บทที่ 39 มือสังหารัเข้าร่วมกลุ่มแล้ว
ไท่ไป๋จิงซิงได้เชิญขุนพล์หลี่จิ้งและนาจาเข้าร่วมกลุ่ม
ตือโป๊ยก่าย[1] : ท่านหลี่ก็เข้ามาด้วยเหรอเนี่ย
เทพสายฟ้า : มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามาอีกแล้ว
จี้กง[2] : องค์ชายสามเข้ากลุ่มแล้ว ดูท่าว่าต่อไปนี้กลุ่มจะต้องมีแต่ความสนุกแน่นอน
นาจา[3] : สวัสดีทุกท่าน คิดถึงข้ากันไหม
ขุนพล์หลี่จิ้ง[4] : มิน่าล่ะ่นี้ถึงไม่เห็นพวกท่านเลย ที่แท้ก็มารวมกลุ่มกันอยู่ที่นี่นี่เอง
เทพสายฟ้า : คนใหม่เข้ากลุ่มต้องส่งอั่งเปา
นาจา : ส่งอั่งเปา?
เทพสายฟ้า : รีบอธิบายให้คนที่มาใหม่เข้าใจเร็วเข้า @ไท่ไป๋จิงซิง
ในกลุ่มเกิดความวุ่นวายขึ้นมา เย่จื่อเฉินก็อึ้งไปเช่นกัน ยังมีคนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอีกเหรอเนี่ย
แอบเหลือบมองรายชื่อเพื่อนในกลุ่ม ได้ยินมาว่านาจาจงเกลียดจงชังเหล่าาาัมาก เป็แบบนี้อาจมีเื่ตีกันก็ได้
เหลือบมองอีกครั้ง เย่จื่อเฉินจึงพบว่าในกลุ่มไม่มีร่องรอยของาาัอยู่เลย
นาจา : ฮ่าฮ่า น่าสนใจดีนี่ ที่แท้ส่งอั่งเปาก็คือแบบนี้เองเหรอ วันก่อนข้าเพิ่งสังหารัได้พอดี เดี๋ยวจะส่งไปให้พวกท่านได้เล่นก็แล้วกัน
พรูดดด!
สังหารั
โชคดีนะที่าาัไม่มีตัวตนอยู่ในแชท ไม่อย่างนั้นต้องได้ตีกันขึ้นมาจริงๆ แน่
แต่ของบนตัวัก็น่าจะเป็ของดีทั้งนั้น
เย่จื่อเฉินรวบรวมสมาธิมองหน้าจอโทรศัพท์
ติ๊ง!
กด!
กดไม่ทัน อั่งเปาโดนแย่งไปหมดแล้ว
ตือโป๊ยก่าย : องค์ชายสาม ท่านใจกว้างเกินไปหรือเปล่า ส่งัมาเลยเหรอ?
เทพสายฟ้า : อะไรเนี่ย ส่งมาแค่ซองเดียว?
นาจา : ไอหยา ข้าเพิ่งเล่นครั้งแรก ยังไม่เข้าใจเลย ขุนพล์เทียนเผิง เ้ารีบแบ่งัให้ทุกคนด้วย
ตือโป๊ยก่าย : ข้าไม่แบ่ง!
ฉางเอ๋อ : เ้าจะส่งหรือไม่ส่ง! (สติกเกอร์หน้าโกรธต่อท้ายประโยคสามอัน)
แค่ฉางเอ๋อปรากฏตัวออกมา เย่จื่อเฉินก็หัวเราะทันที ตือโป๊ยก่ายสามารถไม่เห็นแก่หน้าคนอื่นได้ แต่ถ้าฉางเอ๋อสั่งเขาไม่กล้าเก็บไว้คนเดียวแน่นอน
ตือโป๊ยก่าย : เ้ารอเดี๋ยวนะ ข้าจะส่งไปเดี๋ยวนี้
ผ่านไปห้านาทีเต็ม ในขณะที่เหล่าเซียนทุกคนไม่ค่อยได้สนใจการแจ้งเตือนแล้ว อั่งเปาของตือโป๊ยก่ายก็ได้ปรากฏขึ้น
เย่จื่อเฉินจ้องมองมาสิบสองนาทีแล้ว ทันทีที่อั่งเปาปรากฏขึ้น เขาก็กดทันที
คุณได้รับอั่งเปาของขุนพล์เทียนเผิง
เนตรั x1
เนตรัคืออะไร?
