“ติ๊ง…ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ: ได้รับความประทับใจจากจ้าวหลิงเซียน!”
“ระยะเวลาภารกิจ: 3 เดือน ผ่านไปแล้ว 7 วัน
“เมื่อภารกิจลุล่วงระบบราชันเ้าสำราญจะถูกเปิดอย่างเป็ทางการ และได้รับโอกาสจับสลาก 3 ครั้งเป็รางวัลหากล้มเหลว อายุขัยของโฮสต์จะลดลง 3 ปี!”
...
“ให้ลุงเอ็งไปทำเหอะ!”
ฉินเฟิงกำลังนอนฟุบโต๊ะและเล่นโทรศัพท์มือถืออย่างมีความสุขแต่เมื่อเสียงอิเล็กทรอนิกส์เ็าดังขึ้นในหัว เขาก็ใสะดุ้งจนอ้าปากเหวอและลุกขึ้นด่าออกมาดังๆด้วยความโกรธ
ตอนนี้เขาอยู่ในห้องเรียนวิชาศิลปะและมีนักเรียนคนอื่นๆ กำลังวุ่นอยู่กับบทเรียน สายตาทุกคู่จับจ้องไปทางเ้าของเสียงที่โพล่งออกมาทันทีพวกเขามองดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
บรรยากาศที่เงียบสงัดและอึมครึมของห้องเปลี่ยนไปทันที...
บนแท่นยืนมีครูแสนสวยคนหนึ่งใส่ชุดผ้าสีดำเบาบางเผยสัดส่วนสุดฮอตอย่างเต็มที่!
ครูสาวคนสวยชื่อหยุนเซียวเธอคือครูสอนวิชาศิลปะและเป็ที่รู้จักในนามครูที่สวยที่สุดแห่งมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงตอนนี้เธออายุ 25 ปี ซึ่งไม่มากไปกว่าเหล่านิสิตนักศึกษานัก!
ดังนั้นเธอจึงมีปัญหาเื่การควบคุมนักเรียนของเธอในระหว่างการสอน
แต่บรรยากาศการสอนที่เธออุตส่าห์ควบคุมด้วยความยากลำบากกลับถูกฉินเฟิงทำให้วุ่นวายอีกครั้ง หยุนเซียวจึงจ้องเขาด้วยความหงุดหงิดและอยากจะกัดไอ้เด็กนี่ให้ตาย
เฮ้อ...
ในที่สุดหยุนเซียวก็ถอนหายใจยาว ไม่ได้ะเิความโกรธออกมา
ใครคือฉินเฟิง?
นายน้อยเ้าสำราญชื่อกระฉ่อนแห่งมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิง มีฐานะครอบครัวไม่ธรรมดา อีกทั้งเสเพลและเ้าชู้!
พ่อของเขาคือฉินหวงเป็คนที่รวยที่สุดในเมืองเว่ยเฉิง และเป็ผู้ออกทุนให้มหาวิทยาลัยเพื่อพัฒนาต่อยอดในทุกๆปี ในฐานะลูกชายของอาจารย์ใหญ่กิตติมศักดิ์นี้เองแม้ว่าหยุนเซียวจะเบื่อที่เขาเกกมะเหรก แต่เธอก็ทำอะไรฉินเฟิงไม่ได้
“ฉินเฟิงกรุณารักษาระเบียบวินัยในห้องเรียนด้วย...เอาล่ะ ทุกคนเงียบได้แล้ว เราจะมาเรียนกันต่อ”
หยุนเซียวถลึงตาใส่ฉินเฟิงแต่เธอก็หมดปัญญาจะทำอะไรกับนายน้อยเ้าสำราญนายนี้ เธอทำได้เพียงระงับความโกรธของตัวเองไว้และกลับไปสอนต่อ
ฉินเฟิงไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของหยุนเซียวหรือสายตาของเพื่อนร่วมชั้นที่จ้องมองเขาแบบแปลกๆ แม้แต่น้อย หลังจากบ่นกับตัวเองไม่กี่คำเขาก็นั่งลงตามเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่คิ้วดั่งกระบี่ของเขายังคงขมวดเข้าหากันแน่น...
“เวร...อะไรวะเนี่ย? นายน้อยผู้นี้โดนผีสิงอยู่หรือไง?”
