บทที่ 38 กินแล้วก็ทิ้ง
โรงแรมจินชุนห้อง 1305
เย่จื่อเฉินมองหลี่เจียอี๋ที่นอนตัวอ่อนปวกเปียกเหมือนตุ๊กตาดินโคลนอยู่บนเตียงก็ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
เหตุการณ์แบบนี้เขาก็เพิ่งจะเคยเจอเป็ครั้งแรก
"เย่จื่อเฉิน!"
"เธอเลิกเรียกฉันสักที"
เย่จื่อเฉินเริ่มหงุดหงิด ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จริงๆ ใช่ไหมว่าตัวเธอในตอนนี้มันยั่วยวนขนาดไหน
เมื่อเปิดน้ำเย็นใส่อ่างอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เย่จื่อเฉินก็มาอุ้มหลี่เจียอี๋ขึ้นพาดบ่าแล้วก็โยนลงไป
"เธอต้องสงบสติอารมณ์"
เมื่อโยนเธอลงไปในอ่างแล้ว เย่จื่อเฉินจึงออกมาจากห้องน้ำแล้วก็กดโทรศัพท์โทรหาไป๋อี่
"เย่จื่อ มีอะไรถึงได้โทรมาดึกขนาดนี้?"
"ไอ้สอง ถ้าผู้หญิงโดนมอมยาต้องทำยังไง?"
ไป๋อี่เรียนเทคนิคการแพทย์ ถึงแม้ว่าเย่จื่อเฉินจะไม่รู้ว่าเขารู้วิธีแก้หรือเปล่า แต่กับสถานการณ์ตรงหน้านี้มันก็ยังพอมีหวังแม้จะน้อยนิดก็ตาม
"ง่ายๆ..."
ไป๋อี่สาธยายมายาวเป็หางว่าว จนสุดท้ายก็สรุปออกมาหนึ่งวิธี
ตบหน้าหน่อยก็หายแล้ว
เย่จื่อเฉินกลอกตาหลังจากที่ได้ยิน ถ้าวิธีนี้เขาก็รู้เหมือนกัน
"มีวิธีอื่นอีกไหม..."
หลังจากที่ไป๋อี่อ้ำอึ้งอยู่นาน
"มี!"
เมื่อวางสายโทรศัพท์ หัวใจของเย่จื่อเฉินก็เริ่มเต้นรัวอย่างแรง
ไป๋อี่แนะนำวิธีแก้ให้เขาก็จริงอยู่ แต่การนำมาใช้นั้นมันก็ค่อนข้างจะ...
"แม่เ้า จะคิดมากไปทำไมว่ะ สำหรับสถานการณ์ตรงหน้านี้มันก็ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว"
ตอนที่เย่จื่อเฉินเข้าไปในห้องน้ำ หลี่เจียอี๋นอนแช่อยู่ในน้ำเหมือนกับอยู่ในแอ่งโคลน
เมื่ออุ้มออกมาจากอ่างอาบน้ำ อีกฝ่ายก็เกาะเขาเอาไว้แน่นเหมือนกับแม่เหล็กที่หาขั้วเหนือใต้...
"จื่อเฉิน..."
"หลี่เจียอี๋ เธออย่ามาโทษฉันนะ ทุกอย่างนี้ก็เพราะว่าหวังดีกับเธอ"
สิ้นเสียง เย่จื่อเฉินก็โยนเธอลงบนเตียง แล้วจึงถอดกางเกงของเธอออก
วันต่อมา เมื่อแสงอรุณแรกส่องทะลุผ่านหน้าต่างลงมาบนเรือนร่าง หลี่เจียอี๋จึงคลึงศีรษะลุกขึ้นมาจากเตียง
เมื่อเธอเห็นว่าเย่จื่อเฉินนอนหลับใหลอยู่ข้างกาย ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมา
"เย่จื่อเฉิน"
บอกได้เลยว่าเมื่อคืนเย่จื่อเฉินทุ่มเรี่ยวแรงอยู่ตั้งครึ่งค่อนคืน เพื่อจัดการให้หลี่เจียอี๋สงบลง
เมื่อรู้สึกว่ามีคนดันตัวเอง เย่จื่อเฉินจึงลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ และเห็นหลี่เจียอี๋ก้มหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหมายอยู่พอดี
"เธอ...เธอตื่นแล้วเหรอ!"
