เทศกาลไหว้พระจันทร์ทุกครอบครัวต่างมารวมตัวกัน!
เมืองหลวงคึกคักมีชีวิตชีวาท้องฟ้ายามราตรีมีดอกไม้ไฟบานสะพรั่งงดงาม คู่รักโอบกอดพลอดรักใต้แสงจันทร์!
ดวงจันทร์เป็ดั่งถาดสีเงินแสงจันทร์บริเวณชายแดนดูแล้วมีเสน่ห์ แต่ก็อ้างว้างอย่างยิ่ง...
หยวนฝูใส่ชุดเกราะสีเงินบนไหล่มีผ้าคลุมสีแดงเพลิงนั่งร้องเพลงไปกับแสงพระจันทร์อยู่บนทะเลทรายแห้งแล้งไร้ที่สิ้นสุดเสียงเพลงแหบเครือลอยมาตามเม็ดทรายและสายลมราวกับล่องลอยไปในที่ที่เขาอยากจะไป!
ไม่มีใครฟังเสียงเพลงของหยวนฝูมีเพียงทะเลทรายตรงหน้าและค่ายทหารจำนวนหนึ่งที่กระจัดกระจายอยู่ด้านหลังแต่หยวนฝูกลับรู้สึกว่ามันจะสื่อไปถึงครอบครัวของเขาเขาเชื่อว่าขณะนี้ครอบครัวของเขาก็กำลังมองดวงจันทร์และคิดถึงญาติมิตรที่ยังไม่กลับมา
“ท่านรองหัวหน้าหยวนครับ! ศัตรูมาบุกแล้ว...”พลทหารวิ่งมาหาหยวนฝูด้วยความตื่นตระหนก เสียงแตรเขาสัตว์ดังระงมไปทั่วทั้งค่าย
คืนนี้เป็คืนฉลองวันไหว้พระจันทร์แต่เฉพาะกับคนส่วนใหญ่เท่านั้น เพราะที่คนเหล่านี้ยังสามารถเฉลิมฉลองอยู่ได้นั้นสืบเนื่องจากคนส่วนน้อยที่คอยต่อสู้ปกป้องความภาคภูมิอย่างหยวนฝู...
แสงจันทร์ช่างเศร้าสร้อยงดงามมันควรเป็่เวลาเฉลิมฉลอง หยวนฝูยกมือราดเหล้าขาวเทลงพื้นก้มหยิบมีดสปาต้าและพุ่งไปข้างในค่ายทหาร
ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวงไม่สามารถนั่งชื่นชมบุปผาและจันทราได้!
แต่เป็สนามรบแนวชายแดนที่มีให้ชมเพียงดินปืนและความตาย...
“ท่านรองหัวหน้าหยวนครับไอ้พวกคนเถื่อนโสโครกมันบุกมาตอนคืนไหว้พระจันทร์ ช่างน่ารังเกียจ!”หน่วยข่าวกรองวิ่งเข้ามารายงานสถานการณ์ทันที “ฝ่ายตรงข้ามบุกมาห้าร้อยนายครับเป็ทหารม้าเกราะเหล็กทุกนาย ศัตรูอยู่ห่างจากแนวชายแดนไปไม่ถึงห้าร้อยเมตรพร้อมข้ามชายแดนเข้ามาได้ทุกเมื่อ”
“ท่านรองหัวหน้าหยวนรีบออกคำสั่งเถอะครับ ปืนใหญ่กับรถถังเราพร้อมแล้ว...”
คิ้วดั่งกระบี่ของหยวนฝูเลิกขึ้นั้แ่ที่เขากลายมาเป็เสือตงหนาน (ตะวันออกเฉียงใต้)หนึ่งในห้าพยัคฆ์แห่งหวาเซี่ย เขาก็ถูกส่งมาประจำการที่ชายแดนหยวนฝูประจำการอยู่ที่นี่มาสามปีและไม่เคยรบพ่ายแพ้มีดสปาต้าในมือของเขาดื่มเืศัตรูมาแล้วมากมาย!
