กลางป่ามืดครึ้ม กลิ่นคาวเืคละคลุ้ง
มนุษย์พิเศษล้มลงกับพื้น ยังไม่ทันร้องสักแอะ ก็พลีชีพไปเรียบร้อยแล้ว แผลที่คอบาดลึก ต่อให้ร่างกายแข็งแกร่งเพียงไหนก็ไม่รอด
ฉู่เฟิงใจเต้นแรง ถึงโทสะยังอัดแน่นอยู่ในอก ทว่า ครั้งแรกที่ฆ่าคนด้วยมือตัวเอง มันก็ยากที่จะยอมรับได้
เขาสูดหายใจลึก ปรับอารมณ์ให้ตัวเองเยือกเย็นเข้าไว้ แล้วก้าวเดินยาวๆ ไปข้างหน้า
ผู้หญิงคนนั้นบ้าไปแล้วจริงๆ ลงมือกับเขาอย่างนี้ แล้วจะให้เขาออมมืองั้นหรือ? เขาไม่อยากฆ่าคน แต่จะไม่เืเย็นก็ไม่ได้ ดูท่าจะต้องปรับตัวรับสภาพแวดล้อมอันโหดร้ายนี้ให้ได้
ฉู่เฟิงแฝงตัวลัดเลาะไปในป่า ด้วยพื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็ง ผ่านไปไม่นาน เขาก็สงบลง แล้วปรับสภาพจิตใจตัวเอง
ฆ่าคนครั้งแรก กลับเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้
ในป่าเงียบสงัด ฉู่เฟิงเป็ดั่งสัตว์ร้ายที่ค่อยๆ คืบคลานเข้าใกล้เหยื่อทีละตัวๆ
การขัดเกลาในูเาาไม่เสียเปล่าเลยจริงๆ แม้จะเป็การฆ่าคนครั้งแรก แต่เขาสงบมั่นคงอย่างยิ่ง สามารถความคุมจิตใจให้เยือกเย็นได้
ตอนนี้ เงียบงันอย่างไร้สุ้มเสียง ฉู่เฟิงเตรียมร่างกาย พร้อมที่จะเข้าโจมตีแบบปลิดชีพได้ทุกเมื่อ
เจุ์พิเศษอีกคนแล้ว
คนผู้นี้่แขนล่ำสัน ร่างกายท่อนบนบึกบึนอย่างกับกอริลลา ผมยาวกระเซอะกระเซิง เขาซุ่มโจมตีอยู่ตรงนั้น สายตามองไปทางอื่น
เห็นได้ชัดว่ามนุษย์พิเศษคนนี้เป็นักฆ่าที่มีความอดทนเป็อย่างมาก พร้อมที่จะลงมือเชือดได้ทุกเวลา
แต่ว่า ตอนนี้ตัวเขากลายเป็เหยื่อที่จะถูกล่าไปเสียแล้ว!
ฉู่เฟิงระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากระยะระหว่างพวกมนุษย์พิเศษนั้นไม่ได้ไกลกันสักเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวผิดแปลกเพียงนิดเดียว ก็เรียกแขกมนุษย์พิเศษทั้งฝูงให้มารุมได้แล้ว
เขากระชับร่างกาย ผนึกกลิ่นอาย ทำตัวดุจดั่งเสือร้าย ที่แม้จะทรงพลัง สามารถจู่โจมพิฆาตเหยื่อได้ทันที หากกลับค่อยๆ ย่างกรายเข้าใกล้อยู่ในเงามืดอย่างเงียบเชียบ
เพียงเพื่อปลิดชีพในครั้งเดียว ออมแรงกาย เพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งยังไม่เปิดโอกาสให้เหยื่อตอบโต้อีกด้วย
ชิ้ง!
ทันใดนั้น กระบี่สั้นสีดำถูกชักออก ประหนึ่งสายฟ้าฟาดปาดพุ่งไปยังเบื้องหน้า
เสียงฉั่วะดังขึ้น ด้วยความแม่นยำและรุนแรง ลำคอของมนุษย์พิเศษคนนั้นถูกเฉือน กระบี่สั้นปาดผ่านอย่างรวดเร็วเืสาดกระจาย
ฉู่เฟิงปลดปล่อยความดิบเถื่อนดั้งเดิมออกมา สังหารอย่างไร้ความปรานี!
