“กู่ไห่… ทำไมล่ะ? ท่านผู้เฒ่าก็ตายไปแล้ว เ้ายังกังวลว่า์จะลงโทษ ด้วยการทำลายร่างกายและจิติญญาของเ้า ให้แตกสลายอยู่อีกหรือ?” หลงหว่านชิงถามด้วยความงุนงง
กู่ไห่ส่ายหัว และพูดว่า “ข้าก็ไม่แน่ใจ เพียงแต่รู้สึกว่า การที่ท่านผู้เฒ่าออกจากเกาะเทียนหยวนซึ่งเป็ที่ตั้งของอี้เทียนเก๋อ แล้วมาจุดชนวนทิ้งเอาไว้เกาะจิ๋วหวู่ ก่อนจะจากไปนั้น หาได้เกิดจากความตั้งใจ!... ข้าตระหนักได้ถึงอันตราย ที่เป็ภัยร้ายอันน่าพรั่นพรึง!”
“รู้สึก? เ้าแค่รู้สึก เช่นนั้น มันอาจจะไม่เป็เช่นที่เ้าว่าก็ได้?” หลงหว่านชิงเอ่ยอย่างคับข้องใจ
กู่ไห่ส่ายหน้า ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ
“แต่ พ่อบุญธรรม หากเราไม่ยอมรับมรดกแห่งเวทเหล่านี้ ท่านไต้ซือหลิวเนียนก็จะไม่สามารถออกจากโลกแห่งหมากล้อมได้ มิใช่หรือ?” กู่ฉินถามด้วยความกังวล
“ใช่! แล้วเ้าจะทำอย่างไรต่อไป?” หลงหว่านชิงถามกลับอย่างหวาดวิตก
กู่ไห่นิ่ง มองไปยังกระดานหมากแห่งความตายที่อยู่ไม่ไกลนัก ใบหน้าคมส่ายไปมาอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนเอ่ย “ใครจะรับประกันได้ล่ะ ว่าหากข้าวางหมากอีกเม็ดหนึ่งลงไป แล้วพวกเขาจะกลับออกมาจากกลหมากแห่งความตายได้”
“หือ?” ทุกคนถึงกับผงะทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น
“เพราะมันคือกลหมากแห่งความตาย จึงมีเพียงความตายเท่านั้น ที่จะตัดสินผลสุดท้ายได้ แต่นี่กลับมีผู้ชนะซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังได้รับมรดกไปแล้ว
หากเราวางหมากแล้วพ่ายแพ้ ก็จะไม่มีผู้ชนะในกลหมากแห่งความตายนี้ มีเพียงผู้แพ้เท่านั้น กลหมากนี้ก็อาจจะหายไป แต่คนที่อยู่ด้านในล่ะ... บางทีพวกเขาอาจจะหนีรอดไปได้ หรืออาจมีคนอื่นเข้าไปช่วยเหลือ หรือไม่...” กู่ไห่ตอบเสียงเรียบ
“หรือไม่ก็อาจจะตายกันหมด?” กู่ฉินเอ่ย พลางผงะเล็กน้อย
หลงหว่านชิงตะลึงงัน เริ่มแสดงความกังวล
“แล้วจะทำอย่างไรกันดี?” หลงหว่านชิงพูดอย่างหนักใจ
“ฮึ่ม!”
ทันใดนั้น ตำแหน่งของกลหมากแห่งความตายก็เปลี่ยนไป ก่อนจะมีเม็ดหมากสีทองปรากฏขึ้น ทางด้านทิศใต้ของกระดานหมากมรณะนี้
ด้ายจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากหมากสีทอง พุ่งเข้าไปเชื่อมโยงกับหมากสีดำมากกว่าสามหมื่นเม็ด ที่ลอยอยู่เหนือกลหมากแห่งความตาย
“นั่นมัน... เม็ดหมากสีทองมิใช่หรือพ่อบุญธรรม? ข้าได้ยินมาว่าในโลกของหมากล้อมนั้น ตอนเริ่มการต่อสู้ ทุกคนจะได้รับหมากสีทอง มันสามารถสร้างอสูรเมฆาได้ใช่หรือไม่?” กู่ฉินถามด้วยความอยากรู้
“หึ!”
ทันใดนั้น ฝ่ามือิญญาก็โผล่ออกมาจากหมากเม็ดหนึ่ง แล้วคว้าหมากสีทองเอาไว้
ทันทีที่ได้จับเม็ดหมากสีทอง ไอิญญานั้นก็ค่อยๆ หลอมรวมกันขึ้นมา จนกลายเป็ร่างของเิไท่ ที่ถือหมากสีทองเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็โอบเฟิงหลิงไว้ในวงแขน ตอนนี้สีหน้าของเขา เปี่ยมไปด้วยความลำพองใจอย่างปิดไม่มิด
“ข้าเข้าใจแล้ว! ฮ่าๆๆ! ฟู่เสวี่ย หลังจากที่ต่อสู้กันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดข้าก็ได้มัน” เิไท่ะโด้วยใบหน้าเกรี้ยวกราด
“จงมอบพลังอันยิ่งใหญ่ให้แก่ข้า!” เิไท่ร้องเสียงดัง ขณะดื่มด่ำกับเม็ดหมากสีทองในของตน
ตูม!
เม็ดหมากสีทอง เป็ดั่งแหล่งกำเนิดของขุมพลัง ด้ายสีทองนับไม่ถ้วน เชื่อมโยงเข้ากับเม็ดหมากสีดำทั้งหมด
ตูม!
ทันใดนั้น หมากสีดำกว่าสามหมื่นเม็ด ก็ทะยานเข้าหาเม็ดหมากโปร่งใสตรงหน้า
“โฮก!”
