สาวใช้ก้าวออกนอกประตูโดยพลัน สาวใช้อีกคนวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อนแล้วตรงเข้าไปยังข้างกายฮูหยินเหยียน ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นยินดี
“ฮูหยินเ้าค่ะ ฮูหยิน คุณชายรองฟื้นแล้วเ้าค่ะ…”
เดิมทีฮูหยินเหยียนกลัดกลุ้มใจอยู่ เมื่อได้ฟังดังนั้นสีหน้าก็ผ่อนคลายลงแล้วรีบกล่าวว่า
“ชิงเอ๋อร์ฟื้นแล้วหรือ เร็วเข้า รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้…”
กล่าวจบก็ลุกขึ้นยืนแล้วรีบก้าวลงมาจากบนแท่นที่นั่งสูง เดินออกไปด้วยความรวดเร็ว แต่นางเพิ่งจะได้ก้าวออกจากประตู เหยียนชิงก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าประตูเสียแล้ว แม้ว่าใบหน้าจะซีดเซียว แต่ก็ยังพอมีกำลังวังชาอยู่บ้าง ทำให้นางโล่งใจ
“ท่านแม่…”
“ชิงเอ๋อร์ เหตุใดถึงไม่ยอมพักผ่อนอยู่ในห้องอีกสักหน่อย…”
“ลูกไม่เป็ไรแล้วขอรับ…”
มองดูภาพใบหน้าตรงหน้าที่เหมือนอยู่คนละยุคสมัย เหยียนชิงรู้สึกเหมือนลำคอของเขาจะตีบตันไปหมด กระบอกตาร้อนผ่าวจนแทบทนไม่ไหว แต่เวลานี้ต้องอดทนไว้ก่อน ตอนนี้มีเื่สำคัญกว่าที่ต้องไปจัดการ เพื่อเปลี่ยนแปลงเคราะห์ร้ายในอนาคต
“ไม่เป็ไรก็ดีแล้ว…” ฮูหยินเหยียนดึงเขาเข้าไปด้านใน เดินไปกัดฟันพูดตำหนิไป “ เหยียนลั่วไอ้ลูกอกตัญญู คอยดูถ้ามันกลับมาเมื่อไรข้าจะหักขามัน”
“ท่านแม่โปรดระงับโทสะ…”
มองดูท่านแม่ที่สนิทสนมกับพวกเขามาโดยตลอด กัดฟันกรอดตำหนิท่านพี่ หัวใจเหยียนชิงทั้งอบอุ่นทั้งชื่นมื่น ตบมือนางอย่างปลอบใจ
“ท่านพี่ก็เป็คนใจร้อนเช่นนี้ อย่าโทษเขาเลย ท่านอย่าได้ขุ่นเคืองใจจนทำร้ายร่างกายตนเอง อีกอย่าง หากไม่ยกเลิกการหมั้นหมายนี้ เกรงว่าเขาจะไม่กลับมาอีกตลอดชีวิต”
ชาติที่แล้ว จนกระทั่งเขาตาย ก็ไม่มีข่าวคราวของท่านพี่เลย ทว่าชาตินี้ต้องหาให้เจอให้ได้
“เฮ้อ…”
ฮูหยินเหยียนนั่งลงอีกครั้งและส่ายหัวอย่างจำใจ
“ตอนนี้ก็ผ่านฤกษ์มงคลไปแล้ว พี่ของเ้าก็ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะไม่ออกมา ดูเหมือนพวกเราต้องหาหนทางอื่น ท่านแม่คิดอยู่ชั่วครู่ ก็ทำตามที่ป้าเ้าบอกให้ลูกพี่ลูกน้องของเ้าิฮ่วนแต่งกับฮูหยินคนใหม่แทนเหยียนลั่ว แล้วค่อยชดเชยให้กับิฮ่วน…”
“ท่านแม่” เหยียนชิงขัดจังหวะในขณะที่นางพูด จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างจับมือนางแล้วกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ข้าจะแต่งงานแทนท่านพี่เอง ข้าจะแต่งงานกับเว่ยซูหาน ไม่ต้องรบกวนท่านพี่ิฮ่วน ข้าเป็ลูกชายของภรรยาเอก ในเมื่อเป็พินัยกรรมของท่านพ่อ ข้าจะแต่งเอง นี่เป็สิ่งที่สมควรที่สุดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น การหมั้นหมายนี้ถูกกำหนดไว้สำหรับผู้นำตระกูลเหยียนคนต่อไป ในเมื่อท่านพี่หนีไปแล้ว ข้าจะจัดการเอง”
