ขอทานน้อยดวงตาลุกวาว ฉวยซาลาเปาไปจากมือของถังชิงหรูมากัดกินคำใหญ่
ถังชิงหรูเห็นเขากินอย่างมูมมามก็กลัวว่าจะติดคอ จึงแลกน้ำออกมาขวดหนึ่งส่งให้เขาดื่ม
ขอทานน้อยไม่เคยกินซาลาเปาอร่อยขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไม่เคยดื่มน้ำแร่ที่มีรสชาติหอมหวาน เขาเลียริมฝีปาก ท่าทางเหมือนอยากได้อีก แต่เขาเป็คนรู้จักพอ ของอร่อยแบบนี้ไหนเลยจะมีให้ตนเองกินอีก จึงไม่ได้เอ่ยคำร้องขอที่ดูไร้มารยาทออกไป
"วันนั้นมีคนสองสามคนบุกมาที่โรงหมอชิงตัวน้องชายคนหนึ่งไปจากมือของท่านหมอาุโคนนั้น น้องชายร้องห่มร้องไห้ไม่อยากไป แต่คนเ่าั้ก็ไม่แยแสว่าเขาจะยินดีหรือลากตัวเขาไปเลย ข้าได้ยินว่าพวกเขาเป็หน่วยคุ้มกันที่เ้านายของน้องชายผู้นั้นส่งมา ครานี้ออกมาเพื่อจับทาสที่หลบหนี"
"เ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขาเป็คนของจวนไหน" ถังชิงหรูเอ่ยถามพลางมุ่นคิ้วขมวด
"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน" ขอทานน้อยส่ายหน้า
ถังชิงหรูลูบศีรษะเขาอย่างอ่อนโยน แลกซาลาเปาออกมาอีกลูก เอ่ยว่า "พี่สาวรู้กลสับเปลี่ยนสิ่งของ เพราะเ้าเป็เด็กดี ก็เลยเปลี่ยนซาลาเปาออกมาให้สองลูก เ้าเก็บไว้ก่อน หิวค่อยกิน พี่สาวเป็เถ้าแก่ร้านหัวใจสตรี ต่อไปหากเ้าหิว ก็ไปหาได้ หากข้าอยู่ต้องช่วยเ้าแน่"
"ขอบคุณขอรับพี่สาว" ขอทานน้อยรับของมาด้วยความตื้นตันใจ "ท่านเป็คนดีที่สุดที่ข้าเคยพบมาเลย คนดีย่อมได้ดี ์จะคุ้มครองท่าน"
ถังชิงหรูยิ้มอ่อน โบกมือให้ขอทานน้อย ก่อนสาวเท้าก้าวใหญ่ไปที่โรงหมอ
เมื่อครู่ท่านป้าคนนั้นบอกว่าโรงหมอถูกทุบทำลาย นางรู้ว่าท่านหมอาุโพักอาศัยอยู่ในเรือนด้านหลัง ดังนั้นจึงคิดไปสอบถามกับเขาที่นั่น
ประตูหน้าคงไม่มีใครมาเปิดประตู นางจำต้องไปเคาะประตูด้านหลัง ก๊อกๆ ๆ ก๊อกๆ ๆ ทั้งหมดหกครั้ง ประตูบานใหญ่เปิดออก
"เ้าเป็ใครกัน" สตรีาุโคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตู ใช้ดวงตาขุ่นมัวจดจ้องนาง "ถ้าหากมาตรวจก็อย่ามาเลย ตาเฒ่าบ้านข้ายังลุกจากเตียงไม่ขึ้น ไม่มีปัญญารักษาโรคให้ผู้อื่นหรอก"
"ท่านป้า ข้ามีธุระมาพบท่านหมอ ท่านให้ข้าพบเขาได้หรือไม่" ถังชิงหรูล้วงเงินปลีกออกมาจากแขนเสื้อส่งให้ "วางใจเถิด แค่สอบถามไม่กี่ประโยค ไม่รบกวนพวกท่านหรอกเ้าค่ะ"
