เ้าของร้านใกับยาเซียนตันในมือ นี่มันยาผสานลมปราณ แต่ก็ไม่เหมือนยาผสานลมปราณทั่วไป พอสังเกตอย่างละเอียด สีก็แตกต่างกัน
ยาผสานลมปราณเม็ดนี้ภายนอกที่เป็สีฟ้าอ่อนแต่สีเข้มกว่าขวดก่อนหน้านี้ ลักษณะเช่นนี้เขาเจอมาไม่น้อย แต่พวกนั้นล้วนเป็คุณภาพระดับกลาง ยาเซียนตันระดับกลางนั้นสีมักจะเข้มกว่าระดับล่างอยู่แล้ว
แต่ยาเม็ดนี้ก็ไม่เหมือนยาเซียนตันระดับกลาง เพราะสีนั้นอ่อนกว่ายาเซียนตันระดับกลางเล็กน้อย
เ้าของร้านรีบคว้าขวดที่สี่ขึ้นมา ด้านในบรรจุด้วยยาคล้ายพิษ ลักษณะเหมือนกับยาผสานลมปราณขวดที่สาม เขาพบเจอเื่ราวมานับไม่ถ้วนก็ยากที่จะกระจ่างได้ ทำไมคุณภาพระดับล่างเหมือนกัน แต่กลับมีสีที่ต่างกันได้
“คุณชาย นี่มัน” เ้าของร้านอดที่จะถามไม่ได้
โหยวเสี่ยวโม่เมื่อเห็นท่าทีประหลาดใจของเขาก็โล่งอก ถ้าเอะใจก็แสดงว่ายาเซียนตันของเขายังพอมีลูกเล่นบ้าง ต้องขายได้ราคาที่ดีแน่นอน
“สองขวดนี้ต่างกับอีกสองขวด ถึงแม้จะเป็คุณภาพระดับล่างเหมือนกัน แต่ความอันตรายในการใช้ยาไม่สูง ราวๆ ร้อยละสิบ”
เมื่อได้ยินดังนั้นเ้าของร้านถึงกับตะลึงงัน
สายตาที่จดจ้องโหยวเสี่ยวโม่เหมือนกับเป็ตัวประหลาด แต่ก็ปนไปด้วยความซับซ้อน คิดไม่ถึงเลยว่า หนุ่มน้อยผู้นี้จะนำพาความตกตะลึงให้เขาได้เพียงนี้
เขาเป็คนขายยาเซียนตัน ย่อมต้องรู้เื่ราวเกี่ยวกับยาเซียนตันบ้าง
จากที่เขารู้มา ยาเซียนตันที่ผ่านการหลอมร้อนมานั้น ถ้าเป็คุณภาพระดับล่างยังไงคยวามเสี่ยงก็ไม่ต่ำกว่าร้อยละสิบห้า เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามีนักหลอมยาทำได้เช่นนี้หรือไม่ แต่นี่ก็เป็ครั้งแรกที่เขาพบเจอ
ถ้าเื่นี้ถูกกล่าวออกไป คงทำเอาผู้คนตกตะลึงแน่นอน
ยาเซียนตันระดับล่างที่มีความอันตรายอยู่แค่ร้อยละสิบ ต่ำกว่าที่ผ่านมาร้อยละห้า แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้คนในดินแดนหลงเสียงตระหนกได้ ถ้าเขาได้ยาพวกนี้ในมือแล้วละก็…
เ้าของร้านมองโหยวเสี่ยวโม่อย่างสับสน เด็กหนุ่มนี่ช่างน่าอัศจรรย์ เมื่อคุมสติได้ เขาเอ่ยถาม “คุณชาย ยาพวกนี้ท่านหลอมเองรึ”
“ข้าหลอมเอง แต่อาจารย์เป็คนสอนข้าน่ะ”
โหยวเสี่ยวโม่จ้องเ้าของร้านตาใสแป๋ว พระเ้าให้อภัยข้าด้วยเถิดที่พูดปด จากท่าทางใของเ้าของร้านเมื่อครู่ เขาก็รู้เลยว่า ยาที่หลอมออกมานั้นพิเศษไปจากยาทั่วไป เพื่อที่จะเลี่ยงปัญหา เลยไม่กล้าบอกไปว่าเขาฝึกฝนจนหลอมยาพวกนี้ได้เอง
ถึงได้ขอยืมชื่ออาจารย์ที่ยังไม่เคยเจอหน้ามาอ้างก่อน
“อาจารย์ผู้นั้นคือ” เ้าของร้านรู้สึกฉงน ถึงแม้ในความจริง เขาจะรู้สึกว่าคำตอบที่ได้นั้นก็น่าจะปกติ
“เื่นี้ ข้าไม่ค่อยสะดวกที่จะเอ่ย”
