แขกสำคัญคนหนึ่งที่เสิ่นกุ้ยเฟยเลือกไว้ได้รับาเ็แม่นมนั้นจึงไม่กล้าตัดสินใจ ทำได้เพียงให้ทั้งสองพักอยู่ในห้องส่วนนางจะไปตามเสิ่นกุ้ยเฟยมา
ไม่นานเสิ่นกุ้ยเฟยก็มาถึงนางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของต้วนชิงิและเชวียหนิงหรานที่าเ็หนัก
ตอนนี้เสิ่นกุ้ยเฟยเปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้วเพราะเป็งานเลี้ยงที่จวนของนางจึงสวมใส่ชุดสบายๆเวลานี้นางสวมเสื้อแขนสั้นสีชมพูอ่อน ด้านนอกคลุมผ้าบางไหล่กว้างถึงสีเดียวกันหน้าผากคาดผ้าประดับอัญมณีสีแดง ้าเสียบปิ่นปักผมโล่วค่งเฟยเฟิ้งจินปู้เหยา[1]เวลาเดินทำให้ปลายทั้งสองกระทบกันเสียงดังกรุ๊งกริ๊งมองแล้วดูงดงามเป็อย่างมาก
สายตาของเสิ่นกุ้ยเฟยที่มองมาที่นางทั้งสองนิ่งไม่ไหวติงราวกับอ่านแผนการของพวกนางออก
เมื่อเห็นว่าเสิ่นกุ้ยเฟยมาถึงสตรีทั้งสองจึงรีบกล่าวขอโทษ หลังจากที่ได้ฟังถึงได้รู้ว่าที่แท้มีหนึ่งคนไม่ทันระวังลื่นล้มเจ็บขา ส่วนอีกคนเพราะไปช่วยพยุงคนที่เจ็บหลังอาบน้ำจึงาเ็หนักว่าคนแรก
เสิ่นกุ้ยเฟยเห็นแล้วก็ไม่เห็นว่าทั้งสองมีอะไรที่ผิดปกติจึงปรับสายตาเป็ผ่อนคลาย กำชับหมอหลวงให้รักษาและให้พวกนางไปพักผ่อน
เมื่อเห็นเสิ่นกุ้ยเฟยกำลังจะออกจากห้องไป ต้วนชิงิจึงเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก “เสิ่นกุ้ยเฟยหม่อมฉันมีเื่จะขอร้อง ไม่ทราบว่าเสิ่นกุ้ยเฟยจะทรงอนุญาตหรือไม่เพคะ?”
เมื่อครู่เสิ่นกุ้ยเฟยได้สอบถามทราบว่าต้วนชิงิคนนี้ออกมาคนที่หกแม้จะฉลาดอยู่บ้างแต่นางไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่จะดึงเป็พวก ส่วนเชวียหนิงหรานมีพี่ชายสองคนซึ่งเป็คนที่ช่วยในเื่การเรียนของเหยียนหลิงอวี๋โอกาสที่จะดึงเป็พวกนั้นมีไม่มาก อีกทั้งเชวียหนิงหรานหน้าตาสะสวยนิสัยตรงไปตรงมา แต่เมื่อดูแล้วกลับเป็คนที่ทำอะไรไม่รอบคอบดังนั้นเสิ่นกุ้ยเฟยจึงตัดสินใจไม่เอาสองคนนี้ แต่นางต้องแสร้งทำเป็ปลอบเสียหน่อยค่อยจากไปอย่างรวดเร็ว
เห็นเสิ่นกุ้ยเฟยจากไปเชวียหนิงหรานพูดยิ้มๆ “ชิงิความคิดของเ้านั้น... ”
ต้วนชิงิหัวเราะออกมา “ใครใช้ให้ไม่รู้จักพลิกแพลงล่ะ?”