"เขาบอกว่าคนที่ส่งเด็กคนนั้นมาเป็แม่นางคนหนึ่ง ดูท่าเ้าคงจะเป็แม่นางคนที่ว่าสินะ" แม่เฒ่าเอ่ยถาม
"เ้าค่ะ" ถังชิงหรูตอบไปตามตรง "ข้าทราบว่านำปัญหามาให้ผู้าุโทั้งสอง ข้าต้องให้คำอธิบายแก่พวกท่าน"
"ไม่จำเป็หรอก" แม่เฒ่าไม่รับเงินจากถังชิงหรู แต่ยอมให้อีกฝ่ายเข้ามาในเรือน โดยที่นางเป็ผู้นำทางอยู่ด้านหน้า ไม้เท้าในมือกระทุ้งลงไปบนพื้นสะเปะสะปะ "ข้าได้ยินตาเฒ่าบอกว่าตามตัวของเด็กคนนั้นมีแต่าแเต็มไปหมด เ้าเป็คนจิตใจดี อุตส่าห์ช่วยเขามาจากน้ำมือคนสามานย์ ข้าหาใช่คนพาลไร้เหตุผล ย่อมรู้ว่าไม่เกี่ยวกับเ้า"
"แต่เป็ข้าที่พามา เดิมทีเื่นี้พวกท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ข้านำพาปัญหามาให้พวกท่านแท้ๆ " ถังชิงหรูกล่าว "นี่คือน้ำใจเล็กน้อยจากข้า ท่านป้า ท่านรับไปเถอะนะ ท่านหมอได้รับาเ็ครานี้ ยังไม่รู้ว่าเมื่อไรถึงจะหาย พวกท่านจะกินจะใช้ล้วนต้องใช้เงิน ข้ารู้ว่านี่ยังน้อยเกินไป มิอาจชดเชยความเสียหายที่พวกท่านได้รับ พวกท่านช่วยโอนอ่อนให้ข้าหน่อย รับเงินส่วนนี้เอาไว้เถิด"
ในมือนางที่จริงมีเงิน หลังจากเสี่ยวอีเปิดระบบได้แล้ว เงินของนางล้วนอยู่ในกระเป๋าของเสี่ยวอี จะหยิบออกมาเพิ่มก็ได้ แต่ต่อให้เป็เช่นนั้น ผู้เฒ่าคู่นี้ก็ไม่ยอมรับอยู่ดี ดังนั้นจึงต้องมอบให้ตามสมควร อย่างน้อยเงินส่วนนี้ก็พอที่จะให้พวกเขารับไว้
"ใครมาน่ะ?" เสียงท่านหมอาุโดังมาจากในห้อง "ข้าได้ยินเสียงแม่นางคนหนึ่ง แม่นางผู้นั้นมารึ"
"ใช่แล้ว พ่อเฒ่า แม่นางผู้นั้นมาแล้ว" แม่เฒ่าตอบกลับไปจากด้านนอก "ท่านนอนเฉยๆ อย่าขยับนะ ข้าจะพานางเข้าไป"
"รีบเข้ามา" เสียงท่านหมอาุโเร่งเร้าจากด้านใน
ถังชิงหรูไม่จำเป็ต้องให้หญิงชรานำทาง นางเดินเข้าไปผลักประตูแล้วกวาดมองหาท่านหมอาุโในห้อง เห็นเขานอนอยู่บนเตียงด้านล่างมีกระโถนสำหรับถ่ายเบาอยู่ใบหนึ่ง ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรค่อนข้างรุนแรง แค่ดมดูก็รู้ว่าต้องสะสมมาหลายวันแล้ว
อายุของท่านหมอก็มากอยู่แล้ว ยามนี้ถูกชายฉกรรจ์ตีจนขาหักไปข้างหนึ่ง จึงต้องนอนบนเตียงลุกขึ้นมาไม่ได้
เขามองถังชิงหรู แววตาเปี่ยมไปด้วยความละอายใจ "แม่นาง เป็ข้าไม่ดีเอง ปกป้องเด็กคนนั้นไม่ได้"
"ท่านหมอ ท่านทำดีที่สุดแล้ว อย่าโทษตนเองเลยเ้าค่ะ" ถังชิงหรูรีบปลอบประโลม "ท่านทราบหรือไม่ว่าใครเป็คนทำ"
