“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
“หมายเลขหนึ่ง!”
ผู้ชมต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดี
แม้ว่ากู่ไห่จะได้รับชัยชนะ แต่ร่างกายกลับเต็มไปด้วยเื เขาค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งขัดสมาธิ และเริ่มโคจรพลังรักษาอาการาเ็ของตน โดยไม่สนใจเสียงะโจากผู้คนโดยรอบ
...
“หัวหน้าหลี่ หมายเลขหนึ่งของท่านผู้นี้ โกงหรือไม่?” หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยเอ่ยถามอย่างหัวเสีย
“หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ย ท่านจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หรืออย่างไร? ฮ่าๆๆ!” หัวหน้าหลี่กล่าว พร้อมะเิเสียงหัวเราะ
“ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้หรือ? หึ!” ชายชุดขาวกล่าว ท่าทางไม่พอใจ
“เยว่เหยาที่รัก เ้าพูดไม่ผิดจริงๆ... ฮ่าๆๆๆ! เขาชนะแล้ว” หัวหน้าหลี่กอดหญิงสาว และหัวเราะเสียงดัง
เยว่เหยามิได้กล่าวสิ่งใด ปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจ
ชายชุดดำขลิบทองลูบไล้เยว่เหยา พลางมองกู่ไห่ที่อยู่บนสนาม ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หมายเลขหนึ่งทำได้ดีมาก มอบยารักษาให้เขาหนึ่งเม็ด!”
“ขอรับ!” ลูกน้องผู้หนึ่งตอบ
“หมายเลขหนึ่ง! ท่านหัวหน้ามอบยารักษาให้เ้าหนึ่งเม็ด จงคุกเข่าลง และกล่าวขอบคุณสำหรับความเมตตาของท่านเสียสิ” ลูกน้องผู้นั้นร้องบอก
เสียงะโของชายชุดดำ ทำให้ลานประลองเงียบลงในบัดดล
จากนั้น จึงเห็นชายชุดดำหยิบขวดเล็กๆ ออกมา และโยนมันไปทางกู่ไห่
“ยารักษาหรือ? ดูเหมือนหมายเลขหนึ่งจะทำเงินให้พรรคต้าเฟิงมิใช่น้อย!”
“แน่นอน! เ้าไม่เห็นหรือ ว่าเมื่อครู่มีคนแพ้พนันไปกี่คน”
“หมายเลขหนึ่ง?”
บรรดานักพนันทั้งหลายที่อยู่โดยรอบ ต่างส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึง
ขวดขนาดเล็ก ซึ่งบรรจุเม็ดยาเอาไว้ ร่วงลงตรงหน้ากู่ไห่
กู่ไห่ที่หลับตาทำสมาธิอยู่ ลืมตาขึ้น เหลือบมองมันเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองหัวหน้าพรรคต้าเฟิงที่อยู่บนอัฒจันทร์ชั้นพิเศษ ทว่ามิได้หยิบขวดยาขึ้นมา ยังคงโคจรพลังรักษาอาการาเ็ต่อไป
ชายหนุ่มไม่ใส่ใจรางวัล ที่อีกฝ่ายมอบให้แม้แต่น้อย
“ท่านหัวหน้ามอบรางวัลให้ เหตุใดเ้ายังไม่รีบคุกเข่าขอบคุณในความเมตตาของท่านอีก?” ชายชุดดำที่ยืนอยู่ตรงปากทางเข้าสนาม จ้องมองกู่ไห่ด้วยความโมโห
แต่ชายหนุ่มยังคงไม่สนใจพวกเขา
คุกเข่าขอบคุณในความเมตตา? กู่ไห่คุกเข่าให้เพียงฟ้าดิน และพ่อแม่ของตนเท่านั้น!
“อวดดีนัก!” ทันใดนั้น ชายชุดดำก็ะโด้วยโทสะ ก้าวเข้าไปในสนามประลอง จัดการสั่งสอนกู่ไห่ เพื่อประจบผู้เป็นาย
“ยังไม่รีบคุกเข่าขอบคุณท่านหัวหน้าอีก?” ชายชุดดำผู้นั้นดึงแส้ยาวออกมา ราวกับคิดจะใช้มันฟาดเขา
เพียะ!
