ถึงว่าตอนอยู่ตีนเขาไม่เห็นเหล่าศิษย์การต่อสู้ ที่แท้ก็มาอยู่เมืองก่อนแล้ว
แต่สิ่งที่โหยวเสี่ยวโม่คิดไม่ถึงก็คือ ศิษย์ที่แขนงการต่อสู้ส่งมาจะเป็หลินเซียว เมื่อนึกถึงคำพูดที่แอบได้ยินมาอย่างไม่ตั้งใจ ก็ยิ่งรู้สึกว่า การออกนอกสำนักครั้งนี้ต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่
โหยวเสี่ยวโม่ตัดสินใจแน่วแน่ หลังออกจากที่นี่ ก็จะปลีกตัวเองจากพวกเขา เพราะเื่ที่เขาจะทำ นั้นให้ใครรู้ไม่ได้
ทังอวิ๋นฉี นั้นเป็ลูกสาวท่านเ้าสำนัก และเป็ศิษย์น้องเล็กที่ทุกคนเอ็นดู
ตลอดทางที่มา โหยวเสี่ยวโม่ได้ยินแต่เสียงเจื้อยแจ้วของหล่อน ยิ่งตอนที่คนอื่นยกยอนางนั้นนางยิ่งชอบใจ นกขนส่งบินนานเท่าไร นางก็หัวเราะนานเท่านั้น
พอหลินเซียวปรากฏตัว ทังอวิ๋นฉีก็พุ่งไปหาเขาเป็คนแรก พร้อมกับเสียงเรียก ‘พี่เซียว’ ที่น่าขนลุก แต่ไม่ทันถึงตัว หลินเซียวก็หลบออกมาก่อน
ทังอวิ๋นฉีไม่ได้รู้สึกอายแต่อย่างใด ราวกับว่ามันเกิดขึ้นบ่อย โอบแขนและจ้องหน้าเขาด้วยความรักใคร่
ศิษย์คนอื่นต่างพาอิจฉา รวมถึงศิษย์พี่ทั้งสี่ของโหยวเสี่ยวโม่เช่นกัน
ความสัมพันธ์ของหลินเซียวและศิษย์คนอื่น โดยเฉพาะกับอาจารย์โม่กู่นั้นถือว่าดี หลังจากรวมตัวกับพวกเขาที่ตีนเขา โหยวเสี่ยวโม่ไม่เห็นเขายิ้มเลย ใบหน้าบึ้งตึงราวกับมีคนติดหนี้อย่างไรอย่างนั้น แต่พอหลินเซียวปรากฏตัว ใบหน้าก็แต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม จ้องมองหลินเซียวและทังอวิ๋นฉีพร้อมผงกหัว
เมื่อพบหน้ากัน ต่างกล่าวคำทักทายและเดินออกไป
เมื่อถึงประตู โม่กู่หันกลับมาพูดกับศิษย์ทั้งห้า “เราถึงเมืองเหอผิงแล้ว พวกเ้าอยากซื้ออะไรก็ไปซื้อ พรุ่งนี้เวลาเดิมกลับมารวมตัวกันที่นี่ ตรงเวลาด้วยละ”
พูดจบก็พาศิษย์กลุ่มนั้นเดินไปยังตลาดนัดครึกครื้น รวมถึงศิษย์แขนงการต่อสู้ทั้งหมดด้วย ไม่เหลือสักคน
ผู้นำกลุ่มศิษย์พี่หลิวถอนใจเบาๆ แต่ก็ชินกับสถานการณ์แบบนี้ จากนั้นเขากล่าวกับพวกโหยวเสี่ยวโม่ “จากนี้ข้ากับศิษย์น้องหลีจะไปซื้อของที่อาจารย์สั่งมา พวกเ้ามีธุระอะไรต้องจัดการก็ทำให้เรียบร้อยในวันนี้ ตามที่อาจารย์โม่กู่พูดไว้ ถ้าพรุ่งนี้มาสาย พวกเขาไม่รอเ้าแน่”
“ทราบแล้วขอรับ ศิษย์พี่หลิว”
ศิษย์พี่หลิวผงกหัวรับ จากนั้นเดินจากไปทิศทางเดียวกับอาจารย์โม่กู่พร้อมกับศิษย์น้องหลี
เมื่อพวกเขาไปแล้ว ศิษย์ที่เหลือก็แยกย้ายเพื่อจะกลับบ้านเยี่ยมญาติ
โหยวเสี่ยวโม่รอจนพวกเขาจากไป นี่คือครั้งแรกที่เขามาเมืองเหอผิง
พึ่งมาที่นี่ครั้งแรก จนแล้วจนรอดก็เดินตามทางที่ครึกครื้นเช่นเดียวกับศิษย์พี่หลิว ค่อยๆ หา ถ้าหาไม่เจอถาม มันต้องหาเจอสิน่า
…
…
เมืองเหอผิงขึ้นชื่อที่สุดเื่ยาเซียนตัน เพราะว่าเขตแดนใกล้กับสำนักเทียนซิน มีการค้าขายกับเหล่าศิษย์สำนักเทียนซิน นอกจากนี้ยังมีสำนักเล็กอื่นๆ เมื่อเวลาผ่านไปทำให้เมืองเหอผิงนั้นพัฒนาขึ้น ทั้งยังชุมชนรอบๆ คึกคักตามไปด้วย