"เดิมทีข้าไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็ก จนกระทั่งคนเ่าั้อธิบายถึงได้กระจ่างว่าเขามาจากไหน" ดวงตาของหมอเฒ่าเจือไปด้วยความเ็ป "แม่นางรู้จักเรือนเบญจมาศหรือไม่"
"หืม?" ถังชิงหรูครุ่นคิด ก่อนสั่นศีรษะ "ข้ามาอยู่เมืองชิ่งพักใหญ่แล้ว แต่ไม่เคยได้ยินสถานที่แห่งนี้มาก่อน"
"แม่นางมิเคยได้ยินเป็เื่ปรกติ คนดีอย่างแม่นางจะรู้จักสถานที่แบบนั้นได้อย่างไร เรือนเบญจมาศก็คือ... สถานที่ชั้นต่ำพรรค์นั้น"
"หอนางโลม?" ถังชิงหรูย้อนถาม
"หอนางโลมเป็ที่ของสตรี แต่เรือนเบญจมาศเป็ที่ของบุรุษ" พอเอ่ยถึงเื่แบบนี้หมอเฒ่าก็รู้สึกกระอักกระอ่วน ครั้นจะไม่พูดก็ไม่ได้
ถังชิงหรูกระจ่างใจทันที ที่แท้เรือนเบญจมาศก็คือหอชายบำเรอนี่เอง
เดี๋ยวนะ...
เด็กเล็กขนาดนั้นถูกเอาไปปล่อยในหอชายบำเรอ ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่าแ หรือว่าจะมีคนกระทำทารุณเยี่ยงเดรัจฉานกับเขา?
เด็กเล็กขนาดนั้น มีคนโรคจิตลงมือกับเขาได้ลงคอเชียวหรือ
"เด็กคนนั้นเพิ่งห้าขวบ คงไม่ใช่คนในนั้นหรอกกระมัง" ถังชิงหรูแอบหวังอยู่บ้าง
"คนที่มาจับตัวเด็กคนนั้นไปเรียกเขาว่าหลินหลันเซิง เป็บ่าวชั้นเลวทำงานหยาบของที่นั่น" หมอเฒ่ากล่าว
ถังชิงหรูได้ยินว่าเป็บ่าวรับใช้ ค่อยถอนหายใจอย่างโล่งอก เด็กเล็กขนาดนั้น นางไม่อาจทนฟังสิ่งที่เลวร้ายกว่านี้ได้จริงๆ
"หลินหลันเซิง เรือนเบญจมาศ ข้าทราบแล้ว" ถังชิงหรูกล่าว "ข้าจะไปหาเด็กคนนั้น ท่านหมอ วันหลังข้าจะมาเยี่ยมท่านใหม่"
"ไม่ต้องหรอกแม่นาง เ้ามีธุระก็รีบไปทำเถิด เื่ครานี้เป็ข้าที่จัดการไม่ดีเอง แม่นางไม่โกรธข้าก็ดีแล้ว" หมอเฒ่าเอ่ยอย่างละอายใจ
"ท่านหมออย่ากล่าวเช่นนี้ ท่านช่วยข้าดูแลเขาตั้งหลายวัน ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่ง" ถังชิงหรูลอบใส่น้ำพุแห่งจิติญญาลงไปในกาน้ำชาของพวกเขา ของสิ่งนี้ย่อมไม่ใช่ของนาง แต่เป็สิ่งที่แลกเปลี่ยนมาจากร้านค้าในระบบ ปรกตินางดื่มอย่างประหยัดมาก วันนี้เห็นความเมตตาปรานีของสองผู้เฒ่าจึงเติมของวิเศษให้กับพวกเขาสักหน่อย
คนดีเช่นนี้ ์ย่อมปกปักรักษาให้พวกเขาอายุยืนร้อยปีถึงจะถูก
ถังชิงหรูรู้ว่าสถานการณ์ของหลินหลันเซิงมิใคร่ดีนัก จึงไม่กล้าชักช้าเสียเวลา นางขึ้นไปนั่งบนรถ เตรียมมุ่งหน้าไปยังเรือนเบญจมาศ
ว่าแต่... เรือนเบญจมาศอยู่ที่ไหนล่ะ?
