วันนี้ก็เหมือนวันธรรมดาทั่วไป…
อากาศสดชื่นดี แดดอ่อนๆ ลมไม่แรงจนเกินไป และเสียงนกร้องจิ๊บๆ จากระเบียงของอพาร์ทเม้นท์ก็ยังคงไพเราะเหมือนเดิม
โทโด ซึ่งกำลังนั่งจิบกาแฟในห้องรับแขก มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าสงบสุข นี่แหละ...เช้าวันหยุดที่แท้จริง ไม่มีงาน ไม่มีประชุม ไม่มีบอส ไม่มีอีเมล ไม่มีลูกค้า และที่สำคัญ ไม่มีเสียงกริ่งหน้าประตูที่ดังยาวๆ โดยไม่มีเหตุผล
แต่แล้ว...
แกร๊ก...แอ๊ด...
เสียงประตูห้องของเอริเปิดออกเบาๆ ตามด้วยเสียงฝีเท้าเล็กๆ ที่เขาคุ้นเคยเป็อย่างดี
“พ่อจ๋าาาา~”
โทโดหันไปตามเสียงพร้อมรอยยิ้ม เขาคาดการณ์ไว้แล้วว่าลูกสาวน่าจะตื่นขึ้นมาใน่เวลานี้
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดเลยก็คือ...
เอริ วัยห้าขวบ ผมผูมีเงินยาวสลวย ใส่ชุดนอนลายกระต่าย กำลังอุ้มลูกแมวสีดำตัวเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเพิ่งเกิดไม่นาน เดินมาหาเขาด้วยสีหน้ามุ่งมั่นสุดๆ
อืม...
ลูกสาวน่ะ น่ารักเหมือนเดิม
แต่...ลูกแมวนั่นน่ะ มันคืออะไร?
โทโดเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ก่อนจะถามออกไปด้วยเสียงอ่อนใจปนระแวง
“ลูกแมว? บ้านเรามีลูกแมวั้แ่เมื่อไหร่กันเหรอ?”
เอริยิ้มหวานแบบที่เด็กห้าขวบกำลังปิดบังความผิดและพยายามจะเนียนที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้
“พ่อจ๋า เอริอยากเลี้ยงแมว~”
และทันใดนั้น...
ลูกแมวในอ้อมแขนของเธอก็เงยหน้าขึ้น ทำตาโตขลุกขลิก แล้วส่งเสียง “เหมียว” ออกมาเบาๆ เหมือนกับจะร่วมสมรู้ร่วมคิดในการอ้อนโทโดอีกแรง
โทโดหรี่ตา มองภาพตรงหน้าด้วยความอ่อนระอา
“ว่าแล้วเชียว…ฉากนี้มันต้องมา...”
เขาเคยคิดเล่นๆ ไว้ในใจว่าสักวันหนึ่งจะมีฉากที่ลูกสาวเดินอุ้มแมวมาขอเลี้ยงแน่ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดเร็วขนาดนี้
เอริเพิ่งจะห้าขวบเองนะ
แต่ก็เอาเถอะ...เขาก็ไม่ได้เกลียดแมวเสียหน่อย
โทโดมองลูกสาวที่กำลังยืนยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า พร้อมกับลูกแมวที่นั่งนิ่งๆ อย่างมีมารยาทบนแขนของเธอ
สิ่งที่น่าแปลกก็คือ...แมวตัวนั้นไม่ดิ้น ไม่ข่วน ไม่ทำเสียงประหลาด
มันนั่งเรียบร้อยมาก...
เรียบร้อยจนโทโดเริ่มสงสัยว่ามันเป็แมวจริงๆ หรือหุ่นยนต์แมว
“ลูก...เ้าแมวนี่มัน...”
“ชื่อคุโระค่ะ!” เอริตอบตัดบทอย่างรวดเร็ว เหมือนเตรียมบทพูดไว้แล้ว
“พ่อจ๋า...ได้มั้ยคะ~ ขอเอริเลี้ยงคุโระน้า~”
จากนั้นก็ตามด้วยสายตาอ้อนระดับมาสเตอร์คลาสจากทั้งลูกสาวและแมวดำ ที่ดูเหมือนจะเข้าใจคิวในการแสดงได้พอดีเป๊ะ
โทโดมองไปมาระหว่างสองคู่นั้น
เอริ ทำตาโต ใบหน้ายิ้มหวาน ไถแขนพ่อเบาๆ
คุโระ ส่งเสียง “เหมียว~” พร้อมขยับหางฟูเล็กน้อย
มันเป็ภาพที่ละลายความลังเลได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สุดท้าย...
“โอเคๆ ก็ได้ๆ ...”
“เย่~~~!! ขอบคุณพ่อจ๋า!”
เอริรีบหอมแก้มพ่อฟอดใหญ่ แล้วหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องอย่างอารมณ์ดี พร้อมลูกแมวที่กอดแน่นเหมือนตุ๊กตา
โทโดได้แต่มองตามด้วยสีหน้าทั้งยิ้มทั้งกลุ้ม
ลูกแมวตัวนี้มันดูฉลาด และเรียบร้อยผิดปกติ...
แต่เขาคงคิดมากไปเองล่ะมั้ง ลูกแมวบางตัวก็คงจะเป็แบบนี้ ถ้ามันพูดได้สิถึงจะแปลก
ว่าแต่ เอริ ไปเอาแมวมาจากไหนกันหว่า โทโด มัวแต่สนใจแต่ความน่ารักของเธอจนลืมถามไปเลย
แต่ก็ช่างเถอะเอาไว้เดี๋ยวค่อยถามก็แล้วกัน
.
.
.
ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นสักพัก
เอริ วัยห้าขวบ ที่ภายนอกดูเป็เพียงเด็กหญิงตัวน้อยผู้น่ารัก ร่าเริง และไร้เดียงสา...แต่จริงๆ แล้ว...
ก็...เธอก็น่ารักจริงๆ นั่นแหละ
แต่ไม่ไร้เดียงสาขนาดนั้น
เพราะเอริรู้...
เธอรู้ว่าคุโระไม่ใช่แมวธรรมดา
เธอรู้ั้แ่ตอนที่พบมันในสวนด้านหลังของอพาร์ตเมนต์เมื่อวานเย็นแล้ว
เมื่อวานเย็นเธอสังเกตุเห็นอะไรแปลกๆ ที่ไม่ธรรมดาแอบเข้ามาในสวนสวนด้านหลังของอพาร์ตเมนต์
เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะเป็อันตรายต่อโทโด เอริสุดยอดแม่มดน้อย ก็ต้องทำการตรวจสอบและจัดการ
เมื่อโทโดเผลอ เธอก็แอบเปิดวาปหายตัวไปอย่างรวดเร็ว เมื่อจัดการกับสิ่งที่อาจจะเป็อันตรายนั้น
ในตอนแรกเธอก็ไม่คิดมาก
แต่สิ่งที่โผล่ออกมา กลับเป็ลูกแมวตัวดำสนิท ที่มีดวงตาสีม่วงประกายประหลาด ทำเอาเอริ ที่กำลังจะลงมือนิ่งไป
และมัน...พูดได้
เอริจำประโยคแรกที่คุโระพูดได้ขึ้นใจ
“...โอ๊ย เจ็บชะมัด เ้าพวกนั้นเล่นแรงชะมัด”
พอเห็นเด็กหญิงยืนจ้องอยู่ มันก็ใ และพยายามแกล้งทำเป็เหมียวธรรมดา
แต่สายเกินไปแล้ว
เอริผู้มีพร์ในการเข้าใจสัตว์ แถมยังอ่านใจได้ ก็เข้าใจทุกคำพูดและความคิดของคุโระทันที
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการ ‘จับแมวใส่กล่องแล้วอุ้มกลับห้อง’ แบบไม่ให้ใครเห็น
แน่นอนว่าเ้าแมวที่ไม่ธรรมดาตัวนี้ต้องพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่มันก็ไร้ประโยชน์ มันต่อต้านเอริไม่ได้เลย
มันโดนเอริสั่งสอนอยู่พักใหญ่ จนมันไม่กล้าต่อต้านอีกต่อไป
เอริ เอาปลอกคอเวทมนตร์ใส่ให้มันพร้อมตั้งชื่อมันว่า คุโระ
คืนนั้น เธอให้คุโระนอนในกล่องใส่ผ้าขนหนูใต้เตียง พร้อมน้ำและขนมปัง และพูดเสียงกระซิบ
“พรุ่งนี้จะขอพ่อจ๋าให้เลี้ยงเ้านะ ห้ามพูด! ห้ามแปลงร่าง! ห้ามใช้พลังพิเศษ”
คุโระดูเหมือนจะพยักหน้า...ก่อนจะเหมียวตอบสั้นๆ อย่างจำยอม
“เหมียว”
ความสงสัยที่เพิ่มขึ้นของโทโด
เย็นวันนั้นหลังจากที่โทโดยอมให้ เอริ เลี้ยงแมว หลังมื้อค่ำ โทโดเดินผ่านห้องของเอริแล้วแอบชะโงกดู
เขาเห็นลูกสาวกำลังนั่งคุยกับลูกแมวในห้องของเธอ
เธอไม่ได้พูดธรรมดา แต่พูดเหมือนคุยกับเพื่อนที่เข้าใจทุกคำ
แล้วแมวก็เหมือนจะพยักหน้า?
โทโดขมวดคิ้ว
เขาเริ่มสงสัยอย่างจริงจังแล้วว่า...
ลูกแมวบ้านเขานี่มันแมวจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย?
แต่ก็เอาเถอะ...
อย่างน้อย มันก็ทำให้ลูกสาวมีความสุข
และบ้านนี้ก็ต้อนรับสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ตึกนี้อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาได้ (ตามนโยบายที่โทโดเช็กไว้ก่อนซื้อ)
เขาจะไม่คิดมากหรอกน่า...
สำหรับเด็กห้าขวบแล้วการคุยกับสัตว์เลี้ยงก็ถือเป็เื่ปกติล่ะมั้ง
แล้วเ้าแมวตัวนี้ก็จะตอบสนองไปตามธรรมชาติ อย่างไม่รู้เื่รู้ราวอะไร
มันคงจะเป็แค่แมวธรรมดาที่ค่อนข้างจะฉลาดนิดหน่อยก็เพียงเท่านั้น
โทโด ตัดสินใจว่าจะไม่คิดมากเื่นี้ ขอ แค่เอริ มีความสุขก็พอแล้ว
...ถึงแม้ว่าตอนเช้าวันถัดไปเขาจะเห็นเ้าแมวเปิดฝาขวดน้ำเองได้ก็เถอะ...
อืม.....ว่าแต่ โทโด เหมือนจะลืมอะไรบางอย่างไปนะ เขายังไม่ได้ถามเอริเลยนี่น่าว่าเธอไปเอาแมวตัวนี้มาได้ยังไง
ก็นะพอ โทโด เอ่ยปากจะถาม เอริ เธอเหมือนรู้ทันหาเื่เบี่ยงเบนความสนใจของเขาได้ทุกที
จนตอนนี้โทโดก็ลืมถามเื่นี้ไปเสียแล้ว
