ตอนที่ 7 บทพิสูจน์และชื่อเสียงที่เริ่มก่อตัว
วันเวลาในหมู่บ้านซีเฟิงไหลผ่านไปราวกับสายน้ำในลำธาร แม้จะเชื่องช้าแต่ก็สงบสุขและเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำของเหล่าผู้อพยพได้เป็อย่างดี สำหรับหลี่ซานแล้ว ทุกนาทีในกระท่อมยาของท่านหมอเฒ่าจางคือการค้นพบที่ล้ำค่า
ชีวิตในแต่ละวันของนางเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ที่ผสมผสานระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่อย่างน่าขัน ในตอนเช้า ท่านหมอเฒ่าจางจะสอนให้นางแยกแยะสมุนไพรด้วยวิธีดั้งเดิม
“ซานเอ๋อร์ ดูนี่ให้ดี” หมอเฒ่าชูรากไม้แห้งๆ ขึ้นมา “นี่คือ ‘ตังกุย’ ใช้บำรุงเื เหมาะสำหรับสตรี”
“เ้าค่ะท่านอาจารย์” หลี่ซานรับมาพิจารณา ในขณะที่ในใจของนาง พู่กันหยกได้แสดงข้อมูลขึ้นมาเป็พรืด ตังกุย (ชื่อทางวิทยาศาสตร์ แอนเจลิกา ไซเนนซิส)... ประกอบด้วยสารออกฤทธิ์สำคัญ ลิกัสติไลด์ ซึ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างอ่อน ควรระวังการใช้ในผู้ที่มีเนื้องอก...’ “แล้วนี่ล่ะ เ้ารู้หรือไม่ว่าคืออะไร?” หมอเฒ่าถามพลางชี้ไปที่สมุนไพรอีกชนิดหนึ่งอย่างภาคภูมิใจ
“‘ปั๊กคี้’ (หวงฉี) เ้าค่ะ ใช้บำรุงพลังปราณ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน” หลี่ซานตอบอย่างฉะฉาน
ท่านหมอเฒ่าจางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะไอแฮ่มๆ กลบเกลื่อนความประหลาดใจ "อะแฮ่ม... ใช่แล้ว... ดูท่าเ้าจะหัวไวจริงๆ"
ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงกลายเป็ภาพที่ชาวบ้านเห็นจนชินตา หมอเฒ่าผู้พยายามจะสอนด้วยความภาคภูมิในประสบการณ์ห้าสิบปีของตน กับลูกศิษย์ตัวน้อยที่มักจะตอบคำถามได้อย่างถูกต้องแม่นยำจนน่าใ แถมบางครั้งยังเสนอวิธีการรักษาที่แปลกใหม่แต่ได้ผลดีเยี่ยมจนหมอเฒ่าต้องลูบเคราครุ่นคิดอยู่คนเดียว
"ท่านอาจารย์เ้าขา" วันหนึ่งหลี่ซานเอ่ยขึ้น ขณะที่หมอเฒ่ากำลังจะจ่ายยาต้มรสขมปร่าให้กับเด็กน้อยที่ท้องอืด "ข้าว่าเราลองให้เขาดื่มน้ำขิงต้มกับเปปเปอร์มินต์ดูดีไหมเ้าคะ มันจะช่วยขับลมและปรับสมดุลกระเพาะได้อย่างอ่อนโยนกว่า"
"น้ำขิงรึ? นั่นมันของในครัว! ไม่ใช่ยา!" หมอเฒ่าค้านเสียงแข็ง แต่เมื่อเห็นสายตาอ้อนวอนของเด็กน้อยก็ใจอ่อน "เอ้าๆ! ลองดูก็ได้! ถ้าไม่ได้ผลค่อยกลับมากินยาขมของข้า!"
ผลปรากฏว่าเด็กน้อยดื่มน้ำขิงเข้าไปไม่นานก็เรอเอิ๊กอ๊ากออกมาอย่างสบายตัว วิ่งเล่นปร๋อได้เหมือนเดิม ทิ้งให้ท่านหมอเฒ่าจางยืนเกาหัวแกรกๆ พึมพำกับตัวเองว่า "ตำราพิสดารเล่มไหนของเ้ากันที่สอนให้เอายาไปไว้ในครัว..."
