อะไรนะ?!
ทำไมถึงร้อนขนาดนั้น! แม้แต่เสื้อก็จะถอดออก? โรงหนังแพงขนาดนี้ ไม่มีแอร์สักตัวเลยหรือไง!
เนี่ยเซิงเสี่ยวอยากจะสบถคำหยาบออกมาจริงๆ แล้วเหยียนจิ่งจื้อเองก็ไม่มีขีดจำกัดเกินไปแล้ว โรงหนังร้อนขนาดนี้ทำไมเขาถึงยังนั่งดูหนังกับสาวงามได้อย่างสบายใจเฉิบ
เนี่ยเซิงเสี่ยวคิดอยากจะเข้าไปลองดูว่าข้างในมันจะร้อนขนาดไหนกัน ในตอนที่พนักงานบริการหญิงที่หน้าเคาน์เตอร์กำลังพูดคุยว่าควรจะเอานมอุ่นกับน้ำแข็งเข้าไปดีไหม เธอก็ได้เดินเข้าไปแล้ว
“คุณผู้หญิงรอก่อน! ที่นี่ถูกคุณเหยียนเหมาเอาไว้หมดแล้ว เข้าไปไม่ได้นะคะ”
“ใช่แล้วคุณผู้หญิง วันนี้ท่านประธานของพวกเราได้เหมาโรงหนังเอาไว้แล้ว คุณรีบออกมาเถอะ!”
สองเสียงดังไล่จากด้านหลัง ครั้งแรกที่เนี่ยเซิงเสี่ยวมีความรู้สึกเหมือนเป็ขโมย เพียงแต่ “ตำรวจ” นี่ก็ช้าเกินไปแล้ว แม้แต่เธอก็วิ่งตามไม่ได้…เนี่ยเซิงเสี่ยวได้ยินเสียงที่ดังไกลออกไปเรื่อยๆ พลางคิดไปว่าครั้งหน้าจะต้องเตือนเหยียนจิ่งจื้อให้เปลี่ยนพนักงาน ทักษะร่างกายแย่ขนาดนี้ ต่อไปเจอคนที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของตัวเองขึ้นมาจะทำอย่างไรได้
เนี่ยเซิงเสี่ยวเข้าไปแอบอยู่ในโรงหนังหนึ่งในนั้นสักโรงได้ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าด้านหลังเหมือนจะไม่มีใครตามมาแล้วถึงจะวางใจลง แต่ว่าในขณะเดียวกันก็รู้สึกเห็นใจเหยียนจิ่งจื้อ ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานต่ำเกินไปแล้ว แค่คนหลบเข้ามาเพียงคนเดียวก็หาไม่เจอ
ไม่ ไม่ใช่หาไม่เจอ คงจะเป็ี้เีหา เพราะว่าั้แ่ตอนที่เธอออกมาจากโรงหนังที่แอบ ก็พบว่าข้างหลังไม่ได้มีคนที่คิดจะมาลากเธอออกไป
เธอเริ่มหาทีละโรง พลางหวังว่าจะหาเจอไวๆ เพราะว่าเธอ้าที่จะคุยกับเหยียนจิ่งจื้อ
จริงๆ อีกด้านหนึ่งเธอก็กลัวที่จะหาเจอ เพราะว่าเขาเหมาโรงหนังมาอยู่กับติงเจียลี่เพียงลำพังสองคน จะทำอะไรกันล่ะ? เกรงว่าทุกคนก็คงจะรู้กันดี
หนังก็เล่นไป ความรู้สึกของพวกเขาสองคนก็ยิ่งถลำลึกขึ้น จากนั้น…เนี่ยเซิงเสี่ยวส่ายหัวอย่างแรง พลางเตือนตัวเองให้สงบนิ่ง
ในตอนนี้เองที่เธอเห็นโรงหนังวีไอพีที่อยู่ด้านในสุดมีแสงของหนังส่องออกมาอ่อนๆ เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินไปทางนั้นอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หันกลับเข้าไปมองโถงโรงหนังที่มืดสนิท เมื่อเปรียบเทียบในเวลานี้แล้ว เธอรู้สึกเหมือนตัวเธอเข้ามาอยู่ในหนังผี ทั้งตัวรู้สึกเย็นวาบ
“ยาเม็ดเสริมกำลัง ชดเชยสิ่งที่ร่างกาย้า ทำให้ผู้ชายอึดนานขึ้น…”
หนังยังไม่เริ่ม มีเพียงโฆษณาที่ฉายอยู่ตรงหน้า เนี่ยเซิงเสี่ยวฟังคำโฆษณาแล้วก็เกือบจะสบถออกมาจนต้องปิดปากของตัวเองเอาไว้ และแอบอยู่ตรงประตูเงียบๆ พร้อมทั้งยื่นหัวออกไปดูสถานการณ์ด้านใน
ข้างในมีโซฟาสามตัว ด้านหน้าโซฟาแน่นอนว่ายังมีอาหารหลายแบบวางอยู่ และแน่นอนว่าได้วางไวน์ชั้นสูงเอาไว้ด้วย
