ช่วยอีกครั้งหนึ่งหรือ?
โจวอี๋เคยช่วยต่งลี่ลี่รวมทั้งหมดกี่ครั้งกี่หนกันนะ
สร้างโอกาสให้ต่งลี่ลี่ ให้ต่งลี่ลี่ปรากฏตัวต่อหน้าโจวเฉิงบ่อยๆปรากฏว่าโจวเฉิงก็ยังไม่สนใจเธอนัก
ต่อมาจึงคอยชักใยระหว่างกลางโดยตรงเสียเลย ริเริ่มทำหน้าที่แม่สื่อจะแนะนำต่งลี่ลี่แก่โจวเฉิง โจวเฉิงไม่สนใจต่งลี่ลี่ จึงปฏิเสธออกไปเช่นกัน
วันฉูซีที่ตระกูลโจวรวมตัวกันโจวอี๋โพล่งว่าโจวเฉิงได้หญิงสาวชนบทจากต่างถิ่นเป็คนรักขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั่นก็เพื่อช่วยเหลือต่งลี่ลี่ทางอ้อม มิเช่นนั้นโจวอี๋จะจุ้นจ้านเื่คนอื่นทำตัวเป็ไมโครโฟนทำไมกันเล่า!
การช่วยต่งลี่ลี่อีกครั้ง ก็เพราะไมโครโฟนอย่างเธอคนนี้ต้องทำหน้าที่
เธอรู้สึกละอายใจอยู่บ้าง ท่าทางของโจวเฉิงดูเหมือนจะชอบเซี่ยเสี่ยวหลานจริงต่อหน้าคนมากมายขนาดนั้น สิ่งที่เขาปกป้องเป็อย่างแรกคือเกียรติของเซี่ยเสี่ยวหลาน
โจวอี๋กลัวทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานขุ่นเคืองเกินควรแม้โอกาสที่ตระกูลโจวจะรับเซี่ยเสี่ยวหลานได้นั้นจะน้อยมาก แต่เผื่อว่าแค่เผื่อเท่านั้น เผื่อว่าเซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่งงานกับโจวเฉิงจริงเช่นนั้นเธอไม่ถูกเกลียดชังจากทั้งสองฝ่ายหรอกหรือ?
โจวอี๋คิดไปคิดมา อย่างไรเสียเธอได้ล่วงเกินไปแล้ว เช่นนั้นก็ทำให้เซี่ยเสี่ยวหลานแต่งเข้าตระกูลโจวไม่ได้เสียเลย
เช้าตรู่วันใหม่ กวนฮุ่ยเอ๋อได้ยินว่าแม่เฒ่าโจวมีอาการไอเล็กน้อยจึงอยากออกจากบ้านเร็วขึ้นเพื่อไปเยี่ยมแม่สามีสักหน่อยแล้วค่อยเข้างาน ปรากฏว่าได้พบกับโจวอี๋กวนฮุ่ยเอ๋อลืมเลือนเื่ของคืนวันฉูซีไปตั้งนานแล้วอาสะใภ้อย่างเธอจะหยุมหยิมกับลูกหลานเพื่ออะไร?
“โจวอี๋ มาหาย่าเธอเหมือนกันหรือ?”