ทว่า่เวลาแห่งความสงบสุขก็อยู่ได้ไม่นาน... พายุลูกใหญ่กำลังก่อตัวขึ้นที่บ้านของบุรุษผู้มั่งคั่งที่สุดในหมู่บ้านซีเฟิง
นายท่านหวัง เศรษฐีที่ดินเ้าของที่นาเกือบครึ่งหมู่บ้าน ล้มป่วยลงด้วยอาการประหลาด ร่างกายของเขาบวมฉุไปทั้งตัว โดยเฉพาะบริเวณท้องที่บวมเป่งราวกับคนท้องเก้าเดือน และขาทั้งสองข้างที่บวมจนกดบุ๋ม หายใจหอบเหนื่อยราวกับคนวิ่งมาไกล มีไข้ต่ำๆ ตลอดเวลา และอ่อนเพลียจนไม่สามารถลุกจากเตียงได้ ท่านหมอเฒ่าจางไปตรวจดูอาการมาแล้วหลายครั้ง ให้ยาบำรุงไปหลายขนาน แต่อาการก็มีแต่ทรงกับทรุด
"อาการของนายท่านหวังนั้น... ซับซ้อนนัก" ท่านหมอเฒ่าจางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัดกลุ้ม เมื่อหลี่ซานนำชาสมุนไพรมาให้ที่กระท่อม "ชีพจรของเขาเหมือนสายน้ำในฤดูน้ำหลาก ทั้งเชี่ยวกรากทั้งขุ่นมัว ข้าพยายามจะจับแก่นของโรคแต่ก็มองไม่เห็นเลย"
"ให้ข้า... ลองไปดูได้ไหมเ้าคะท่านอาจารย์?" หลี่ซานเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง
หมอเฒ่ามองหน้านางนิ่ง ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ "ไปเถิด... บางทีสายตาของคนรุ่นใหม่อย่างเ้า อาจจะเห็นในสิ่งที่คนแก่อย่างข้ามองไม่เห็น"
เมื่อทั้งสองไปถึงคฤหาสน์ของนายท่านหวัง ฮูหยินหวังก็รีบออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าที่นองน้ำตา "ท่านหมอเฒ่า! ได้โปรดช่วยสามีข้าด้วย! เขาทรุดลงไปอีกแล้ว!"
ภายในห้องนอนที่หรูหราโอ่อ่าฟุ้งไปด้วยกลิ่นยาต้ม บนเตียงไม้มะฮอกกานีราคาแพง ร่างของนายท่านหวังนอนหายใจรวยริน ท้องของเขาใหญ่โตผิดธรรมชาติจนน่ากลัว หลี่ซานสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก้าวเข้าไปใกล้เตียง มือข้างหนึ่งกำพู่กันหยกในอกเสื้อไว้แน่น
สแกนร่างกายเชิงลึก!
พริบตานั้น ภาพอวัยวะภายในของนายท่านหวังก็ปรากฏขึ้นในจิตสำนึกของนางอย่างชัดเจนราวกับภาพวาดทางการแพทย์... และมันก็ทำให้นางแทบหยุดหายใจ!
ตับของเขา... หดเล็กและแข็งกระด้างราวกับก้อนหิน ผิวของมันขรุขระเต็มไปด้วยปุ่มปม ในขณะที่ไตทั้งสองข้างก็บวมเป่งและมีสีคล้ำ แสดงถึงการอักเสบและการทำงานที่ล้มเหลวอย่างรุนแรง ของเหลวในร่างกายไม่สามารถถูกขับออกมาได้จึงไปคั่งอยู่ในช่องท้องและส่วนต่างๆ
"ท่านอาจารย์เ้าคะ..." หลี่ซานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป จริงจังและเฉียบขาด "นี่ไม่ใช่อาการบวมน้ำธรรมดาเ้าค่ะ"
ท่านหมอเฒ่าจางเลิกคิ้ว "หมายความว่าอย่างไร?"
"อวัยวะภายในของนายท่านหวัง... โดยเฉพาะตับและไตกำลังล้มเหลวเ้าค่ะ! นี่คือภาวะตับแข็งและไตวายเฉียบพลัน!"
"เป็ไปได้อย่างไร!" หมอเฒ่าใจนเผลอขึ้นเสียง "ข้าตรวจชีพจรแล้ว ไม่พบสัญญาณชีพจร ตึง ของโรคตับ หรือชีพจร ลึก ของโรคไตที่รุนแรงถึงเพียงนี้!"
