กูเฟยเยี่ยนเดิมตามทางแม่น้ำไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วยามก็ได้พบกับทหารที่เข้ามาในลำธารลึกเพื่อตามจับไป๋หลี่ิชวน
นางกำลังจะรายงานตัว ทว่าเฉิงอี้เฟยกลับพุ่งมาจากที่ที่ไม่ไกลนัก “แพทย์หญิงตัวน้อย! ”
เหล่าทหารทั้งหมดเคลื่อนตัวออกไปอย่างพร้อมเพรียง ความเร็วของเฉิงอี้เฟยสามารถอธิบายได้ว่าราวกับลูกธนูที่เคลื่อนไหวไปกลางอากาศดั่งจะพิชิตม้าป่า กูเฟยเยี่ยนรีบถอยหลังหลบออกทันทีเพื่อเผื่อเอาไว้ว่าเฉิงอี้เฟยจะหยุดไม่อยู่แล้วทำให้ตนเองชนกระเด็นออกไป
เฉิงอี้เฟยเกือบจะชนกูเฟยเยี่ยนจริงๆ ทันทีที่เขาหยุดลงก็โอบกอดเเขนนางทั้งสองข้างด้วยความดีอกดีใจและเป็กังวล ก่อนจะมองขึ้นลงเพื่อพินิจพิเคราะห์นาง
“แพทย์หญิงตัวน้อย เ้าไม่เป็อะไรใช่หรือไม่? เ้าหลบหนีออกมาได้อย่างไร? ”
“เดรัจฉานไป๋หลี่ิชวนรังแกเ้าหรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนรีบผลักมือของเขาออกพลางถอยหลังไปสองสามก้าวทันที เฉิงอี้เฟยยังคง้าเขยิบไปใกล้ นางจึงยื่นมือขึ้นมาหยุดเขาไว้แล้วขอให้เขารักษาระยะห่าง ในขณะที่ตระกูลฉียังไม่ได้ยกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับนาง หมอนี่กลัวว่าจะทำให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสียหน้าจึงถือได้ว่ายังรู้จักกฎเกณฑ์ แต่ทันทีที่ตระกูลฉียกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับนาง หมอนี่ก็ประกาศเื่ราวรักใคร่ออกมาทันที ์ทราบดีว่าเขาจะแบกนางตรงกลับไปที่ค่ายทหารแบบครั้งนั้นหรือไม่?
สองวันมานี้เฉิงอี้เฟยตามหากูเฟยเยี่ยนจนแทบจะเป็บ้าอยู่แล้ว หากไม่ใช่เป็เพราะจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยบอกว่าจะไปสำรวจภูมิประเทศก่อนและห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น เขาก็คงจะเข้าไปในหุบเขาเถาเยาตั้งนานแล้ว ไม่รอให้ถึงตอนนี้หรอก เฉิงอี้เฟยไม่ได้สนใจการกล่าวเตือนของกูเฟยเยี่ยนเลยแม้แต่น้อย เขาผลักมือของหญิงสาวออกด้วยความจริงจังและองอาจผึ่งผายก่อนจะเอ่ยถามว่า “มีาแตรงไหนหรือไม่? ไป๋หลี่ิชวนรังแกเ้าหรือไม่? ”
นี่เป็ครั้งแรกที่กูเฟยเยี่ยนเห็นว่าชายหนุ่มที่มีนิสัยพาลดื้อรั้นและไม่ยอมคนอย่างเขามีความจริงจังเช่นนี้ นางรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็วพลางเอ่ยออกมาด้วยความเอาจริงเอาจังมากกว่าเขาเสียอีก “ข้าไม่เป็อะไร ไป๋หลี่ิชวนยังอยู่ภายในหุบเขาเถาเยา เ้ารีบไปจับกุมเขาสิ! ”
เฉิงอี้เฟยมีความสงสัย “เ้าหลบหนีออกมาได้อย่างไรกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนกำลังจะตอบกลับไป แต่ในขณะเดียวกันหมางจ้งก็นำพาทหารองครักษ์กลุ่มหนึ่งวิ่งตามมา
อันที่จริงหมางจ้งได้พบกับเ้านายของตนเองมาสักพักแล้ว และเขาก็เดินทางมารับนางเป็กรณีพิเศษ เขาแสร้งทำเป็ตื่นตระหนกใ “แพทย์หญิงกู เ้าไม่เป็อะไรใช่หรือไม่? ไป๋หลี่ิชวนเล่า? ”
กูเฟยเยี่ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถือโอกาสพูดความจริงออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย “ข้าวางยาพิษไป๋หลี่ิชวน เขาต้องอยู่ภายในถ้ำอย่างแน่นอน ต่อให้ไม่ตายก็ต้องหลงเหลือครึ่งชีวิต! ”
อย่าว่าแต่เฉิงอี้เฟยเลย แม้แต่หมางจ้งก็ยังเกิดความประหลาดใจ เดิมทีหมางจ้งคิดว่าเ้านายของตนเองเป็ผู้ที่ว่ายน้ำเข้าไปช่วยนางออกมา!
