การทำงานของผู้ชายย่อมแตกต่างจากผู้หญิง
สวี่จือจือไม่เคยคิดเลยว่าลู่จิ่งซานจะเป็คนทำงานเก่งกาจถึงเพียงนี้
ดวงตาของเขาเหมือนเรดาร์ที่คอยสอดส่อง เมื่อเห็นดอกฝ้ายดอกไหนมีแมลง เขาก็จะมองเห็นได้ในทันที เขาทำงานได้รวดเร็วและคล่องแคล่ว ไม่เหมือนกับเธอที่ต้องก้มๆ เงยๆ อย่างทุลักทุเลกว่าจะหาแมลงเจอแต่ละตัว
น่าโมโหจริงๆ!
เป็อย่างที่คิด คนเก่งทำอะไรก็เก่งไปหมด!
เฮ้อ!
สวี่จือจือถอนหายใจออกมา ใช้ใบไม้มาพัดคลายร้อน มองดูคนข้างๆ ที่เอาแต่จ้องเธอด้วยสายตาอิจฉา
ทำไมคนเขาถึงได้โชคดีแบบนี้นะ?
ในขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงคนร้องมาจากริมแม่น้ำ “แย่แล้ว ช่วยด้วย!”
“มีคนตกน้ำ!”
“ช่วยด้วย!”
ลู่จิ่งซานเป็ทหารพอได้ยินเสียงก็รีบวางถุงใส่แมลงไว้ที่ไร่ฝ้าย จากนั้นก็พุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนเสือชีต้า
“จุ๊ๆ...สามีเธอเก่งจริงๆ” หลิวเหมียวเดินไปหาสวี่จือจือ แล้วมองลู่จิ่งซานที่วิ่งไปอย่างคล่องแคล่วด้วยความอิดฉา “ฝีมือบนเตียงของเขาคงจะเก่งมากสิท่า”
สวี่จือจือ “....”
คุยกันดีๆ ไม่ได้หรือไง ทำไมถึงต้องเข้าเื่ใต้สะดือด้วย? ฉันยังเด็กอยู่นะ!
“จริงไหมล่ะ?” หลิวเหมียวแซว
สวี่จือจือตอบส่งๆ ไป “รีบไปดูกันเถอะ” อย่าให้มีเื่อะไรเกิดขึ้นเลย
เมื่อพวกเธอไปถึงก็เห็นลู่จิ่งซานกำลังอุ้มลู่ซืออวี่อยู่ ใบหน้าของเล็กของเธอซีดเผือดและหลับตาพริ้ม
“เกิดอะไรขึ้น?” สวี่จือจือถามด้วยความเป็ห่วง
“ไม่รู้เหมือนกัน กลับบ้านก่อนเถอะ” ลู่จิ่งซานพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก
เมื่อเห็นท่าทางของเขา สวี่จือจือก็ไม่กล้าถามอะไรอีก ได้แต่รีบวิ่งตามเขาไป
“ฉัน...ฉันจะไปตามหมอ” สวี่จือจือวิ่งตามไปพลางพูด
ระหว่างที่ทั้งสองคนคุยกันก็มาถึงปากทางเข้าหมู่บ้านพอดี ได้เจอลู่จิ่งเหนียนกำลังขี่จักรยานมา เมื่อเห็นว่าพี่ชายคนที่สามของเขากำลังอุ้มคนมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แถมยังมีสวี่จือจือวิ่งตามมา เขาก็รีบถาม “พี่สาม เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
“เสี่ยวอวี่ตกน้ำ รีบไปตามหมอมา” เขาสั่ง
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ลู่จิ่งซานก็วางน้องสาวในห้อง ห้องนี้เป็ห้องที่ลู่ซืออวี่กับลู่หลิงซานใช้ร่วมกัน
“อย่าเอาเธอมาไว้ตรงนี้” ลู่หลิงซานที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อเห็นว่าลู่ซืออวี่ตัวเปียกโชก ก็ร้องเสียงหลง “เธอสกปรก!”