"เพราะอวัยวะของท่านใกล้จะตายแล้วเ้าค่ะท่านอาจารย์" หลี่ซานอธิบายอย่างใจเย็น "เหมือนสายพิณที่เคยตึงจนขาด มันจึงไม่ส่งเสียงอีกต่อไป แต่ได้โปรดดูที่ตาของท่าน... มันเหลืองอ๋อย และดูที่ิัหน้าอกท่านสิเ้าคะ มีรอยเส้นเืแดงแตกเป็ใยคล้ายแมงมุม... นี่คือสัญญาณภายนอกที่บ่งบอกถึงการเน่าสลายจากภายในที่ตำราของข้าเคยกล่าวไว้เ้าค่ะ!"
ท่านหมอเฒ่าจางก้มลงไปมองตามที่นางบอก... และเขาก็เห็นมันจริงๆ! ความรู้จากประสบการณ์ห้าสิบปีของเขากำลังถูกท้าทายด้วยความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เขาหันมามองหลี่ซานด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความทึ่ง ระคนความสับสน
"แล้ว... แล้วเ้าจะรักษาได้อย่างไร?" เขาถามอย่างมีความหวัง
"เราต้องทำสามอย่างไปพร้อมกันเ้าค่ะ" หลี่ซานตอบอย่างมั่นใจ "หนึ่งคือขับน้ำส่วนเกินที่คั่งอยู่ออกมาโดยด่วน สองคือใช้สมุนไพรหายากเพื่อฟื้นฟูตับและไตที่เสียหาย และสาม... ซึ่งสำคัญที่สุด คือการฝังเข็มในจุดลมปราณสำคัญเพื่อกระตุ้น พลังชีวิตแรกเริ่ม ของท่านให้ฟื้นคืนกลับมาสู้กับโรค!"
นางร่ายชื่อสมุนไพรออกมาสองสามชนิด... "เห็ดหลินจือแดงที่เติบโตบนหน้าผาสูงชัน และถั่งเช่าทองคำที่พบได้เฉพาะบนูเาหิมะเท่านั้น"
ท่านหมอเฒ่าจางถึงกับหน้าซีด "พระเ้า! นั่นมันสมุนไพรในตำนาน! ข้าเคยได้ยินแต่ชื่อเท่านั้น! ส่วนจุดฝังเข็มที่เ้าว่า... จุด ชี่ไห่ และ มิ่งเหมิน.. หากพลาดไปแม้แต่ครึ่งชุ่น อาจทำให้คนตายได้ทันที!"
"ข้าจะไปหาสมุนไพรเ่าั้ด้วยตัวเองเ้าค่ะ" หลี่ซานกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว "และข้าจะฝังเข็มด้วยตัวเอง"
"ซานเอ๋อร์! มันอันตรายเกินไปนะลูก!" พ่อหลี่ต้าเกอที่ติดตามมาด้วยความเป็ห่วงร้องห้ามเสียงหลง
"ไม่เป็ไรเ้าค่ะพ่อ เพื่อช่วยชีวิตคน ข้าต้องลองดู" นางหันไปสบตาท่านหมอเฒ่าจางอย่างมุ่งมั่น "ได้โปรดเชื่อใจข้าเ้าค่ะท่านอาจารย์"
แววตาของเด็กสาวที่เคยอ่อนแอ บัดนี้กลับฉายแววของความเป็แพทย์ผู้ยิ่งใหญ่จนหมอเฒ่าต้องยอมสยบ เขาสูดลมหายใจลึกแล้วพยักหน้าช้าๆ "เอาเถิด... หากเ้ามั่นใจถึงเพียงนี้ ข้าก็จะเชื่อใจเ้า! แต่เ้าต้องระวังตัวให้มากที่สุด!"