ทว่า มนุษย์พิเศษคนนั้นทนทายาดเป็พิเศษ ถึงลำคอจะถูกเชือดจนเกือบขาด เขาก็ยังหมุนตัวกลับมา ใบหน้าบิดเบี้ยว ลำตัว่บนที่บึกบึนขยายใหญ่รวดเร็ว
ในพริบตา ร่างกายของเขาก็ปกคลุมไปด้วยขนสีดำ แม้แต่ใบหน้าก็ไม่เว้น เขี้ยวคมงอกออกจากปาก ดุดันและน่าพรั่นพรึง เขาพุ่งตัวไปข้างหน้า
เขาอยากกู่ร้อง แต่ติดที่ลำคอที่ถูกปาด ั์ตาทั้งคู่ส่อประกายเย็นเยียบ ทั้งขัดใจทั้งหมดหวัง ก่อนตายก็ยังขอเอาคืน
ฉู่เฟิงตะลึง คอของมนุษย์พิเศษคนนี้แทบจะขาดจากกันอยู่แล้ว กลับยังแปลงร่างได้ การตอบโต้ก่อนตายนั้นมันน่าตกตะลึงจริงๆ พลังชีวิตนั้นช่างมุ่งมั่นเหลือเกิน!
คนผู้นี้อย่างกับปีศาจลิง เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง มือทั้งสองใหญ่โตอย่างกับโม่หิน
ฉึก!
แต่น่าเสียดาย ฉู่เฟิงไม่เปิดโอกาสให้เขา เพียงแค่สะบัดมือ กระบี่สั้นสีดำก็พุ่งออกไปปักเข้ากลางหน้าผากของเขา เืสดๆ ไหลเป็ทาง คราวนี้มนุษย์พิเศษแน่นิ่งไม่ไหวติง ตาแข็งค้าง ล้มทั้งยืน
ฉู่เฟิงไหวตัวพุ่งเข้าไปรับร่างเขาแล้ววางลงกับพื้น มนุษย์พิเศษคนนี้ร่างใหญ่โต หากว่าล้มทิ่มลงไปย่อมทำลายความเงียบทันที
เขาดึงกระบี่สั้นสีดำออกมาแล้วเช็ดคราบเื ท่าทางดุจนักฆ่าผู้ช่ำชอง จากนั้นเริ่มลงมืออีกครั้ง ไอสังหารรุนแรง
ฉู่เฟิงเ็าไร้ความปรานี ที่อัดแน่นในอกคือโทสะอันร้อนแรง เขามุ่งตรงไปข้างหน้า คนพวกนี้ดักซุ่มอยู่ที่นี่เพื่อจะฆ่าเขา อย่างนั้นเขาก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจ
ไม่นานนัก เขาก็จัดการยอดฝีมืุ์พิเศษไปอีกสองคน
เวลานี้ ในป่าเงียบสงัด อย่าว่าแต่เสียงคำรามของสัตว์เลย แม้แต่เสียงนกก็ไม่ได้ยิน มันเป็ความเงียบงันแห่งความตาย
ฉู่เฟิงรู้ดี สถานการณ์ไม่เอื้อให้เขาแล้ว เป็ไปได้ที่มนุษย์พิเศษพวกนี้จะติดต่อสื่อสารกัน การลอบสังหารนี้น่าจะความแตกเสียแล้ว คนอื่นๆ คงจับสังเกตได้
ไม่อย่างนั้น ป่ากว้างใหญ่อย่างนี้จะเงียบสงัดอย่างฉับพลันได้อย่างไรกัน? ชัดเลยว่ากลิ่นอายสังหารแผ่กระจายเป็วงกว้างอย่างพลุ่งพล่าน
ทันใดนั้น ฉู่เฟิงรู้สึกร่างกายชาดิก พร้อมกับความรู้สึกเ็ป เหมือนกับถูกหวดด้วยหอกที่กลางหลัง เขารู้สึกร้อนรนรุนแรง
เป็ลางสังหรณ์ของสัญชาตญาณที่บอกเขาว่า อันตรายที่จะมาถึงนั้นร้ายแรงถึงชีวิต
ฉู่เฟิงหมุนตัวรวดเร็วประหนึ่งเสือชีตาห์ ลัดเลาะในป่า พริบตาก็ห่างออกไปสิบกว่าเมตรแล้ว ความเร็วของเขาเหนือชั้นอย่างยิ่ง
ตูม!