เธอกลัวว่าห้องของเธอจะสกปรก พูดจบก็สบเข้ากับสายตาเ็าของลู่จิ่งซาน
“คุณช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอที” ลู่จิ่งซานบอกกับสวี่จือจือ
สวี่จือจือพยักหน้า
ตลอดเวลาที่ทั้งสองคนคุยกัน พวกเขาไม่ได้สนใจลู่หลิงซานที่กำลังโกรธเป็ฟืนเป็ไฟเลย ทำให้เธอโกรธจนต้องกระทืบเท้าแล้ววิ่งออกไป
“ที่บ้านมีน้ำตาลทรายแดงไหม?” สวี่จือจือช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้วถึงได้รู้ว่าลู่ซืออวี่มีประจำเดือนมา ไม่รู้ว่าเป็ครั้งแรกด้วยหรือไม่
“ทำไมเหรอ?” ลู่จิ่งซานถาม
“ไปเอาน้ำตาลทรายแดงมาหน่อย แล้วก็หาขวดแก้วใส่น้ำร้อนมาให้ฉันด้วย”
สวี่จือจือคิดว่าถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็หน้าร้อน แต่่เช้าอากาศก็ยังเย็นอยู่ อีกทั้งยังเป็่เวลาที่พิเศษของอีกฝ่ายด้วย
พูดจบเธอก็ไปเอาน้ำร้อนมาเช็ดตัวให้ลู่ซืออวี่ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หมอจึงถูกลู่จิ่งเหนียนพามา
“เมื่อคืนนี้ผู้เฒ่าที่ศาลเ้าเก่าทางเหนือของหมู่บ้านไม่ค่อยสบาย ฉันก็เลยไปดูอาการให้”
หมอมีอายุประมาณสามสิบกว่าปี สวมแว่นสายตาหนาเตอะ “ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว”
เขาแซ่จาง ว่ากันว่าเมื่อก่อนเคยเป็หมอจากโรงพยาบาลใหญ่ แต่ไม่รู้ทำไมถึงมาเป็หมออยู่ที่สถานีอนามัยเล็กๆ แห่งนี้
เหมือนจะเป็แค่ความรู้สึก สวี่จือจือรู้สึกว่าหมอจางจงใจมองลู่จิ่งซานในขณะที่พูด
สิ่งที่ทำให้สวี่จือจือใยิ่งกว่าคือ หมอจางที่ดูเหมือนจะอายุไม่มากคนนี้ยังสามารถจับชีพจรได้อีกด้วย
“ทำไมถึงตกน้ำได้ล่ะ?” หมอจางพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “่นี้ให้เธอพักผ่อนเยอะๆ ทำร่างกายให้อบอุ่น ผู้หญิงเพิ่งมีประจำเดือนครั้งแรกต้องดูแลเป็พิเศษ จะประมาทไม่ได้”
“จะให้ดีดื่มน้ำตาลทรายแดงหรือนมผงอะไรก็ได้เพื่อบำรุงร่างกาย ฉันจะเขียนยาให้ไปต้มกิน”
ลู่จิ่งซานชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นใบหน้าก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย
“แล้วก็่นี้ห้ามโดนน้ำเย็นเด็ดขาด” เขากำชับอีกครั้ง
“แล้วเด็กคนนี้จะไม่เป็อะไรใช่ไหม?” คุณนายลู่ที่ถูกลู่จิ่งเหนียนพามา เมื่อได้ยินว่าหลานสาวมีประจำเดือน ก็รีบถามด้วยความเป็ห่วง
“ต้องดูแลให้ดี” หมอจางพูด
สวี่จือจือกำลังจะถามว่าลู่ซืออวี่จะตื่นเมื่อไหร่ ก็เห็นว่าลู่ซืออวี่บนเตียงกำลังขยับดวงตา จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมา พูดอย่างเหม่อลอย “ฉันตายแล้วหรือเปล่า?”