พวกเขาอยู่ข้างในนี้จริงๆ จากทิศทางที่เนี่ยเซิงเสี่ยวอยู่สามารถเห็นใบหน้าด้านข้างของ
เหยียนจิ่งจื้อว่าหลังจากที่รินไวน์เสร็จแล้วส่งให้เธอนั้นอ่อนโยนมากแค่ไหน กำลังคุยอะไรกัน นี่ไม่เหมือนมาดูหนังแล้ว เนี่ยเซิงเสี่ยวเม้มปาก เหมือนมาพลอดรักกันมากกว่า
มีคนเคยบอกว่าคนที่อยู่ในห้วงความรักมักเป็คนโง่ เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกว่าเหยียนจิ่งจื้อกับติงเจียลี่เป็แบบนั้นไปเสียแล้ว เพราะแม้เธอจะแอบเข้ามาพวกเขาก็ยังไม่รู้ตัว
เหยียนจิ่งจื้อแต่ก่อนประสาทััไวมาก อย่าว่ามีคนคนหนึ่งเข้ามาจากด้านหลังเขาเลย แม้แต่แมวตัวหนึ่งเขาก็ยังฟังเสียงฝีเท้าออก
แต่ว่าตอนนี้ล่ะ? โซฟาสามแถว พวกเขาอยู่แถวแรก เธอแอบเข้ามานั่งอยู่แถวสุดท้าย แต่กลับไม่มีใครเห็น
เนี่ยเซิงเสี่ยวคิด ถ้าหากวันนี้เธอคือนักฆ่าที่บริษัทคู่แข่งทางธุรกิจของเหยียนจิ่งจื้อจ้างมา คาดว่าเขาก็คงตายไปหลายรอบแล้ว
ในที่สุดโฆษณาตรงหน้าก็จบลงแล้ว ถึงแม้เนี่ยเซิงเสี่ยวจะไม่เข้าใจว่าเหมาโรงหนังแล้วก็ยังอนุญาตให้เขาฉายโฆษณานี่มันไม่ใช่การยืดเวลาหรือ? แต่ว่าโชคดีที่โฆษณาที่ยืดเวลาให้ชักช้าอันนั้นในที่สุดมันก็จบลงแล้ว
เธอแอบนอนอยู่ด้านหลังโซฟาแถวสุดท้าย เพื่อที่จะป้องกันการถูกพบตัวเข้า ทางนั้นเห็นแค่หัวของเขาโผล่ออกมา ความจริงแล้วมาถึงที่นี่ในตอนนี้เธอก็ไม่รู้แล้วว่ามาเพื่อทำอะไรกันแน่ ไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวหลังจากที่คุณชายเหยียนดูหนังจนแล้ว อารมณ์ดีขึ้นแล้วจะยอมฟังสิ่งที่เธออยากจะพูดสักสองนาทีไหม
ในที่สุดหนังก็ฉายขึ้นจอ ทันใดนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวก็รู้สึกว่าเพลงเปิดคุ้นหู แต่ว่าความสนใจของเธอไปอยู่ที่ตัวของเหยียนจิ่งจื้อและติงเจียลี่ คิดว่าพวกเขาจะจูบกันไหมหรือทำเื่ที่ลึกซึ้งกว่านี้หรือไม่ เธอไม่ได้สนใจหนังสักเท่าไร
เมื่อครู่พนักงานคนนั้นกำลังพูดโกหกชัดๆ ที่นี่ร้อนตรงไหนกัน กระดุมเสื้อเชิ้ตของเหยียนจิ่งจื้อไม่ได้แกะออกเพิ่มสักเม็ด สองเม็ด
แต่รอจนถึงเพลงเปิดจนไปเธอก็ยังรู้สึกว่าหนังเื่นี้คุ้นจนน่ากลัว ในที่สุดความสนใจของเธอก็ไปอยู่ที่หนัง
หลังจากดูไปได้หนึ่งนาที ตัวเธอก็ถึงกลับลงไปนั่งอยู่ที่พื้น
มันช่างเป็ระยะห่างที่ไกลที่สุดในโลก นี่คือหนังที่พวกเราดูในตอนที่ออกเดทครบรอบที่คบกันหนึ่งปี แต่ในหลายปีต่อมานายกลับพาผู้หญิงอีกคนมาดู..
หนังเื่นี้ชื่อว่า “ความรักในกลิ่นอายหนังสือ” เป็เื่ระหว่างชายหญิงที่พบกันในโรงเรียนจนเกิดความรู้สึกบริสุทธิ์ขึ้น ตอนนั้นผู้กำกับคนนี้เพื่อที่จะสร้างความแปลกใหม่จึงเอาความกล้าที่มากเกินไปถ่ายหนังรักวัยรุ่นขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าจะได้รับการตอบรับเป็อย่างดี
ตอนนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวกับเหยียนจิ่งจื้อคบกันได้หนึ่งปีพอดี เธอจึงกอดเอวเขาแล้วชี้ไปที่ป้ายโฆษณาหนังขนาดใหญ่อันนั้น “จะดูเื่นี้ๆ!”