ตอนนั้นเอง ไฟก็ลุกท่วมตรงจุดนั้น ะุอาร์พีจีลูกหนึ่งตกลงที่นั่น ราบเป็หน้ากลอง คือคำที่ใช้บรรยายอานุภาพของะเินี้ ก้อนหินใหญ่แตกกระจาย ต้นไม้ล้มระเนระนาด
ฉู่เฟิงเห็นมนุษย์พิเศษคนหนึ่ง กางปีกสีม่วงลอยตัวอยู่กลางอากาศ พลางมองมาทางเขา บนไหล่แบกอาร์พีจีไว้กระบอกหนึ่ง
ตอนนั้น มนุษย์พิเศษก็เล็งปืนอีกครั้ง ปากก็ะโ “อยู่ตรงนี้!”
พวกเขาไม่รู้หรอกว่าเป้าหมายหน้าตาเป็อย่างไร ก็แค่วิ่งมาตามคำสั่ง ครู่เดียวก็มีคนพุ่งเข้ามาล้อมกรอบ ฆ่าได้เลยไม่ต้องถาม!
มนุษย์พิเศษนั้นไม่อ่อนแอ ฉู่เฟิงเพิ่งเริ่มไล่ฆ่า ก็ถูกจับได้เสียแล้ว คราวนี้คงรับศึกหนัก
ความเงียบถูกทำลาย ไอสังหารเข้มข้นค่อยๆ แผ่กระจายเต็มป่า เงาร่างสิบกว่าร่างพุ่งตรงมายังทิศนี้
ตูม!
กลางอากาศ มนุษย์พิเศษคนนั้นพอใส่ะุเรียบร้อยก็ยิงใส่อีกรอบ เขามีความสามารถในการทรงตัวในอากาศอันเยี่ยมยอด ให้แบกอาวุธหนักอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ก้อนหินะเิกระจัดกระจาย ต้นไม้หักโค่น ตำแหน่งที่ฉู่เฟิงยืนอยู่แต่แรกถูกทลายราบคาบ กลายเป็ตอตะโก
เขาหลบพ้นแต่แรกด้วยััอันฉับไวที่เตือนให้เขารู้ล่วงหน้าถึงภยันตราย
ห่างออกไปคืุ์พิเศษที่แข็งแกร่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไหนจะเสียงะเิรัวดังสนั่น เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธก็มา แรงะเิรุนแรงน่ากลัว
“แกต้องตาย!” เสียงคนคำราม
ขณะเดียวกัน มนุษย์พิเศษที่อยู่กลางอากาศกำลังส่องหาเขา การโจมตีทั้งสองครั้งของเขาพลาดเป้า ทำให้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ นี่เขาเจอตัวประหลาดอะไรกันเนี่ย?
ััอะไรจะว่องไวปานนั้น?
ที่เทียนเสินเซิงอู้ เขาได้พบปรมาจารย์ท่านหนึ่ง ยามที่ฝึกสอนวิชาให้พวกเขา ท่านผู้เฒ่าเคยกล่าวว่า ในอดีตกาลมียอดฝีมือผู้เยี่ยมยุทธ ประสาทััว่องไวอย่างน่ากลัว สามารถหลบหลีกภยันตรายได้ทุกรูปแบบ
ตอนนนี้ เขาได้พบเจอเข้าแล้วคนหนึ่งงั้นหรือ?