นางกวาดมองไปโดยรอบ จากนั้นก็บังคับรถไปหาขอทานน้อยคนนั้นที่มุมเดิม แต่ครั้งนี้นางไม่เจอเขา เห็นแต่ขอทานคนอื่นๆ
นางชี้ไปที่ขอทานคนหนึ่งแล้วถามว่า "เรือนเบญจมาศอยู่ที่ใด ไปอย่างไร"
ขอทานคนนั้นมองนางอย่างประจบสอพลอ "แม่นางให้เงินข้าสักหน่อย ข้าจะบอกท่านหมดเลย"
เมื่อครู่ที่ถังชิงหรูให้ซาลาเปากับขอทานน้อย เขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตอนนั้นยังนึกดูแคลนว่าแค่ซาลาเปาลูกเดียวจะสู้เงินได้อย่างไร เ้าโง่นั่นถึงกับเลือกเอาแต่ซาลาเปา ตอนนี้ถึงคราตนเองบ้าง ย่อมต้องขอเงิน แค่มีเงินสักหน่อยก็ซื้อซาลาเปาได้หลายลูกแล้ว
แววตาเหยียดหยันวาบผ่านแววตาของถังชิงหรู นางสะบัดแส้ แล้วหายไปจากตรงนั้น
ขอทานไม่ได้สิ่งที่ตนเอง้า ส่วนถังชิงหรูก็จากไปทั้งอย่างนั้น ก็ตีอกชกตัว รู้อย่างนี้ขอซาลาเปาซักลูกยังดีกว่า ขอทานคนอื่นเห็นเขาขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารอีกกำมือ[1]ก็พากันหัวเราะเยาะ ขอทานผู้นั้นทั้งหัวเสียและอับอายจนกลายเป็โทสะ ไล่ทุบตีขอทานคนอื่นๆ เป็พัลวัน
ยามนี้ ถังชิงหรูเร่งอาชามาถึงหน้าเรือนเบญจมาศ
ด้านหน้าค่อนข้างทรุดโทรม ไม่งดงามหรูหราอย่างที่จินตนาการไว้ อย่างไรเสียคนโบราณก็ยังรักหน้าตา การเลี้ยงดูชายบำเรอก็เป็เื่หนึ่ง หรือออกมาเที่ยวชายบำเรอก็เป็อีกเื่หนึ่ง
ก๊อกๆ ถังชิงหรูเคาะประตูใหญ่อย่างแรง
ยามนี้เป็เวลากลางวัน สถานบริการประเภทนี้ไม่ได้เปิดเร็วขนาดนั้น ร้านค้าทั่วไปเปิดทำการค้าตอนกลางวัน แต่กิจการของพวกเขาเปิดยามค่ำคืน
เมื่อมาตามหาคน ถังชิงหรูย่อมไม่เกรงใจ นางทุบประตูบานนั้นอย่างแรง จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมาถึงหยุด
แอ๊ด... ผู้มาเปิดประตูมองถังชิงหรูพลางเอ่ยว่า "นังโสโครก เ้ามาผิดที่แล้ว"
บุรุษผู้นั้นทาแป้งประทินผิวประพรมด้วยเครื่องหอม หากบอกว่าเป็ผู้ชาย ก็คงเพราะเขามีรูปลักษณ์เป็ชาย หากไม่มองแค่ภายนอก แต่ดูจากแววตาและท่าทางที่มีจริตมารยาซึ่งถอดแบบมาจากสตรี นางเคยอ่านจากหนังสือเล่มหนึ่งในสมัยศตวรรษที่สามสิบเอ็ด เรียกคนประเภทนี้ว่าเป็กะเทย
ถังชิงหรูปิดจมูกถอยหลังไปสองสามก้าว ใช้สายตารังเกียจมองบุรุษตรงหน้า "ข้ามาหาคน"