โหยวเสี่ยวโม่ไม่อยากชักป้ายประจำตัวของสำนักเทียนซิน เพราะรู้ว่าเ้าของร้านต้องเลื่อมใสเขาอีกเป็แน่ แต่ในคราวเดียวกันก็อาจทำให้เป็ปัญหาเพิ่ม ถ้าข่าวไปถึงสำนัก แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้นแน่
เ้าของร้านมีท่าทีเข้าใจ เพราะถ้าเขาล่วงรู้เคล็ดลับนี้ ก็จะเก็บงำไว้ไม่เปิดเผยออกมา ทว่าเด็กหนุ่มยอมเอายาพวกนี้ออกมาขาย ย่อมต้องผ่านความเห็นชอบของอาจารย์แล้วแน่ แบบนี้ก็จัดการง่ายหน่อย
เมื่อเก็บเม็ดยาใส่ขวดเรียบร้อย เ้าของร้านพูดด้วยสีหน้านิ่ง “คุณชาย ในเมื่อท่านอยากขายยาพวกนี้ งั้นข้าจะให้ราคาที่เหมาะสม ยาเซียนตันระดับล่างธรรมดาสองขวด ขวดละยี่สิบตำลึงทอง ส่วนที่เหลือสองขวด ข้าให้ราคาเม็ดละสิบตำลึงทอง ท่านว่าจะได้หรือไม่”
ดวงตาคู่โตดำขลับของโหยวเสี่ยวโม่เป็ประกาย
แต่หนึ่งเม็ดสิบตำลึงทองกับหนึ่งขวดยี่สิบตำลึงทอง นี่ก็ช่างต่างกันเหลือเกิน นอกเหนือความคาดหมายของเขา แต่ว่าราคายี่สิบตำลึงทองต่อหนึ่งขวด เทียบกับร้านอื่นก็ยังสูงกว่าอยู่
ในสี่ขวด แต่ละขวดมียี่สิบเม็ด นี่คือครึ่งหนึ่งจากทั้งหมดที่เขา อีกครึ่งเขาตั้งใจเก็บไว้ไปถามร้านอื่น แต่เ้าของร้านให้ราคาสูงขนาดนี้ ทำเอาเขาใจเต้นนัก ทว่า…
“เถ้าแก่ ราคาที่ท่านให้มา มันสูงกว่าที่อื่นใช่หรือไม่”
โหยวเสี่ยวโม่ไม่คิดว่าด้วยหน้าตาจะทำให้เ้าของร้านเอ็นดูมากนัก ฉะนั้นการที่เขาให้ราคาสูงนั้น ย่อมต้องมีเหตุผลอื่นจึงลองถามออกไป
เ้าของร้านหัวเราะ “ใช่แล้ว”
โหยวเสี่ยวโม่คิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงเข้าใจ ทั่วไปแล้วการทำการค้าถ้าหากมีประโยชน์ร่วมกันก็มักจะให้ส่วนลดกับอีกฝ่ายเพื่อให้ค้าขายกันต่อไปอีกยาวๆ
ทว่า เงินเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์กับเขายิ่งนัก เมล็ดพันธุ์ที่เขาจะซื้อนั้นมีไม่น้อย แรกเริ่มเขายังกังวลว่าเงินที่ขายยาเซียนตันพวกนี้จะพอหรือไม่ การค้าขายนี้ราวกับจุดประกายไฟท่ามกลางความหนาวเหน็บ
“เถ้าแก่ ขาจะขายยาเซียนตันพวกนี้ให้ท่าน แต่มีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอะไรรึ” เ้าของร้านถาม
โหยวเสี่ยวโม่พูดอย่างระวัง “ข้าไม่้าให้ใครรู้ว่าข้าเป็คนหลอมยาเซียนตันพวกนี้ ยังไงก็ตามข้าไม่อยากเื่ของข้าแพร่งพรายออกไป ถ้ามีคนมาขาย ก็บอกไปว่าไม่รู้ ถ้าท่านตอบรับ อีกหน่อย ข้าจะมาขายให้ท่านอีก” โดยเฉพาะสำนักเทียนซิน
“ได้เลย” เ้าของร้านตอบทันที
เขาเองไม่คิดจะพูดออกไปอยู่แล้ว แหล่งขายดีๆ เช่นนี้ก็ต้องเก็บไว้ในมือตัวเองสิ อีกอย่างคำร้องขอของเขาก็สมเหตุสมผล
เมื่อจบการเจรจา เ้าของร้านก็คำนวณเงินให้เขา
ธรรมดาสองขวดเท่ากับสี่สิบ สองขวดที่พิเศษทั้งหมดเท่ากับสี่ร้อย รวมทั้งหมดเป็สี่ร้อยสี่สิบตำลึงท่อง นี่เป็รายได้ก้อนแรกที่เขาหาได้ั้แ่มายังโลกนี้
เท่าที่เขารู้ สำหรับครอบครัวธรรมดา หนึ่งตำลึงทองก็สามารถอยู่ได้ครึ่งเดือนแล้ว