มนุษย์พิเศษที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วร่าง เขารู้ว่าพวกคนที่กำลังล้อมกรอบอยู่นั้นอาจทำไม่สำเร็จ ััของคนผู้นั้นเฉียบคมอย่างร้ายกาจ!
ทันใดนั้น เขาขนลุกไปทั้งตัว หนังหัวชายิบ รู้สึกเหมือนกับถูกสัตว์ร้ายแห่งป่าาจับจ้อง
ทว่า เขาลอยอยู่กลางอากาศนี่นา ใครจะมาทำร้ายเขาได้? แต่เขาก็เคลื่อนไหวในทันที กระพือปีกอย่างรุนแรง ทะยานขึ้นสู่เบื้องบน
ทว่าสายเกินไปเสียแล้ว เงาดำที่รวดเร็วว่องไวดุจเทพวานรทะยานฟ้า พุ่งขึ้นมาจากยอดต้นไม้ใหญ่ ในมือถือกระบี่สั้นสีดำ เสียบแทงเข้าตรงหน้า
ฉึก!
ฉั่วะ!
เสียงดังติดๆ กันสองครั้ง ศีรษะของมนุษย์พิเศษตกสู่พื้นดิน เืสดๆ ไหลนอง ตายคาที่
นอกจากนี้ กระบอกอาร์พีจีที่เขาแบกไว้ก็ถูกกระบี่สีดำตัดผ่าออกเป็สองท่อน ร่วงลงมาจากอากาศ
มนุษย์พิเศษที่กรูกันเข้ามาได้เห็นฉากนั้นเข้าพอดี ทุกคนล้วนแตกตื่น นี่มันวิชาอะไร? คนคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว
พวกเขาเห็นอย่างชัดเจน เงาดำทะยานผ่านไปดั่งัพิโรธ ในมือถือกระบี่สั้นสีดำ มุดลงยอดไม้ จากนั้นหายไปจากสายตา
นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว คนผู้นั้นพุ่งทะยานจากยอดไม้สู่กลางอากาศ เผด็จศึกยอดมนุษย์พิเศษที่ลอยอยู่กลางฟากฟ้า รวดเร็ว ฉับไว สังหารในดาบเดียว!
มนุษย์พิเศษคนอื่นๆ ต่างหนักใจขึ้นมาทันที นี่พวกเขาเจอสัตว์ประหลาดเข้าใช่ไหม ตอนแรกกะแค่ซุ่มฆ่า แต่มาตอนนี้ต้องทุ่มกันอีกเท่าไหร่จึงจะกำจัดคนคนนี้ได้
ตูม!
เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธมาถึงแล้ว สาดะุใส่ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้น ในพริบตา ใบไม้ปลิวว่อน สุดท้าย ต้นไม้ั์ถึงกับล้มครืน
ทว่า กลับไม่พบคนคนนั้น เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
อำเภอเมือง ในคฤหาสน์หลังหนึ่ง
สวีหวั่นชิงเดินพล่าน เป็กังวลอย่างยิ่ง ตราบใดที่ยังกำจัดยอดฝีมือคนนั้นไม่ได้ เธอไม่มีทางเป็สุข คอยแต่จะเป็กังวลว่าหลินนั่วอีจะรู้เื่ที่เธอก่อขึ้น ไหนจะกลัวว่ายอดฝีมือคนนั้นจะมาล้างแค้นเธออีก
“หวั่นชิง อย่าเครียดน่า มาชิมไวน์แดงขวดนี้สิ รสชาติไม่เลวเลยจริงๆ”
ชายหนุ่มนามว่า มู่ สงบอย่างยิ่ง ใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งหล่อเหลา ทั้งสง่างาม เขาคงความนุ่มนวลได้ตลอดเวลา ไม่กังวลเลยสักนิด
ทันใดนั้น เครื่องมือสื่อสารของเขาก็ดังขึ้น มีคนโทรหาเขา
สวี่หวั่นชิงมองมาทางเขา สีหน้าเปลี่ยนเป็ร้อนรน
“พบเป้าหมายแล้ว แต่ตึงมือมาก...”