เดิมทีทั้งสองคนก็าเ็อยู่แล้วถ้าเกิดมีใครอีกคนาเ็จะต้องมีคนมองแผนการออกเป็แน่ดังนั้นเชวียหนิงหรานจึงออกแรงนิดหน่อยแต่ใครจะคาดคิดว่าล้มฟาดที่ขอบอ่างอาบน้ำจะเป็แผลจริงๆ ขึ้นมาได้ ถึงแม้จะไม่ได้เป็หนักเหมือนที่แสดงเมื่อครู่ทว่าเวลาเดินยังต้องกะเผลกๆ ทีละก้าว
หลังเจอเื่สุ่มเสี่ยงอันตรายแต่กลับรอดปลอดภัย ต้วนชิงิกับเชวียหนิงหรานจึงหัวเราะเป็เสียงเดียวเื่ในวันนี้ทำให้ทั้งสองรู้จักและกลายเป็พี่น้องที่ดีต่อกัน
ต้วนชิงิและเชวียหนิงหรานถือโอกาสที่งานเลี้ยงเริ่มแล้วค่อยๆแอบออกไป หลังจากนั้นทั้งคู่นัดวันพบกันภายหลังแล้วแยกกันหน้าจวนติ้งกั๋วกง
พริบตาเดียวก็ถึงวันที่ไป๋หย่วนฮ่าวนัดหมายเอาไว้ วันนั้นต้วนเจิ้งมีธุระไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้จึงให้ต้วนชิงิไปต้อนรับไป๋หย่วนฮ่าวเข้าจวน
ความตั้งใจของต้วนเจิ้งคือให้ต้วนชิงิและไป๋หย่วนฮ่าวค่อยๆบ่มเพาะความรู้สึกกัน เมื่อพบเื่ที่ดีเช่นนี้ต้วนอวี้หรานจะไม่เข้ามาผสมโรงได้อย่างไร
ดังนั้นเมื่อต้วนชิงิเข้าประตูมาต้วนอวี้หรานก็ตามเข้ามาติดๆร้องจะให้ต้วนชิงิพานางไปรับไป๋หย่วนฮ่าวเข้าจวนด้วย
ประตูด้านนอกจวนมีรถม้าที่ดูแล้วธรรมดาแต่ด้านในตกแต่งอย่างดีมาหยุดอยู่ที่หน้าจวนเด็กหนุ่มสวมเสื้อสีอ่อนคนหนึ่งลงมายืนหน้าประตูจวนด้วยท่าทางที่สง่าไม่มีความรู้สึกกังวลใดๆ
แม้เด็กหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าดูจะยังอายุไม่มากแต่นางก็จำได้ทันทีว่าบุรุษที่อยู่ตรงหน้านี้ก็คือสามีของนางในอดีตชาติไป๋หย่วนฮ่าว
ภาพเืที่ถูกสาดไปทั่วกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้งทำให้สติสัมปชัญญะของต้วนชิงิขาดหายไปในทันที นางค่อยๆหลับตาลงเปลี่ยนเป็ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม จากนั้นเดินไปรับด้วยความสุภาพ
“ใช่คุณชายไป๋ใช่หรือไม่? ข้าแซ่ต้วนชิงิท่านพ่อมีธุระไม่อาจปลีกตัวได้จึงให้ข้ามาต้อนรับคุณชายไป๋”
ขณะที่ต้วนชิงิกำลังประเมินไป๋หย่วนฮ่าวอยู่เขาก็กำลังประเมินนางอยู่เช่นกัน เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าใบหน้าสงบนิ่งจิตใจเงียบสงบ รอบตัวมีความรู้สึกที่ไม่รู้อาจอธิบายได้ออกมา
ไป๋หย่วนฮ่าวเมื่อเห็นต้วนชิงิก็ไม่ปฏิเสธว่ามีความรู้สึกพึงพอใจ
ต้วนชิงิในวันนี้สวมเสื้อคอจีนสีชมพูอ่อนด้านล่างเป็กระโปรงจีบสีแดงลายสีม่วงสลับกับสีชมพู เสียบปิ่นอัญมณีสีแดงสดใสทำให้ดูสง่างาม รวมถึงท่าทางอรชรยิ่งทำให้ผู้พบเห็นใจเต้นแรง
พอคิดว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเป็ว่าที่ภรรยาที่บิดามารดาได้หมั้นหมายไว้เมื่อนานมาแล้วหัวใจของไป๋หย่วนฮ่าวก็เต้นรัวด้วยความตื่นเต้น แต่เขาเป็คนที่ทำอะไรรู้จักขอบเขตดังนั้นแม้ในใจจะดีใจเพียงใด ต่อหน้ากลับนิ่งสงบไม่แสดงออกมา