“เสี่ยวอวี่” คุณนายลู่เรียกชื่อหลานสาวด้วยความสงสาร
ท่าทางน่าสงสารของเธอทำให้คนเห็นแล้วปวดใจมาก
“เสี่ยวอวี่” สวี่จือจือเข้าไปจับมืออีกฝ่าย “เป็อะไรไป?”
หรือว่าอีกฝ่ายจะทะลุมิติมาเหมือนกับเธอ? หรือว่าเกิดใหม่?
ไม่ถามยังดี พอถาม ลู่ซืออวี่ก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก แถมยังร้องไห้กอดเธออีกด้วย
เธอไม่เคยถูกเด็กผู้หญิงกอดร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อนเลย
สวี่จือจือทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ลูบผมอีกฝ่ายเบาๆ “ไม่เป็อะไรแล้ว ไม่เป็อะไรแล้ว” เด็กที่น่าสงสาร คงจะใมากสิท่า?
“ฉันกำลังจะตายใช่ไหม?” ลู่ซืออวี่พูดพลางร้องไห้ “ฉันฉี่เป็เื ฉันกำลังจะตาย”
ฉี่เป็เื?
สวี่จือจือชะงักไป
คุณนายลู่โบกมือให้พวกลู่จิ่งซานออกไป
“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ” สวี่จือจือทั้งสงสารและเห็นใจ นั่งลงบนเตียงพลางพูดกับอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม “ไม่ใช่อย่างนั้น ไม่เป็อะไรหรอก”
“แล้วมันคืออะไร?” ลู่ซืออวี่กะพริบตาที่ชุ่มไปด้วยน้ำตาแล้วมองสวี่จือจืออย่างมีความหวัง
“ที่เธอเป็แบบนี้เรียกว่าประจำเดือน เป็สัญญาณว่าเธอโตเป็สาวแล้ว” สวี่จือจือพูดด้วยรอยยิ้ม “ผู้หญิงทุกคนจะต้องเป็แบบนี้ทุกเดือน”
“ไม่ตายเหรอ?” ลู่ซืออวี่ถาม “หลิงซานบอกว่าคนที่ใกล้ตายถึงจะฉี่เป็เื ฉันฉี่เป็เื ฉันก็เลยกำลังจะตาย”
“ไม่ตายแน่นอน” สวี่จือจือพูดด้วยรอยยิ้ม “พอหลิงซานโตขึ้น หล่อนก็จะเป็เหมือนกับเธอ”
ลู่ซืออวี่เบิกตากว้าง “จะฉี่เป็เืด้วยเหรอ?”
“ถูกต้อง” สวี่จือจือพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ไม่ใช่แค่หลิงซาน ฉันเองก็ด้วย”
คุณนายลู่เห็นดังนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ แล้วค่อยๆ ออกจากห้องไป
ในห้อง สวี่จือจือได้อธิบายเื่ราวเกี่ยวกับประจำเดือนที่เธอเคยเรียนมาในหนังสือ หรือได้ยินมาจากที่อื่นให้ลู่ซืออวี่ฟัง
“ที่แท้ก็ไม่ได้ป่วย” ลู่ซืออวี่พูดด้วยความรู้สึกโล่งอก จากนั้นก็ถามด้วยความสงสัย “พี่สะใภ้ ผ้าอนามัยคืออะไรเหรอ?”
สวี่จือจือ “...เดี๋ยวฉันจะไปถามพี่สี่ของเธอให้ดูว่าจะหาได้ไหม?”
ถ้าไม่มีก็จะให้ลู่จิ่งเหนียนหาซื้อกระดาษชำระดีๆ มาให้
ยังไงก็ตาม พวกขี้เถ้าจากฟืนอะไรพวกนั้น ห้ามใช้อย่างเด็ดขาด!
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้