หลังจากปะทะกันหลายต่อหลายครั้ง เม็ดหมากโปร่งใสถูกกระแทกไปยังด้านข้าง
“นี่คือิญญาหรือ? ร่างของเิไท่ในโลกของหมากล้อม ปรากฏออกมาข้างนอกได้อย่างไร?” หลงหว่านชิงถามด้วยความประหลาดใจ
“เพราะเิไท่ะโออกจากกลหมากแล้ว เขาจึงไม่ใช่เม็ดหมากอีกต่อไป!” กู่ไห่กล่าว พลางเลิกคิ้วสูง
“ไม่ใช่เม็ดหมาก? หมายความว่าอย่างไร?”
“ตอนนี้ เขาคือผู้เดินหมาก!” กู่ไห่หรี่ตาลง พลางลอบมองเิไท่
“ผู้เดินหมาก... เป็เพราะเม็ดหมากสีทองนั่นอย่างนั้นหรือ?” หลงหว่านชิงถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“ใช่! เขาได้หมากสีทอง ด้วยอำนาจของมัน จึงทำให้เขาสามารถควบคุมเม็ดหมากสีดำทั้งหมดได้ บางที ตอนที่เรามาถึงเมื่อสามวันก่อน แล้วได้ยินเสียงของพวกเขา ก็อาจเป็เพราะคนเหล่านี้กำลังต่อสู้อยู่ใกล้กับหมากสีทองเม็ดนี้ก็เป็ได้
บางทีพวกเขาอาจจะต่อสู้กัน เพื่อแย่งชิงหมากสีทอง แล้วเิไท่ก็เป็ฝ่ายชนะ และคว้ามันไปได้” กู่ไห่กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วเขาออกจากกลหมากได้อย่างไร? เิไท่ใช้วิธีไหน จึงออกมาได้?” หลงหว่านชิงถามด้วยความแปลกใจอีกครั้ง
“เพราะเิไท่มีกุญแจที่ไขสู่เส้นทางที่สั้นที่สุด ในค่ายกลขนาดใหญ่นี้!” กู่ไห่เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
“เฟิงหลิง?” หลงหว่านชิงเหลือบมองไปยังเฟิงหลิงจากด้านข้าง เห็นได้ชัด ว่าหญิงสาวซ่อนรอยสักรูปดอกโบตั๋นเอาไว้บนศีรษะ
“ผู้เดินหมาก? นี่ไม่ได้หมายความว่าเิไท่เป็ผู้ชนะ และคนอื่นๆ จะตายหรอกหรือ?” กู่ฉินมีท่าทางเปลี่ยนไปทันทีที่เอ่ยจบ
“จะต้องมีผู้เล่นมากกว่าหนึ่งคน!” กู่ไห่เหลือบมอง พลางส่ายหน้า
แน่นอน! ทางด้านทิศเหนือของกระดานหมาก จู่ๆ ก็มีเม็ดหมากสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง เส้นสีทองนับไม่ถ้วน โผล่ออกจากหมากสีทองเม็ดนั้น แล้วเชื่อมเข้ากับเม็ดหมากสีขาวทั้งหมด
ฟึ่บ!
ทันใดนั้น ฝ่ามือก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง และทันทีที่จับเม็ดหมากสีทอง ไอิญญาก็ค่อยๆ ผสานรวมกัน จนกลายเป็เว่ยหยางและหลี่เหว่ย
หลี่เหว่ยมองดูเฟิงหลิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนเว่ยหยางคว้าหมากสีทอง ก่อนกำมือแน่น
“ไป!”
ตูม!
เม็ดหมากสีขาวมากกว่าสามหมื่นตัว กรูเข้าไปรวมตัวกันทางทิศเหนือ แล้วพุ่งไปยังเม็ดหมากโปร่งใส
ตูม!
เม็ดหมากปะทะกันอย่างแรง เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ เม็ดหมากสีขาวและโปร่งใสจำนวนมาก แตกหักสูญสลาย
“คนชั่วช้า! เ้าคิดว่ามันจะมีประโยชน์อะไร ที่ได้ทำลายคนกลุ่มนี้... มันไม่ใช่ของเ้า ไม่เคยเป็ของเ้า!” เว่ยหยางร้องะโ
“เว่ยหยางก็ะโออกจากกลหมาก แล้วมาเป็ผู้เดินหมากเช่นเดียวกัน! เขาคือผู้ควบคุมหมากสีขาวหรือ?” กู่ฉินเอ่ยถามด้วยความสงสัย ตอนนี้ท่าทีของชายหนุ่มเริ่มเปลี่ยนไป
“เพราะหลี่เหว่ยหรือ? เขาก็มีรอยสักรูปดอกโบตั๋นบนศีรษะเช่นกันใช่หรือไม่?” หลงหว่านชิงกล่าวอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้าในยามนี้
“ฮึ่ม!”
บริเวณด้านข้างของกระดานหมาก ปรากฏหมากสีทองขึ้นอีกเม็ด
“หมากเม็ดที่สาม? เป็ไปได้อย่างไรกัน?” กู่ฉินถามด้วยความประหลาดใจ
ด้ายทองของหมากสีทองเม็ดที่สาม พุ่งออกไปเชื่อมกับเม็ดหมากโปร่งใสทั้งหมด มือหนึ่งโผล่ออกมาคว้าหมากสีทองเม็ดนั้นทันที ก่อนจะค่อยๆ ปรากฏร่าง...