เย่จื่อเฉินเลิกคิ้วขึ้น แต่กลับเห็นคนในกลุ่มได้ต่อว่าขึ้นมา
เทพสายฟ้า : ตือโป๊ยก่าย ทำไมเ้าถึงเปลี่ยนชื่อเป็ขุนพล์เทียนเผิงอีกแล้วล่ะ
นาจา : นั่นสิ ถ้าศิษย์พี่ลิงของท่านรู้ เขาต้องมาตีท่านแน่
ขุนพล์เทียนเผิง : ทีเ้าลิงนั่นยังชื่อว่าาาวานรได้เลย แล้วข้าจะเปลี่ยนกลับมาไม่ได้หรือไง อีกอย่าง...
จี้กง : แปลก ทำไมัตัวนี้ถึงไม่มีแส้ั
ขุนพล์เทียนเผิง : แหะๆๆ
นาจา : ไร้ยางอายจริงๆ
ขุนพล์เทียนเผิง : @ฉางเอ๋อ น้องสาว อีกเดี๋ยวเจอกันที่วังจันทรากวงฮาน[5]
เทพสายฟ้า : มีความลับ
นาจา : +1
คนในกลุ่มโผล่ออกมาทันที คำพูดของตือโป๊ยก่ายเมื่อครู่นี้มันฟังดูคลุมเครือจริงๆ โดยเฉพาะการที่เขาแอดฉางเอ๋อ
เดิมทีตอนที่ตือโป๊ยก่ายยังไม่โดน์ลงโทษเขาก็มีประเด็นกับฉางเอ๋ออยู่แล้ว แล้วพอมาทำแบบนี้...
แถมยังจงใจแย่งแส้ัไปอีกต่างหาก
ฉางเอ๋อ : ตือโป๊ยก่าย เ้าอย่ามาทำลายชื่อเสียงของข้า
ตือโป๊ยก่าย : ส่งสติกเกอร์ทำหน้าว่า 'คุณรู้อยู่' มาหนึ่งแถว
เย่จื่อเฉินไม่ได้สนใจเื่การนินทามากขนาดนั้น
จึงออกจากแชทกลุ่ม แล้วกดเปิดดูเนตรัในหีบสมบัติ
จะว่าไปแล้วเนตรัอันนี้ก็ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ด้านหน้าและด้านหลังใสกระจ่างเหมือนกับโอปอล
เนตรั : วัตถุพิเศษ ไม่ทราบวิธีการใช้งาน
บัดซบ!
เย่จื่อเฉินด่า นึกว่าจะแย่งของมีค่ามาได้ ที่ไหนได้ดันเป็ของห่วยแตกที่ใช้งานไม่ได้
กลอกตามองบน จากนั้นเย่จื่อเฉินก็หมดความสนใจที่มีต่อเนตรัไป
ความง่วงเข้าจู่โจม ก่อนจะโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วผล็อยหลับไป
เย่จื่อเฉินหลับสบายมาก แถมในฝันเขายังฝันว่าได้ไปเดตกับเทพธิดาฉางเอ๋อด้วย
เขากำลังจะดึงมือเล็กของเทพธิดาฉางเอ๋อ แต่กลับโดนมือหนึ่งผลักจนตื่น
"เ้าห้า!"
"เ้าห้า ลุกได้แล้ว"
การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้รู้สึกโมโห ซึ่งเย่จื่อเฉินเองก็ไม่มีข้อยกเว้น
โดนคนมาขัดฝันหวานจนพังไม่เป็ท่า ตอนนี้เขาโกรธจนอยากด่าคนขึ้นมาทันที
"อะไรเนี่ย ถ้าอาจารย์เช็คชื่อก็ขานแทนฉันด้วย แล้วข้าวเที่ยงฉันก็ไม่อยากกิน พวกนายจะเรียกฉันทำไม!"
"นายลงไปดูข้างล่างเถอะ มีคนถือโทรโข่งด่านายอยู่ข้างล่างตึก"
"ด่าฉัน?"
เย่จื่อเฉินทำหน้างง จูอิ๋นไป๋จึงเปิดหน้าต่างออก เพิ่งจะเปิดหน้าต่างก็ได้ยินเสียงคนะโใส่โทรโข่งอยู่ข้างล่างแล้ว
"เย่จื่อเฉิน นายมันไอ้คนสารเลว ขี้ขลาด นายลงมาเดี๋ยวนะ... "
"ด่าฉันจริงๆ ด้วย" เย่จื่อเฉินยีหัว จุดบุหรี่ให้ตัวเองมวนหนึ่งแล้วพูด "ลงไปดูหน่อย"
นักศึกษากลุ่มหนึ่งมามุงกันอยู่ที่ตึกหอพักนักศึกษาชาย
ชื่อของเย่จื่อเฉินโด่งดังมากในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงมากจริงๆ การที่มีคนมาด่าเขาจะต้องเป็ข่าวใหญ่แน่นอน
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป จากหนึ่งเป็สิบ จากสิบเป็ร้อยจนกลายเป็คนกลุ่มหนึ่งมามุงดูอยู่แบบนี้
"เย่จื่อเฉิน นายอย่ามาทำเป็เมินนะ ฉันรู้ว่านายได้ยิน รีบลงมาเดี๋ยวนี้..."
เสียงด่าทอข้างล่างตึกยังคงดังเข้าหูไม่หยุด เย่จื่อเฉินชำเลืองดูปอร์เช่918 ของเขาที่จอดอยู่ข้างล่างตึก
รถโดนพ่นสีลงไปแล้ว และพ่นเป็คำว่าหน้าเนื้อใจเสือ
จากนั้นจึงมองขวดสเปรย์พ่นสีในมือของผู้ชายที่ถือโทรโข่งอยู่คนนั้น บ่งบอกได้ว่าเขาเป็ทำ
เดินเกาหัวเข้าไปหาผู้ชายคนนั้น ดูไปแล้วชายหนุ่มก็น่าจะอายุแค่ยี่สิบกว่า รูปร่างค่อนข้างและใส่แว่นตาดูท่าทางเรียบร้อย
เย่จื่อเฉินค่อนข้างนับถือในความพยายามของเขา โก่งคอะโมาสิบกว่านาทีจนคอแดงหมดแล้ว แต่ก็ยังอดทนะโอยู่อย่างนั้น
แต่ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จักเย่จื่อเฉิน
"เพื่อน เลิกะโได้แล้ว เดี๋ยวยามดูแลหอก็มาหรอก"
เย่จื่อเฉินตบบ่าชายหนุ่มเบาๆ แต่ชายคนนั้นกลับปัดมือเขาออก
"นายอย่ามายุ่งกับฉัน ฉันต้องด่าไอ้ขี้ขลาดเย่จื่อเฉินคนนั้น"
"โอเค ฉันนี่แหละไอ้ขี้ขลาดที่นายว่า นายเลิกด่าได้แล้ว หยุดก่อน เห็นแล้วเหนื่อยแทน ฉันไปซื้อน้ำให้กินเอาไหม"
แล้วเย่จื่อเฉินก็ต้องหัวเราะเพราะผู้ชายคนนี้ ไม่รู้จักเขาแต่ก็ยังโก่งคอด่าเขาอยู่ได้เป็สิบกว่านาที
ใครเสนอความคิดที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่แบบนี้ให้เขา!
"นายคือเย่จื่อเฉิน"
ชายหนุ่มตาโต แต่การถลึงตาโตจ้องมองของเขากลับไม่มีความน่าเกรงกลัวอยู่เลยสักนิดเดียว
เย่จื่อเฉินพยักหน้า แล้วหยิบโทรโข่งในมือเขามา
"ไม่ผิดตัวหรอก ดูเหมือนว่าในมหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงจะมีแค่ฉันคนเดียวที่ชื่อเย่จื่อเฉินนะ"
"ดี ฉันกำลังหานายอยู่พอดี!"
"ฉันรู้ว่านายตามหาฉันอยู่ ไม่งั้นคงไม่มาถือโทรโข่งะโด่าอยู่แบบนี้หรอกใช่ไหม" เย่จื่อเฉินหัวเราะอย่างระอาใจแล้วพูด "แต่นายต้องบอกฉันนะว่านายมาหาฉันทำไม นายไม่ได้รู้จักฉันด้วยซ้ำ แล้วฉันก็เหมือนว่าจะไม่เคยเจอนาย เราไม่ได้ขุ่นข้องหมองใจอะไรกัน แล้วทำไมนายถึงมาด่าฉันแบบนี้!"
"แล้วอีกอย่าง..." เย่จื่อเฉินชี้ไปที่รถของเขาแล้วพูด "นายรู้หรือเปล่าว่ารถคันนั้นมันคือรถอะไร นั่นปอร์เช่918 รถคันนี้ฉันเพิ่งขับได้ไม่ถึงหนึ่งวัน นายก็มาพ่นสีใส่แล้ว นายรู้ไหมว่าทำสีใหม่มันต้องใช้เงินเท่าไร?"
"นายอย่ามาทำไก๋หน่อยเลย มีเงินแล้ววิเศษนักเหรอไง มีเงินแล้วจะเล่นกับความรู้สึกของผู้หญิงยังไงก็ได้เหรอ?"
รอยยิ้มหยันปรากฏขึ้นที่มุมปากของชายหนุ่ม ก่อนจะชี้หน้าเย่จื่อเฉินแล้วด่าลั่น
เย่จื่อเฉินได้ยินก็ส่ายหน้าระอาใจก่อนจะพูด
"ข้าวจะกินยังไงก็ได้ แต่คำพูดจะพูดส่งเดชไม่ได้นะ นายบอกมาสิว่าฉันไปล้อเล่นกับใคร?"
ทันใดนั้นก็มีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับมาจอดหน้าหอพัก ก่อนจะเห็นหลี่เจียอี๋เดินลงมาจากรถมาแล้วตรงมากระชากมือของชายหนุ่มให้เดินไปที่รถ
"พี่คะ ใครให้พี่มาโวยวายที่นี่"
___________________________________________________
[1] ตือโป๊ยก่าย คือตัวละครในเทพนิยายไซอิ๋ว เป็ลูกศิษย์คนหนึ่งของพระถังซัมจั๋ง ส่วนหัวเป็หมูตัวเป็คน เป็อดีตแม่ทัพบน์ มีหน้าที่ดูแลแม่น้ำและลำธารบน์
[2] จี้กง เป็เทพจีนที่เป็พระอรหันต์ ชาวจีนนิยมกราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่ง เทพจีนที่มีจิตที่เป็มหาโพธิสัตว์ที่สละแล้วซึ่งทางโลกอย่างแท้จริง ไม่กลัวทั้งที่ต่ำและที่สูง ศีรษะโล้น เท้าเปลือยเปล่า
[3] นาจา หรือองค์ชายสาม เป็เทพเ้าตามความเชื่อของชาวจีน รูปลักษณ์ของนาจา เป็รูปของเด็กผู้ชายเหยียบวงล้อไฟ มือถือหอกและห่วงเป็อาวุธ มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศและสามารถปราบมารปีศาจได้ ทำหน้าที่ปกป้องประตู์
[4] ขุนพล์หลี่จิ้ง เดิมหลี่จิ้งเป็แม่ทัพสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนต้น ภายหลังจากเสียชีวิต หลี่จิ้งได้รับการแต่งตั้งจากองค์เง็กเซียนฮ่องเต้ได้เป็ขุนพล์ มีอาวุธคู่กายคือ เจดีย์ 7 ชั้น
[5] วังจันทรากวงฮาน วังบนดวงจันทร์ ซึ่งเป็ที่อยู่อาศัยของแม่นางฉางเอ๋อ