“ได้ยินว่าย่าไอ ฉันเลยเอาสาลี่หิมะต้มชวนเป้ย [1] มาให้ย่าน่ะค่ะ”
โจวอี๋ถือกระติกเก็บความร้อน ด้านในมีสาลี่หิมะต้มน้ำตาลใส่ชวนเป้ยบำรุงปอด บรรเทาอาการไอ และเป็ความกตัญญูของเธอในฐานะลูกหลานผู้เฒ่าบ้านโจวทั้งสองมีแพทย์ประจำของตนเอง ใช่ว่าจะไม่มีสาลี่ต้มชวนเป้ยชามเดียวให้รับประทานเสียเมื่อไรแต่โจวอี๋คิดห่วงใยหญิงชรา กวนฮุ่ยเอ๋อก็นับถือที่เธอเอาใจเก่งไม่น้อย
“เธอมีความกตัญญูจริงๆ เช่นนั้นก็เข้าไปด้วยกันเถอะ”
กวนฮุ่ยเอ๋อชมเชยตามมารยาท โจวอี๋กลับทำทีจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หยุดไว้ก่อน
สิ่งที่กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ชอบที่สุดคือการทำแบบนี้ มีอะไรก็พูดอย่างตรงไปตรงมาจะทนรอคนอื่นถามหรือไร? เธอไม่ใส่ใจโจวอี๋และจะเดินเข้าบ้านตัวโจวอี๋เองกลั้นไม่อยู่แล้ว “อาสะใภ้รองเมื่อคืนวานฉันเห็นโจวเฉิง”
ลูกชายคือจุดสนใจของกวนฮุ่ยเอ๋อ เธอประหลาดใจไม่แพ้กัน “โจวเฉิงไม่ได้อยู่หน่วยงานหรือ เธอเห็นเขาที่ไหน?”
ปีกลายโจวเฉิงลางานเป็เวลานาน นับจากนี้ไปจึงไม่มีวันหยุดตรุษจีนปีนี้ก็ไม่กลับบ้าน วันที่สามตอนบ่ายแค่กลับมารับประทานอาหารมื้อเดียวเพราะเื่คนรักต่างถิ่นของโจวเฉิงสองแม่ลูกรับประทานอาหารมื้อนั้นอย่างไม่เบิกบานเสียเท่าไรซานเย่าที่โจวเฉิงนำกลับบ้าน กวนฮุ่ยเอ๋อไม่ชิมแม้สักนิดด้วยซ้ำ
โจวอี๋กระมิดกระเมี้ยน “เมื่อคืนวานฉันและเพื่อนไปกินข้าวที่ภัตตาคารปักกิ่งเจอโจวเฉิงแถมคังเหว่ยก็อยู่ด้วย”
ทำไมไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารปักกิ่ง?
เ้าลูกคนนี้ คงลางานได้แล้วไปกินข้าวกับเพื่อนฝูงไม่คิดแวะกลับบ้านสักหนเลย
กวนฮุ่ยเอ๋อบ่นอุบอิบในใจ แต่ไม่ได้ใส่ใจนัก วัยรุ่นมีสังคมของตนเองผู้ปกครองจะรัดลูกไว้กับเข็มขัดเหมือนตอนเด็กได้ที่ไหนคาดไม่ถึงว่าโจวอี๋กลับทิ้งะเิอีกลูก
“...ฉันเห็นโจวเฉิงพาสาวคนหนึ่งมาด้วย เขาบอกว่าเป็คนรักของเขาต่อหน้าคนเป็สิบ พูดว่ารอสาวเ้าตกลงก็จะพากลับบ้านโจว อารองฉันว่าทั้งปักกิ่งคงรู้แล้วว่าโจวเฉิงจะแต่งงาน”
โจวอี๋พูดจบก็ถือสาลี่ต้มชวนเป้ยเข้าบ้าน
มีสายฟ้าฟาดกลางศีรษะของกวนฮุ่ยเอ๋อ ทำเอาเธอสับสนงงงวย
นี่โจวเฉิง้าทำอะไรกันนะ?
จงใจเสนอความคิดเช่นนี้ จะต่อต้านครอบครัวอย่างเปิดเผยหรือ?