เป็เจียวหลง ฟู่เสวี่ย ที่ถือหมากสีทองเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างกำลังบีบลงบนลำคอของหญิงสาวในชุดขาว ที่มีสีหน้าซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด
เส้นผมของนางขาวโพลน ทว่ามีลักษณะเป็หัวงู ที่กำลังชูคอขู่คำราม
“สตรีในชุดขาว... หัวหน้าสำนักหมู่ตาน เฉียนเว่ย?” หลงหว่านชิงเอ่ยด้วยความแปลกใจ
“นางถูกปีศาจฟู่เสวี่ยจับตัวเอาไว้ นางเองก็มีรอยสักรูปดอกโบตั๋นบนศีรษะ หรือนั่นจะเป็กุญแจ?” กู่ฉินแสดงความประหลาดใจ
“พี่... พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย!” เฉียนเว่ยที่ถูกจับกุมเอ่ยวิงวอน พลางกรีดร้องเสียงสั่นอย่างหวาดกลัว
เฉียนเว่ยยื่นมือไปหาเิไท่อย่างสะพรึงกลัว
“พี่ใหญ่?” หลงหว่านชิงทวนคำด้วยความพิศวง
“ฟู่เสวี่ย เ้าได้หมากสีทองไปแล้ว ปล่อยเฉียนเว่ยเสีย” เว่ยหยางเอ่ย ใบหน้าเริ่มถอดสี
“มาสิ! ฮ่าๆๆ... เิไท่! นี่คือน้องสาวของเ้า หากมีความสามารถมากพอ ก็จงมาแย่งคืนไปสิ” ฟู่เสวี่ยท้าทายเสียงต่ำ
“น้องสาวหรือ? หึ! เ้าปีศาจ ข้าต้องสนใจไหม? ความเห็นอกเห็นใจอะไรนั่น ข้าไม่มีมันมาตั้งนานแล้ว!” เิไท่กล่าวอย่างเืเย็น
ว่าแล้ว เขาก็เหลือบมองเว่ยหยางนิ่งๆ “เ้าต้องรับโทษ ต่อสิ่งที่ได้กระทำไปทั้งหมด!”
“ฮึ่ม! เ้าต่างหาก ที่ต้องได้รับโทษ!” เว่ยหยางมองกลับอย่างเคียดแค้น
“ข้าต้องได้รับโทษเช่นนั้นหรือ? หึ! ตอนนี้ไม่จำเป็ต้องใส่ใจ ว่าใครจะรับผิดชอบ อย่างไรก็อย่าปล่อยให้เ้าอสูรร้ายตัวนี้ได้เปรียบ ระหว่างที่พวกเรากำลังต่อสู้กันก็พอ ลองดูชีพจรัและโบตั๋นแปดสีนั่นสิ!” เิไท่ตอบเสียงเรียบ
“เอาละ! หลี่เหว่ยศิษย์ข้า อาจารย์จะถ่ายทอดพลังให้ เ้าจงกำจัดสัตว์ร้ายตัวนี้เสีย” เว่ยหยางสั่งอย่างเ็า
“ขอรับ! อาจารย์” หลี่เหว่ยรับคำ
เว่ยหยางโบกมือเปิดทางให้ หลี่เหว่ยจึงซัดฝ่ามือไปยังฟู่เสวี่ย
ทันใดนั้น วัตถุทรงกลมโปร่งใสเปล่งประกาย ก็ปรากฏที่ข้างตัวฟู่เสวี่ย ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมร่างของเขากับเฉียนเว่ย
ตูม!
ฝ่ามือฟาดลงอย่างแรง แต่วัตถุทรงกลมกลับสั่นเพียงเล็กน้อย
“พลังแห่งสรรพชีวิต... จงมา!” เว่ยหยางะโ
ตูม!
ทันใดนั้น เม็ดหมากสีขาวทั้งหมดก็สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่ามีพลังบางอย่างกำลังปะทุขึ้น แล้วแล่นไปตามเส้นด้ายสีทอง มุ่งตรงไปยังเม็ดหมากสีทองในมือของเว่ยหยาง
เขาจึงส่งพลังไปที่หลี่เหว่ยทันที ฉับพลันนั้น พลังฝ่ามือก็ทวีความรุนแรงขึ้น
“หึ!”
ทางทิศเหนือของกลหมากแห่งความตาย จู่ๆ ก็ปรากฏร่างของิญญามากกว่าสามหมื่นตน แต่ละตนเหยียดแขนออกไปอย่างไม่เต็มใจ เพื่อส่งพลังไปเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เว่ยหยาง ซึ่งส่งผ่านมันไปยังหลี่เหว่ย
ผู้คนมากกว่าสามหมื่นคนที่กลายเป็เม็ดหมาก ไม่อาจขัดขืนผู้เดินหมากได้ ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าเ็ป การส่งต่อพลังนี้ช่างหนักหนานัก บางคนถึงกับล้มลงไปในที่สุด
ฟึ่บ!
ชายร่างท้วมถูกดึงพลังออกมาจนหมด ร่างของเขาจึงค่อยๆ เหี่ยวแห้ง และสิ้นใจไปในที่สุด หมากสีขาวตรงหน้าเขา ก็ค่อยๆ สูญสลายเช่นกัน
“อา!” หลงหว่านชิงร้องอุทาน
โดนบังคับให้ตาย?... การเป็เม็ดหมากนี้ ช่างน่าเศร้านัก!
“นั่น ท่านไต้ซือหลิวเหนียนใช่หรือไม่!” กู่ฉินชี้ไปยังหนึ่งในภูติญญาสามหมื่นตนนั้น ด้วยความประหลาดใจ
“ไหน... ที่ไหน?” หลงหว่านชิงอุทานอย่างดีใจ
ท่านไต้ซือยังมีชีวิตอยู่… ดีจริงๆ!
…
ขณะเดียวกัน ที่อีกด้านหนึ่ง
เิไท่ก็โจมตีออกไปเช่นกัน ในยามนี้ เขาเป็ผู้ควบคุมเม็ดหมากสีดำทั้งหมดแล้ว ดังนั้น กองกำลังจำนวนมากเหล่านี้ จึงถูกบังคับให้พุ่งเข้าโจมตีวัตถุทรงกลมเป็ประกาย ที่คลุมร่างของฟู่เสวี่ยเอาไว้
ตูม!
พร้อมกันนั้น จู่ๆ ภูติญญากว่าสามหมื่นตัว ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเิไท่ ิญญาแต่ละตนที่ถูกดึงพลังออกไป ต่างพากันแสดงสีหน้าเ็ป
“นั่นหลี่ฮ่าวหราน?” กู่ฉินมองเห็นอีกฝ่าย ท่ามกลางเงามืดของกองกำลังิญญาสามหมื่นตนนั้น
“ย๊าก!” ฟู่เสวี่ยคำรามก้อง พลางใช้เม็ดหมากสีทองในมือ เพื่อระดมพลังของเม็ดหมากโปร่งใสทั้งหมด เพื่อต้านพลังของหมากสีขาวและสีดำ
ตูม!