มู่ได้รับรายงาน ว่าภายในเวลาอันรวดเร็ว เขาได้เสียมนุษย์พิเศษไปแล้วถึงห้าคน ความเสียหายนี้ไม่ใช่น้อยๆ
“แล้วยังรออะไรอยู่อีก กินน้ำยาสูตรใหม่นั่นซะ ได้ใช้ทดสอบกับของจริงพอดี ต่อให้เป็เทพวัชระมาเอง ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะไร้รอยขีดข่วน ฉัน้าให้จับเป็มาให้ฉัน!” ชายหนุ่มนามว่า มู่ กำชับกำชา
หลังจากวางสาย เขามีสีหน้าเ็า รอยยิ้มแย้มถูกเก็บ เอ่ยว่า “เป็ยอดฝีมือจริงๆ ด้วย มีความเป็ไปได้ที่จะเป็หนึ่งในร้อยอันดับน่าเกรงขามแห่งแผ่นดิน
“ร้ายกาจขนาดนั้นเชียว?” สวีหวั่นชิงถึงกับใ ั์ตาหงส์เบิกกว้าง ริมฝีปากเย้ายวนเผยออกให้เห็นไรฟันขาวสะอาด เธอกระวนกระวายยิ่งขึ้น
เพราะคนอย่างนี้ หากปล่อยให้หนีรอดไปได้ ย่อมเป็ภัยอย่างร้ายแรงในภายหลัง
“วางใจได้ มันหนีไม่รอดหรอก ทีมของผมก็มีมือดีชั้นยอดเหมือนกัน ถ้าเขากินน้ำยาสูตรใหม่นั่นล่ะก็ อาจจะถึงกับท้าสู้กับพวกเทพวัชระ หรือเทพอัคคีได้เลย” มู่ตอบอย่างเยือกเย็น
อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่มีท่าทีสูงสง่าอีกแล้ว เป็เพราะมนุษย์พิเศษที่ตายไปห้าคนนั้น ทำให้เขาเ็ปอย่างยิ่ง นี่เป็คนที่ทางสกุลมู่เรียกตัวมา ทั้งยังเป็ขุมกำลังของเขาอีกด้วย
“น้ำยานั่นได้ผลจริงๆ หรือ?” สวีหวั่นชิงถาม
“มีประสิทธิภาพอย่างมาก สามารถปลดปล่อยพลังที่ซ่อนเร้นของคนเราได้ พละกำลังเพิ่มขึ้นได้ั้แ่ไม่กี่เท่าจนถึงสิบเท่าแตกต่างกันไปในแต่ละคน” มู่ตอบ ลึกลงไปในแววตาคือเปลวไฟโหมเริงแรง
“ไม่ใช่ว่าอยู่ระหว่างการทดลองหรอกหรือ?”
“ตอนนี้ก็ใช้ได้แล้ว ครั้งนี้จะเอามาประเดิมใช้กับคนของโพธิจีนส์ในการสู้จริง แต่ว่ายอดฝีมือคนนั้นดันโผล่มาเสียก่อน ก็ใช้มันสังเวยเสียเลย!” คำพูดของมู่เรียบเฉย หากมีแววเ็า
ในป่า ฉู่เฟิงขมวดคิ้ว พื้นที่ตรงนี้ถูกจัดฉากไว้ก่อนแล้ว ย่อมมีเครื่องดักจับตำแหน่ง ขนาดเขาเก็บไปแล้วร่วมสิบคน ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง
แถมตอนนี้ เขายังถูกล้อมกรอบทีละนิด
หลังจากสังหารมนุษย์พิเศษไปห้าคน ตรงนี้ยังเหลืุ์พิเศษอีกสิบสามคนที่กำลังรุมฆ่าเขา รวมแล้วมีมนุษย์พิเศษทั้งหมดสิบแปดคน อีกทั้งยังมีอาวุธหนักสารพัดชนิด เรียกว่า ทุ่มเงินไปไม่น้อย