กู่ไห่หันไปมอง ั์ตาทั้งคู่ฉายรังสีสังหาร
เมื่อเห็นแววตาเช่นนั้นของอีกฝ่าย ชายชุดดำผู้นั้นก็หยุดชะงัก รู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่าง
พลังของหมายเลขหนึ่งยังไม่ถูกผนึกเช่นนั้นหรือ? แล้วข้ายังจะมาอยู่ตรงหน้ามันอีก? นี่คืออาชญากรที่ฆ่าคนตาไม่กะพริบ นักโทษทั้งหมดล้วนโเี้ จะทำอย่างไรถ้ามันคิดสังหารข้า?
ฟิ้ว!
ชายชุดดำหมุนตัว วิ่งไปหลบหลังกำแพงแสง ด้วยความตระหนกทันที
หลังจากถูกข่มจนต้องถอยกลับมาอย่างใ ชายชุดดำก็จ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคือง อาชญากรผู้นี้ทำให้ข้าขายหน้า!
“ยังไม่รีบคุกเข่าขอบคุณท่านหัวหน้าอีก!” ชายชุดดำผู้นั้นตวาดด้วยท่าทางเกรี้ยวกราด
กู่ไห่ยังคงไม่ตอบ เพียงนั่งขัดสมาธิ รักษาอาการาเ็ของตัวเองต่อไป
...
ที่นั่งชั้นพิเศษ
เมื่อเห็นว่ากู่ไห่ยังคงนิ่ง หัวหน้าหลี่เหว่ยก็รู้สึกมิใคร่พอใจนัก แต่เพราะครานี้ได้รับหินิญญามามากมาย กำลังอารมณ์ดียิ่ง จึงไม่ได้ถือสาหาความ เพียงแค่นเสียงด้วยความหงุดหงิดเท่านั้น “หึ!”
“พวกเราไป!” หัวหน้าหลี่เหว่ยโอบเยว่เหยา และค่อยๆ เดินจากไป
หัวหน้าสำนักซ่งเจี่ยมองดูหมายเลขหนึ่ง ด้วยแววตาเกลียดชัง “หมายเลขหนึ่ง? เ้านี่น่าน่าหมั่นไส้พอๆ กับกู่ไห่เลยทีเดียว! หึ!”
ชายชุดขาวจากไปด้วยท่าทางมิใคร่พึงใจนัก
...
ฟิ้ว!
ทันใดนั้น เชือกแสงสีแดงได้พุ่งออกมาอีกครั้ง และพุ่งเข้ามัดร่างกู่ไห่ ก่อนที่จะดึงไปที่ปากทางเข้า
บนแท่นหิน
วูบ!
พลังของชายหนุ่มถูกผนึกเอาไว้อีกครา
ชายชุดดำคนก่อนหน้านี้ ยกแส้ขึ้นมา ก่อนจะฟาดไปที่ร่างกู่ไห่
เพียะ!
“เ้าวิเศษวิโสมาจากไหนกัน? ท่านหัวหน้าให้รางวัล เ้ากล้าไม่ยอมรับ? อีกทั้งเมื่อครู่ ยังจ้องข้าเช่นนั้นอีก? เฮอะ! มาสิ… แน่จริงก็สังหารข้าสิ” ชายชุดดำตะคอกเสียงดัง
เพียะๆ!
เขาตวัดฟาดแส้ลงบนร่างอีกฝ่ายหลายครั้ง
กู่ไห่หันไปมองชายคนนั้น ก่อนจะพูดอย่างเ็า “ข้าทำแน่!”
“เ้าจะทำ? ฮ่าๆๆ! เ้าอยากตายมากสินะ! ยังจะกล้าจ้องหน้าข้าอยู่อีก? แน่จริงก็มาฆ่าข้าสิ!”
เพียะๆ!