กวนฮุ่ยเอ๋อโกรธไม่ใช่น้อย พอจะซักไซ้ โจวอี๋ผู้เ้าเล่ห์คนนี้ก็ได้ถือต้มสาลี่เข้าบ้านไปเสียแล้วเื่ประเภทนี้ไม่ควรยกขึ้นมาพูดต่อหน้าผู้เฒ่า เธอจึงข่มความสงสัยใคร่รู้ไม่ได้แสดงความผิดปกติใดต่อหน้าพ่อและแม่สามี
แม่เฒ่าโจวมีอาการไอเนื่องจากเป็หวัด เดือนมีนาคมฤดูใบไม้ผลิมาเยือนหนุ่มสาวถอดเสื้อกันหนาวหนาออกแล้ว สวมใส่เสื้อนอกตัวบางหรือเสื้อไหมพรมแทน ทว่าหญิงชราเปลี่ยนเครื่องแต่งกายฤดูหนาวเร็วเกินควรระบบร่างกายของคนชราเทียบหนุ่มสาวไม่ได้ จึงไม่สบายเป็ธรรมดา
หญิงชราคิดถึงโจวเฉิง ไม่ได้เจอเพียงตรุษจีนเดียวราวกับห่างไปหลายปีก็มิปาน
“โจวเฉิงลางานไม่ได้หรือ?”
เดิมทีโจวอี๋้าช่วยต่งลี่ลี่ ตอนนี้ในใจดันรู้สึกไม่ดีขึ้นมาจริงๆโจวเฉิงมีเวลาว่างเที่ยวเล่นเป็เพื่อนแม่จิ้งจอกนั่น ทำไมไม่กลับบ้านมาดูดำดูดีปู่ย่าบ้าง? อีกทั้งรู้สึกไม่ยุติธรรมต่อตนเอง หลานสาวสู้หลานชายไม่ได้ผู้ที่แสดงความกตัญญูบ่อยครั้งคือเธอ ทว่าคนที่ปู่ย่าคิดถึงที่สุดคือโจวเฉิงอยู่ดี
กวนฮุ่ยเอ๋อใจกระตุก กลัวโจวอี๋จะเล่าเื่ที่เจอโจวเฉิงเมื่อคืนวานต่อหน้าแม่เฒ่า
โชคดีที่โจวอี๋รู้ว่าอะไรควรมิควร ไม่ใส่ไฟยามหญิงชราป่วยอันที่จริงโจวอี๋ก็มีความคิดเช่นนั้น แต่เธอข่มใจเอาไว้
คนชราลำเอียงย่อมมีปัจจัย ความจริงแล้วจุดสำคัญที่สุดก็ไม่พ้นโจวเฉิงเคยปิดบังครอบครัวเื่ไปแนวหน้าเลื่อนยศไวเสียขนาดนั้น เป็เพราะเขาสร้างผลงานในแนวหน้า นั่นมันคือการเดินเฉียดความตายความดีความชอบที่ใช้ชีวิตแลกมา
โจวเฉิงอายุยังน้อยมาก ชาติตระกูลก็ดี เขาไม่จำเป็ต้องต่อสู้ในแนวหน้า เมื่อตอนที่เขาไปยังสถานที่สุดแสนอันตรายเช่นนั้นมีเพียงปู่ของโจวเฉิงที่รับรู้สถานการณ์ คนอื่นในครอบครัวล้วนถูกปิดบัง
ต่อมาเกิดความแตก หลังจากนั้นย่าโจวก็ตกอยู่ในภาวะระแวงหากไม่เห็นโจวเฉิงกลับบ้านเป็เวลานาน ก็จะคิดว่าเขาไปร่วมภารกิจอันตรายอะไรอีก
“เอาน่า หน่วยงานโจวเฉิงมีระเบียบของพวกเขาคนไร้ประโยชน์เท่านั้นที่จะวนเวียนรอบตัวห้อมล้อมเธออยู่ทุกวี่วัน!”
พอชายชราลั่นวาจา ย่าโจวก็เลิกพึมพำ
โจวอี๋ที่ถือสาลี่หิมะต้มชวนเป้ยอยู่แทบร้องไห้ออกมาคนไร้ประโยชน์ถึงจะวนเวียนห้อมล้อมผู้ใหญ่? นั่นมิได้กำลังตำหนิเธอหรือ!
เธอไม่สนอะไรอีกแล้ว อยากจะแฉเื่ของโจวเฉิงแต่กวนฮุ่ยเอ๋อได้ตัดบทโจวอี๋ทันที
“โจวอี๋ เดี๋ยวอาจะไปทำงานแล้ว พาเธอติดไปพร้อมกันดีกว่าหมอบอกว่าให้ย่าเธอกินยาแล้วพักผ่อนมากๆ พวกเราก็อย่ารบกวนย่าที่นี่เลย”
กวนฮุ่ยเอ๋อมีงานทำ แถมทำงานได้ดีเสียด้วย
โจวอี๋เองก็มีงานการเช่นกัน บ้านโจวไม่เลี้ยงคนว่างคนที่ไม่เรียนต่อย่อมต้องได้รับการจัดหาอาชีพให้
พอคำพูดของโจวอี๋โดนกวนฮุ่ยเอ๋อขัดก็เกิดความหวั่นเกรง ถ้าเธอดึงดันจะพูดคงทำให้กวนฮุ่ยเอ๋อไม่พอใจแน่ ต่างคนต่างก็เป็คนตระกูลโจวแต่โชคชะตาและความสามารถของทุกๆ คนแตกต่างกัน บิดาโจวเฉิงเป็ลูกคนรองทว่าเป็ผู้ที่ได้ดิบได้ดีที่สุดในบ้านโจว
โจวอี๋จากไปพร้อมกวนฮุ่ยเอ๋อด้วยอาการขุ่นข้องหมองใจ ย่าโจวบ่นอุบ “ฉันว่าโจวอี๋มีอะไรจะพูดหรือเปล่า หลานกับแม่รองดูพิลึกชอบกล”
พ่อเฒ่าโจวตอบปัด “หลานเป็คนรวนเรมาั้แ่ไหนแต่ไรช่างเป็เด็กบื้อที่ไม่เด็ดขาดทั้งความคิดและการกระทำเสียจริงๆ ”
ครอบครัวไม่ได้เลี้ยงดูเธออย่างบกพร่องเสียหน่อย ไม่รู้ว่าเลี้ยงจนนิสัยของโจวอี๋กลายเป็เช่นนี้ได้อย่างไรการเป็ผู้หญิงมิใช่เหตุที่โดนละเลย แต่เพราะไร้ความสามารถต่างหากพ่อเฒ่าโจวมองออกนานแล้วว่าโจวอี๋เป็คนที่เข็นไม่ขึ้น
ในเมื่อเข็นไม่ขึ้น ทำไมตระกูลโจวจะต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรไปกับเธอ
กวนฮุ่ยเอ๋อขอให้โจวอี๋เล่าสถานการณ์ตอนนั้นโดยละเอียด
โจวอี๋ไม่ได้ปั้นเติมเสริมแต่งนอกจากปิดบังว่าพวกเธอจงใจไปภัตตาคารปักกิ่งเพื่อ ‘พบโดยบังเอิญ’ โจวเฉิงพูดอะไรบ้าง เซี่ยเสี่ยวหลานพูดอะไรบ้างรวมถึงต่งลี่ลี่พูดอะไรบ้าง โจวอี๋เล่าเหมือนต้นฉบับทุกอย่าง
เล่าจบแล้วยังเรียกขวัญฮุ่ยเอ๋ออีกด้วย “ฉันว่าคนรักโจวเฉิงก็พอไหวไม่ยำเกรงคนกลุ่มใหญ่เลยสักนิดเดียว”
เชิงอรรถ
[1]川贝炖雪梨 สาลี่หิมะต้มชวนเป้ย คือ ของหวานที่สามารถช่วยแก้ไอได้ เนื่องจากชวนเป้ย (川贝) เป็พืชชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณสมบัติแก้ไอ ลดการอักเสบและสาลี่หิมะช่วยบำรุงปอด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้