เนี่ยเซิงเสี่ยวมองภาพที่ฉายอยู่บนจอ ภาพปรากฎออกมาเรื่อยๆ ภายในหัวก็มีภาพอดีตของตัวเองกับเหยียนจิ่งจื้อฉายออกมาไม่หยุด ในตอนที่เห็นฉากพระนางจูบกันครั้งแรกอีกครั้ง ในที่สุดเนี่ยเซิงเสี่ยวก็ปิดหน้าร้องไห้แบบไม่มีเสียงออกมา
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมหนังเก่า เกือบจะเก้าปีถึงได้มาฉายอยู่ที่นี่ หัวใจเดิมทีก็ไม่เคยสงบอยู่แล้วของเธอในวินาทีนั้นก็เหมือนจะล้นทะลักออกมา
เหยียนจิ่งจื้ออยู่ข้างหน้านี้ แค่เธอเดินไปไม่กี่ก้าวก็สามารถกอดเอวของเขาได้อีกครั้ง จากนั้นก็ถามออกไปว่า ั้แ่วันนี้าาจะไม่ไปทำงาน นายยังคิดแบบนั้นอยู่ไหม?
หยดน้ำตาหยดลงบนพื้นพรมของโรงหนัง โชคดีที่มันไม่มีเสียง ไม่เช่นนั้นก็คงจะไปรบกวน “เวลาสวีท” ของทั้งสองคนแล้ว
เนี่ยเซิงเสี่ยวในตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมา ภายนอกเหยียนจิ่งจื้อดูเ็ามาก แต่เธอรู้ว่าขอแค่สนิทกัน เขาก็เป็มิตรมากกว่าใคร ที่สำคัญที่สุดก็คือหัวใจดวงนั้น อบอุ่น เป็ความอบอุ่นที่เธอชอบ
ในเวลานี้ถ้าหากลืมตาขึ้น มีความเป็ไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เหยียนจิ่งจื้อจะจูบติงเจียลี่อยู่ จากนั้นทั้งสองคนก็จะพูดถึงเื่ในตอนนี้และในอนาคต บางทีเหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้อาจจะไม่น่ารักอบอุ่นเหมือนเมื่อเก้าปีก่อนแล้ว ไม่แน่ว่าประโยค “ั้แ่วันนี้าาจะไม่ไปทำงาน” ก็คงจะเอามาใช้กับติงเจียลี่เช่นกัน
เนี่ยเซิงเสี่ยวกล้ามองไปทางด้านหน้าอีกครั้งก็เป็ห้านาทีหลังจากนั้นแล้ว เธอคิดว่าถึงใจจะไม่ชอบแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ช่างมันเถอะ ให้เวลานายห้านาทีแล้ว ควรจะจูบเสร็จได้แล้ว
แต่ในตอนที่เธอมองไปด้านหน้าอีกครั้งก็พบว่าติงเจียลี่ไม่อยู่แล้ว…
ไม่อยู่แล้ว? เนี่ยเซิงเสี่ยวมองไปรอบๆ เมื่อมั่นใจว่าหล่อนได้ออกไปแล้ว เธอก็มองไปยังด้านหลังหัวของเหยียนจิ่งจื้อ ติงเจียอวี๋ออกไปใน่เวลาห้านาทีที่ซึ้งที่สุดของหนัง เขาคงจะเสียใจมากเลย
แค่เห็นเขาถือแก้วไวน์เอาไว้และหมุนแก้วไปด้วยท่วงท่าสง่างาม เธอจ้องด้านหลังของ
เหยียนจิ่งจื้อที่มองไม่ออกว่าเขามีสีหน้าอย่างไร แต่เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้สึกได้ว่าเหยียนจิ่งจื้อในตอนนี้กำลังเ็ป
ใน่เวลานั้น เนี่ยเซิงเสี่ยวรอติงเจียลี่กลับมาตลอด จึงหลบอยู่ด้านหลังไม่กล้าขยับมาก ทว่าเธอก็พบว่าหนังได้ผ่านไปครึ่งเื่แล้ว จนผ่านไปเกินครึ่งเื่ก็แล้ว กระทั่งขาของเธอชาจนมันไม่ฟังคำสั่งของเธอแล้ว ติงเจียลี่ก็ยังไม่กลับมา
แต่เหยียนจิ่งจื้อก็ยังคงนั่งอยู่ในท่านั้น ดูหนังเื่นั้นตลอดเหมือนกำลังตั้งใจดูมัน
เนี่ยเซิงเสี่ยวเกาหัว ห้านาทีนั้นเกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเธอพลาดอะไรไป? ทำไมนางเอกถึงได้หนีไปแล้วล่ะ? เหยียนจิ่งจื้อที่เป็พระเอกก็ยังสามารถนั่งดูหนังได้โดยที่ไม่ได้วอกแวกไปจากหนังเลย?