“พวกมันมีแค่กองทหารม้าเกราะเหล็กหรือ?”เสียงของหยวนฝูเ็า
“มีแค่ทหารม้าเกราะเหล็กห้าร้อยนายครับส่วนแม่ทัพของฝ่ายตรงข้าม ก็ะโว่าจะสู้ด้วยกำลัง ไม่มีการใช้ปืนและยังถ...ถาม...”
“ถามอะไร? พูดออกมาซะที!”หยวนฝูอารมณ์ขึ้นและถามเ้าหน้าที่ข่าวกรอง
“ถ...ถามว่าท่านรองหัวหน้าหยวนมีปัญญาสู้กับพวกเขาหรือไม่ถ้าไม่มีก็กลับไปกินเงินำาญ...” เ้าหน้าที่ข่าวกรองตัวสั่นเขาพูดประโยคเดิมของผู้นำฝ่ายศัตรูโดยไม่มีขาดตกบกพร่อง
หยวนฝูเลิกคิ้วร่างกายะเิพลังเกรี้ยวกราดออกมาโดยพลัน เขาหยวนฝู ไม่เคยเกรงกลัวผู้ใด...
“เรียกรวมหน่วยพยัคฆ์ชั้นเลิศสองร้อยนายออกรบจัดการพวกคนป่าเถื่อนแค่ห้าร้อยคน พวกเราแค่สองร้อยก็เหลือแหล่...”
หยวนฝูคำรามกึกก้องและวิ่งไปทางชายแดนพร้อมกับมีดสปาต้า!
มีง้าวปักตั้งตรงอยู่บนเส้นแบ่งเขตหยวนฝูยืนอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ร่างกายกำยำ ใบหน้าตั้งมั่นผ้าคลุมไหล่โบกสะบัดไปตามสายลม เขากำลังรอฆ่าพวกชนเผ่าป่าเถื่อนหากพวกศัตรูไม่ข้ามศพหยวนฝูไปก่อนก็อย่าได้คิดข้ามเขตแดนของหวาเซี่ยแม้แต่หนึ่งเิเ
ตึกๆๆ!
เสียงฝีเท้าดังจากด้านหลังของเขาหยวนฝูรู้ว่าหน่วยพยัคฆ์ที่ตัวเองเป็ผู้ฝึกได้เดินทางมาถึงแล้ว
“ท่านรองหัวหน้าหยวนหน่วยพยัคฆ์สองร้อยนายรายงานตัวเราจะสละชีพเพื่อชาติและจะปฏิบัติตามคำสั่งของท่านรองหยวนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง!”
หยวนฝูไม่ได้หันกลับไปมองเพราะตรงหน้ามีกองทหารม้าเกราะเหล็กขนาดใหญ่กำลังขี่ม้ามาหา
คืนนี้เป็คืนไหว้พระจันทร์และเป็คืนพระจันทร์เต็มดวงแม้ไม่มีการรวมตัวจัดงานเฉลิมฉลอง แต่เหล่านักรบทั้ง 201นายที่ยืนอยู่แนวชายแดนปรารถนาจะกลับไปเฉลิมฉลองเทศกาลพร้อมครอบครัว
คืนนี้เป็คืนที่คึกคักเป็คืนที่ถูกลิขิตให้ไม่ได้หลับไม่ได้นอน แต่การไม่ได้หลับไม่ได้นอนของที่นี่เป็อีกแบบหนึ่ง...
กองทหารม้าเกราะเหล็กห้าร้อยนายอยู่ห่างไม่ถึงห้าสิบเมตรม้าห้าร้อยตัวควบฝีเท้าจนพื้นดินสั่นะเื
ฝุ่นกระจายคละคลุ้งใบมีดสะท้อนแสงวิบวับ ที่นี่คือสนามรบชายแดน ที่นี่คือความตาย!