“ดื่มน้ำยา จะได้ทดสอบในการสู้จริง พอฆ่ามันแล้ว พวกเราค่อยไปถล่มพวกโพธิจีนส์ที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้น!” หนึ่งในกลุ่มมนุษย์พิเศษกำชับหนักแน่น
มนุษย์พิเศษพวกนี้ หลังจากที่ถูกกระตุ้นพลังอันร้ายกาจแล้ว ต่างก็เผยร่างอันแท้จริงออกมา แต่ร่างล้วนแปลกประหลาดต่างกันไป
มนุษย์พิเศษบางคนสูงเกินกว่าสามเมตร ร่างกายสูงใหญ่ ปกคลุมไปด้วยหมอกควัน มีพลังะเิรุนแรง
ส่วนมนุษย์พิเศษบางคนครึ่งร่างกลายเป็หิน ยามที่ัักับสิ่งใดก็ตาม จะเปลี่ยนสิ่งนั้นให้เป็หินทันที ความสามารถนี้ ฉู่เฟิงถึงกับเลิกคิ้ว
แล้วก็มีมนุษย์พิเศษอีกคน ร่างกายลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟร้อนแรง ปลายเท้าคือบ่อลาวาหลอมเหลว ดูแล้วมนุษย์พิเศษคนนี้อันตรายที่สุด น่าจะเป็หัวหน้า เขาทำให้ฉู่เฟิงรู้สึกได้ถึงภยันตรายที่คุกคาม
.........
มนุษย์พิเศษสิบสามคน สิบสามแบบ ล้วนแล้วแต่มีพลังที่น่ากลัว พวกเขาล้อมกรอบสี่ทิศแปดทาง มุ่งมั่นที่จะสังหารฉู่เฟิงให้มอดม้วยเสียตรงนี้
ส่วนเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นก็บินวนเวียน เตรียมพร้อมที่จะกราดยิงโจมตีอยู่ทุกเมื่อ หากไม่เกรงว่าจะทำร้ายพวกเดียวกัน ก็คงเปิดฉากกราดะุไปนานแล้ว
มนุษย์พิเศษสิบกว่าคนกำลังดื่มน้ำยา ของเหลวสีฟ้าใสในขวดคริสตัล ชวนให้เคลิบเคลิ้ม พอเปิดออกก็มีควันพวยพุ่งออกมา พร้อมกับกลิ่นหอมบางเบา
ฉู่เฟิงรู้สึกไม่ดี เนื่องจากพลังภายในของมนุษย์พิเศษสิบกว่าคนนี้เข้มแข็งขึ้น แต่ละคนกำลังกู่ร้อง ร่างกายสั่นเทา ั์ตาส่อประกายคุกคาม
ห่างออกไปไม่ไกล นักเคมีสูงวัยคนหนึ่งเฝ้าจับตาดูอยู่ที่ขอบสนามอย่างไม่ให้คลาดสายตา มาตอนนี้ สีหน้าของเขาฉายแววตื่นเต้นยินดี พร่ำร้องแต่คำว่ายอดเยี่ยม
นอกจากนี้ เขายังติดต่อกลับไปหาคนที่อยู่ในอำเภอเมือง
“หลังจากการปรับปรุงครั้งล่าสุด น้ำยาทำงานมีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สมรรถนะทางกายภาพของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยแปดเท่า บางคนเพิ่มขึ้นได้เกือบสิบเท่า!”