เหยียนจิ่งจื้อตาโตลูบหน้าของเธอด้วยท่าทางเ้าเล่ห์ “จะดูตรงไหน? กลับบ้านไปจะรีบถอดให้เธอดู!”
เนี่ยเซิงเสี่ยวตอนนั้นยังเป็ผู้หญิงที่ใสซื่อ จึงถูกหยอกจนหน้าแดง “จิ่งจื้อนายช่วยสำรวมหน่อยได้ไหม ฉันจะดูหนังเื่นั้น”
เหยียนจิ่งจื้อย่นจมูก หนังมีอะไรน่าดูกัน น่าดูกว่าเขาอย่างนั้นหรือ? เขามองไปยังพระเอกรูปหล่อเอามือล้วงกระเป๋าบนป้ายโฆษณาแล้วร้องเหอะออกมา จากนั้น…
ก็ไปซื้อตั๋วสองใบให้แฟนสาวอย่างเชื่อฟัง
ตอนนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวบอกว่าดูหนังจะต้องนั่งดูด้วยกันถึงจะสนุก จองโรงหนังวีไอพียังไม่สู้ทั้งสองคนอยู่บ้านและเกาะหน้าจอคอมเลย เหยียนจิ่งจื้อเองก็คิดแบบนั้น แถมยังกอดเธอเข้ามาจูบลงที่มุมคิ้ว ถอนหายใจ “ต่อไปจะต้องเป็ภรรยาที่ดีมากแน่เลย!”
ถึงแม้ตอนที่เข้าไปข้างในแล้วเหยียนจิ่งจื้อจะขมวดคิ้วมองคนที่นั่งเบียดกันเป็แถวๆ ในที่มืดๆ แต่ว่าเมื่อเห็นหน้าเล็กๆ ของเนี่ยเซิงเสี่ยวเบิกบานราวกับดอกซากุระ ในใจของเขาก็พลอยเบิกบานไปด้วย
ความจริงแล้วโรงหนังสาธารณะก็ยังมีข้อดีอยู่ ดูหนังมาได้ครึ่งเื่ ตอนที่พระนางบนหน้าจอจูบกันครั้งแรก เหยียนจิ่งจื้อก็ค้นพบข้อดีนี้ เขามองไปที่คนรอบๆ ที่ต่างมีความปรารถนานั้น เขาจึงเชยคางเนี่ยเซิงเสี่ยวขึ้นมาอย่างท้าทาย
“เสี่ยวเสี่ยว ตัวอย่างในหนังแสดงออกมาไม่ค่อยถึงอารมณ์ พวกเราแสดงตัวอย่างแบบคนจริงๆ ให้พวกเขาดูเป็ไง?” จากนั้นก็ก้มลงมาจูบอย่างดูดดื่ม
วันนั้นในปากเล็กๆ ของเธอยังมีรถชาติจืดๆ ของป็อปคอร์น และยังมีกลิ่นหอมของเด็กผู้หญิง รวมกับความฮึกเหิมของวัยรุ่น เหยียนจิ่งจื้อแอบรู้สึกว่าโรงหนังนี่ต่อไปจะต้องมาดูบ่อยๆ
“ทุกวันมาดูหนึ่งครั้ง” เขาเสนอ
เนี่ยเซิงเสี่ยวส่ายหน้า “ฉันมีเวลาที่ต้องไปเรียน แต่ว่านายยุ่งขนาดนั้น ฉันจะถูกคนเขาพูดว่ามาถ่วงนายนะ”
เหยียนจิ่งจื้อกอดเธอในโรงหนังแล้วจูบแบบมาราธอนอีกครั้ง สุดท้ายก็กอดเนี่ยเซิงเสี่ยวที่หอบหายใจแล้วหัวเราะ “หนึ่งอาทิตย์หนึ่งครั้ง น้อยกว่านี้ไม่ได้แล้ว”
คนข้างๆ มองมาด้วยสายตาแปลกๆ จนใบหน้าเล็กๆ ของเนี่ยเซิงเสี่ยวแดง พร้อมทั้งเข้าใจว่าคนอื่นคนเข้าใจผิดแล้ว อะไรหนึ่งวันหนึ่งครั้ง หนึ่งอาทิตย์หนึ่งครั้ง คนคนนี้นี่น่าตีจริงๆ เธออยากจะหยิกเหยียนจิ่งจื้อแต่กลับถูกเขาจูบที่หลังมือ
“รู้ไหมตอนนี้ฉันกำลังคิดอะไรอยู่?”
“คิดอะไร?”
“ั้แ่นี้ไปาาจะไม่ไปทำงาน”