บทที่ 49 คำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว
“นังผู้หญิงสารเลว แย่งลูกของฉันไป”
ผู้ชายที่ตามหลังมาะโด้วยความโกรธแค้น แล้วยังหมายจะเข้ามาตบหน้าสวี่จือจือ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นเยียบของผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเธอ เขาก็ขี้ขลาดขึ้นมา แล้วพูดเสียงอ่อย “ผู้หญิงคนนี้แย่งลูกของพวกเราไป”
“นังคนหน้าไม่อาย บอกว่าตัวเองมีลูกชายไม่ได้ ครอบครัวสามีรังเกียจ อยากจะอุ้มลูกชายฉันไปรับความโชคดี” ผู้หญิงคนนั้นหอบหายใจพลางด่าทอ “พวกเราใจดีให้แกอุ้มลูก แต่แกกลับกล้าแย่งลูกของเราไป”
“เพ้ย นังคนใจดำ” ผู้หญิงคนนั้นพูดจนถึงตอนท้าย ถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายข้างหลังมีออร่าที่แข็งแกร่งเกินไป และเธอก็รู้สึกกระวนกระวายอยู่เล็กน้อย เธอคงจะกระชากสวี่จือจือมาตบตีไปแล้ว
จับเหยี่ยวทั้งวัน สุดท้ายกลับถูกเหยี่ยวจิกตา
เด็กสาวคนนี้ดูอ่อนแอบอบบาง แต่เกือบจะหลอกพวกเธอได้แล้ว
สวี่จือจือตอนแรกก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง แต่พอได้กลิ่นที่คุ้นเคยจากคนข้างๆ เธอก็หายกลัวไปในทันที เธอยึดแขนอันแข็งแรงของเขาไว้แล้วพยุงตัวยืน “คุณมาอุ้มที”
เมื่อกี้ตอนที่เด็กเกือบตกลงไปก็เป็ฝ่ามือใหญ่ของเขาที่ช่วยรับเอาไว้
ลู่จิ่งซาน “...”
เขาอุ้มเด็กด้วยท่าทางที่ค่อนข้างแข็งทื่อ มองเด็กสาวตรงหน้า
เธอวิ่งมาไกลจนหน้าผากมีเหงื่อซึมเล็กน้อย แก้มทั้งสองข้างก็แดงปลั่ง ดวงตาผลซิ่งสวยงามกลับมองสองคนที่อยู่ตรงข้ามเป็ประกาย
เธอค่อยๆ พับแขนเสื้อผ้าฝ้ายขึ้น แล้วชี้ไปที่ผู้หญิงคนนั้นพร้อมพูดกับคนที่มุงดู “ทุกคนดูสองคนนี้ แล้วดูเด็กคนนี้อีกทีสิ”
“อาศัยแค่พวกคุณ ก็มีสิทธิ์เป็พ่อแม่ของเด็กคนนี้แล้วเหรอ?”