ชายชุดดำยังคงฟาดกู่ไห่ไม่หยุด ชายหนุ่มกัดฟันทน เหยียดยิ้มหยัน และมิได้กล่าวสิ่งใด
“ลูกพี่ หมายเลขแปดยังไม่ตายขอรับ!” ชายชุดดำอีกคนที่อยู่ด้านข้างกล่าว
“ฮะ? หมายเลขแปดยังไม่ตาย?” ชายชุดดำที่ถือแส้เฆี่ยนกู่ไห่ไม่หยุด ขมวดคิ้ว
“ขอรับ! ยังหายใจอยู่”
“ยังไม่ตายก็ดี! การพลิกผลแพ้ชนะครานี้ ทำให้พรรคต้าเฟิงได้รับหินิญญาเป็จำนวนมาก หมายเลขแปดที่อยู่ระดับแก่นทองคำนั่น ทำให้พวกเรากลับมาชนะพนันได้ครั้งหนึ่งแล้ว อาจจะมีครั้งต่อไปอีกก็เป็ได้ ทั้งคู่ล้วนมีหมายเลข 'เอกชวด' เรายังสามารถใช้คนพวกนี้ทำกำไรมหาศาลให้กับพรรคได้อีก! ผนึกพลังเขา แล้วพากลับหุบเขาคนโฉด!” ชายชุดดำสั่ง พร้อมเก็บแส้
“ขอรับ!” ทุกคนตอบรับ และทำตามคำสั่งทันที
เวลานี้ เ้าหน้าบากาเ็สาหัสยิ่ง ลมหายใจรวยริน เนื่องจากกู่ไห่ไม่ยอมกินยารักษานั่น มันจึงถูกชายชุดดำผู้ถือแส้ยึดไป เขาไม่ได้ช่วยรักษาเ้าหน้าบาก เพียงแต่ใช้น้ำเย็นสาดปลุกให้ได้สติ ก่อนจะพาทั้งสองกลับไป
ณ เส้นทางกลับหุบเขา ฮวางบูที่ยังาเ็ ถูกชายชุดดำที่ถือแส้ เร่งให้เดินไปพร้อมกู่ไห่
กู่ไห่มิได้พูดสิ่งใด
“พี่ชาย ขอบคุณ ขอบคุณเ้ามาก!” เ้าหน้าบากกระซิบกล่าวกับกู่ไห่
ฮวางบูจำได้ว่า ในเวลานั้นอีกฝ่ายได้เหยียบลงไปที่คอ และเตรียมที่จะฆ่าตนเองแล้ว แต่ใน่เวลาสุดท้าย เมื่อได้ยินคำร้องขอความเมตตา ชายหนุ่มก็ปล่อยตนไป
กู่ไห่มองเ้าหน้าบาก แต่มิได้ตอบกลับ
“ข้าไม่ได้โกหกเ้า ข้ามีหนี้เืที่ต้องชำระจริงๆ ขอบคุณที่เมตตาข้า ขอแค่ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะอยู่ในสภาพน่าสังเวชแค่ไหน ก็ยังมีโอกาส แต่ถ้าตายไป ทุกอย่างก็สูญเปล่า!” ชายหน้าบากพูด เสียงสั่นเครือ
กู่ไห่เหลือบมองอีกฝ่าย สุดท้ายก็พยักหน้าให้
ทั้งสองต่างโดนแส้เฆี่ยน ขณะเดินทางกลับหุบเขา
...
เมื่อทั้งสองมาถึงหุบเขาคนโฉด ชายผู้ถือแส้ ก็ะโเรียกรวมพลอาชญากรทั้งหมดทันที
“นายท่านกลับมาแล้ว ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านต้องกลับมา!” เฉินเทียนซานร้องโพล่ง ด้วยความใและยินดี
“ครานี้เหตุใดถึงกลับมาสองคน?”
“ไม่ถูกต้อง! มีเพียงคนที่เหลือรอดคนสุดท้ายเท่านั้น ที่จะมีชีวิตรอดกลับมามิใช่หรือ?”
เหล่านักโทษต่างพากันส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์
“พอแล้ว! รอบใหม่กำลังจะเริ่ม อาชญากรทั้งหมดที่มีหมายเลข 'เอกขาล' ออกมา แล้วตามข้ามา!” หนึ่งในกลุ่มชายชุดดำะโบอก
ตึกๆๆ!
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากฝูงชน พวกเขารู้ว่าตนเองไม่อาจหลบหนี จึงได้แต่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
เกาเซียนจือเป็หนึ่งในนักโทษที่มีหมายเลขเอกขาลสลักเอาไว้บนหน้ากาก จึงมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
หลังจากที่ตรวนของกู่ไห่ถูกปลดออก ก็ค่อยๆ ก้าวไปหาอีกฝ่าย
“นายท่าน!” เกาเซียนจือร้องเรียก ด้วยท่าทางเป็กังวล
“ข้าเคยสอนวิชาค่ายกลกระบี่์ให้เ้าไปแล้ว ใช้สิ่งนั้นรักษาชีพ เอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้” กู่ไห่กล่าวเสียงเคร่ง
“ขอรับ!” เกาเซียนจือรับคำ น้ำเสียงจริงจัง
คนทั้งสิบแปดก้าวออกจากฝูงชน
“ตีตรวนพวกนั้นซะ... พวกเราไป!” ชายชุดดำะโสั่ง
“ขอรับ!”
