รุ่งสาง โหยวเสี่ยวโม่พบว่าหญ้าเซียนในแปลงสมุนไพรนั้นเติบโตแตกต่างกัน
เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร ตอนนี้มาคิดดู น่าจะเกี่ยวกับคุณภาพของมัน
ถึงแม้อยู่ในแปลงเดียวกัน แต่ทำไมคุณภาพของหญ้าเซียนถึงต่างกัน ต้องมีสาเหตุแน่นอน หรือเพราะการดูดซับอาหารต่างกันหรือผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด โหยวเสี่ยวโม่รู้สึกตื่นเต้นกับการค้นพบครั้งนี้
ถ้าหากเขาสามารถแบ่งแยกคุณภาพของหญ้าเซียนได้ อีกหน่อย ในขั้นตอนการค้นหาหญ้าเซียนก็จะง่ายขึ้นโขเลย
ทว่าในตอนนี้โหยวเสี่ยวโม่ก็ไม่กล้าถามศิษย์พี่ศิษย์น้อง แต่ถ้าไม่ถาม เขาคิดว่าคืนนี้คงข่มตาหลับไม่ได้แน่ คิดไปคิดมา เขาจึงตัดสินใจไปสำรวจที่หอคัมภีร์ ในนั้นมีสารพัดสิ่งอย่าง น่าจะมีเนื้อหาพวกนี้บ้าง
เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จ โหยวเสี่ยวโม่ก็แยกย้ายจากศิษย์คนอื่นๆ และตรงไปยังหอคัมภีร์
คนเฝ้าประตูก็ยังคงเป็ผู้เฒ่าเข้มงวดคนเดิม
เพราะเคยมาแล้วครั้งหนึ่ง โหยวเสี่ยวโม่จึงไม่จำเป็ต้องให้ผู้เฒ่าต้องเตือนเช่นครั้งก่อน พร้อมยื่นป้ายประจำตัวให้ผู้เฒ่า และรับตราไม้ประทับสีดำมาเช่นเคย
“ขอบคุณมาก ท่านลุง” โหยวเสี่ยวโม่กล่าวขอบคุณอย่างมีมารยาท จากนั้นเดินเข้าหอตะวันออก
โหยวเสี่ยวโม่ที่กลับหลังหันไปแล้วไม่ทันสังเกตเห็นท่าทีชะงักของผู้เฒ่าเมื่อได้ยินคำว่า ‘ท่านลุง’ ภาพจำของเขาคงยิ่งฝังลึกลงไปในความรู้สึกของผู้เฒ่า
เมื่อเข้าไปยังหอคัมภีร์ โหยวเสี่ยวโม่ส่องดูว่าไม่มีคนอยู่ในนั้น
ครั้งก่อนที่เ้าหนุ่มนั่นโผล่มาทำเขาสะดุ้งโหยง จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสอง รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยเวลาโดนคนจ้องจับผิด
โหยวเสี่ยวโม่คิดมากไปเอง
ปกติแล้วหอตะวันออกและตะวันตกชั้นหนึ่งไม่ค่อยจะมีคน เพราะเนื้อหาเยอะ จึงไม่สามารถอ่านจบได้ในสองชั่วยาม ฉะนั้นทุกคนจะยืมกลับไปอ่านที่ห้องเสียส่วนใหญ่
โหยวเสี่ยวโม่เจอตำราเล่มนั้นที่ชั้นวางตู้ที่สอง ปัญหาที่เจอบ่อยในการปลูกหญ้าเซียน
ตำราเล่มนี้หนาสองเิเ จากความเร็วของโหยวเสี่ยวโม่คาดว่าอ่านภายในหนึ่งวันคงอ่านไม่หมด จึงตั้งใจว่าจะยืมกลับไป ถึงอย่างไรอีกหน่อยก็ต้องคลุกคลีกับความรู้พวกนี้อยู่ดี
ทว่าโหยวเสี่ยวโม่ไม่ได้จากไปทันที เดินดูตามชั้นตำราเรื่อยๆ เมื่อไม่มีที่้า จึงเตรียมตัวกลับ
แต่ในขณะที่กำลังหันหลังกลับ ข้างๆ กันมีความเคลื่อนไหว พร้อมกับเงาของใครบางคนปรากฏขึ้น ทว่าการปรากฏตัวของเงานี้ ก็มีเงาร่างชุดสีชมพูจากด้านซ้ายโผล่มาด้วยกัน
โหยวเสี่ยวโม่หรี่ตามอง พบว่าเป็คู่ชายหญิงคู่เดิมที่เห็นที่หอตะวันตกคราวก่อน
ครั้งนี้ระยะห่างนั้นใกล้มาก ดังนั้นคนหนุ่มคงสังเกตเห็นถึงตัวตนเขาแน่นอน ใบหน้าที่หล่อเหลางดงามนั้นราวกับมีดาวตกวิบวับหล่นลงมาเกาะบนตัวโหยวเสี่ยวโม่
สายตาที่ไร้ซึ่งอารมณ์ทำเอาโหยวเสี่ยวโม่เย็นวาบ มือที่หอบตำราถึงกับสั่น
จากที่คิดว่าศิษย์พี่ใหญ่และศิษย์น้องเล็กคู่นี้เป็คนของแขนงการต่อสู้ ในเวลานี้กลับมาปรากฏตัวที่หอตะวันออก โหยวเสี่ยวโม่ชักไม่แน่ใจ ว่าตกลงเป็ฝั่งตะวันออกหรือตะวันตกกันแน่
สาวชุดชมพูไม่ได้สังเกตเห็นโหยวเสี่ยวโม่ เพราะจุดสนใจของเธออยู่ที่ชายหนุ่มทั้งหมด เมื่อชายหนุ่มจ้องมองมาที่เขา หญิงสาวจึงเห็นพลางขมวดคิ้ว
“จ้องอะไร ไม่เคยเห็นหนุ่มหล่อสาวงามหรือไง ยังไม่รีบไปอีก”
โหยวเสี่ยวโม่นิ่ง “…”
คนหน้าไม่อายก็เคยเจออยู่หรอก แต่ไม่เคยเจอคนที่ไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน ก็ได้ เ้าชนะแล้ว น้องสาว!
โหยวเสี่ยวโม่ไม่ชอบหญิงสาวโอหังเช่นสาวในชุดชมพูนี่เลย แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็คุณหนูที่ถูกตามใจจนเคยตัว กัดจิกหล่อนไปคงมีแต่เสียกับเสีย
ขณะที่จากมา เขาไม่วายยังได้ยินเสียงอ้อล้อของหญิงสาวที่พูดคุยกับชายหนุ่ม
“พี่เซียว ท่านรับปากกับท่านพ่อเองว่าจะมาหอคัมภีร์เป็เพื่อนอวิ๋นฉี ทำไมจะกลับไปดื้อๆ ล่ะ บ้าจริง ข้ายังอ่านไม่จบเลย”
โหยวเสี่ยวโม่ขนลุก พลันเดินตรงออกจากหอตะวันออก