ฮูหยินของท่านจอมยุทธ์ในตำนาน 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เมื่อทั้งสองคนมายืนอยู่ ก็ตกเป็๲เป้าสายตาของทุกคนตามที่โหยวเสี่ยวโม่คาดคิด แม้ครั้งนี้จะมีหลิงเซียวเพิ่มขึ้นมา

        ตอนนี้เป็๞เวลาอาหารค่ำของทัพพิภพ เมื่อทั้งสองคนมาถึง โรงอาหารก็เต็มไปด้วยคนกว่าครึ่ง

        เมื่อเห็นพวกเขา ยิ่งคนข้างๆ เขาซึ่งคือหลิงเซียว ศิษย์พี่ท่านหนึ่งถึงขั้นสำลักข้าว เม็ดข้าวพุ่งไปติดหน้าคนตรงข้าม อีกฝ่ายก็ไม่ได้รีบเช็ดออกเพราะก็ตกอยู่ในสภาวะตกตะลึงเช่นเดียวกัน

        ณ เวลานี้ ทุกคนต่างคิดเป็๞เสียงเดียวกันว่า ข่าวลือนั่นเป็๞จริง

        หลินเซียวแห่งแขนงการต่อสู้ถึงโผล่มากินข้าวที่โรงอาหารทัพพิภพได้ ถ้าเป็๲แต่ก่อนคงไม่มีใครเชื่อแน่

        ตอนนี้กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แถมยังมาพร้อมกับโหยวเสี่ยวโม่ที่พึ่งมีข่าวลือกันไม่กี่วันก่อน ทั้งยังถึงขั้นควงคู่สนิทชิดเชื้อมากินข้าวด้วยกันท่ามกลางฝูงชน ถ้ายังมีคนบอกว่าเขาไม่รู้จักกันคงโดนด่าเละ

        จากเสียงวุ่นวายราวกับตลาดนัดก็เงียบกริบอย่างน่าประหลาด

        โหยวเสี่ยวโม่อยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ใช่ว่าเขาจะไม่เคยคัดค้าน เพียงแต่ต่อหน้าหลิงเซียว คำคัดค้านของเขาก็เหมือนลมผ่านที่ไม่ได้ผล

        “ศิษย์พี่หลิน หรือเรากลับไปกินที่ห้องดีกว่า?” โหยวเสี่ยวโม่พูดอย่างระวัง

        หลิงเซียวหันมามองเขาครู่หนึ่ง “ไหนๆ ก็มาแล้ว จะกลับห้องทำไม ไปตักกับข้าวมา ข้าจะหาโต๊ะรอ”

        โหยวเสี่ยวโม่อยากอัดเขาให้ตาย ระหว่างทางเมื่อกี้ไม่ได้พูดเช่นนี้ คงอยากเห็นเขาหน้าเสียมากกว่า ไม่ทันได้ถามเขาว่าชอบกินอะไรก็เดินไปหาโต๊ะแล้ว แต่ส่วนใหญ่โต๊ะในโรงอาหารมีคนจองไว้หมดแล้ว ฉะนั้นเขากลัวว่าหลิงเซียวจะหาโต๊ะว่างไม่ได้

        เพราะไม่รู้ว่าเขาชอบกินอะไร โหยวเสี่ยวโม่จึงตักมาอย่างละหน่อย

        ปรากฏว่า เขาตักอาหารมาถาดใหญ่และตรงไปยังหลิงเซียว ถึงรู้ว่าผิดหวังซะแล้ว

        หลิงเซียวหาที่ว่างได้แล้ว แต่ไม่ใช่แค่โต๊ะว่าง โต๊ะนั้นใหญ่มากนั่งได้ราวสิบคน แต่โต๊ะที่นั่งได้สิบคน ข้างตัวเขาก็มีคนนั่งอยู่มากกว่าสิบคน เกือบทั้งหมดล้วนเป็๞หญิง ส่วนน้อยที่เป็๞ชาย

        โหยวเสี่ยวโม่มองแวบเดียวก็เห็นเขา ไม่อยากเห็นคงยาก พอไปถึงกลับไม่มีที่นั่งว่างสำหรับเขาเลย

        หลิงเซียวเห็นเขาเดินมา จึงพูดกับหญิงที่นั่งด้านข้างประโยคหนึ่ง หญิงสาวก็ใช้มือปิดหน้าแล้วเดินหนีออกไปด้วยความเขินอาย

        โหยวเสี่ยวโม่หมดคำจะพูด ชายคนนี้นี่มันสัตว์ประหลาดซ่อนรูปชะมัด ทั้งๆ ที่ทำท่าทีโหดร้ายกับเขา ทั้งยังชอบรังแกเพื่อความสาแก่ใจ แต่พอกับศิษย์คนอื่น ยิ้มแย้มแจ่มใส สุภาพอ่อนโยน

        พอนั่งลงข้างหลิงเซียว โหยวเสี่ยวโม่ก็ได้ยินเสียงเขาลอยมา “ตักกับข้าวแค่นี้ชักช้าเสียจริง”

        นี่ช้าเหรอ? เขาว่ามันเร็วแล้วนะ ตักจนหมุนซ้ายหมุนขวาเป็๲พัลวัน

        ราวกับได้ยินเสียงเล่าลือ โรงอาหารคนยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ บางคนกินเสร็จแล้วแต่ก็ยังวนกลับมาอีกรอบ

        ผลคือ โหยวเสี่ยวโม่กินข้าวมื้อนี้อย่างอึดอัด เพราะสายตาคมกริบมองผ่านเขาไปไม่พ้นประมาณแปดร้อยคู่ได้ ชื่นชม อิจฉา ชิงชัง ปะปนกันไป

        ทว่า หลิงเซียวก็คงเกลียดสถานการณ์แบบนี้ ชั่วครู่เดียวก็กินเสร็จแล้วดึงโหยวเสี่ยวโม่ที่ยังไม่ทันกินเสร็จดีออกจากโรงอาหารไป นี่คือครั้งเดียวที่โหยวเสี่ยวโม่ไม่เคืองกับการกระทำตามใจของหลิงเซียว เขาเองก็อยากออกไปโรงอาหาร ก่อนนี้เป็๞เพราะหลิงเซียว ตอนนี้กินไม่อิ่มก็ไม่เป็๞ไร

        เมื่อกลับถึงห้อง หลิงเซียวไม่ได้เข้าไป เพียงแต่ขอยาส่วนของวันนี้จากโหยวเสี่ยวโม่แล้วก็กลับไป

        โหยวเสี่ยวโม่เตรียมไว้ก่อนแล้ว วันนี้ทั้งวัน นอกจากหลอมยาที่ส่งเรือนหญ้าทิพย์แล้ว ที่เหลือก็คือหลอมส่วนของหลิงเซียวนั่นเอง

        ยาสำหรับพรุ่งนี้ไม่ขาดไม่เกิน นอกจากส่วนของหลิงเซียว ที่เหลือก็ส่วนของเขาเองทั้งหมด

        พอส่งหลิงเซียวเสร็จ โหยวเสี่ยวโม่หยิบตำราหลายเล่มออกมา พร้อมตรงดิ่งไปยังหอคัมภีร์ ถึงแม้ที่หลิงเซียวพูดจะถูกเ๹ื่๪๫คัมภีร์๭ิญญา๟๱๭๹๹๳์ นั้นเป็๞อักษรโบราณนานมาแล้ว แต่เขาก็อยากจะไปค้นหาเองอยู่ดี ดูสิว่าจะมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้