แหล่งค้าขายร้านยาต่างรวมตัวกันอยู่ที่ถนนที่เจริญที่สุดในเมืองเหอผิงนั่นคือ ถนนทิศเหนือ
ถนนทิศเหนือจรดทางใต้ ล้วนเป็ร้านยา ทั้งยังเป็แหล่งรวมผู้คนที่เยอะที่สุด ทุกร้านรวงต่างมีลูกค้า บางร้านก็เต็มแน่นไปหมด
โหยวเสี่ยวโม่ยืนอยู่ริมถนน สายตากวาดมองอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงเลือกร้านหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคน แต่ก็ไม่ถึงกับเงียบมาก และเดินเข้าไป
เมื่อเข้าไปในร้าน ก็มีเด็กหนุ่มแต่งตัวเหมือนเสี่ยวเอ้อร์สมัยก่อนเดินเข้ามา เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณชายท่านนี้ ท่าน้าซื้อยาหรือขอรับ”
โหยวเสี่ยวโม่มองภายในร้านอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นสายตากลับไปอยู่ที่ใบหน้าอันยิ้มแย้มของเด็กหนุ่ม “ที่ร้านรับซื้อยาเซียนตันหรือไม่”
เด็กหนุ่มใ จากนั้นเมื่อเห็นสายตาเขานิ่งเฉย จึงเอ่ย “มีขอรับ ร้านเรารับซื้อยาเซียนตันด้วย คุณชายเชิญด้านนี้ขอรับ”
จุดขายกับจุดรับซื้อไม่ใช่ที่เดียวกัน เพื่อที่จะรักษาความเป็ส่วนตัว ร้านยาส่วนใหญ่จัดส่วนรับซื้อไว้ห้องด้านใน ร้านยาในถนนทิศเหนือนี้ต่างมีใบรับรอง ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะถูกหลอก
โหยวเสี่ยวโม่คิด ถ้าพวกเขากล้าเปิดร้านใกล้กับสำนักเทียนซิน คงไม่กล้าหลอกคนเป็แน่ จึงเดินตามเข้าไปอย่างวางใจ
คนที่มาให้บริการเปลี่ยนเป็เ้าของร้าน อายุราวหกสิบกว่า ผมเริ่มหงอก ทว่าเป็คนมีอายุที่ดูกระปรี้กระเปร่า ใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ยิ่งดูน่าคบหา
เ้าของร้านสังเกตโหยวเสี่ยวโม่่หนึ่ง แต่ไม่ได้ถามอะไร พร้อมเปิดบทสนทนา “ไม่ทราบว่าคุณชาย้าขายยาเซียนตันขั้นไหนหรือ”
“นี่คือ…ยาเซียนตันขั้นหนึ่ง” โหยวเสี่ยวโม่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ
ตอนที่เดินเข้ามา เขามองสำรวจร้านนี้พบว่ายาเซียนตันที่ขายล้วนเป็ขั้นสองขั้นสาม ขั้นหนึ่งก็พอมีบ้างแต่ไม่เยอะ เขามีแต่ยาเซียนตันขั้นหนึ่ง ทำให้เขาไม่กล้าเอาออกมา
เ้าของร้านใ จากนั้นถามต่อด้วยน้ำเสียงสุภาพ “ไม่ทราบว่าข้าจะขอดูยาเซียนตันของคุณชายได้หรือไม่”
โหยวเสี่ยวโม่เอาขวดยาออกมาทีละขวด ทั้งหมดสี่ขวด แบ่งใส่ยาเซียนตันสี่อย่าง จริงๆ แล้วมีสองแบบ แต่รอบการหลอมร้อนนั้นต่างกัน ฉะนั้นคุณภาพไม่เหมือนกัน เขาตั้งใจบรรจุแยกกัน
เ้าของร้านหยิบขวดขึ้นมาดู เมื่อจ้องอย่างละเอียด พบว่าเป็ยาเซียนตันที่พบได้ทั่วไป จากนั้นหยิบอีกขวดขึ้นมา ก็ยังเป็ยาผสานลมปราณทั่วไปอยู่ดี เขาถึงกับขมวดคิ้ว
เขานึกว่าเด็กหนุ่มที่มาจากสำนักใหญ่ จะเอายาเซียนตันที่แตกต่างมาแน่นอน อย่างเช่นยาเซียนตันระดับสูง ทว่าลองดูสองขวดกลับเป็แบบธรรมดาทั่วไป ล้วนเป็แบบคุณภาพระดับล่าง จะบอกว่าไม่ผิดหวังก็คงแปลก
แต่เขาก็ทำงานสายนี้มานาน เจอเื่แปลกประหลาดมาก็เยอะถมไป พอดึงสติกลับมา จึงหยิบขวดที่สามขึ้นมาดู พร้อมเทยาออกมาหนึ่งเม็ด พอจ้องดู ก็อึ้งในทันใด