หลี่ซานใช้เวลาสองวันเต็มในการเดินทางขึ้นไปยังูเาสูงชันที่อยู่ห่างไกลออกไป ด้วยการนำทางของพู่กันหยกที่ชี้บอกตำแหน่งอย่างแม่นยำ ทำให้นางสามารถหลีกเลี่ยงอันตรายและค้นพบเห็ดหลินจือแดงและถั่งเช่าทองคำได้ในที่สุด
เมื่อกลับมาถึงหมู่บ้าน นางก็เริ่มปรุงยาอย่างพิถีพิถัน กลิ่นหอมของสมุนไพรล้ำค่าลอยอบอวลไปทั่วกระท่อมยา จากนั้น ่เวลาที่ตึงเครียดที่สุดก็มาถึง... การฝังเข็ม
ภายในห้องนอนของนายท่านหวัง บรรยากาศเงียบกริบจนได้ยินเสียงลมหายใจ ท่านหมอเฒ่าจางนำกล่องไม้เก่าแก่ของตนออกมา ภายในบรรจุเข็มทองคำบริสุทธิ์ซึ่งเป็ของตกทอดจากบรรพบุรุษ
หลี่ซานรับเข็มมาด้วยมือที่นิ่งสนิท นางหลับตาลงครู่หนึ่ง ภาพแผนที่ลมปราณสามมิติปรากฏขึ้นในใจ พู่กันหยกได้เน้นจุดฝังเข็มสำคัญเป็แสงสีทองสว่างวาบ
ฉึก!
เข็มเล่มแรกถูกปักลงไปที่จุด ชี่ไห่ ใต้สะดืออย่างแม่นยำราวกับจับวาง จากนั้นนางก็ค่อยๆ หมุนเข็มช้าๆ เพื่อกระตุ้นพลังปราณ... เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของนาง
ฉึก! เข็มเล่มที่สอง... สาม... สี่... ถูกปักลงบนจุดสำคัญต่างๆ ทั่วร่างกาย ทุกเข็มล้วนแฝงไว้ด้วยความรู้ทางการแพทย์นับพันปี
สองวันต่อมา... ปาฏิหาริย์ก็บังเกิดขึ้น!
เช้าวันที่สาม นายท่านหวังที่นอนแน่นิ่งมาตลอดก็พลันไอออกมาเสียงดัง ก่อนจะลืมตาขึ้น เขาขอน้ำดื่ม และหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สามารถลุกขึ้นมาถ่ายปัสสาวะได้เป็ครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์! ปริมาณของเสียที่ถูกขับออกมานั้นมากมายมหาศาล และอาการบวมที่ท้องและขาก็เริ่มยุบลงอย่างเห็นได้ชัด!
"ข้า... ข้าหายใจสะดวกขึ้นแล้ว!" นายท่านหวังกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื้นตันและไม่เชื่อสายตา "ท้องของข้า... มันเล็กลงแล้ว!"
ฮูหยินหวังและบุตรชายต่างร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ พวกเขาก้มลงกราบหลี่ซานจนหน้าผากแทบจะติดพื้น "ท่านคือหมอเทวดา! ท่านคือพระโพธิสัตว์มาโปรด!"
ข่าวการรักษาโรคประหลาดของนายท่านหวังแพร่กระจายออกไปราวกับไฟป่าลามทุ่ง ไม่ใช่แค่ในหมู่บ้านซีเฟิง แต่ยังขจรไกลไปถึงหมู่บ้านอื่นๆ โดยรอบ ชื่อเสียงของ หมอเทวดาหลี่ซานแห่งซีเฟิง กลายเป็ที่กล่าวขาน ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเริ่มเดินทางมาที่กระท่อมยาเล็กๆ แห่งนี้จนคิวยาวเหยียดออกไปนอกหมู่บ้าน
ท่านหมอเฒ่าจางมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจ เขายื่นตำราแพทย์ปกหนังเก่าคร่ำคร่าเล่มหนึ่งให้กับหลี่ซาน "ความรู้ของข้าเปรียบดั่งน้ำในถ้วยชา แต่ความรู้ของเ้าคือมหาสมุทรที่ไร้ขอบเขต เ้าไม่ได้เป็แค่ผู้ช่วยของข้าอีกต่อไปแล้วซานเอ๋อร์... แต่เ้าคือผู้สืบทอดที่แท้จริงของข้า"
หลี่ซานรับตำราเล่มนั้นมาด้วยความเคารพ และในวินาทีที่นิ้วของนางัักับปกหนังนั้น... พู่กันหยกในอกเสื้อของนางก็พลันสั่นะเืเบาๆ พร้อมกับเปล่งแสงอุ่นๆ ออกมา ราวกับมันจดจำหรือตอบสนองต่อบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตำราเล่มนี้!
หัวใจของหลี่ซานเต้นแรง... หรือว่าความลับของพู่กันหยก... จะเกี่ยวข้องกับตำราแพทย์โบราณเล่มนี้กันแน่? ท่ามกลางชื่อเสียงที่เริ่มก่อตัวขึ้น ปริศนาบทใหม่ก็กำลังรอคอยให้นางค้นหาคำตอบ...