“นักรบแห่งหน่วยพยัคฆ์ ถึงเวลารับใช้ชาติแล้ว...ฆ่ามัน!”
หยวนฝูกล่าวและพุ่งนำไปข้างหน้าพร้อมกับมีดสปาต้า!
เขาคำรามดุจเสียงฟ้าผ่าร่างกายกระฉับกระเฉงเหมือนกับเสือที่ลงมาจากูเา เสือที่ดุร้ายที่สุดในหวาเซี่ย
ปัง!
มีดสปาต้าในมือหนักว่าสิบชั่งแต่หยวนฝูกวัดแกว่งมันอย่างง่ายดาย เขาเหวี่ยงสันมีดออกไปโดนเข้ากับม้าสูงใหญ่ตัวหนึ่งม้าศึกร้องคำรามและล้มทั้งยืนขณะวิ่ง แม้แต่ทหารบนหลังม้าก็ตกลงมาล้มลุกคลุกคลาน
มีดแรกเป็เพียงแค่การเริ่มต้นหยวนฝูเพียงแค่อุ่นเครื่องเท่านั้น
หยวนฝูะโเหยียบหัวของทหารม้าเกราะเหล็กหลายร้อยคนไปตลอดทางจนถึงม้าเหงื่อโลหิตตัวหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง ชายร่างกำยำผู้ขี่มันคือฮาต๋าหัวหน้ากองทหารม้าเกราะเหล็ก
“ฮาต๋าปู่มาเอาชีวิตสุนัขของเ้าแล้ว!”
ตูม!
หยวนฝูมาถึงฮาต๋าพร้อมกับมีดหนึ่งเล่มในไม่กี่อึดใจ
มีดสปาต้าหวัดเหวี่ยงแหวกอากาศมีพลังรุนแรงดั่งลมกรรโชกและคลื่นั์ เป่าทหารม้าเกราะเหล็กหลายสิบคนที่อยู่รอบตัวของฮาต๋า
“หยวนฝูได้ข่าวว่าเ้าเป็พยัคฆ์อันดับหนึ่งแห่งหวาเซี่ย ส่วนพ่อ!ก็คือราชสีห์อันดับหนึ่งแห่งแนวชายแดน วันนี้เรามาสู้กัน!”
ภายใต้แรงลมกรรโชกม้าเหงื่อโลหิตที่อยู่ภายใต้ฮาต๋าเริ่มตื่นใ มันยกขาหน้า และเริ่มวิ่งเตลิดไปทั่วฮาต๋าะโพร้อมกับดึงขวานศึกคู่หนึ่งจากด้านหลังและฟันไปที่หยวนฝู
...
แม่ทัพทั้งสองฝั่งต่อสู้กันอย่างดุเดือดพลทหารของทั้งสองฝั่งก็เข้าห้ำหั่นกันจนาเ็ล้มตาย!
ในแง่จำนวนทหารม้าเกราะเหล็กเหนือกว่าหน่วยพยัคฆ์มากโข แต่ในแง่ความกล้าและจิตใจหน่วยพยัคฆ์ไม่ได้ด้อยกว่า พวกมันเป็เหมือนดั่งพยัคฆ์หาญที่กระหายชัยชนะไม่ยอมให้ชนป่าเถื่อนย่างกรายเข้ามาในเขตแดนของหวาเซี่ยแม้แต่ครึ่งก้าว
ใครฝ่าฝืนฆ่าไม่ต้องปรานี!
ฉัวะ!
อั่ก!
ฮี้!
จันทราเสมือนดั่งจานเงินลมเหินสารทฤดูหนาวเย็น
ที่นี่คือพรมแดนของหวาเซี่ยที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลทรายแห้งแล้งไร้จุดจบโดยปกติไม่มีใครอยู่ที่นี่ ไม่ต้องเอ่ยถึงกิจกรรมใดๆ แต่ในคืนไหว้พระจันทร์สถานที่แห่งนี้กลับมีเสียงกู่ร้องบ้าคลั่งของกองทัพที่เข้าห้ำหั่นกัน...
