เฉินโย่วน้อยเมื่อดื่มนมจนอิ่มหนำ ก็ยังคงซุกหลับอยู่ในอ้อมกอดของแม่นางหลัว
แม่นางหลัวที่เพิ่งจะถูกป้อนแมลงเข้าปากไปยังคงตัวแข็งทื่ออยู่กับที่ เพียงแต่เมื่อมองเ้าตัวเล็กที่หลับตาอย่างไร้กังวล ฟังเสียงลมหายใจที่ค่อยๆ ผ่อนเป็สม่ำเสมอ หญิงสาวก็โกรธนางไม่ลงเสียแล้ว
เ้าหนอนตัวเมื่อครู่ก็ช่างน่าแปลก ตอนเ้าหนูน้อยป้อนมันเข้าปาก นางคิดจะคายก็คายออกมาไม่ได้ ราวกับว่าแค่แตะลิ้นก็ละลายเสียแล้ว แต่ในปากก็ยังรู้สึกถึงรสหวานนั้นอยู่
ทว่านางกลับรู้สึกว่าในลำคอนั้นมีบางสิ่งอยู่
วันนี้ที่นางไม่ยอมมาที่นี่นั้น ไม่ใช่เพียงเพราะนางยังรู้สึกโกรธอยู่ แต่เป็เพราะนางรู้สึกไม่ค่อยสบาย หลังจากที่นางแท้งลูก ทุกวันนี้ของเดือนนางก็มักจะรู้สึกเหนื่อยล้าเป็พิเศษ
แม่นางหลัวในวันนี้ดูผิดแปลกจากวันก่อนๆ
ก่อนหน้านี้ทารกน้อยร้องอยู่ระยะหนึ่ง เขาเองก็ร้อนใจราวกับไฟสุม จวบจนบัดนี้เห็นแม่นางหลัวยื่นทารกน้อยที่กำลังหลับสบายมาให้ ก็อดไม่ได้ที่จะออกปาก “อาโย่วชอบท่านมาก พอท่านไม่มา นางก็ร้องเสียตั้งนาน”
หลัวอู๋เลี่ยงแทบอยากจะบ่นออกมาคำหนึ่งว่าเ้าเด็กคนนี้แค่คิดถึงเื่กินเท่านั้น
เพียงแต่เมื่อคิดได้ว่าเมื่อครู่ที่ตนจะอ้าปากพูดก็เพิ่งถูกเ้าตัวดีป้อนแมลงมา บัดนี้แค่จะอ้าปากก็รู้สึกว่ามีแมลงอยู่ในปากก็ไม่ปาน นางจึงไม่กล่าวอันใด ได้แต่พาสาวใช้จากมาทันที
อาลู่จัดแจงแบกทารกน้อยที่ยังหลับอยู่ขึ้นหลัง แล้วทำงานต่อ
หน้าที่ของเขาในตอนนี้คือ รับผิดชอบดูแลเ้ามืด และเ้าสีเทา
เ้ามืดคือชื่อที่เขาตั้งให้าาม้า
เขาเพิ่งพบว่า เ้ามืดนั้นแท้จริงแล้วแค่ดวงตาดูขุ่นมัว แต่การเคลื่อนไหวยังนับว่าปกติ
แต่เ้าสีเทานั้นดูจะย่ำแย่กว่าหน่อย เมื่อวานตอนเพิ่งมาถึงมันยังดีๆ ยังคงดิ้นได้อยู่แท้ๆ ทว่าวันนี้กลับนิ่งอยู่กับที่ไม่ยอมแม้แต่จะขยับ ดวงตาของมันก็ขุ่นมัวราวกับไข่เน่าที่เพิ่งตอกออกจากเปลือก อาลู่จึงได้แต่เสาะหาหญ้าที่อ่อนนุ่มที่สุดมาวางตรงหน้ามัน ทว่ามันก็ไม่ได้แตะต้องเลยสักนิด รอจนถึงเย็นขาของเ้าเทาก็อ่อนแรกจนต้องคุกเข่าลง
อาลู่พลันหน้าถอดสี
รีบเรียกเหล่าปาให้มาดูอาการ
เหล่าปาเมื่อเห็นเ้าเทาเป็เช่นนี้ สีหน้าพลันหม่นลง
เขาออกแรงดึงเ้าเทาจนมันลุกขึ้นได้ จากนั้นก็จูงมันไปทางกระท่อมไม้ที่เขาอาศัยอยู่
อาลู่เองก็แบกน้องสาว ค่อยๆ เดินตามเหล่าปาไป ส่วนเ้ามืดก็ย่องตามหลังมาเช่นกัน
ยิ่งเข้าใกล้กระท่อม เด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ว่าเ้ามืดจะยิ่งเดินช้าลง แต่เหล่าปานั้นกลับเร่งฝีเท้าราวกับติดปีก เ้าเทาที่เหล่าปาจูงอยู่ก็เดินเร็วตามไปเช่นกัน เหล่าปานั้นราวกับมีเื่ที่อยากทำให้มันจบสิ้นไป
มองดูเ้าเทาที่โดนเหล่าปาลากไปมา อาลู่ก็ตื่นเต้นไม่น้อย รู้สึกว่าเ้าเทานั้นอาจดีขึ้นแล้วก็เป็ได้