บนกระดานหมาก เม็ดหมากโปร่งใส ดูเหมือนจะชนเข้ากับเม็ดหมากสีขาวและสีดำ
ที่ด้านหลังฟู่เสวี่ย ก็มีิญญามากกว่าสามหมื่นตนปรากฏขึ้นเช่นกัน หากแต่ทุกตนล้วนเป็มีเส้นผมเป็งู
“นั่นคืออสูรทั้งหมดเลยหรือ?” ท่าทีของกู่ฉินเปลี่ยนไป
“ฟู่เสวี่ยทำได้อย่างไร?” หลงหว่านชิงถามด้วยความแปลกใจ
“อ๊ากๆๆ!”
มนุษย์ครึ่งอสูรสามหมื่นตน แสดงสีหน้าหวาดผวาและเ็ป ทันทีที่พลังของพวกเขาถูกดึงออกมา เพื่อส่งต่อไปยังฟู่เสวี่ย
“ผู้าุโ ข้าทนไม่ไหวแล้ว ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ!” หนึ่งในิญญาที่ถูกดูดพลัง วิงวอนด้วยความเ็ป
ปัง!
เม็ดหมากโปร่งใสของคนผู้นั้น พลันแตกสลายไปในที่สุด
คลิกๆๆๆ!
ด้วยพลังอันแข็งแกร่ง วัตถุทรงกลมโปร่งใสเป็ประกายที่โอบอุ้มฟู่เสวี่ย ก็เริ่มมีรอยแตกร้าวมากมาย
“สิ่งที่เ้าไม่สมควรกระทำ คือการทำให้เฉียนเว่ยกลายเป็ปีศาจ เพราะนางเป็กุญแจสำคัญ ที่จะทำให้พวกเราออกจากกลหมากนี่ได้ มิเช่นนั้นจะเป็อย่างไร หากเ้าทำให้ทุกคนเป็ปีศาจร้าย
น่าเสียดาย ที่เม็ดหมากสีทองที่เ้าได้นั้น ไร้ประโยชน์ แม้ว่าจะสามารถมอบพลังให้แก้เ้าได้ แต่ความจริงก็คือ มันเป็เพียงเม็ดหมากโปร่งใส ที่เดิมก็มิได้มีอยู่บนกระดานหมาก มีเพียงเม็ดหมากสีดำและสีขาวเท่านั้นที่เป็ของจริง!” เิไท่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เม็ดหมากโปร่งใสนี้ ทำได้เพียงป้องกันเท่านั้น ไม่อาจโจมตีใครได้ ช่างไร้ประโยชน์จริงๆ!” เว่ยหยางเสริม
ตูม!
เสียงดังก้อง วัตถุทรงกลมที่คลุมร่างของฟู่เสวี่ยถูกโจมตีจนแตก
เิไท่และหลี่เหว่ย ที่รวมพลังของผู้ฝึกตนมากกว่าหกหมื่นคนทะยานเข้าโจมตีฟู่เสวี่ยทันที
แม้ว่าฟู่เสวี่ยจะมีพลังป้องกันอย่างมหาศาล แต่ก็ไม่อาจต่อสู้และเอาชนะได้ จำต้องสร้างม่านพลัง เพื่อป้องกันตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เท่านั้น
“เ้าโง่!” ฟู่เสวี่ยทะยานร่างหลบ เืพุ่งกระฉูด
ทันใดนั้น เว่ยหยางก็ยกมือขึ้นเล็ง ชี้นิ้วไปยังฝ่ามือของฟู่เสวี่ย ก่อนปล่อยปราณกระบี่ ตรงไปยังร่างอีกฝ่ายอย่างสุดแรง
ตูม!
และแล้ว เม็ดหมากสีทองในมือของฟู่เสวี่ยก็แตกสลาย
“อะไรกัน! ไม่! ไม่…!” ฟู่เสวี่ยอุทานอย่างโกรธเกรี้ยวทันที
“เมื่อถูกทำลายเม็ดหมากสีทอง เ้าจะสลายไปทันทีเช่นกัน” เว่ยหยางกล่าวอย่างเยือกเย็น
แน่นอนว่า เมื่อเม็ดหมากสีทองะเิ ด้ายสีทองนับไม่ถ้วนที่เชื่อมโยงกับเม็ดหมากโปร่งใสก็สูญสลาย และค่อยๆ จางหายไป
ร่างของฟู่เสวี่ยก็ค่อยๆ เลือนหายเช่นกัน
ผู้ที่ถือครองเม็ดหมากสีทอง ก็คือผู้เดินหมาก หากไร้หมากสีทอง เขาย่อมตกเข้าสู่กลหมากอีกครั้ง และกลายเป็เพียงเม็ดหมากเท่านั้น
“ไม่ ไม่ ... !” ร่างของฟู่เสวี่ยค่อยๆ เลือนหาย แต่ก่อนที่จะหายตัวไป ก็พยายามที่จะคว้าเฉียนเว่ยเอาไว้ ให้หายไปพร้อมกับตน
เฉียนเว่ยกำลังจะถูกจับตัว จึงกรีดร้องเสียงดัง
ทันใดนั้น เิไท่ก็หยิบกระบี่ยาวขึ้นมากระชับแน่น ก่อนจะฟันลงบนลำคอของเฉียนเว่ย เพื่อตัดศีรษะนาง
“อะไรกัน!?” ฟู่เสวี่ยประหลาดใจ เมื่อจู่ๆ ภูติญญานั้นค่อยๆ หายตัวไป
“เฉียนเว่ยเป็กุญแจสำคัญ เ้ายัง้าจะใช้นาง เพื่อฉกเม็ดหมากสีทองในมือของพวกเราอีกอย่างนั้นหรือ? ตอนนี้ เ้าออกจากการเดินหมากโดยสมบูรณ์แล้ว!” เิไท่กล่าวอย่างเยียบเย็น
ผมงูของเฉียนเว่ยปลิวไสวกลางเวหา ก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไปอย่างช้าๆ
“อา!”