“นังผู้หญิงสารเลว เอาลูกชายฉันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้” ผู้ชายคนนั้นมองไปยังคนที่มุงดูอยู่เล็กน้อย แล้วพูดอย่างข่มขู่ “ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ”
“ไอ๊หยา ฉันกลัวจังเลย” สวี่จือจือทำท่าทางเหมือนกลัว แล้วลูบหน้าอกตัวเอง
ไม่เกรงใจ? ขอโทษนะ มีลู่จิ่งซานอยู่ข้างหลัง สวี่จือจือรู้สึกเหมือนตัวเองเป็จิ้งจอกที่ยืนอยู่หน้าเสือ ให้ไม้มาสักอัน เธอก็กล้าก่อเื่แล้ว
“เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของพวกคุณ” สวี่จือจือพูดเสียงเ็า
“ทำไมแกถึงบอกว่าเด็กไม่ใช่ลูกเรา?” ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงแหลม “ไม่เคยเห็นใครแย่งลูกอย่างพวกแกแบบนี้มาก่อน รีบคืนลูกให้เรามาซะ”
“พวกคุณไม่ใช่พ่อแม่ผม” เด็กชายร้องไห้
“เด็กคนนี้จำฝังใจที่พวกเราตีเขาเมื่อกี้ ตอนนี้เลยงอนอยู่” ผู้หญิงคนนั้นพูด พลางยิ้มให้กับเด็กชาย “ลูกรัก มาหาแม่เร็ว เดี๋ยวแม่จะซื้อไอติมให้ลูกกินนะ”
“ผมไม่เอา คุณไม่ใช่แม่ของผม”
“เด็กดื้อ ทำไมไม่ฟังอะไรเลย” ผู้หญิงคนนั้นะโ พอพูดจบก็พยายามจะแย่งเด็กมาจากลู่จิ่งซาน “รีบกลับบ้านเร็ว”
ลู่จิ่งซานไม่ใช่คนที่ใครจะแย่งเด็กไปจากเขาได้ง่ายๆ แค่เพียงสายตาเ็าก็สามารถสังหารคนได้แล้ว
ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันนั่งลงร้องไห้กับพื้น “์ นี่มันอะไรกัน เจอโจรชัดๆ น่าสงสารลูกชายฉันที่ฉันลำบากอุ้มท้องมาตั้งสิบเดือน ตัวเองไม่มีลูกชายก็เลยจะมาแย่งลูกคนอื่นเหรอ?”
“พี่น้องทุกคน พวกคุณช่วยฉันด้วย”
“สหายคนนี้ พวกเธอรีบคืนลูกให้หล่อนไปเถอะ” คนที่มุงดูอยู่พูด
สวี่จือจือเหลือบมองเขา “คุณแน่ใจเหรอว่าเด็กคนนี้เป็ลูกของหล่อน?”
“ก็เห็นอยู่ว่าหล่อนร้องไห้เสียใจขนาดนั้น จะไม่ใช่แม่ได้ยังไง?” คนนั้นยิ้มเจื่อนๆ
“นังหนูเอ๊ย เื่แบบนี้มันล้อเล่นไม่ได้นะ” หญิงชราคนหนึ่งพูด
“ใช่แล้ว รีบคืนลูกให้หล่อนไปเถอะ” มีคนพูดขึ้นอีก
“ดูเสื้อผ้าที่พวกเขาใส่ แล้วดูเสื้อผ้าที่เด็กคนนี้ใส่สิ” สวี่จือจือพูดเสียงเย็น “พวกคุณไม่ใช่พ่อแม่ของเด็กคนนี้”
“ฉันรักลูกชายของฉัน จะให้ของดีๆ กับลูกไม่ได้หรือไง?” ผู้หญิงคนนั้นดึงเสื้อผ้าปะชุนของตัวเองขึ้นมาพูด
“ถ้าพวกคุณมั่นใจขนาดนั้น ก็ไปสถานีตำรวจกันเถอะ” สวี่จือจือหัวเราะเยาะ “ให้ตำรวจสืบดูว่า เด็กคนนี้เป็ลูกของพวกคุณจริงหรือเปล่า”
“นังเด็กสารเลว” ผู้หญิงคนนั้นกัดฟันมองสวี่จือจืออย่างอาฆาต “รีบคืนลูกให้ฉันมา ไม่งั้นฉันจะไม่ไว้หน้าแล้วนะ”
พอเธอพูดจบก็มีผู้ชายร่างใหญ่เดินออกมาจากกลุ่มคนที่มุงดู ซึ่งก็รวมถึงผู้ชายคนที่หัวเราะเยาะเมื่อกี้ด้วย นี่มันขบวนการชัดๆ!