นักเคมีสูงวัยตื่นเต้นอย่างยิ่ง เขาเช็กข้อมูลจากชิปที่ติดตั้งในตัวของมนุษย์พิเศษพวกนั้น คุณสมบัติทางกายภาพแต่ละด้านของพวกเขาพุ่งพรวดจนน่าใ
“เยี่ยม!” มู่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เขาเก็บงำความตื่นเต้นอย่างยากลำบาก ขนาดคนอย่างเขายังอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้เลย
ในป่า นักเคมีสูงวัยแม้จะตื่นเต้นเป็อย่างมาก หากก็พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองให้นิ่ง เขาตรวจอย่างละเอียด ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วเอ่ย “ตัวสั่นมากไป อย่างนี้ไม่ได้การ สภาพจิตใจที่แปรปรวนเกินไปจะเกิดปัญหาได้ง่าย”
เขาคิดว่า นี่อาจเป็หนึ่งในสองจุดบกพร่องที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า ยังต้องปรับปรุงแก้ไขกันอีก
ตอนนี้ ฉู่เฟิงรู้สึกไม่ค่อยดี เพียงแค่ชั่วพริบตาเท่านั้น เขารู้สึกว่าไม่ใช่แค่มนุษย์พิเศษสิบกว่าคนเท่านั้นที่ล้อมเขาอยู่ แต่มันรู้สึกเหมือนกับมีมนุษย์พิเศษร้อยกว่าคนต่างหาก
เป็เพราะพลังของมนุษย์พิเศษที่ะเิออกมานั้นรุนแรงเกินไป คนหนึ่งคนเหมือนกับว่าเพิ่มขึ้นถึงสิบเท่า อันตรายเสียจนไม่อาจจะคาดเดา
“ทะลวงออกไปน่าจะได้อยู่นะ?” ฉู่เฟิงพูดกับตัวเอง
สีหน้าเขาเคร่งเครียด ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย เฝ้ารอคอยอย่างจดจ่อ จากนั้นค่อยๆ กางแขนทั้งสองออก ใช้พลังหมัดปีศาจวัว สร้างร่างเทพสูงสุดขึ้นมา
“นั่นมันอะไรกัน?” มนุษย์พิเศษสิบกว่าคนนั้น แม้ว่ากำลังตื่นเต้นกับพลังที่เพิ่มพูน สภาวะจิตใจแปรปรวน หากก็ยังตระหนกใ เบิกตาจ้องไปยังเบื้องหน้า
ฉู่เฟิงกำหมัด เื้ัของเขาคือวัวั์สีดำสนิท ที่เหมือนกับข้ามผ่านมาจากอดีตกาล ทะยานมาสู่ที่ราบตรงหน้านี้
ปราณแห่งท้องทุ่งกว้างใหญ่พุ่งเข้าปะทะใบหน้า เหมือนกับจะชักพาให้กลับไปสู่แผ่นดินา!
นี่เป็ร่างเทพสูงสุดของวิชาหมัดนี้
พร้อมกันนั้น ฉู่เฟิงเริ่มหายใจด้วยเคล็ดหายใจพิเศษ นี่คือไม้ตายของเขา ทุกครั้งที่งัดออกมาใช้ จะเพิ่มพูนพลานุภาพให้พลังหมัดอย่างยิ่งยวด
ยามปรกติ เขาใช้วิธีนี้น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย แม้ในยามสังหารพวกสัตว์ร้ายก็ยังไม่งัดออกมาใช้
ตอนนี้ อันตรายร้ายแรงรออยู่ตรงหน้า ก็ต้องเอาออกมาอวดกันหน่อย
“คนพวกนี้สภาพจิตใจแปรปรวนอารมณ์ไม่มั่นคง เป็จุดอ่อนร้ายแรง บางที เราน่าจะลองใช้เสียงโคกัมปนาทดูสักหน่อย”
ฉู่เฟิงลอบคำนวณ ด้วยเพราะนี่ไม่เพียงเป็การโจมตีทางคลื่นเสียงเท่านั้น หากยังเป็การโจมตีพลังจิตอย่างรุนแรง พลังทำลายล้างอาจทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้
มนุษย์พิเศษสิบกว่าคนมีท่าทางคุกคามอย่างน่ากลัว ลูกั์ตามีแววบ้าคลั่ง ดาหน้าพร้อมกันกดดันฉู่เฟิง ทุกคนเตรียมที่จะพุ่งเข้าสังหารเขา
วินาทีต่อมา ทั้งสองฝ่ายลงมือแทบจะพร้อมกัน!
โฮก!