เย่จื่อเฉินพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก แต่เพียงครู่เดียว เขากลับเห็นว่า
แก้มของหลี่เจียอี๋กระจ่างใสราวกับหยก แผลเป็ที่แก้มข้างซ้ายนั้นหายไปแล้ว
"หน้าเธอ..."
"อ๊ะ"
หลี่เจียอี๋อุทานใแล้วยกมือขึ้นลูบคลำใบหน้าข้างซ้าย เธอควานมือหาบางอย่างบนเตียงด้วยความตื่นตระหนก แต่กลับเห็นว่าเย่จื่อเฉินยื่นมือมา
"เธอหาอันนี้อยู่เหรอ?"
เย่จื่อเฉินอึ้งไปเลยจริงๆ ครั้งแรกที่เขาเห็นหลี่เจียอี๋เมื่อตอนมัธยมปลายก็เห็นปานอยู่บนหน้าของเธอแล้ว
ตอนนั้นเขายังคิดเสียดายแทนผู้หญิงคนนี้อยู่เลย ถ้าไม่มีปานเธออาจเป็ผู้หญิงที่มีออร่าเปล่งประกายอย่างหาอะไรเปรียบไม่ได้
แต่มาตอนนี้เขาถึงเพิ่งเห็นว่าปานนี้มันคือปานปลอม!
ผู้หญิงคนนี้หลอกพวกเขาและครูทุกคนมาตลอดสามปีเต็ม!
"เอามาให้ฉัน" หลี่เจียอี๋แย่งปานปลอมแผ่นนั้นกลับไปแปะไว้บนหน้าอีกครั้ง เย่จื่อเฉินที่เห็นการกระทำของเธอก็ถอนหายใจอย่างระอา "ฉันเห็นหมดแล้ว อยู่กับฉันเธอไม่ต้องโกหกแล้วก็ได้"
"นายห้ามบอกใครนะ"
"ฉันจะไปบอกใครเล่า พวกที่อยู่มอปลายฉันก็ไม่ค่อยได้ติดต่อเท่าไรแล้ว" เย่จื่อเฉินกลอกตาแล้วพูดขึ้น "ฉันก็แค่ไม่เข้าใจ ผู้หญิงทุกคนรักสวยรักงามกันไม่ใช่เหรอ หลายคนไปทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองสวยขึ้น แต่เธอกลับจงใจทำให้ตัวเองขี้เหร่ ทำแบบนี้มันมีประโยชน์กับเธอยังไง?"
"นายไม่ต้องยุ่ง"
หลี่เจียอี๋กัดปากแล้วลุกขึ้นจากที่นอน แต่่ล่างกลับเจ็บแปลบขึ้นมา และมีรอยแดงจางๆ อยู่บนเตียง ทำให้เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
นี่เขา...
แต่พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ดูเหมือนว่าเธอจะเป็ฝ่ายเริ่มก่อน
"ลืมเื่เมื่อคืนไปซะ คิดเสียว่าทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น ฉันก็ไม่ได้้าให้นายมารับผิดชอบ"
"โอเค"
เย่จื่อเฉินพยักหน้าโดยที่ไม่ต้องคิดเลย เหตุการณ์เมื่อคืนมันก็ค่อนข้างยากที่จะอธิบายจริงๆ ผู้หญิงค่อนข้างหน้าบาง ถ้าอีกฝ่ายไม่พูดขึ้นเองเขาก็ไม่มีความจำเป็ต้องปากมาก
"นาย..."
แต่ท่าทางที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดของเย่จื่อเฉินกลับะเืใจของหลี่เจียอี๋ ความรู้สึกดีที่เธอมีต่อเย่จื่อเฉินเมื่อตอนมัธยมปลายมันเยอะมาก
ไม่อย่างนั้นตอนที่เกิดเื่นั้นขึ้นเมื่อคืนเธอก็คงจะไม่พูดแบบนั้นออกไป หลังจากที่ได้เห็นเย่จื่อเฉิน
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็คนแบบนี้ กินแล้วก็ทิ้ง
ต้องโทษตัวเองที่มองคนผิด!
