“ตอนที่ข้าเป็เพียงบัณฑิต ข้าไม่อาจช่วยเ้าได้ และตอนที่ข้าได้รับการแต่งตั้งตำแหน่งจนใหญ่โตจากองค์ฮ่องเต้ก็ไม่สามารถช่วยตระกูลเหยียนได้ ใครจะถูกหรือผิดก็ไม่สำคัญเพราะไม่มีสิ่งใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความตาย ขอบคุณเ้าที่ขอความเมตตาให้แก่ข้า ตระกูลเหยียนต้องถูกทำลายด้วยน้ำมือของคนตระกูลเหยียนเอง ข้ารู้ว่าเ้ากำลังหาหลักฐานว่าที่ผ่านมาตระกูลเหยียนไม่ได้ใส่ร้ายตระกูลเว่ย… แต่ช่างมันเสียเถอะ ซูหาน เ้าพยายามสุดความสามารถแล้ว หลังจากข้าตายทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ผงธุลี หวังว่าหลังจากนี้ไปเมื่อเ้าทำาขอให้สุขภาพแข็งแรงตลอดไป ถ้าหากเ้าออกจากกองทัพแล้วกลับบ้านเกิดจงมีสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้ ไว้ทุกข์มาเป็เวลาสามปี ข้าก็ควรไปอยู่พร้อมหน้ากับพวกเขาได้แล้ว…”
“เฉิงอัน…”
“เหยียนเฉิงอัน…”
“เหยียนชิง—”
“คุณชาย…”
“คุณชายรอง…”
“อือ…”
อาการหนักอึ้งที่หน้าอก ความวุ่นวายภายในใจ โลกที่เหมือนจะบิดเบี้ยวไปสักหน่อย ในที่สุดเหยียนชิงก็ดิ้นรนออกมาจากความมืดมิดได้ ลืมตาขึ้นมาก็พบกับบรรยากาศที่ทั้งคุ้นเคย และแปลกประหลาด…
“ในที่สุดคุณชายรองก็ฟื้นแล้ว”
“เร็วเข้า รีบไปบอกฮูหยินว่าคุณชายรองฟื้นแล้ว…”
“คุณชายรองไม่เป็อะไรนะขอรับ”
“คุณชายรองรู้สึกยังไงบ้างขอรับ”
“…”
แสงสว่างจ้าจนแสบตา เสียงอึกทึกครึกโครม เหยียนชิงที่นอนอยู่บนเตียงมองฉากเบื้องหน้าด้วยความประหลาดใจ มีความรู้สึกเหมือนเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ในใจรู้สึกมึนงง…
มือที่วางอยู่ใต้ผ้าห่มบีบต้นขาตัวเองอย่างแรง เจ็บจนต้องกัดฟัน เป็เื่ที่น่าเหลือเชื่อ… มันคือความจริง
เขา ‘เหยียนชิง’ หรืออีกชื่อหนึ่ง ‘เฉิงอัน’ เป็คุณชายรองของตระกูลพ่อค้าเหยียนเมืองฟูซางแห่งแคว้นเทียนซู…
ทั้งที่เขาตายไปแล้วแท้ๆ ความเ็ปจากยาพิษและอาการหายใจไม่ออกนั้นชัดเจนและรุนแรงมาก…
ในห้องโถงหน้าตระกูลเหยียน นอกจากแม่สื่อแล้ว คนทั้งหมดล้วนเป็คนใกล้ชิดในตระกูลเหยียน
แม่สื่อสวมดอกไม้สีแดงมงคลไว้บนหัว พูดกับฮูหยินเหยียนนั่งอยู่ในห้องโถงด้วยใบหน้าที่เ็าว่า
“ฮูหยิน เกี้ยวเ้าสาวรออยู่ด้านนอกเป็เวลาสองชั่วยามแล้ว ฤกษ์มงคลได้ผ่านพ้นไปแล้ว ฝนก็ยังตกลงมาอย่างหนักเช่นนี้ พาฮูหยินคนใหม่เข้ามาด้านในก่อนดีหรือไม่? เอาเกี้ยวแดงไว้ด้านนอกให้ถูกลมพายุพัดมันดูไม่เหมาะไม่ควร…”
ฮูหยินเหยียนที่อายุเกินสี่สิบปียังคงงดงามและสง่างาม ในเวลานี้คิ้วขมวด สีหน้ากลัดกลุ้มใจ หันหน้าไปมองนางอย่างจนปัญญา แล้วถามบ่าวรับใช้ที่อยู่ข้างกายว่า
“ยังหาคุณชายใหญ่ไม่พบอีกหรือ? ”
“เรียนฮูหยิน ยังขอรับ… คนที่ออกไปข้างนอกยังไม่กลับเข้ามา ฝนตกหนักมากเช่นนี้ เกรงว่าจะยากแล้ว”
คนที่ตอบคือฉางฟูพ่อบ้านที่ดูแลตระกูลเหยียนมานานหลายปี คนเรียกเขาว่าลุงฝู เขาอายุเกินครึ่งร้อย ซื่อสัตย์สุขุม ร่างกายอ้วนเล็กน้อยเข้ากันกับใบหน้าที่ดูอ่อนโยน ใต้คางมีหนวดเคราเล็กๆ ปกติต่อให้ต้องเจอปัญหาก็มักจะยิ้มแย้ม แต่ตอนนี้ใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและจริงจัง
ฮูหยินเหยียนมองไปที่ลุงฝูแวบหนึ่ง มือกำผ้าเช็ดหน้าแน่น กัดฟันพูด “เ้าลูกคนนี้ไม่ได้เื่เลย”
“ฮูหยินอย่าโกรธไปเลย…”
สาวใช้ข้างกายคอยปลอบใจ แต่ยิ่งพูดออกมาก็ยิ่งไร้ประโยชน์