เหล่าปาที่ยิ่งเดินก็ยิ่งเร่งฝีเท้า เ้าเทาก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้นเช่นกัน ใต้แสงอรุณยามเย็นตกกระทบร่างเ้าเทา สาดส่องให้เห็นเป็เงาม้าร่างกำยำน่ามองตัวหนึ่ง เ้าเทานั้นนับว่าเป็ม้าลักษณะดีตัวหนึ่ง ยามโตมาต้องเป็ม้าที่กำยำรูปงามกว่าใครเป็แน่
จากนั้นอาลู่ก็เห็นเ้าเทากระโจนขึ้นกลางอากาศ ท่าทางของมันช่างงามสง่า มันกระโจนสูงกว่ากระท่อมของเขาเสียอีก ยามมันะโขึ้นยังได้เห็นหางงามของมันชี้สูง ซ้ำยังได้ยินเสียงร้องราวกับมีความสุขอย่างสุดแสนกังวานขึ้น
ทว่าเบื้องหน้าของเ้าเทากลับเป็สระกระดูก
สระกระดูกที่ลึกจนไม่เห็นก้น
เ้าเทาเพียงทะยานตัวอีกครั้ง
เสียงเริงร่าของมันพลันเงียบงัน
เหล่าปาเพียงเดินกลับไปยังฝูงม้า
ทิ้งให้อาลู่กับน้องสาวยืนเดียวดายอยู่ข้างเ้าม้าสีนิล
อาลู่บัดนี้จึงกระจ่างแก่ใจในคำพูดที่แม่นางหลัวพูดกับตนเมื่อวาน
เ้ามืดอาจจะตาย หากมันตาย เขาก็ตายเช่นกัน
อาลู่พลันรู้สึกว่าเรี่ยวแรงในกายตนราวกับแห้งเหือดไม่มีเหลือ
ปวดร้าวไปทั้งกาย
เด็กหนุ่มั้แ่โตมายังไม่เคยได้กินอิ่มสักมื้อ
นับั้แ่โดนพ่อบ้านกระทืบจนกระอักเื ร่างกายเขาก็ไม่เคยดีขึ้นเลย
เื่พวกนี้สำหรับเขาไม่เคยว่ามองว่าเป็เื่ใหญ่ คิดแค่ว่าเพียงได้อยู่พร้อมหน้ากับน้องสาว แค่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยังมีหวัง
ทว่าบัดนี้ความตายกำลังคืบคลานใกล้เข้ามา
อาลู่ราวกับสิ้นการรับรู้ใดๆ
เฉินโย่วน้อยตื่นแล้ว มือน้อยๆ ยื่นมาดึงหูพี่ชายตามเดิม
อาลู่หันไปมองนางแล้วฝืนใจยิ้ม
ทารกน้อยเริ่มก่อความวุ่นวายจนเด็กหนุ่มไม่อาจแบกนางต่อได้ จึงได้แต่วางนางลง
เฉินโย่วน้อยเมื่อถูกวางบนพื้นก็หันไปเห็นพี่ชายยืนเซ่อซ่าอยู่ข้างเ้ามืด ทั้งคนทั้งม้าต่างมองภาพฉากเบื้องหน้า
ทารกน้อยไม่ชอบที่พี่ชายและเ้าม้าหันบั้นท้ายให้ จึงตัดสินใจส่งเสียงโหวกเหวก “พิ พิ พิ พี่”
น้ำเสียงที่ยังฟังไม่ชัดเป็คำ ฟังดูแล้วช่างนุ่มนวลและอบอุ่นเหลือเกิน
อาลู่จึงหันกลับมานั่งข้างเฉินโย่วน้อย
เ้าม้าเองก็กำลังมองสระกระดูกเช่นเดียวกันอาลู่ ศีรษะนั้นค่อยๆ ยื่นออกไปข้างหน้ามองสระไร้ก้นตรงหน้า
จากนั้นเฉินโย่วน้อยก็ล้วงกระเป๋าที่ตนใส่ของรักไว้ แล้วหยิบแมลงแข็งๆ ขึ้นมาตัวหนึ่ง
นางวางแมลงตัวหนึ่งไว้ตรงหน้าพี่ชาย และวางไว้หน้าตนเองอีกตัว เมื่อเห็นเ้าม้าคอยาวยืดหัวมาทางตน นางก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเลือกตัวที่เล็กที่สุดมาวางตรงหน้าเ้าม้าเช่นกัน
ต่อมาจึงวางหน้าพี่ชายเพิ่มอีกตัว แล้ววางหน้าตัวเองเพิ่มอีกตัว แล้วจึงวางหน้าพี่ชายเพิ่มอีกตัว ต่อด้วยตัวเองอีกตัว จบด้วยวางหน้าพี่ชายอีกตัว และตัวเองอีกตัวเท่ากัน
เ้าม้าเมื่อเห็นทารกน้อยเพียงแบ่งให้เ้าเด็กหนุ่ม และตัวนางเอง แต่กลับไม่แบ่งเพิ่มให้ตนก็เศร้าใจร้อง “ฮี่” ออกมาทีหนึ่ง
เมื่อทารกน้อยหันมา เ้ามืดก็ทำท่าราวกับดีใจขึ้นมาทันที
สุดท้ายก็พบว่าเ้าหนูน้อยเพียงหันกลับมาเก็บแมลงกลับไป...เก็บกลับไป!
อาลู่เมื่อหันไปก็เห็นเ้าม้ากำลังถลึงตาใส่
จากนั้นจึงเห็นน้องสาวกำลังสับเ้าแมลงตัวที่เพิ่งเอาคืนมาจากเ้าม้าออกเป็สามส่วน จากนั้นจึงวางตรงหน้าเขาส่วนหนึ่ง ตรงหน้าตัวเองส่วนหนึ่ง และตรงหน้าเ้าม้าเสี้ยวหนึ่ง
ตรงหน้าเด็กหนุ่มมีแมลงสามตัว และอีกส่วนหนึ่งวางอยู่ ตรงหน้าทารกน้อยก็มีเท่ากัน ทว่าตรงหน้าเ้าม้านั้นกลับมีแค่เสี้ยวเดียว เมื่อเขาเห็นไปมองมันก็ทำหน้าราวกับไม่ได้รับความยุติธรรม จนเขาอดหัวเราะ “หึๆ” ออกมาไม่ได้
เ้าตัวน้อยนี่ฉลาดเกินไปแล้ว
แต่กระนั้นเขาก็ไม่ได้หัวเราะเสียงดัง จวบจนเมื่อเขาเห็นทารกน้อยหยิบแมลงสามตัวกับอีกส่วนหนึ่งใส่ปากไป จากนั้นจึงทำปากแจ๊บๆ กลืนลงไป
อาลู่พลันนิ่งงัน
เมื่อหันไปดูเ้ามืดก็เห็นมันแลบลิ้นตวัดเ้าแมลงเสี้ยวหนึ่งที่เฉินโย่วน้อยมอบให้เข้าปากกินจนหมดเช่นกัน
เด็กหนุ่มจึงก้มมองแมลงตัวแข็งอีกสามตัวในมือ เ้าแมลงนี้นอกจากจะดูแข็งแล้ว ยังดำมะเมื่อมไปทั้งตัว
อาโย่วก็หันมาเบิกตาโพลงมองเขาอย่างตั้งใจ
เ้าม้าก็หันมาทางเขาราวกับจะอยากเขมือบเขาเสีย
หรือมันจะรสชาติดีมากกันนะ
เด็กหนุ่มเพราะไม่เคยจะได้กินอิ่ม ดังนั้นเื่ขุดผักป่าจับแมลงมากิน เขาล้วนคุ้นเคยดี
อาลู่จึงไม่ลังเลอีก ทำตามท่าทางของเ้าตัวน้อย โยนแมลงเ่าั้เข้าปากทันที
หวาน!
จากนั้นภาพตรงหน้าก็พลันมืดลงจนวูบดับ เด็กหนุ่มลงไปนอนแผ่กับพื้น ไม่นานก็มีเสียงหายใจสม่ำเสมอเป็ระลอกดังมา
ใบหน้าน้อยของเฉินโย่วเปี่ยมไปด้วยความกลุ้มใจ มือคู่เล็กสะกิดดึงพี่ชายไม่หยุด
เ้ามืดก็กลัดกลุ้มเช่นกัน มันใช้ศีรษะไถตัวเด็กหนุ่มไปมา
ทารกน้อยและเ้าม้าสีนิลจึงได้แต่มองเด็กหนุ่มที่หลับสนิทอย่างจนปัญญา