“ คุณหนูใหญ่... ต้วน ข้าไป๋หย่วนฮ่าว”
ไป๋หย่วนฮ่าวทักทายต้วนชิงิคิดจะแนะนำตัวเองให้นางรู้จัก ทว่านางกลับหันหลังกลับไปแววตาของไป๋หย่วนฮ่าวหม่นลงเล็กน้อย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขากลับรู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ต้วนไม่อยากพบหน้าเขายิ่งไปกว่านั้นหากจะพูดคุยกันอีกเสียหน่อย เขารู้สึกว่านางจะต้องฝืนทำ
“คุณชายไป๋”
ด้านหลังของต้วนชิงิเป็ต้วนอวี้หรานที่แต่งตัวสวยหยาดเยิ้มนางมองตามสายตาของต้วนชิงิไปทางไป๋หย่วนฮ่าว ครู่เดียวทั้งตัวของต้วนอวี้หรานก็ชะงักไปเลย
ชายหนุ่มอายุราวๆสิบสองสิบสาม หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นไม่เหมือนใคร!
เขามีคิ้วหนาโค้งขึ้น้าภายใต้ขนตาที่โค้งงอนมีดวงตาวาววับคู่หนึ่งที่ส่องสว่างออกมา จมูกเป็สันโด่งริมฝีปากสีดอกกุหลาบ รวมทั้งผิวขาวผ่องสะอาดตา...แม้จะเทียบไม่ได้กับความหล่อเหลาของเหยียนหลิงอวี๋แต่ก็เป็ชายหนุ่มรูปงามที่พบได้ยาก
บนศีรษะของชายหนุ่มรัดเกล้าหยกสีม่วงเสื้อสีอำพันทอไหมเงินระยิบระยับ ที่คาดเอวประดับด้วยหยกเรืองแสงเม็ดใหญ่แสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของตระกูล สายตาของเขามองเด็กสาวทั้งสองอย่างสงสัยก่อนจะไปหยุดลงที่ใบหน้าของต้วนอวี้หราน
หลายปีมานี้ต้วนอวี้หรานมักติดตามท่านแม่ไปเยี่ยมจวนอื่นๆ จึงได้พบเจอคุณชายสูงศักดิ์ไม่น้อยแต่นางไม่เคยพบใครที่สง่าผ่าเผย ดึงดูดสายตา และทำให้หน้าแดงหัวใจเต้นแรงออกมาเหมือนคุณชายที่อยู่ตรงหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ชายหนุ่มมองมาทางนางยิ่งทำให้นางควบคุมตัวเองไม่อยู่ ได้แต่ก้มหน้าลงด้วยความเขินอายแต่เมื่อเงยหน้าขึ้นพบว่าสายตาของชายหนุ่มมองไปยังต้วนชิงิในใจจึงเต็มไปด้วยความอิจฉา
ต้วนชิงินางคนชั่วไม่รู้ใช้เล่ห์กลอะไรทำให้คุณชายไป๋ที่เพิ่งมาถึงหลงใหลได้ขนาดนี้ ไม่ได้การแล้วไม่ว่าอย่างไรครั้งนี้ไป๋หย่วนฮ่าวเป็นางที่เห็นก่อนจะไม่ยอมปล่อยให้ต้วนชิงิแย่งไปอย่างแน่นอน คิดได้ดังนั้นนางก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มองไปยังไป๋หย่วนฮ่าวแสดงความเคารพเสียงหวาน
“อวี้หรานทำความเคารพพี่ไป๋” ไป๋หย่วนฮ่าวมองไปยังคิ้วที่งามของต้วนอวี้หรานอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมองอยู่อย่างนั้น
เขาและต้วนชิงิมีสัญญาหมั้นหมายกันั้แ่วัยเยาว์ถ้าต้วนชิงิเรียกเขาว่า “พี่ไป๋” ก็ไม่เป็ไร ปัญหาในตอนนี้คือต้วนชิงิยังมิได้บอกฐานะของนางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็ยังมิได้แนะนำให้รู้จักกัน แต่ต้วนอวี้หรานเรียกเขาเช่นนี้ไม่กลัวว่าจะไม่เหมาะกับฐานะของนางหรือ?