“ฮูหยิน…”
แม่สื่อมองเห็นข้างนอกฝนยิ่งตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งมีเสียงร้องะโอย่างร้อนรน
“แค่กๆ…” สาวใช้คนสนิทของฮูหยินเหยียนกระแอมไอสองครั้งขัดจังหวะแม่สื่อ
“คุณชายใหญ่ไม่อยู่ จะให้หามเข้ามาเขาก็ไม่ยอม จะไปมีประโยชน์อะไร เช่นนี้จะให้ใครไปรับเกี้ยวแดง ใครจะไปทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับเ้าสาว ต่อให้มีมีดจ่ออยู่ด้านนอก ก็รับคนเข้ามาตามอำเภอใจไม่ได้”
ในฐานะสาวใช้ข้างกายฮูหยินเหยียน ป้าจูรับรู้ได้ถึงความคิดภายในใจของฮูหยินเหยียน แม้ว่าคุณชายใหญ่ไม่อาจกลับมาทำพิธีกราบไหว้ได้ตามที่ลุงฝูคาดเดาไว้ แต่ก็พาเ้าสาวเข้ามาตามอำเภอใจไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“นี่… เฮ้อ…”
แม่สื่อที่ได้ยินนางพูดอย่างนั้น ถอนหายใจแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีโอกาสจัดงานมงคลแก่ตระกูลใหญ่อย่างตระกูลเหยียน แต่เหตุการณ์กลับน่าเศร้าแบบนี้ ทำให้นางรู้สึกหดหู่เสียจริง จากงานมงคลกลายเป็เื่น่ากังวลไปเสียแล้ว โชคร้ายเสียจริง
เ้าสาวคนใหม่นี้ก็ช่างน่าสงสาร ว่ากันว่าเพิ่งไว้ทุกข์ได้สามปี ก็ต้องถอดชุดไว้ทุกข์แล้วสวมชุดมงคลทันที ว่ากันว่าเป็คุณชายผู้สูงศักดิ์จากตระกูลใหญ่มีชื่อเสียง แต่กลับต้องแต่งเป็ภรรยา…
ลุงฝูมองไปด้านนอกครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งมองไปที่ฮูหยินเหยียนที่ขมวดคิ้วแน่น สุดท้ายก็ก้าวออกมาด้านหน้าแล้วเอ่ยปาก
“ฮูหยิน ตามความเห็นของบ่าว คุณชายใหญ่ย่อมไม่ยินยอมกลับมาเข้าพิธีแต่งงานเป็แน่ ในเมื่อเขากล้าที่จะทำร้ายคุณชายรองจนสลบแล้วหนีไป แสดงว่าเขาได้เตรียมการเื่เลวร้ายเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว…”
ฮูหยินเหยียนลูบหน้าผากแล้วคลึงเบาๆ ปิ่นมุกอันงดงามที่ปักไว้บนศีรษะก็สั่นไหวตามไปด้วย ก่อนจะพูดออกมาอย่างหมดหนทาง
“ตามความคิดของลุงฝูแล้วควรทำเช่นไรดี?”
ลุงฝูกวาดสายตามองคนที่อยู่ภายในนี้ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา
“ตามความคิดของบ่าว เื่มาถึงขั้นนี้แล้ว ควรยอมรับความเห็นของคุณชายและชดใช้ให้อย่างสมเกียรติ ให้คุณชายถางแต่งงานกับเ้าสาวแทนคุณชายใหญ่เถอะ วิธีนี้นอกจากจะรักษาเกียรติตระกูลเหยียนเอาไว้แล้วยังเป็การไม่ฝืนใจคุณชายใหญ่ด้วย นับว่าสองวิธีนี้ดี แต่สิ่งที่ต้องชดเชยนี้ก็จำต้องให้โดยไม่ตระหนี่ ไม่เพียงแต่เป็การรักษาชื่อเสียงตระกูลเหยียนยังทำให้คุณชายใหญ่กลับมาโดยเร็ว ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตัดใจยกให้”
ฮูหยินเหยียนมองไปที่คนที่ก้มหน้าอยู่ทั้งซ้ายและขวา เมื่อเห็นว่าทุกคนเงียบไป นางจึงคิดอยู่นานแล้วก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะกล่าว
“เมื่อเป็เช่นนี้แล้ว ก็รอให้ฝนหยุดก่อนเถอะ หากคุณชายใหญ่ยังไม่กลับมา ก็จัดการตามที่ฮูหยินถังและคุณชายถังเห็นสมควร…”
พูดจบก็หันไปพูดกับสาวใช้ของฮูหยินถางที่อยู่ในนี้
“กลับไปบอกฮูหยินของเ้าเถอะว่าหากฝนหยุดตก แล้วคุณชายใหญ่ยังไม่กลับมา ก็ให้คุณชายิฮ่วนเตรียมรับฮูหยินคนใหม่ ส่วนการชดเชยจะไม่ทำให้ิฮ่วนลำบากเป็แน่”
สาวใช้โค้งคำนับ “ขอบคุณเ้าค่ะฮูหยิน บ่าวทราบแล้ว จะรีบไปรายงานให้ฮูหยิน และคุณชายของข้าทราบเดี๋ยวนี้”
พูดจบก็หันหลังเดินออกไป