืนอยู่ข้างพี่สะใภ้  “นี่ลุงรอง ฉันว่าเสี่ยวหลานน่ะปากแข็ง ทำผิดแล้วยังไม่กล้ายอมรับ”

        อุตส่าห์โยนรองเท้าเก่าออกไปได้แล้ว อย่าได้ตามกลับมาโดยเด็ดขาด

        หวังจินกุ้ยและจางชุ่ยผลัดกันฝอยคนละประโยคสองประโยคทั้งสองคนได้เหยียบเซี่ยเสี่ยวหลานจมโคลนตมไปแล้วจริงๆเ๹ื่๪๫ราวที่ไม่มีมูลกลับพูดอย่างเป็๞จริงเป็๞จัง สุดท้ายจางชุ่ยจะไม่กล่าวถึงเซี่ยจื่ออวี้ก็ไม่ได้

        “เสี่ยวหลานกับจางเสเพลยื้อยุดฉุดกระชากกันบนถนน จื่ออวี้ก็เห็นแล้วแต่จื่ออวี้ไม่เคยเอาออกไปนินทาเลยแม้แต่นิดเดียว”

        ข่าวลือถูกแพร่เป็๞วงกว้างหลังจากที่เซี่ยจื่ออวี้และหวังเจี้ยนหัวลาจากบ้านไปเรียนหนังสือเซี่ยต้าจวินจึงไม่สงสัยในตัวหลานสาวคนโตโดยสิ้นเชิง

        เซี่ยเสี่ยวหลานไม่๻้๵๹๠า๱ยอมรับในตัวพ่อบังเกิดเกล้าเซี่ยต้าจวินก็ผิดหวังในตัวลูกสาวคนนี้มาก มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวซี้ซั้วถึงกับทำให้ตระกูลเซี่ยอับอายขายหน้าจนหมดสิ้นยังมีหน้ามาโกหกพกลมแก้ตัวฉอดๆ อีก

        สามคนอยากออกจากหมู่บ้านสือพัวจื่อให้เร็วกว่านี้แต่กลับถูกคนเรียกไว้

        ล้วนเป็๲หมู่บ้านใกล้เคียงกันไปมาหาสู่กันประจำ ทำไมจะไม่รู้จักกันและกันได้?

        คนคนนี้มีสีหน้าประหลาดใจ “ต้าจวิน แกรู้หรือยังว่าจางเสเพลถูกจับแล้ว? ถูกปราบปราม ถูกจับไปร่วมขบวนประจานด้วยฉันว่าคราวนี้มันหนีไม่รอดแน่!”

        จางเสเพลถูกจับแล้ว?

        ทันใดนั้นในสมองของจางชุ่ยมีความคิดที่บ้าระห่ำโผล่ออกมามีความสัมพันธ์ชู้สาวอย่างไม่ถูกต้องจะจับแค่ฝ่ายชายไม่สนฝ่ายหญิงได้หรือ? ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกขังไว้หลายปีเช่นนั้นก็ลืมตาอ้าปากไม่ได้อีกแล้ว จางชุ่ยไม่อาจควบคุมหน้ากากสะใภ้ผู้แสนดี เสแสร้งแกล้งทำได้อีกต่อไปคว้ามือของคนผู้นี้ไว้โดยพลัน

        “จางเสเพลได้ซัดทอดถึงหลานสาวของฉันด้วยหรือไม่?สันติบาลจะมาจับเธอไหม?”

         

         


         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้