หนังได้ดำเนินมาถึงท้ายเื่แล้ว นางเอกได้รับหนังสือที่พระเอกส่งมาจากที่ที่ไกลมากๆ หลังจากนั้นเธอร้องไห้อย่างหนัก ระยะห่างที่ใกล้ที่สุดในโลก ไม่ใช่อยู่ใกล้ชิดกันทั้งวัน แต่เป็การที่ถึงแม้ตัวของพวกเราจะอยู่คนละที่ แต่ใจกลับยังอยู่ข้างกัน
นี่คือตอนจบของหนังเื่นี้ เนี่ยเซิงเสี่ยวจำได้ดีว่าหลังจากดูหนังเื่นี้จบ เธอก็ชอบประโยคนี้มาก แถมยังเขียนมันไว้ในสมุดโน้ต แต่ว่าถูกเหยียนจิ่งจื้อเห็นเข้าพอดีจึงฉีดสมุดโน้ตของเธอขาดเป็สองท่อน
เนี่ยเซิงเสี่ยวชี้ไปทางสมุดโน้ตที่ขาดเป็สองท่อนอยู่บนพื้นด้วยความโกรธ “ทำไมนายมาฉีกของของฉันเอาตามใจชอบด้วย?”
“ตัวอยู่คนละที่อะไรนั่นมันก็แค่เื่ไร้สาระ ฉันไม่มีทางให้เธอกับฉันอยู่คนละที่หรอก แบบนั้นจะยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หรือ?”
ทันใดนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวก็ร้องไห้ออกมา ก่อนที่สุดท้ายจะยิ้มกว้างออกมาแล้วคุกเข่าลงไปที่พื้นแล้วพูดกับสมุดโน้ตเล่มนั้น “ขอโทษนะ ที่หมอนี่พูดมันมีเหตุผลมาก ฉันไม่มีคำพูดอะไรจะไปแย้งหรอก”
*
ในที่สุดโรงหนังก็เริ่มปล่อย End credits ขึ้นมา เนี่ยเซิงเสี่ยวลูบหน้าตัวเองก็พบว่ามันเปียกชื้นอีกแล้ว บวกกับเท้าที่ยืนจนชา เธอมองตรงไปยังด้านหน้า ถึงขนาดมี่วินาทีหนึ่งที่เธอรู้สึกว่าเหยียนจิ่งจื้อจะยืนขึ้นมาในตอนนี้และเดินเข้ามาหาเธอ
แต่เมื่อเห็นว่าสุดท้ายเหยียนจิ่งจื้อเดินออกไปด้านนอกโรงหนัง เธอก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นคิดมากไปเองทั้งนั้น
จู่ๆ เธอก็คิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองยังมีเื่ที่อยากจะพูด จึงรีบตามออกไปแต่กลับพบว่าเหยียนจิ่งจื้อที่เพิ่งจะเดินออกไป ได้หายตัวไปแล้ว
“สะกดรอยตามฉัน รบกวนฉัน คุณเนี่ย สองข้อหานี้ฉันสามารถส่งเธอเข้าสถานีตำรวจได้นะ” พลันเสียงของเหยียนจิ่งจื้อก็ดังขึ้นจากด้านหลังของเธอ ทำเอาใจของเธอหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
เนี่ยเซิงเสี่ยวถูกพูดแบบนั้นก็ไม่มีอะไรจะไปเถียง ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เขาเห็นว่าเธอเดินออกมาจากโรงหนังหรือไม่ แต่ว่าวินาทีต่อมาเธอก็ปฏิเสธความคิดตัวเอง เพราะว่าถ้าหากเขารู้ว่าตนแอบตามเขากับติงเจียลี่มาดูหนังจนจบ เกรงว่าคงจะส่งเธอไปที่สถานีตำรวจจริงๆ
ไม่พูด! เหยียนจิ่งจื้อรู้สึกว่าชาตินี้เขาได้ใช้ความอดทนทั้งหมดไปกับผู้หญิงคนนี้แล้ว ตอนนี้เขายังมีแก่ใจว่างมาดูหนังที่นี่ก็ถือว่าพยายามมากแล้วด้วย เขาคิดพลางหมุนตัวเตรียมจะจากไป
ผู้หญิงน่ารังเกียจ!