ไป๋หย่วนฮ่าวมองพินิจเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าเห็นนางสวมใส่เสื้อปักลายดอกสีแดง ส่วนด้านล่างสวมกระโปรงจีบสีน้ำเงินใบหน้าเรียวขาวราวกับหยก แก้มอวบอิ่มชมพูระเรื่อ
เมื่อดูที่รูปร่างของนางเห็นถึงความตั้งใจในการแต่งตัวใบหน้าทาแป้งบางๆ ทำให้แก้มทั้งสองข้างสีเหมือนสยงฮวา[2]ที่พึ่งผลิบาน คิ้วเรียวยาวดำขลับดวงตากลมหวานส่องประกายน่าหลงใหลเหมือนออกมาจากภาพวาดถึงแม้ว่าอายุจะน้อยเพียงเจ็ดแปดปีแต่ดวงตาอ่อนเยาว์ไม่ว่าใครได้เห็นเป็อันต้องหลงเสน่ห์
ผมที่ยาวมาถึงเอวหน้าผากประดับด้วยสร้อยไข่มุกสีขาวชมพูแม้มีบางเม็ดที่จะย้อยลงมากลับทำให้นางดูสวยเหมือนในเทพนิยาย ข้อมือสวมกำไลหยกสีขาวน้ำนมสะท้อนแสง ขับให้ชุดสีแดงดูโดนเด่นที่คอของนางสวมสร้อยเงินเส้นเล็กเมื่อสะท้อนแสงจะออกเป็สีม่วงเล็กน้อยหากมองอย่างตั้งใจจะเห็นเป็สีม่วงที่งดงาม
ดูจากการแต่งตัวจะดูออกว่าได้รับการดูแลเป็อย่างดีอีกทั้งเมื่อนึกถึงชื่อที่นางเรียกไป๋หย่วนฮ่าวเข้าใจในทันทีว่านางจะต้องเป็บุตรอนุที่ชื่อต้วนอวี้หราน
ไป๋หย่วนฮ่าวเกิดจากภรรยาเอกสำหรับวิธีการที่แพรวพราวของลูกอนุผู้นี้ดูแล้วไม่ค่อยจะเหมาะสมยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายอายุยังน้อย ไป๋หย่วนฮ่าวจึงคิดว่าต้องอยู่ให้ห่างจากนางไว้
ผู้ชายนั้นเมื่อตั้งหลักปักฐานได้แล้วจะมีอนุกี่คนก็ย่อมได้แต่ขณะนี้อายุของเขายังน้อย ทั้งยังมาอาศัยอยู่จวนของคู่หมั้นหมายจะต้องระวังการกระทำทุกฝีก้าวให้มาก!
ต้วนอวี้หรานจะไปรู้ความคิดของไป๋หย่วนฮ่าวได้อย่างไร ?
เมื่อนางเจอกับชายหนุ่มที่สง่าผ่าเผยเช่นนี้นางจึงคิดว่าไป๋หย่วนฮ่าวเป็สมบัติส่วนตัวของนางดังนั้นนางจึงไม่กระมิดกระเมี้ยนที่จะเดินเข้าไปก้าวหนึ่งจับมือของไป๋หย่วนฮ่าวพูดอย่างไร้เดียงสาว่า
“ห้องพักของพี่ไป๋ ข้ากับท่านแม่จัดการเรียบร้อยหมดแล้วตอนนี้ข้าจะพาพี่ไปเอง!”
…...
[1]โล่วค่งเฟยเฟิ้งจินปู้เหยา คือ ชื่อปิ่นปักผมที่เป็รูปดอกไม้และมีชายห้อยลงมาสองเส้น
[2]ฉยงฮวา คือ ต้นยูโรเปียนแครนเบอร์รี่บุช