"เ้ามาหาคนในสถานที่พรรค์นี้ของพวกเรา?" ชายคนนั้นมองนางอย่างพินิจั้แ่หัวจรดเท้าก่อนหัวเราะคิกคักอย่างดัดจริต "น่าสนใจ เ้ามาหาใครเล่า มีขาประจำหรือยัง ถ้ายังไม่มี ข้าจะแนะนำให้ดีหรือไม่ ดูจากรูปร่างแบนเป็ไม้กระดานอย่างเ้า ขันทีอาจยังรับไม่ไหว งั้นก็หาแบบธรรมดาก็แล้วกัน เ้ามีเงินหรือไม่เล่า"
แววเยียบเย็นวาบผ่านดวงตาของถังชิงหรู แต่เพื่อมิให้เป็การแหวกหญ้าให้งูตื่น ให้พวกเขาเข้าใจผิดไปอย่างนี้ จะยิ่งหาตัวหลินหลันเซิงง่ายขึ้น
นางล้วงเงินออกมาจากแขนเสื้อสิบตำลึง "ข้าย่อมมีเงินอยู่แล้ว หากไม่มี จะกล้ามาหาคนที่นี่รึ"
"หา..." เดิมทีชายผู้นี้กำลังหลับอยู่ผมเผ้ายุ่งเหยิง อาภรณ์ก็ยับย่นไม่เรียบร้อย แต่พอเห็นเงินก็ยิ้มหน้าบาน ท่าทีที่แสดงกับถังชิงหรูแตกต่างจากเดิมถึงสามร้อยหกสิบองศา "แม่นางเชิญเข้ามาก่อน ที่นี่มีทุกอย่างที่ท่าน้า ท่านขอบุรุษแบบไหนล้วนมีทั้งสิ้น ขอแค่ท่านจ่ายไหว ข้าจะหาสามีที่เพียบพร้อมที่สุดให้กับท่านเอง"
ถังชิงหรูแสร้งรับคำไปสองสามประโยค หลังจากเดินเข้าไปในเรือนเบญจมาศ ก็พิจารณาการตกแต่งด้านใน ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็หอชายบำเรอ แต่แท้จริงแล้วก็ดูเหมือนบ้านคนธรรมดาหลังหนึ่ง การตกแต่งยังห่างชั้นกับหอนางโลมของเฟิ่งหยางลิบลับ
"หนุ่มๆ ทั้งหลาย รีบออกมาต้อนรับแขกเร็วๆ บ้านเรามีแขกผู้ทรงเกียรติมาเยือน ต้องปรนนิบัติอย่างดี" ชายผู้นั้นะโเรียกเข้าไปด้านใน
เขาพูดจาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ลากเสียงเนิบช้า ติดสำเนียงทางเจียงหนาน[2] หากเสียงนี้ออกมาจากปากสตรี ก็คงจะเย้ายวนเป็พิเศษ แต่พอเป็บุรุษ...
ถังชิงหรูตัวสั่นขนลุกเกรียวอย่างอดไม่ได้
นางจนปัญญาจะชื่นชมจริงๆ
--------------------------------------------------------------------------------
[1] ขโมยไก่ไม่สำเร็จยังเสียข้าวสารอีกกำมือ หมายถึงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นไม่ได้ กลับเสียเปรียบเอง
[2] เจียงหนานคือพื้นที่ตอนล่างและตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำฉางเจียง มีภูมิอากาศอบอุ่นทำการเกษตรได้ดี และเป็สถานที่ที่มีความงดงาม เป็แหล่งอารยธรรมโบราณขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง