“แม้ว่าอายุฉันจะยังน้อยแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าความคิดความอ่านของฉันจะยังเป็เด็ก”
ซูหรงหรงพูดพลางสูดน้ำมูกเข้า ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยเสียงอันแข็งกร้าว
“ฉันรู้ดีที่สุดว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่ฉันเป็คุณครูของโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง ฉันมักจะพูดกับนักเรียนของฉันเสมอว่า...จะต้องตั้งเป้าหมายให้กับชีวิตตนเองและจะต้องใช้กำลังที่มีในการทำตามความฝัน ...และความฝันของฉันก็คือการได้แต่งงานและเป็ภรรยาของทหารฉันอยากจะเป็ภรรยาที่จะไม่ทำให้สามีต้องมาพะวงหน้าพะวงหลังสิ่งที่ทำให้พวกคุณหนักใจตอนนี้มันไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด”
ผู้สัมภาษณ์มองหน้ากันเลิ่กลั่กทั้งห้องตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบ
“พวกคุณคิดว่าสาวน้อยคนนี้เป็อย่างไรบ้าง?จะให้เธอผ่านมั้ย?”
“กฎระเบียบนั้นตายตัวแต่คนเรานั้นเป็สิ่งมีชีวิตที่พลิกแพลงได้ตลอดเวลา ฉันคิดว่าเด็กคนนี้เหมาะสมดีมากแม้ว่าอายุจะไม่มาก แต่ก็เป็คนมีเหตุมีผลและเข้าใจกฎเกณฑ์ต่างๆ เป็อย่างดีแล้วยิ่งดูจากความเคารพที่เธอมีให้กับทหารอย่างพวกเราอีกทั้งความคิดที่อยากจะเป็ภรรยาของทหารพวกเราคงจะไม่เอาเื่เล็กน้อยมาตัดสินความหวังอันยิ่งใหญ่ของเธอหรอกใช่หรือไม่”
“สาวน้อยคนนี้เป็คุณครูโรงเรียนอนุบาลทุกวันจะต้องอยู่กับเหล่าเด็กน้อย จิตใจคงจะอบอุ่นดีงามมากแน่นอนอีกอย่างหนึ่งหน้าตาก็สะสวย แค่ฉันเห็นหน้าเขา ฉันก็ให้เขาผ่านเข้าไปแล้ว”
ผู้สัมภาษณ์ปรึกษากันอีกครั้งสุดท้ายก็เปิดไฟเขียวให้ซูหรงหรงผ่านเข้าไปได้ จึงถือว่าเป็การสิ้นสุดการสัมภาษณ์และเป็เหมือนการประกาศชัยชนะของซูหรงหรง
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”
ซูหรงหรงก้มหัวคำนับ
ทันทีที่ออกจากห้องสัมภาษณ์เธอรีบรุดตัวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเติมแป้งลงบนหน้า
เมื่อได้มองตนเองในกระจกเธอก็อดไม่ได้ที่จะทำหน้าบูดบึ้งอย่างล้อเลียนก่อนจะเปล่งเสียงที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น
“ซูหรงหรง...เธอนี่ช่างจะเป็คนที่มีความสามารถในการแสดงฉันว่าเธอควรจะได้รับรางวัลออสการ์ประจำปีนี้ดูสิ...แค่ลงทุนบีบน้ำตาร้องไห้นิดหน่อยทำตัวเหมือนหมาน้อยน่าสงสารเขาก็ปล่อยเธอผ่านเข้ามาง่ายๆ แล้ว ฮ่าๆ...ทำอาหารก็ได้เก็บกวาดก็เก่ง ช่างจะกล้าพูด!”
ซูหรงหรงยืนยิ้มแสดงความยินดีกับตัวเองในห้องน้ำที่ไม่มีคนอยู่สักพักใหญ่เมื่อเติมเครื่องสำอางเสร็จแล้วเธอก้าวเท้าออกมาด้วยท่าทีสงบนิ่งแบบกุลสตรี จากนั้นก็เริ่มออกเดินหาคู่
เธอเม้มริมฝีปากสีเชอร์รี่ตลอดทางที่เดิน ปาร์ตี้ในครั้งนี้เสมือนงานเลี้ยงของคนชนชั้นสูงที่เธอไม่มีวันััได้ถึงบรรยากาศแบบนั้นแต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่คิดจะกลับลำเรือตอนนี้ ยังไงซะเธอก็จะหาผู้ชายที่ดีกว่ากู้แหยนเจ๋อเป็ร้อยเท่าพันเท่ากลับไปให้ได้
เธอจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคและกำจัดผู้หญิงที่ร้องไห้เป็บ้าเป็หลังคนนั้นออกไปเมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็เดินตรงต่อไปที่ประตูสีเขียวเข้มอันใหญ่โต
พอตัวเธอก้าวผ่านประตูเข้ามาเธอก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปดูกลุ่มคนที่กำลังโศกเศร้าเสียใจเพราะไม่ผ่านการคัดเลือกเธอที่พกความมั่นใจมาเต็มร้อยทำท่าส่งจูบไปที่หญิงสาวเ่าั้ “oh baby, ฉันจะเป็ตัวแทนของพวกเธอไปเลือกหนุ่มๆ ทหารและสัญญาว่าจะไม่ทำให้พวกเธอผิดหวัง”
ซูหรงหรงกำมือแน่นแสดงออกถึงความมุ่งมั่น
กู้แหยนเจ๋อ เตรียมตัวรอฉันพาแฟนทหารไปจัดการนายก่อนเถอะฉันจะทำให้นายเสียดายจนตาละห้อยเลยล่ะ
จากนั้นเธอก็ดันประตูทางเข้าสีเขียวเข้มไปจนสุด จู่ๆ ซูหรงหรงก็ขยับเท้าถอยหลังอย่างรวดเร็วบรรยากาศมันดูอึมครึมและเคร่งเครียดเกินไป เธอกำกระเป๋าถือใบเล็กๆ ที่เพิ่งซื้อมาในราคาร้อยกว่าบาทจากเว็บไซต์เถาเป่าไว้แน่น
อยู่ๆ เธอก็รู้สึกได้ถึงความเย็นะเืที่ถูกส่งออกมาจากที่ไหนสักที่
ให้ตายเถอะ มันควรจะคึกคักกว่านี้หน่อยสิ
ถึงแม้เธอจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆก็รู้สึกหนาวขึ้นมาดื้อๆ ไหล่ของเธอหดเล็กลงตามสัญชาตญาณใจของเธอตอนนี้อยากจะหันหลังกลับไปเลยด้วยซ้ำ
“ขอโทษนะคุณผู้หญิง กฎของเราคือผู้ที่มาเข้าร่วมงานไม่สามารถกลับก่อนได้ถ้างานยังไม่จบ”
พนักงานต้อนรับคิดว่าซูหรงหรงจะถอดใจกลับไปแล้วรีบเอ่ยรั้งเธอไว้ก่อนจะฉีกยิ้มให้หนึ่งครั้งปฏิกิริยาของซูหรงหรงค่อนข้างรวดเร็ว เธอรีบชักเท้ากลับเข้ามาเธอรวบรวมพละกำลังไว้ที่มือทั้งสองข้างก่อนที่เธอจะเยื้องย่างด้วยสะโพกอันอวบอิ่มเข้าไปในงานนัดหาคู่
ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดมากเลย อาจจะเป็เพราะแอร์ที่นี่เปิดอุณหภูมิต่ำเกินไปก็ได้