พอถลึงตาใส่เย่จื่อเฉินอย่างขุ่นเคืองแล้ว หลี่เจียอี๋ก็เดินกะเผลกออกไปข้างนอก เย่จื่อเฉินโดดลงจากเตียงเพื่อที่จะไปส่งเธอแต่กลับโดนเธอผลักออก
"เก็บความจอมปลอมของนายไว้เถอะ"
จากนั้นก็ร้องไห้วิ่งออกจากห้องไป เย่จื่อเฉินยืนงงคิดไม่ตกอยู่หน้าประตูห้อง
เกิดอะไรขึ้น เขาก็ไม่ได้ทำอะไรนี่
คิดดูแล้วเมื่อคืนดูเหมือนว่าหลี่เจียอี๋จะเป็ประจำเดือน เย่จื่อเฉินเกาหัว ผู้หญิงเวลามีประจำเดือนแล้วประหลาดแบบนี้เหรอ?
จากนั้นจึงเช็คเอาท์แล้วขับรถกลับมาที่หอ เพิ่งจะมาในหอก็เจอไป๋อี่ถือขันกำลังเตรียมจะออกไปจากห้อง
"เย่จื่อ"
"เ้าสอง" เย่จื่อเฉินตบบ่าเขาแล้วก็เตรียมจะเดินไปที่ห้อง ตอนอยู่ที่โรงแรมเขาก็ไม่ได้นอนดีๆ ต้องนอนชดสักตื่น
"อย่าเพิ่งไป อย่าเพิ่งไป" จู่ๆ ไป๋อี่ก็กระชากเขาไว้ หน้าตายิ้มอย่างมีความนัย "เมื่อคืนฟินไปเลยใช่ไหม"
"ฟินบ้าฟินบออะไร ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว" เย่จื่อเฉินดันเขาออกแล้วจะเดินเข้าไปในหอ
"ให้ตาย นายทำอย่างฉันบอกจริงๆ เหรอ?" ไป๋อี่อุทานใอย่างกับค้นพบแผ่นดินใหม่
"แล้วนายคิดว่าไง ฉันดูเป็คนฉวยโอกาสแบบนั้นเหรอไง? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันโสดมากว่ายี่สิบปีแล้วฝึกกล้ามเนื้อแขนมาเป็อย่างดี เมื่อคืนกล้ามเนื้อฉันก็คงเป็ง่อยไปแล้ว แต่จะบอกอะไรให้นะ ไอ้อ้วนนั้นก็สารเลวจริงๆ ไม่รู้ว่ามอมยาอะไรกับหลี่เจียอี๋..."
เย่จื่อเฉินลูบแขนที่ปวดหนึบของตัวเอง ไป๋อี่จับบ่าเขาเอาไว้แล้วพูด
"เมื่อกี้นายพูดว่าใครนะ หลี่เจียอี๋?"
"ใช่ไง หลี่เจียอี๋ เพื่อนห้องเดียวกับเราเมื่อตอนมอปลายนั่นแหละ"
"มิน่าล่ะ" ไป๋อี่ทำท่าว่าเข้าใจเื่ราวแล้ว ก่อนจะพูด "นายอย่ามาแสร้งทำเป็ไร้เดียงสากับพวกฉันหน่อยเลยน่า ถ้าเป็หลี่เจียอี๋ฉันก็ไม่กล้าแตะเหมือนกัน โอเค ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว นายก็ไปพักผ่อนเถอะ"
เมื่อโบกผ้าขนหนูที่อยู่บนบ่าแล้ว ไป๋อี่ก็เดินออกไป
เย่จื่อเฉินที่ยืนอยู่หน้าห้องยิ้มอย่างระอา ดูท่าว่าความทรงจำของเพื่อนมัธยมปลายที่มีต่อหลี่เจียอี๋จะมีแต่ปานนั่นสินะ
แต่ถ้าวันหนึ่งพวกเขาได้รู้ว่าปานของหลี่เจียอี๋เป็ปานปลอม ไม่รู้ว่าจะเป็ยังไงกันบ้าง
นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่โรงแรม หลี่เจียอี๋ที่ดึงปานออกมานั้นสวยยิ่งกว่าซูเหยียนเสียอีก
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทำไมผู้หญิงที่สวยขนาดนี้จะต้องทำตัวให้ขี้เหร่ด้วย?
เมื่อกลับมาถึงห้องก็เตรียมจะนอน แต่เพียงจะล้มตัวลง…
ติ๊ง!
ติ๊ง!
ติ๊ง!
จู่ๆ โทรศัพท์ของเย่จื่อเฉินที่วางไว้ใต้หมอนก็ดังขึ้นมา