เม็ดหมากโปร่งใสบนกระดานหมาก คล้ายจะกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง
“ไป!”
เิไท่และเว่ยหยาง ต่างบังคับเม็ดหมากสีดำและสีขาวไปกระแทกพวกเขา ทันใดนั้น เม็ดหมากโปร่งใสจำนวนมาก ก็ถูกไล่ต้อนไปที่มุมหนึ่งของกระดานหมาก โดยมีเม็ดหมากสีดำหนึ่งหมื่นตัว และเม็ดหมากสีขาวอีกหนึ่งหมื่นตัวรุมล้อม
ฟู่เสวี่ยออกไปแล้ว ส่วนเิไท่และเว่ยหยาง ยังคงเป็ผู้เล่นหมากกระดานนี้
แล้วทั้งสองจะเริ่มประมือกันอีกครา
ตูม!
ฝ่ามือของทั้งสองพุ่งเข้าปะทะกัน โดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ แล้วเม็ดหมากที่เหลืออีกสองหมื่นชิ้น ก็ถูกกวาดออกไป
ที่เื้ัของเว่ยหยางและเิไท่ ดูเหมือนว่าจะมีผู้ฝึกตนมากกว่าสองหมื่นคนยืนอยู่ ฝ่ามือของพวกเขาประทับอยู่บนหลังของคนที่อยู่ข้างหน้าตน เป็เช่นนี้ต่อๆ กันไปเรื่อยๆ ก่อนที่พลังมหาศาลจะพุ่งเข้าสู่ร่างของผู้เล่นทั้งสอง
หมากสีดำและสีขาวเผชิญหน้ากัน
“เิไท่! เ้าช่างโหดร้ายนัก แม้แต่เฉียนเว่ย ก็ยังฆ่าได้อย่างไร้ความปรานี ทั้งๆ ที่นางเป็น้องสาวแท้ๆ ของเ้า
จริงสิ! เ้าก็เคยสังหารเยว่เหยาอย่างไร้เมตตามาแล้ว นางก็เป็น้องสาวของเ้าเช่นกัน... ฮ่าๆๆ!” เว่ยหยางพูดเสียงต่ำ พยายามกลั้นอารมณ์ส่วนลึกของตน
“อะไรกัน?” สีหน้าของหลี่เหว่ยเปลี่ยนไป
เยว่เหยาคือน้องสาวของเิไท่?
เิไท่มองดูเว่ยหยางอย่างเ็า ไม่ได้หงุดหงิดใจต่อคำพูดของอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพียงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อาจารย์ ทั้งหมดนี้ มิใช่ว่าเป็เพราะท่านหรอกหรือ? ตอนที่ฆ่าเยว่เหยา ข้าก็ไม่รู้ว่านางเป็น้องสาวของตัวเอง สำหรับเฉียนเว่ย มันคือกลลวงของปีศาจ นั่นก็มิใช่แผนการของท่านอย่างนั้นหรือ?”
“ฮึ่ม! เ้าเด็กเหลือขอ รังแกอาจารย์ ทำลายบรรพบุรุษ สังหารน้องสาวแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาพูดเช่นนี้กับข้าอีก? ข้าได้หมั้นหมายเฟิงหลิงให้กับหลี่เหว่ยแล้ว ตอนนี้เ้าไม่เหลืออะไรแล้ว!” เว่ยหยางบริภาษด้วยสีหน้าเย็นะเื
“ว่าอย่างไรนะ?” เสียงดังขึ้นข้างๆ เิไท่ จากนั้นเฟิงหลิงก็เดินออกมาด้วยท่าทีสับสน
หลี่เหว่ยมองหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามตน ด้วยหัวใจที่สั่นระรัวเพราะความตื่นเต้น
เิไท่ยืนประจันหน้ากับเว่ยหยางอย่างหนักแน่น พลางบิดศีรษะไปมา ราวกับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนกล่าวเสียงเย็น “อาจารย์ข้า ท่านคิดว่าคำพูดเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร? เฟิงหลิงเป็ของข้า แม้ว่าข้าจะหลอกใช้นาง แต่นางก็ยังคงเป็ของข้า
ท่านประณามที่ข้าสังหารน้องสาวของตัวเองหรือ? แล้วที่ท่านทำทั้งหมดนั่น มิใช่เพื่อซื้อความกตัญญูหรืออย่างไร? วางแผนจะยกลูกสาวให้หลี่เหว่ย นี่ฟังดูเหมือนขายลูกสาวกินเลยมิใช่หรือ?”
“อืม… ได้ๆๆ! ตอนที่รับตัวเ้ามา ข้าไม่ควรปล่อยให้เ้ามีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้เลย น่าจะบีบคอให้ตายไปเสียั้แ่แรก!” เว่ยหยางเอ่ย
“บีบคอข้า? ทนไม่ไหวละสิ! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพี่น้องทั้งสี่คนของเรา ล้วนมีสาเหตุมาจากเ้า คิดว่าข้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ? ว่าเ้า้าจะมรดกของท่านผู้เฒ่า
ฮึ่ม! ตอนนั้น เ้าขโมยข้ามาจากสำนักหมู่ตาน ขโมยหลี่เหว่ยมาจากสำนักติงหลง และต่อมาก็เยว่เหยาจากสำนักหมู่ตานเช่นกัน หากไม่มีเ้า ข้าก็จะได้ขึ้นเป็หัวหน้าสำนักหมู่ตาน และหลี่เหว่ยก็คงจะเป็หัวหน้าสำนักติงหลงไปแล้ว!” เิไท่กล่าวเสียงเย็นเยือก
“อะไรกัน? เิไท่... เ้ากำลังพูดถึงเื่อะไร?” หลี่เหว่ยมองไปยังเิไท่ด้วยสีหน้าราบเรียบ
“น้องสาม นี่เ้ายังไม่รู้อีกหรือ? เ้าคือบุตรชายคนสุดท้องของหัวหน้าสำนักติงหลง เว่ยหยางขโมยเ้ามาเลี้ยงที่พรรคต้าเฟิง ข้า เยว่เหยา และเฉียนเว่ย น่าจะเป็ลูกของท่านหัวหน้าสำนักหมู่ตานคนก่อน ส่วนเฟิงหลิงคือลูกสาวของเว่ยหยาง... นี่เ้าไม่เข้าใจอย่างนั้นหรือ?” เิไท่ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ
“เ้ารู้ั้แ่เมื่อไหร่?” เว่ยหยางถาม พลางจ้องเิไท่อย่างเฉยชา
“ตอนแรกข้าก็ไม่รู้หรอก จนกระทั่งเข้าสู่กลหมากนี้ และเห็นเฉียนเว่ย ถึงได้เข้าใจทุกอย่าง ว่าทุกสิ่งมันเริ่มมาจากเ้า เว่ยหยาง เ้าเริ่มวางแผนมานานแล้วสินะ?
เมื่อท่านผู้เฒ่าได้ก่อตั้งพรรคต้าเฟิง สำนักติงหลง และสำนักหมู่ตานขึ้นมา เพื่อให้เฝ้าผนึกชีพจรันั้น เขาก็ได้คำนวณเอาไว้แล้ว ว่ามรดกจะถูกสืบทอดในปีนี้ ดังนั้น ท่านผู้เฒ่าจึงทิ้งกุญแจสามดอกไว้ให้กับหัวหน้าสำนักทั้งสาม ซึ่งเ้าก็ได้ขโมยมันมาทั้งหมดแล้ว
กุญแจสำคัญนั้น ก็คือลูกๆ ของพวกเขา เ้ามีเฟิงหลิงคนเดียวไม่พอ ยังขโมยเด็กน้อยมาอีกสามคน เพื่อที่จะเก็บกุญแจเอาไว้แต่เพียงผู้เดียว... ฮ่าๆๆ! แต่น่าเสียดาย ที่เ้าขโมยเด็กผิดคน แท้จริงแล้ว เฉียนเว่ยคือกุญแจสำคัญ แต่เยว่เหยาและข้าไม่ใช่!”
“เ้าดูแลควบคุมการใช้ชีวิตของเฟิงหลิงและหลี่เหว่ย เอาใจใส่พวกเขาเป็อย่างดี แต่กับข้าและเยว่เหยา เราทั้งสองกลับไม่เคยได้รับสิ่งนี้ จึงทำให้ข้าและเยว่เหยา มีนิสัยที่ค่อนข้างจะดื้อรั้นเล็กน้อย” เิไท่กล่าว
“แต่ข้าก็เป็คนที่เลี้ยงดูพวกเ้ามา!” เว่ยหยางพูดด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น
“ใช่! เ้าเลี้ยงดูพวกเรามา แต่นั่นก็เพราะเ้า้าใช้พวกเราเป็เครื่องมือ เฉียนเว่ยไม่ได้เกิดมาในเวลานั้น เ้าจึงไม่แน่ใจว่าเราจะเป็กุญแจสำคัญจริงหรือไม่ แต่อย่างไรเ้าก็คิดว่า พวกเราทุกคนต้องตอบแทนบุญคุณเ้าแน่” เิไท่พูดเสียงเย็น
“ไม่มีประโยชน์ที่จะเอ่ยอะไรอีก เิไท่ ข้าได้ยินมาว่าเ้ามอบเฟิงหลิงให้กับหลี่เหว่ยเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เ้าน่ะหรือที่สามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อภรรยา? ฮ่าๆๆ! เ้าเองก็ใช้หลอกใช่เฟิงหลิงมิใช่หรืออย่างไร?” เว่ยหยางตอกกลับอย่างเยือกเย็น
“แล้วอย่างไรเล่า? กระนั้นเฟิงหลิงก็เป็ภรรยาของข้า หากไม่ทำเช่นนั้น ข้าก็ต้องตาย! ข้าเป็หนี้นาง ดังนั้นข้าจะตอบแทนนางในอนาคต!” เิไท่เอ่ยเสียงเรียบ
ข้างๆ กัน รอยยิ้มเศร้าโศกปรากฏบนใบหน้างดงามของเฟิงหลิง
“ไม่จำเป็! เพราะเ้ากำลังจะตายในไม่ช้าแล้ว” เว่ยหยางพูดอย่างเ็า ขณะพูด เขาก็บีบมือ แล้วจู่ๆ ก็มีด้ายพุ่งออกมาเชื่อมต่อเข้ากับเฟิงหลิง
“เอ๊ะ!” เพราะถูกดึงอย่างรุนแรง ร่างของเฟิงหลิงจึงลอยขึ้นฟ้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะถูกดึงไปยังด้านหน้าของเิไท่
เขาได้รวบรวมพลังของผู้คนมากกว่าสองหมื่นคนไว้ในฝ่ามือ ความรุนแรงของคลื่นพลังช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก หากโดนฝ่ามือนี้ซัด คงจะสิ้นใจทันที... เฟิงหลิงกำลังจะตายด้วยน้ำมือของเิไท่
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป “ไอ้แก่! เ้าจะใช้ร่างของเฟิงหลิงเป็เกราะกำบังอย่างนั้นหรือ? นี่เ้า้าให้นางตายหรือ?”
ใบหน้าของเิไท่เปลี่ยนไป และเบี่ยงฝ่ามือไปอีกทาง พยายามหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับร่างของเฟิงหลิง
“ฮึ่ม!” มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเว่ยหยาง พลันฝ่ามือของเขาก็กระแทกเข้าใส่เิไท่อย่างแรง
“อัก!”
เิไท่กระอักเืออกมาเต็มปาก ก่อนจะถูกจู่โจมต่อเนื่องอย่างรุนแรงทันที ด้วยจังหวะเช่นนี้ เขาจึงไม่อาจหลีกหนีการโจมตีได้
“ตายเสียเถอะ!” เว่ยหยางคำรามเสียงดังก้องอย่างดุร้าย
“ท่านพ่อ!” หยาดน้ำตาไหลรินจากมุมดวงตาสวยของเฟิงหลิง หญิงสาวมองดูใบหน้าของเว่ยหยางด้วยความสิ้นหวัง
แม้ว่าเิไท่จะเบนการโจมตีออกไปได้ แต่หากปล่อยไว้เช่นนี้ เฟิงหลิงก็คงจะหนีไม่พ้น ต้องตายด้วยน้ำมือของผู้เป็บิดาแน่
“ไม่...!” หลี่เหว่ยะโ พร้อมพุ่งกระแทกเว่ยหยาง
“อะไรกัน? นี่เ้าจะมาขวางข้าไว้ทำไม?”
เว่ยหยางที่ยังไม่ทันตั้งตัว ถูกหลี่เหว่ยปราดเข้ามาปะทะ จึงเซถลา พลังทั้งหมดในมือถูกปัดให้หันเหไปอีกทาง
เฟิงหลิงได้รับการช่วยชีวิต เพราะการคาดเดาอันผิดพลาดของเว่ยหยาง
“ไอ้แก่!”
ตูม!
เมื่อสบโอกาส เิไท่จึงทะยานเข้าจู่โจมเว่ยหยางทันที
“อัก!”
เพราะไม่ทันได้ระวัง ร่างของเว่ยหยางจึงลอยกระเด็น ด้วยการโจมตีอันบ้าคลั่งของอีกฝ่าย
ตูม!
จู่ๆ ิญญามากกว่าสองหมื่นตัว ก็หายไปจากด้านหลังของเว่ยหยาง
ตูม!
เสร็จจากเว่ยหยาง เิไท่จึงหันไปซัดหลี่เหว่ยด้วยหลังมือ
“อ๊ะ!”
หลี่เหว่ยที่ถูกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว กระอักเือย่างหนัก และหมดแรงโดยฉับพลัน ร่างเขาลอยกระเด็นขึ้นไปบนเวหา
“หลี่เหว่ย!” เฟิงหลิงกรีดร้องทันที เมื่อเห็นภาพตรงหน้า
เิไท่พิศวงเล็กน้อยกับท่าทีของนาง แต่ก็มิได้สนใจแต่อย่างใด ไม่ลังเลที่จะคว้าเม็ดหมากสีทองของเว่ยหยาง ที่หลุดลอยออกมา
หมับ!
เิไท่คว้าหมากสีทองไว้ในมือข้างละเม็ด
“ฮ่าๆๆๆๆ! ไอ้แก่ ตอนนี้ทั้งหมากสีดำและสีขาว ถูกข้าควบคุมแล้ว ข้าคือผู้เดินหมากเพียงคนเดียว ส่วนเ้าทุกคนเป็ผู้พ่ายแพ้ ข้าคือผู้คว้าชัย เป็ผู้ชนะเพียงคนเดียว… ฮ่าๆๆๆ!” เิไท่กล่าว พลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เสียงหัวเราะด้วยความสะใจดังขึ้น พลังของหมากสีทองได้ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง พลังของหมากสีดำและสีขาวทั้งหมด ได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน พลังของผู้คนมากกว่าสี่หมื่นคน ถูกดึงออกมาโดยเิไท่
เขาพุ่งเข้าจู่โจมเว่ยหยางและหลี่เหว่ยอีกครั้ง ด้วยฝ่ามือที่เปี่ยมไปด้วยพลัง “ตายเสียเถอะ!”
“ไม่...!” เฟิงหลิงอุทาน ทันใดนั้น ร่างบางก็ปราดไปบังร่างของหลี่เหว่ยเอาไว้
“อะไรกัน!?” เิไท่เบิกตากว้าง แต่ดูเหมือนสายเกินกว่าที่จะถอนฝ่ามือกลับแล้ว
แม้พลังจะลดลงไปมาก แต่การโจมตีที่ยังหลงเหลืออยู่ก็รุนแรงไม่น้อย ฝ่ามือใหญ่จึงกระแทกเข้ากับร่างของเฟิงหลิงทันที
“อัก!”
หญิงสาวกระอักเื ก่อนที่ร่างบางจะค่อยๆ ร่วงหล่นลงพื้น
“ไม่! ไม่…! เฟิงหลิงทำไม?… ทำไม!?” เิไท่พุ่งไปกอดร่างนางด้วยความร้อนรน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เฟิงหลิงเริ่มที่จะอ่อนกำลังแล้ว
“เฟิงหลิง!” หลี่เหว่ยที่นอนอยู่ข้างๆ อย่างไร้เรี่ยวแรง เอ่ยเรียก
“หลี่เหว่ย! ข้าคือเยว่เหยาของท่าน!” เฟิงหลิงตอบ พลางยกยิ้มอย่างเศร้าๆ
“ไม่! เฟิงหลิง เ้าบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมยังพูดเช่นนี้อีก?… ไม่! เ้าไม่ใช่เยว่เหยา!” เิไท่ะโด้วยความใ
ใบหน้าของเฟิงหลิงแดงก่ำ นางค่อยๆ หันไปมองเิไท่ มือเล็กััใบหน้าเขาช้าๆ พลางสั่นศีรษะเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “ข้าไม่ใช่คนบ้า สามี ั้แ่แรกข้าก็ไม่ได้บ้า ข้ารู้มาตลอดว่าตัวเองคือใคร”
“เ้าไม่ได้บ้าอย่างนั้นหรือ” ทั้งเิไท่และหลี่เหว่ย ต่างมองดูเฟิงหลิงด้วยความประหลาดใจ
“ท่านอาจจะคิดว่าข้าเป็บ้า แต่ข้าไม่... แค่กๆๆ!” เฟิงหลิงเอ่ยอย่างอ่อนแรง ขณะที่กระอักเืออกจากริมฝีปากเล็ก
เิไท่รีบหยิบเม็ดยาออกมา แล้วป้อนให้กับภรรยาของตน
แต่เพราะโลหิตที่เอ่อล้นออกมา จึงทำให้เม็ดยาที่ป้อนเข้าไป ยากที่จะกลืนลงได้
“ไม่! ไม่….! ทำไม?” เิไท่อุทานขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
“ข้ารักท่าน สามี ข้ารักท่าน แต่มันสายไปแล้ว! สายเกินไปที่ท่านจะกลับมา!” เฟิงหลิงที่กระอักโลหิต กล่าวด้วยความสิ้นหวัง
“มันเกิดไรขึ้นกันแน่?” เิไท่ะโดังลั่นราวกับคนบ้า
“ในสองปีแรกที่ถูกหลี่เหว่ยจับตัวไป ข้าก็ยังคงขัดขืน แต่เขากลับบังคับให้ข้าเข้ามาแทนที่เยว่เหยา ในปีที่สามและสี่ ข้าก็ค่อยๆ ที่จะเปิดใจรับเขา ข้าแสร้งทำเป็เยว่เหยาต่อหน้าเขา ทว่าในตอนนั้น ข้าก็ยังคงรอท่านกลับมาเสมอ แต่ท่านยังเงียบหาย จนเข้าปีที่สิบ ข้าไม่ได้ปฏิเสธหลี่เหว่ยอีก แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ยังคงมีท่านอยู่ในหัวใจ ในปีที่สิบห้า ข้าได้เปิดใจยอมรับหลี่เหว่ยและตัวตนของข้า ข้ายอมรับในตัวตนของเยว่เหยา บางที ข้าคงไม่อาจรอท่านได้อีกแล้ว ข้าจึง้าที่จะเป็เยว่เหยา
ใน่เวลาห้าปีต่อมา ข้าก็สะกดจิตตัวเอง ว่าข้านั้นคือเยว่เหยา
มันทำให้ข้ามีความสุขมาก แม้ว่าบางครั้ง หลี่เหว่ยจะทำให้ข้านึกโมโหก็ตาม แต่ข้าก็ค่อยๆ ตกหลุมรักเขา ตอนนี้ข้าเต็มใจที่จะเป็เยว่เหยา และเริ่มที่จะลืมท่านอย่างช้าๆ
แต่... แต่ท่านก็กลับมาอีกครั้ง
ทำไมท่านถึงเพิ่งกลับมาเอาตอนนี้?
มันช้าไปเสียแล้ว!
เมื่อข้าได้มอบหัวใจให้กับหลี่เหว่ย ท่านก็กลับมา
ทำไมถึงได้มาช้านัก?
ท่านมาช้าเกินไป!” เฟิงหลิงกล่าวอย่างอ่อนแรง
“เฟิงหลิงเ้าจะต้องไม่เป็อะไร... ข้ากลับมาแล้ว! กลับมาหาเ้าแล้ว!” ดวงตาของเิไท่แดงก่ำ
“แค่ก! ข้ารู้ว่าท่านหลอกใช้ข้า แต่ข้าไม่โทษท่าน ข้ารู้ว่าท่านแต่งงานกับข้า เพราะ้าหลอกใช้ข้าเท่านั้น แต่ถึงอย่างไร ข้าก็มีความสุขมากจริงๆ... ข้าไม่โทษท่าน! ไม่นึกโกรธ ที่ท่านผลักไสข้าให้กับหลี่เหว่ย... ข้าไม่เคยโทษท่านจริงๆ สามีของข้า!” เฟิงหลิงเอ่ย เสียงแ่ ยามนี้นางอ่อนแรงนัก และกำลังจะตายในไม่ช้า
“เ้าจะต้องไม่เป็อะไรเฟิงหลิง!” เิไท่เอ่ยอย่างกังวล
เขาไม่อาจป้อนยาได้ แม้จะใช้พลังชี่ของตัวเองในการรักษา ก็ไม่อาจช่วยหญิงสาวได้ เป็เพราะาแของเฟิงหลิงสาหัสจนเกินเยียวยา เมื่อเห็นเช่นนั้น ดวงตาเิไท่จึงค่อยๆ แดงก่ำ
“สามี... แค่กๆ... ข้ากำลังจะตายแล้ว ข้าขอแค่ข้อเดียว ข้ารู้ว่าท่านจะไม่ปล่อยหลี่เหว่ยไป และข้าจะไม่ขอร้องให้ท่านปล่อยเขา... แค่เื่สุดท้าย! ได้โปรดเถอะ!” ดวงตาของเฟิงหลิงนั้น ไม่อาจเปิดขึ้นมาได้อีกแล้วในยามนี้
“พูดมาเถอะ!” บนใบหน้าของเิไท่ ค่อยๆ มีหยาดน้ำตาไหลริน
“หลังจากที่เราตายไปแล้ว โปรดฝังพวกเราไว้ด้วยกัน ขอให้ข้ากับหลี่เหว่ยได้ถูกฝังไว้เคียงคู่กัน ได้หรือไม่?” เฟิงหลงกล่าวเสียงสั่น ดวงตาที่ปิดลงนั้น เอ่อนองไปด้วยหยาดน้ำตา
สิ้นสุดคำขอ เฟิงหลิงก็ตายจากไป
ร่างของนางยังคงอยู่ในอ้อมแขนเขา
คำขอสุดท้ายของเฟิงหลิง คือ้าอยู่เคียงข้างหลี่เหว่ยอย่างนั้นหรือ? ฝังไปพร้อมกับหลี่เหว่ย? ชั่วพริบตา คำพูดที่อ้างว้างก่อนหน้านี้ของเฟิงหลิง ก็ดังก้องในใจเขา
“สายเกินไป! ท่านกลับมาช้าเกินไป!”
“สายเกินไป!”
“มันสายเกินไป!”
คำพูดเหล่านี้ ยังคงดังกระหึ่มอยู่ในห้วงสำนึกของเิไท่ น้ำตาเอ่อนอง และรินไหลออกจากดวงตาที่แดงก่ำ ตอนนี้ เขารู้สึกชาวาบไปทั้งตัว
ใน่สุดท้ายของชีวิต เฟิงหลิงได้เลือกหลี่เหว่ย... เขามาช้าเกินไป?
“เฟิงหลิง!” หลี่เหว่ยร้องไห้ด้วยความเ็ปและสิ้นหวัง