เสียงคำรามดังสนั่น สะท้านฟ้าะเืดิน ประหนึ่งสายฟ้าฟาดลงกลางป่า ใบไม้โดยรอบร่วงกราว ก้อนหินยังทลาย แม้ต้นไม้ั์จะไม่หักล้ม หากก็แตกร้าวเป็ทางยาว
ทั้งหมดเกิดจาก พลังทำลายล้างของเสียงคำรามจากฉู่เฟิง!
อีกทั้งพลังหนุนจากเคล็ดหายใจแบบพิเศษ เสียงคำรามนี้ ประหนึ่งโคั์จากากู่ร้อง ปานเสียงอสนีบาตฟาดผ่าแผ่นดินจนะเืเลื่อนลั่น
“อ๊าก...”
ภาพอันน่าสยดสยองได้เกิดขึ้น มนุษย์พิเศษสิบกว่าคนนั้นสภาพจิตใจแปรปรวนอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง อาการยิ่งร้ายแรง พวกเขาแต่ละคนกรีดร้องโหยหวน เืออกจากทวารทั้งเจ็ด กุมศีรษะ กรีดร้องยาวนาน บางคนทรุดลงกับพื้น สิ้นใจไปในทันที
เป็เพราะเสียงโคกัมปนาทนั้นไม่ได้เป็เพียงการโจมตีด้วยคลื่นเสียงเท่านั้น หากยังเป็การโจมตีพลังจิตอย่างรุนแรง คนพวกนี้หากอยู่ในสภาพปรกติ ย่อมไม่มีทางเป็เช่นนี้
ตอนนี้ พวกเขาไม่ต่างกับยางยืดที่ถูกขึงจนตึง หากก็ยังคงถูกดึงยืดออก สุดท้าย บางคนทนไม่ไหว จิตใจถูกทำลายไม่เหลือ
“ไม่!” นักเคมีสูงวัยั์ตาแดงฉาน มันคือความพ่ายแพ้อย่างใหญ่หลวง จุดอ่อนของน้ำยาที่พัฒนาในครั้งนี้ ถูกตีแผ่ออกมาจนสิ้น
เขาอยากโถมตัวออกไป แต่แล้วกลับกระอักเื ไม่อาจทนพลังเสียงนั้นได้ ในที่สุดก็ล้มลงในป่า
อำเภอเมือง ในคฤหาสน์
สวีหวั่นชิงสงบลง เมื่อรับรู้ว่าฤทธิ์ของน้ำยาได้ผลอย่างน่าใ มันเพิ่มประสิทธิภาพให้กับมนุษย์พิเศษได้ถึงสิบเท่า นี่มันจะน่ากลัวได้ขนาดไหนกันนะ?
ความสามารถของมนุษย์พิเศษสิบกว่าคนเพิ่มขึ้นพร้อมกัน ก็เท่ากับมีมนุษย์พิเศษร้อยกว่าคนลงมือพร้อมกัน
ตอนนี้ เธอเชื่อคำพูดของมู่ที่ว่า ต่อให้เทพวัชระมาเอง ก็เป็ไปไม่ได้ที่จะไร้รอยขีดข่วน และยิ่งเป็ไปไม่ได้ที่เทพวัชระคนเดียวจะกำจัดได้ทั้งหมด
เธอเผยรอยยิ้ม ริมฝีปากแดงสด ตาเรียวดั่งตาหงส์ชม้อยชม้าย ยั่วยวนและเปี่ยมเสน่ห์
มู่มีท่าทีสบายใจ ก่อนหน้านี้ไม่นาน เขาออกจะพลุ่งพล่านไปหน่อย แต่ตอนนี้กลับมาสงบดังเดิมแล้ว ความสูงสง่าหวนคืน เขายิ้มนุ่มนวลพลางเอ่ย “รอฟังรายงานความสำเร็จเถอะ ไม่เพียงแต่กำจัดยอดฝีมือนั่นได้เท่านั้นนะ หากยังกำจัดกำลังของกลุ่มโพธิจีนส์ได้อีกด้วย ตอนนี้ผมมั่นใจเต็มที่เลยล่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน” สวี่หวั่นชิงเองก็แย้มยิ้ม ชูแก้วไวน์ให้กับมู่
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้