“รอเดี๋ยว ฉันมีเื่จะพูดกับคุณ” เนี่ยเซิงเสี่ยวกัดฟัน กลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไปอีกครั้ง ดังนั้นครั้งนี้จึงพูดออกไปทีเดียว “ตอนนี้ลูกชายของฉันอยู่ที่โรงพยาบาล หวังว่าคุณเหยียนจะช่วย”
แผ่นหลังของเหยียนจิ่งจื้อกระตุก หลังจากหยุดเท้าลงก็ค่อยๆ หมุนตัวกลับมา ก่อนจะพูดคำพูดที่แฝงความเสียดสีเอาไว้ “ทำไม ลูกป่วยถึงจะรู้ความสำคัญของเงินอย่างนั้นหรือ? แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่อยากจะให้เธอมาเป็กิ๊กของฉันแล้ว ทำอย่างไรดีล่ะ?”
เนี่ยเซิงเสี่ยวนิ่งอยู่นานถึงจะรู้ตัวว่าเหยียนจิ่งจื้อเข้าใจผิด คิดว่าตัวเธอมาเสนอตัวให้เขาถึงที่ “ไม่ใช่ค่ะ คุณเหยียนเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”
“เช่นนั้นเธอหมายความว่ายังไง?” เหยียนจิ่งจื้อมีดวงตาที่สวยและเฉียบคมเหมือนเหยี่ยว แต่ในตอนนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวกลับรู้สึกว่าดวงตาคู่นี้มีความสามารถบีบบังคับคน “หมายความว่ายังไง? หรือว่าเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวจะเป็ลูกของฉันจริงๆ ถึงจะให้ฉันไปช่วย?”
เขาเกือบจะพุ่งเข้าไปแล้ว ในเวลาแบบนี้เขารับไม่ได้กับการลังเลชักช้าของเธอ “พูดออกมาสิ!”
เพราะถ้าเนี่ยเซิงเสี่ยวลังเล เกรงว่าเื่จะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
แต่เธอก็ยังลังเล ก่อนจะส่ายหน้า “ไม่…ไม่ใช่”
“อะไรไม่ใช่ ลิ้นของเธอยังเอามาพูดดีๆ ได้อยู่ไหม!”
ทันใดนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวก็จับกำแพงด้านหลังตัวเอง “คุณเหยียน…คุณเป็อะไรไป?”
ในตอนนั้นเองที่เหยียนจิ่งจื้อถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะจนปัญญาจริงๆ ทำไมทั้งๆ ที่เธอมาขอร้องเขา แต่สุดท้ายกลับเป็เขาที่ร้อนใจจนกลายเป็แบบนี้!
ตรงนี้มีถ้วยไหม เหยียนจิ่งจื้ออยากจะเอามาเขวี้ยงทิ้ง
“ไม่มีอะไร” เหยียนจิ่งจื้อจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง กำหมัดแน่นเพื่อกดอารมณ์ เขาตัดสินใจแล้ว ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ไม่ซื่อสัตย์ เช่นนั้นเขาก็ไม่จำเป็ต้องทำตามเหตุและผลแล้ว
เขาหมุนตัวเดินไป ครั้งนี้ไม่ว่าเนี่ยเซิงเสี่ยวจะเรียกอย่างไรก็ไม่หยุด
สุดท้ายเหยียนจิ่งจื้อยืนอยู่ตรงหน้ารถของตัวเองแล้วมองเนี่ยเซิงเสี่ยวที่ตามก้นของเขามา เขาเองก็แค่ยืนอยู่อย่างนั้น แต่เนี่ยเซิงเสี่ยวกลับรู้สึกถึงบรรยากาศสูงส่ง เธอหยุดห่างจากเขาสามเมตร
เหยียนจิ่งจื้อพยายามควบคุมตัวเองแล้วถามเธอ “เธอจะตามฉันไปถึงเมื่อไหร่?”
เนี่ยเซิงเสี่ยวสบตากับเขาโดยไม่มีความหวาดกลัว “จนถึงตอนที่คุณเหยียนยอมตามฉันไปที่โรงพยาบาลค่ะ”
“ให้เหตุผลฉันมาสักข้อ”
เนี่ยเซิงเสี่ยวเริ่มลังเลอีกครั้ง ให้ไม่ได้จริงๆ
เหยียนจิ่งจื้อนับถึงสาม อย่างนี้นี่เอง! ผู้หญิงคนนี้เป็คนที่จัดการยาก! ตอนที่เขาเข้าไปนั่งในรถของตัวเองก็พูดทิ้งท้ายเอาไว้
“ต่อไปฉันจะไปที่สโมสรชายหนุ่ม แล้วก็จะไปที่์ของโลกมนุษย์ ไม่แน่คืนนี้จะพาผู้หญิงกลับบ้าน ถ้าเธอยังจะตามมาฉันก็ไม่ว่านะ แต่ว่าอย่ามารบกวนฉัน”
เนี่ยเซิงเสี่ยวกัดริมฝีปากล่างของตัวเองจนเจ็บ ในใจก็มีเพียงความคิดเดียว เหยียนจิ่งจื้อ
กลายเป็คนนิสัยเสียไปแล้วจริงๆ