เคร้งๆๆ!
หลังจากถูกลงโซ่ตรวนแล้ว กลุ่มอาชญากรก็ถูกชายชุดดำพาออกจากหุบเขาไป
เมื่อคนกลุ่มนั้นจากไป ฝูงชนต่างก็แยกย้ายทันที
“นายท่าน ไม่เป็ไรใช่หรือไม่ขอรับ?” เฉินเทียนซานรีบก้าวไปประคองอีกฝ่ายทันที
“ข้าไม่เป็ไร นี่เป็เพียงาแภายนอกเท่านั้น” กู่ไห๋ส่ายหน้า
หลังจากทั้งสองมาถึงหลังก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง กู่ไห่ก็หยิบยาออกมาจากป้ายหัวหน้าสังกัดวารีทันที เดิมทีของทั้งหมดนี้เป็สิ่งที่เิไท่ทิ้งเอาไว้ เฉินเทียนซานย่อมทราบว่าอันไหนใช้รักษาได้
กู่ไห่กินยาลงไปเม็ดหนึ่ง ก่อนโคจรพลังรักษาอาการาเ็ของตน ประสิทธิภาพของยาเม็ดนั้นยอดเยี่ยมมาก ใช้เวลาเพียงสองชั่วยาม าแบนร่างก็เกือบหายเป็ปกติแล้ว
“พี่ชาย!” จู่ๆ ก็มีเสียงอ่อนระโหยโรยแรงดังขึ้น จากอีกฝั่งของก้อนหิน
“หืม?” กู่ไห่ขมวดคิ้ว พร้อมมองดูเ้าหน้าบากซึ่งมาหาพวกเขา
“เ้า้าอะไร?” ชายหนุ่มถามเสียงเย็น
จู่ๆ ฮวางบูกลับคุกเข่าลง และโขกศีรษะให้เขาสามครั้ง
“ที่ข้าพูดเป็ความจริง ขอบคุณมากพี่ชาย ที่ไว้ชีวิตข้า” ชายหน้าบากกล่าว ด้วยท่าทางซาบซึ้งยิ่ง
กู่ไห่จ้องมองอีกฝ่ายที่คุกเข่าอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพยักพเยิด “มอบยารักษาให้เขาหนึ่งเม็ด!”
“หา?” เฉินเทียนซานทำสีหน้างุนงง
ฮวางบูก็มีสีหน้าสับสนเช่นกัน จนกระทั่งเฉินเทียนซานหยิบยาเม็ดหนึ่งออกมามอบให้ ก็มีสีหน้าแข็งค้างไปทันที
“นี่มันยารักษาระดับสามมิใช่หรือ?” เ้าหน้าบากตกตะลึง
เขายัดยาเม็ดนั้นเข้าปากทันทีอย่างไม่ลังเล
เมื่อกินยาลงไปเรียบร้อยแล้ว ชายหน้าบากก็นั่งขัดสมาธิ โคจรพลังรักษาตัวเอง ประสิทธิภาพของยานั้นดีมาก าแทั่วร่างเริ่มตกสะเก็ดอย่างรวดเร็ว และฟื้นตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์
เมื่อถึงเวลาย่ำค่ำ อาการาเ็ของฮวางบูก็หายเป็ปกติกว่าครึ่งแล้ว
เ้าหน้าบากมองกู่ไห่ด้วยแววตาไม่อยากเชื่อ ”พี่ชาย เหตุใดเ้าถึงได้มี?...”