การต่อสู้เริ่มสงบลงทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียอย่างหนัก!
หยวนฝูถือมีดสปาต้าร่างกายเปรอะเปื้อนไปด้วยเืของตัวเอง แต่ที่เยอะกว่าคือเืของศัตรู!
หลังจากผ่านการต่อสู้ดุเดือดฮาต๋าก็หมดแรง มือใหญ่ที่ถือขวานศึกคู่สั่นไม่หยุด
ฮาต๋าเปรียบเสมือนราชสีห์แห่งแนวชายแดนท้ารบผู้พิทักษ์หวาเซี่ยมากมายนับไม่ถ้วน แต่ฮาต๋ามิเคยพ่ายแพ้ อย่างมากแค่เสมอแต่วันนี้เขาพบศัตรูที่ทรงพลัง ไม่ใช่เพราะฝีมือของศัตรูแข็งแกร่งเกินไปแต่เพราะจิตใจไม่ย่อท้อของศัตรูเหนือกว่าฮาต๋าหลายขุม
“ราชสีห์อันดับหนึ่งแห่งแนวชายแดน? ราชหมีละสิไม่ว่า!”
เมื่อเห็นสหายร่วมรบล้มตายบนทะเลทรายอ้างว้างั์ตาของหยวนฝูก็แดงก่ำ เขาเงื้อมีดสปาต้าขึ้นอีกครั้งและฟันลงไป
ปัง!
ฮาต๋าไม่กล้าประมาทเขาเงื้อขวานศึกคู่ปะทะกับมีดสปาต้า ทั้งคู่ต่างมีพละกำลังมหาศาลไม่มีใครยอมถอยให้ใคร มีแต่ปะทะกันรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
มีดกับขวานปะทะกันก่อให้เกิดประกายไฟในอากาศ!
ด้วยการปะทะที่รุนแรงครั้งนี้ทำให้อาวุธของทั้งคู่หล่นตกพื้น หยวนฝูทรงตัวและกระโจนเข้าเหวี่ยงหมัด
“หมัดเทพั!”
ตูม!
ราวกับฟ้าผ่าลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับเสียงัคำรามกึกก้อง!
ฮาต๋าไม่มีโอกาสตั้งตัวแต่ก็เหวี่ยงหมัดเข้าปะทะกับหยวนฝู
เสียงดังต่อเนื่องไม่ขาดสายพื้นใต้เท้าของทั้งคู่เริ่มแตกร้าว เวลาเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะตามด้วยภาพของฮาต๋ากระอักเืออกมา
หมัดอันรุนแรงของหยวนฝูทำลายอวัยวะภายในทั้งหมดของฮาต๋าจนไม่เหลือชิ้นดี!
“หัวหน้าฮาต๋าตายแล้ว!”
“หนี...หนีเร็ว!”
ทหารม้าเกราะเหล็กที่เหลือเพียงยี่สิบกว่าคนวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน!
เมื่อพวกมันมาพวกมันมากันห้าร้อยพร้อมกับออร่าอำมหิต แต่เมื่อพวกมันกลับพวกมันกลับหนีเตลิดกลับไปเพียงยี่สิบกว่าคน
สนามรบนั้นโหดร้ายการเมตตาต่อศัตรูจะเป็การทำร้ายตนเอง แม้จะเป็ชัยชนะ แต่สหายหน่วยพยัคฆ์ก็ล้มหายตายจากไปมากกว่าร้อยคน
ทว่าหยวนฝูรู้สึกภาคภูมิใจในสหายที่ตายไปเขาแหงนหน้ามองพระจันทร์เต็มดวงบนฟากฟ้าอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มที่อบอุ่น...