ไม่ช้าประโยคถัดไปของกูเฟยเยี่ยนก็ทำให้พวกเขาเกิดความประหลาดใจมากกว่าเดิม
กูเฟยเยี่ยนพูดด้วยความตั้งอกตั้งใจ “หุบเขานั้นมีทางเข้าออกเพียงแค่ทางเดียว เมื่อวานนี้ข้าว่ายน้ำออกมา เกือบจะตายอยู่ในน้ำแล้ว ทว่ามีชายลึกลับที่ชำนาญในด้านศิลปะการต่อสู้มาช่วยเอาไว้ได้”
ทันทีที่หมางจ้งได้ยินคำพูดเช่นนี้จึงถูไถไปที่ปลายจมูกโดยไม่พูดอะไรออกมา
เฉิงอี้เฟยรู้สึกสงสัย เขานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่มีบุคคลลึกลับโยนอู๋กงกงมาในลานด้านหลังของจวนเขาในตอนนั้น ทั้งสองคนนี้เป็คนเดียวกันหรือไม่? เฉิงอี้เฟยมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความหมายลึกซึ้ง และสิ่งที่กูเฟยเยี่ยน้าก็คือทำให้เฉิงอี้เฟยเกิดความสงสัย
หญิงสาวรีบเสริมอีกว่า “ชายคนนั้นสวมใส่หน้ากากสีเงินบนใบหน้า นิสัยเ็ามาก ถามอะไรไปก็ไม่ตอบ ดูเหมือนว่าจะมาช่วยพวกเราและดูเหมือนว่าจะมีแผนการอื่นด้วย การที่เขาสามารถหาสถานที่แห่งนี้ได้ ไม่แน่ว่าอาจจะจ้องมองพวกเราและจ้องมองไป๋หลี่ิชวนมาโดยตลอด! ”
ในขณะที่กูเฟยเยี่ยนเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง นางก็ทำไม้ทำมืออธิบายรูปร่างและส่วนสูงของจวินจิ่วเฉินอีกด้วย เฉิงอี้เฟยฟังและครุ่นคิดด้วยความตั้งอกตั้งใจ หมางจ้งทนไม่ไหวจึงเอ่ยขัดจังหวะออกมา “แพทย์หญิงกู อย่าเพิ่งไปทำให้ท่านแม่ทัพเฉิงล่าช้าต่อการจับกุมเลย เตี้ยนเซี่ยก็ทรงคอยข่าวคราวอยู่ภายในเมือง ข้าพาเ้ากลับไปก่อนแล้วกัน”
“แพทย์หญิงตัวน้อย เ้ากลับไปก่อน กลับไปแล้วข้าค่อยไปพบเ้า”
แม้ว่าเฉิงอี้เฟยจะยังอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมทว่าไม่กล้าชักช้า เขารีบนำคนเข้าไปในหุบเขาเถาเยาด้วยตนเอง
แต่อย่างไรก็ตามในขณะนี้จวินจิ่วเฉินค้นหาไปทั่วหุบเขาเถาเยาแล้ว เขาค้นพบหญิงสาวคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากยาพิษ แต่ไม่พบร่างของไป๋หลี่ิชวน
หลังจากที่เฉิงอี้เฟยและคนอื่นๆมาถึง จวินจิ่วเฉินจึงหาโอกาสจากไป
พรรคพวกของเฉิงอี้เฟยมีมากกว่าสิบคน พวกเขาแทบจะพลิกหุบเขาเถาเยาแล้วแต่ก็ไม่พบอะไรเลย เฉิงอี้เฟยไม่พอใจเป็อย่างยิ่ง เขาจึงสั่งให้คนนำร่างศพของหญิงรับใช้คนนั้นออกไปด้วย!
ผ่านไปจนกระทั่ง่บ่าย ทุกอย่างถึงได้กลับเข้าสู่ความสงบ
สายลมพัดพา ผิวน้ำในทะเลสาบดอกท้อปรากฏระลอกคลื่นเป็วงๆ ผ่านไปชั่วขณะระลอกคลื่นก็แปรเปลี่ยนมาเป็คลื่นลูกใหญ่ ไป๋หลี่ิชวนโผล่ออกมาจากกระแสคลื่นด้านในแล้วว่ายน้ำไปที่ริมฝั่งอย่างเชื่องช้า
ใบหน้าของชายผู้นี้งดงามมากทีเดียว รูปร่างก็ดีเยี่ยมเช่นกัน เขามีร่างกายสูงโปร่งและประณีต ความสง่างามภายในน้ำที่มีความใสชัดนั้นไม่อาจมีใครเทียบได้ ร่างกายเรียกได้ว่างดงามจนทำให้ผู้คนอยากจะกระทำความผิดเลยทีเดียว
ไม่ช้าเขาก็ว่ายน้ำมาถึงริมฝั่ง หลังจากที่เขาขึ้นมาบนฝั่งแล้วไม่ว่าจะเป็เส้นผมหรือเสื้อผ้าล้วนแห้งทั้งหมด หรือเรียกได้ว่าไม่เปียกน้ำเลยแม้แต่น้อย!