“เ้าไม่ควรถามในสิ่งที่ไม่น่าถาม” กู่ไห่กล่าวเสียงเคร่ง
“ได้!” ฮวางบูพยักหน้า
กู่ไห่เอามือไพล่หลัง ขณะยืนกวาดตามองไปทั่วหุบเขาคนโฉด ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันตราย หมอกหนาทึบปกคลุมไปทั่วทุกหนแห่ง ในมุมมืด มีดวงตาดุดันหลายคู่ซุ่มซ่อนอยู่ คนเหล่านี้คือผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนเส้นด้าย ทำให้ต้องระแวดระวังตัวตลอดเวลา
“ฮวางบู บอกข้าทีสิ ว่ากลุ่มคนที่กระจายกันอยู่ทั่วหุบเขาคนโฉด มีกลุ่มใดบ้าง เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับสถานการณ์ในนี้ที่เ้ารู้ให้ข้าฟัง” กู่ไห่สั่ง น้ำเสียงเคร่งขรึม
“อา... พี่ชาย เ้า้าจะทำอะไรกันแน่? คงมิได้คิดจะ... อย่าได้หุนหันพลันแล่นไป แม้ว่าพลังจะถูกผนึกไว้ แต่พวกเขาล้วนเป็คนโเี้ ไม่สนใจชีวิตคน” ชายหน้าบากเตือน
“ไม่ต้องห่วง เ้าแค่บอกมาว่าในหมู่พวกเขา ผู้ใดร้ายกาจที่สุด!” กู่ไห่กล่าว น้ำเสียงจริงจังยิ่ง
“โดยปกติแล้ว จะไม่มีผู้ใดต่อสู้กันในหุบเขา หลังจากที่ออกจากหุบเขาไป จะมีเพียงคนเดียวที่รอดกลับมา ดังนั้นจึงไม่อาจบอกได้ว่าใครแข็งแกร่งกว่าใคร ข้าเดาว่าบางทีทุกคนที่สามารถกลับมาได้ คงเป็คนที่ร้ายกาจที่สุดกระมัง!” ชายหน้าบากวิเคราะห์
กู่ไห่ฟังเขาเล่าอยู่นาน จากนั้นก็กวาดตามองนักโทษที่กระจายกันอยู่ทั่วหุบเขา พลางพยักหน้าหลายครั้ง
“รอข้าอยู่นี่!” กู่ไห่กล่าว พร้อมบิดคอไปมา ั์ตากระหายการต่อสู้
“นายท่าน ท่านจะไปที่ใดขอรับ?” เฉินเทียนซานเอ่ยถาม อย่างงุนงง
“อยู่นี่... อย่าตามข้ามา!” กู่ไห่สั่ง
“เอ๊ะ?” เฉินเทียนซานและฮวางบู ต่างมีสีหน้าประหลาดใจ
กู่ไห่ย่างเท้าออกจากหลังก้อนหิน เพราะเวลานี้เป็ตอนกลางคืนแล้ว การเคลื่อนไหวของเขา จึงดึงดูดสายตาสงสัยจากเหล่าอาชญากรโดยรอบทันที
ชายหนุ่มค่อยๆ เดินไปยังช่องเขา ซึ่งมีนักโทษราวสิบคนพักอยู่
คนกลุ่มนี้จับตามองกู่ไห่อยู่นานแล้ว เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้ามาหา ต่างก็มีสีหน้าหวาดระแวง หัวหน้ากลุ่มคือชายหัวโล้น หน้าตาน่าเกลียด ซึ่งกำลังมองอีกฝ่ายด้วยแววตาดุดัน
“คนมาใหม่? เ้ามาทำอะไรที่นี่?” ชายหัวโล้นลุกขึ้น จ้องมองกู่ไห่ด้วยสายตาเยียบเย็น “จากนี้ไป พวกเ้าทุกคนต้องเชื่อฟังข้า!” กู่ไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงทะนงตน
“ฮะ?” ชายทั้งสิบผุดลุกขึ้นทันที ต่างจับจ้องชายหนุ่มด้วยสายตาเดือดดาล
“ข้าจะเป็นายของพวกเ้า!” กู่ไห่กำหมัด พลางกล่าวอย่างเด็ดขาด
“ฮ่าๆๆ! เ้าหนู… อยากตายเช่นนั้นหรือ?” ชายหัวโล้นกล่าว พร้อมแสยะยิ้มเย็น
ตูม!
ทันใดนั้น กู่ไห่ก็พุ่งเข้าไปชกท้องของชายหัวโล้นทันที
“โจมตี!” ทุกคนในกลุ่มร้องะโ ก่อนรุมล้อมกู่ไห่ทันที
ดวงตาของเฉินเทียนซานและเ้าหน้าบาก ที่อยู่ห่างออกไป เบิกกว้างอย่างตระหนก ใครจะคิดเล่า ว่ากู่ไห่จะลงมืออย่างหุนหันเช่นนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้