นี่ก็เจ็ดวันแล้ว!
เจ็ดวันที่สมองของฉินเฟิงได้ยินเสียงในหัว!
ั้แ่สัปดาห์ก่อนเขาได้ยินเสียงอิเล็กทรอนิกส์เ็าในหัวเป็ระยะๆ ทุกวัน และประโยคก็เหมือนเดิมทุกครั้ง...บอกให้เขาได้รับความประทับใจจากจ้าวหลิงเซียน!
ฉินเฟิงหัวเราะในใจขโมยไข่ไดโนเสาร์ยังง่ายเสียกว่า!
ใครคือจ้าวหลิงเซียน?
ดาวอันดับหนึ่งแห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงมีฐานะครอบครัวที่โดดเด่น ตามแบบฉบับขาวสวยและรวยมาก!
ตัวตนที่สูงส่งอย่างนี้ไม่สมควรไปล้อเล่นเธอคือนางฟ้าที่ผู้ชายเกือบทุกคนในมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิงใฝ่ฝัน แต่ฉินเฟิงไม่เหมือนกัน
เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อนฉินเฟิงประกาศต่อสาธารณชนในมหาวิทยาลัยเว่ยเฉิง ว่าเขาจะยกเลิกการแต่งงานระหว่างเขาและจ้าวหลิงเซียน
แต่งงาน?
นายน้อยเ้าสำราญอย่างฉินเฟิงจะเห็นด้วยกับเื่นี้ได้อย่างไรใครจะสนว่าเธอคือนางฟ้าหรือนางมาร การแต่งงานมันก็คือคุกดีๆ นี่เอง นายน้อยผู้นี้ไม่มีทางทำลายชีวิตรักอันผาสุกอีกครึ่งหนึ่งด้วยการแต่งงาน ดังนั้นการบอกให้เขาได้รับความประทับใจจากจ้าวหลิงเซียนนั้นเป็เื่ไร้สาระสิ้นดี เขาปฏิเสธเธอท่ามกลางฝูงชน ดังนั้นเธอคงจะยอมเอาลิงอุรังอุตังเป็แฟนดีกว่าที่จะประทับใจในตัวเขา
“ฮ่าๆดูเหมือนว่าไตพร่องจะทำให้ประสาทหลอน กลับไปเมื่อไรต้องหาวิธีดีๆ รักษาซะแล้ว”
ฉินเฟิงแสยะยิ้มและส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปเมื่อเหลือบไปเห็นหลินเป้ยเป้ยที่นั่งอยู่ข้างๆ รอยยิ้มมุมปากก็กว้างขึ้น
ช่างงดงามราวกับนางฟ้าบอบบางราวกับไต้อวี้!
“หือ?”
หลินเป้ยเป้ยที่กำลังตั้งใจเรียนรู้สึกถึงมือใหญ่วางบนขาอ่อนของเธอทันที เธอส่งเสียงด้วยความใกลัว และรีบถอยกรูดไปข้างๆ
ดวงตากลมโตที่มีน้ำตาคลอเบ้ามองไปทางฉินเฟิงที่กำลังยิ้มกริ่มด้วยความตื่นตระหนก
“เป้ยเป้ยทำไมนั่งไกลจังเลย เดี๋ยวก็ตกเก้าอี้หรอก”
ฉินเฟิงยิ้มและขยับเข้าไปใกล้หลินเป้ยเป้ยพร้อมกับสูดกลิ่นหอมเข้าจมูกทำให้หลินเป้ยเป้ยเขยิบจนนั่งบนเก้าอี้เพียงครึ่งหนึ่ง แลดูน่าสงสารแต่ก็น่าเอ็นดู
“นายน้อยฉินคะอภัยให้ฉันด้วย ครอบครัวของฉันยากจนมาก หน้าตาก็ขี้เหร่ หุ่นก็ไม่ดี ไม่มีอะไรดีหรอกค่ะ”
ฉินเฟิงคือนายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งแห่งเมืองเว่ยเฉิงแม้ว่าเขาจะไม่มีเจตนาร้ายใดๆ แต่ก็เป็คนที่เ้าชู้มาก ถึงขนาดมีข่าวลือว่าเขาหลับนอนกับผู้หญิงถ้าไม่ถึงพันก็แปดร้อย
หลินเป้ยเป้ยมาจากครอบครัวที่ยากจนเป็หญิงสาวหัวโบราณและไร้เดียงสา เธอกลัวนายน้อยเ้าสำราญอย่างฉินเฟิงมากที่สุด เขาเปรียบเสมือนปีศาจจากขุมนรก!