ตระกูลไป๋หลี่สืบเชื้อสายมาจากเงือกในยุคา สำหรับพวกเขานั้นการโดนน้ำแล้วไม่เปียกไม่ถือว่าเป็ความสามารถ การเปลี่ยนน้ำให้เป็อาวุธคมถึงจะเป็ความสามารถที่แท้จริงของพวกเขา หากเขา้าเขาสามารถปิดผนึกน้ำในทะเลสาบของหุบเขาเถาเยาได้ ทว่าเขาไม่้าและไม่สามารถเปิดเผยความลับของตระกูลให้คนภายนอกรับรู้ได้อย่างง่ายดาย
ใบหน้าของชายหนุ่มไม่มีรอยยิ้มเฉกเช่นที่เคยมี บัดนี้ใบหน้าของไป๋หลี่ิชวนหม่นหมองมาก ์ทราบดีว่าเขาต้องใช้พละกำลังไปมากเพียงใดและต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนถึงจะผ่านหลายชั่วยามนี้มาได้โดยไม่ถูกไฟร้อนแผดเผาตาย!
เขาเดินก้มหน้ากัดฟันไปที่ทุ่งบุปผาทีละก้าว “เสี่ยวเยี่ยนเอ๋อร์ เปิ่นหวางจื่อเฝ้าปรารถนาที่จะได้พบเ้าในครั้งถัดไป!”
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนกลับมาถึงเมืองจิ้นหยางก็เป็่เวลากลางดึกแล้ว ในระหว่างทางที่กลับมานางได้ซักถามหมางจ้งจนทำให้ทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้ออกหมายนำจับไป๋หลี่ิชวนไปทั่วอาณาจักรเทียนเหยียน หญิงสาวไม่ได้คิดอะไรมากนัก แค่รู้สึกว่ามีความสุขมาก! สำหรับไป๋หลี่ิชวนที่มารังแกถึงที่ สมควรแล้วที่จะจัดการกับเขาเช่นนี้ และไม่จำเป็ต้องหวาดกลัวเขาในฐานะองค์ชายของอาณาจักรว่านจิ้น
เื่ราวนี้ไม่เพียงแค่พัวพันไปถึงอาณาจักรเทียนเหยียน แต่เื้ัยังมีหุบเขาเสินหนงด้วย! ต่อให้อาณาจักรว่านจิ้นต้องทนทุกข์ทรมานแต่ก็ต้องยอมรับมันไป! กูเฟยเยี่ยนตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้หุบเขาเสินหนงดึงไป๋หลี่ิชวนเข้าบัญชีดำเป็อย่างมาก!
ต่อให้หมอนั่นมีทักษะสมุนไพรที่ยอดเยี่ยม แต่เขาเพียงคนเดียวจะเป็ปรปักษ์กับหุบเขาเสินหนงได้อย่างไร?
กูเฟยเยี่ยนอารมณ์ดีก็จริง แต่นางไม่ได้นอนมาหนึ่งวันหนึ่งคืน ไหนจะจมน้ำอีก นางเหนื่อยจนแทบจะล้มลงแล้ว ทันทีที่เข้าประตูไปก็ก้มศีรษะเดินไปทางิเย่วจวี
หมางจ้งเข้าใจผิดคิดว่านางเศร้าใจที่ไม่ได้พบกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เขาจึงรีบอธิบาย “แพทย์หญิงกู จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จเข้าไปในพระราชวังแล้ว ข้าก็ไม่ทราบว่าพระองค์จะกลับมาเมื่อใด”
กูเฟยเยี่ยนจะกล้าเพ้อฝันว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะรอต้อนรับการกลับมาของนางได้อย่างไร นางไม่ได้คิดถึงเื่นี้เลย แต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหมางจ้งแล้ว นางก็มีความผิดหวังเล็กน้อยจริงๆ ไม่รู้ว่าการที่ถูกไป๋หลี่ิชวนที่มักมากในกามจี้ชิงตัวไป ภายในใจของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยจะมีความกังวลบ้างเล็กน้อยหรือไม่?
กูเฟยเยี่ยนอยากจะแอบถามหมางจ้ง แต่หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งนางก็ก้มหน้าเดินกลับไปที่ิเย่วจวีต่อไป
ทันทีที่มาถึงหน้าประตูก็ได้พบกับเซี่ยเสี่ยวหม่านที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ท่าทีของเซี่ยเสี่ยวหม่านไม่แพ้เฉิงอี้เฟยมากนัก กูเฟยเยี่ยนตระหนักได้ว่าต้องหลบหลีกเพื่อที่จะได้ไม่ชนกัน
เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบดึงนางมาตรวจสอบ “กูเฟยเยี่ยน เ้าไม่เป็อะไรใช่ไหม? ไป๋หลี่ิชวนไม่ได้ทำอะไรเ้าใช่หรือไม่? ”
กูเฟยเยี่ยนยิ้มแย้มอย่างไร้พิษสงก่อนจะกล่าวว่า “หม่านกงกง หากเกิดอะไรขึ้นกับข้า คุณหนูสามตระกูลหานก็ไม่จำเป็ต้องคืนเงินแล้วใช่หรือไม่? ”