เหยียนชิงกล่าวประโยคเหล่านี้ด้วยสีหน้าเรียบเฉยและจริงจัง ในดวงตาปรากฏความสุขุมเรียบร้อยดูไม่เข้ากับอายุ ทุกคนอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ชิงเอ๋อร์…”
“คุณชายรอง”
ฮูหยินเหยียนและคนอื่นๆต่างมองเขาด้วยความประหลาดใจ
“ข้าตัดสินใจแล้ว” เหยียนชิงโบกมือและกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ
“แม้ว่าท่านพี่จะเป็พี่ใหญ่ แต่ข้าคือบุตรของภรรยาเอก จะนำความกดดันนี้ไปให้ท่านพี่ได้เช่นไร? เห็นได้ชัดว่าเื่เหล่านี้ข้าควรเป็ผู้รับผิดชอบ ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านทำเพื่อข้า และหานหานมามากแล้ว มันสมควรแล้วหรือที่จะนำความรับผิดชอบของพวกเราไปไว้บนไหล่ของท่านพี่ แต่ครั้งนี้ข้าได้ตัดสินใจแล้ว หวังว่าท่านแม่จะทำให้สำเร็จ”
ให้เหยียนิฮ่วนแต่งงานกับเว่ยซูหาน ถือเป็หายนะที่ดักซุ่มโจมตีเมื่อชาติที่แล้ว เขาจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด
ฮูหยินเหยียนมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นของลูกชาย ลำคอรู้สึกแห้งผาก ขยับริมฝีปากพยายามปฏิเสธคำพูดของเขา
“เอ่อ จะเป็ไปได้อย่างไร?…”
เหยียนชิงยิ้มและขัดคำพูดของนางอีกครั้ง
“ท่านแม่ นั่งรอพวกเราอยู่ที่ห้องโถงนี้เถอะ ลูกจะจัดการเื่นี้เอง”
พูดจบก็หันหน้าไปกำชับเด็กรับใช้ข้างกายทันที
“เปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณชาย ข้าจะไปพาฮูหยินคนใหม่เข้ามา”
ฮูหยินปิดปากตัวเอง พยายามไม่ทำตัวเองให้เสียมารยาทเกินงาม อดทนด้วยความขมขื่นแล้วสั่งแม่สื่อกับคนรอบข้าง
“มัวแต่อึ้งอะไรอยู่ เตรียมต้อนรับฮูหยินคนใหม่ ส่งคนไปบอกฮูหยินถาง แล้วบอกว่า คุณชายรองเป็คนแต่งงานรับฮูหยินคนใหม่เข้าตระกูล ไม่รบกวนิฮ่วนแล้ว ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ ข้าทำตามประเพณีอย่างถี่ถ้วนแล้ว”
“เ้าค่ะ”
แม่สื่อและคนรับใช้ตอบพร้อมกัน ลุงฝูผลักประตูออก ประกาศคำพูดของฮูหยินเหยียนไปยังแขกที่รออยู่ด้านนอก
ทุกคนต่างถอนหายใจพร้อมกับแสดงความยินดี แม้แต่คนอยากรู้อยากเห็นต่างก็พูดเป็เสียงเดียวกันว่าตระกูลเหยียนสมกับเป็ตระกูลที่มีชื่อเสียงจริงๆ แม้แต่คุณชายรองที่ยังอ่อนแอยังยอมแบกรับภาระหน้าที่นี้ ยอมแต่งภรรยาชายแทนพี่ชายเพื่อชื่อเสียงของตระกูล นับว่าหาได้ยากยิ่ง