“เป้ยเป้ยนี่ก็เข้าใจล้อเล่นถ้าเธอขี้เหร่ งั้นทั้งมหา‘ลัยก็ไม่มีผู้หญิงแล้ว ถ้าเธอหุ่นไม่ดี งั้นทั้งมหา’ลัยคงเหลือแต่หมู!”
แววตาของหลินเป้ยเป้ยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและรังเกียจแต่ฉินเฟิงมองไม่เห็น ั์ตาคมสีดำจ้องมองเรือนร่างของเธอโดยตรง ไม่แม้แต่หลบซ่อนสายตาหวานเยิ้ม
แต่คำพูดของฉินเฟิงไม่ได้พูดเล่นลิ้นเอาใจเขาเห็นผู้หญิงมานักต่อนัก แต่มีไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเทียบกับระดับของหลินเป้ยเป้ยได้
ควบคู่ไปกับความอ่อนโยนตามธรรมชาติของหลินเป้ยเป้ยกระตุ้นให้ชายใดก็ตามอยากปกป้อง
ฉินเฟิงนั่งโต๊ะเดียวกับเธอมาครึ่งปีและพยายามอย่างหนักเป็เวลาครึ่งปีเพื่อชนะใจหลินเป้ยเป้ย แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่สนใจในอำนาจหรือความร่ำรวยเลยมันช่างยากเหลือเกิน
“เป้ยเป้ยหนอเป้ยเป้ยทำไมหน้าเธอแดงจัง? ตายแล้ว...ตัวร้อนด้วยนะเนี่ย เป้ยเป้ยเธอไม่สบายหรือเปล่า?”
ในขณะที่หลินเป้ยเป้ยไม่ได้ใส่ใจฉินเฟิงก็หยิกแก้มน่ารักของเธอพร้อมกับยิ้ม เขารู้ว่าเมื่อเธออาย เธอจะหน้าแดงตัวอุ่นเขาจึงแสร้งเป็ห่วงใยเธอ
“นายน้อยฉินคุณ...”
หลินเป้ยเป้ยใจลอยจนถูกฉินเฟิงแต๊ะอั๋งเธอหงุดหงิดมากจนกัดฟันกรอด แต่เพราะพื้นเพของฉินเฟิง เธอไม่กล้าโกรธฉินเฟิง จึงทำได้เพียงกำหมัดและน้ำตาแห่งความโศกก็เริ่มคลอเบ้า
ฉินเฟิงผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง!
“ติ๊ง…ระบบราชันเ้าสำราญมีภารกิจ: จงประกาศว่าจะจีบหลินเป้ยเป้ยต่อหน้าสาธารณชน!”
“ระยะเวลาภารกิจ: 1 วัน”
“เมื่อภารกิจลุล่วงระบบราชันเ้าสำราญจะถูกเปิดอย่างเป็ทางการ และได้รับโอกาสจับสลาก 3 ครั้ง หากล้มเหลวอายุขัยของโฮสต์จะลดลง 1 ปี!”
...
ทันใดนั้นก็มีเสียงแปลกๆดังขึ้นในหัว ทำให้ฉินเฟิงสะดุ้งใจนแทบตกเก้าอี้
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ฉินเฟิงจึงค่อยๆ คืนสติ เขากำลังคิดเกี่ยวกับเสียงที่ได้ยินและมือก็กำลังสั่น หลังจากเตรียมใจอยู่พักหนึ่งเขาก็ตบโต๊ะอย่างแรงและลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
กล่าวด้วยเสียงดังฟังชัด
“ฉันฉิงเฟิงขอประกาศต่อหน้าครูและเพื่อนร่วมชั้นทุกคนว่า จะตามจีบบุปผาอันดับสองแห่งคณะศิลปกรรมศาสตร์หลินเป้ยเป้ย!”
ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่แต่อายุขัย 1 ปี ฉินเฟิงไม่เล่นด้วยแน่ๆ!