สวี่จือจือมองลู่จิ่งซาน เขาก็พยักหน้าให้แล้วส่งเด็กคืนให้เธอ
“พวกแกเหล้าคารวะไม่กินแต่กินเหล้าลงทัณฑ์ใช่ไหม?” ผู้ชายคนนั้นสีหน้าถมึงทึง
“สถานีตำรวจ?” ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะ “สถานีตำรวจเราก็มีพวกของเรา แกแย่งลูกคนอื่น จะจับเข้าคุกให้หมด”
“ฉลาดๆ หน่อย รีบคืนลูกให้ฉันซะ” ผู้หญิงคนนั้นยื่นมือไปหาเด็กชายด้วยสีหน้ามืดครึ้ม
เด็กชายซุกอยู่ในอ้อมกอดของสวี่จือจือด้วยความกลัว
สวี่จือจือยังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่จิ่งซานก็ถีบเข้าที่หน้าอกของผู้ชายคนนั้น
พลั่ก!
ผู้ชายร่างใหญ่คนนั้นถูกถีบกระเด็นลงไปที่พื้น แล้วก็กระอักเืออกมา
สวี่จือจือ “...” พลังทำลายล้างนี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว! แถมยังทำให้คนข้างๆ ใกลัวไปหมด
“พี่” ผู้หญิงคนนั้นร้องออกมาอย่างใ “พวกแกมัวทำอะไรอยู่ ไปรุมกระทืบมันเลย”
“วันนี้ถ้าไม่ใช่พวกมันตาย ก็ต้องเป็พวกเราตาย!” ไม่คิดเลยว่าจะเจอของแข็งเข้าให้!
“คุณ...ไหวไหม?” สวี่จือจือมองผู้ชายร่างใหญ่ห้าหกคนที่อยู่ตรงหน้าแล้วถามเสียงเบา
ลู่จิ่งซานมองเธอด้วยสายตาลุ่มลึก แล้วใช้การกระทำบอกเธอ
อย่าถามผู้ชายว่าไหวไหม เพราะคำตอบมีเพียงหนึ่งเดียว
ไหว ต้องไหว ไม่ไหวก็ต้องไหว
“ว้าว...”
ในขณะที่สวี่จือจือกำลังมึนงง เด็กชายในอ้อมกอดก็ปรบมืออย่างตื่นเต้น “คุณอาเก่งจัง ตีคนไม่ดี ตีคนไม่ดี!”
ผู้ชายร่างใหญ่ห้าหกคน ถูกเขาจัดการคนเดียวหมด
ใช่แล้ว เธอรู้ว่าเขาเก่งมาก แต่ไม่คิดว่าเขาจะเก่งขนาดนี้! สวี่จือจือรู้สึกเลื่อมใสขึ้นมาทันที!
พอลู่จิ่งซานหันกลับมาก็เห็นดวงตาผลซิ่งสวยงามของเด็กสาวกำลังมองเขาอยู่
คงไม่ได้...ทำให้เธอใหรอกมั้ง?
เขากำลังคิดแบบนั้นก็เห็นสวี่จือจืออุ้มเด็กเข้ามาหาอย่างตื่นเต้น “ลู่จิ่งซาน คุณเก่งมากเลย!”
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในอ้อมกอดมีเด็กอยู่ เธอคงจะยกนิ้วโป้งให้เขาไปแล้ว
“นี่...”
ผู้หญิงคนนั้นที่เมื่อกี้ยังหยิ่งยโสอยู่ ตอนนี้ก็มีแต่ความหวาดกลัว เมื่อเห็นท่าไม่ดีก็รีบส่งสัญญาณให้คนอื่นๆ
แต่สวี่จือจือจะปล่อยให้พวกเขาวิ่งไปได้ยังไงกัน?
“พี่น้องทุกคน คนพวกนี้เป็พวกค้ามนุษย์ พวกเราจะปล่อยให้พวกเขาวิ่งหนีไปไม่ได้นะ” สวี่จือจือะโบอก
ตอนนี้คนมุงดูเยอะขึ้น แถมคนในยุคนี้ก็มีจิตใจที่รักความยุติธรรม เมื่อได้ยินสวี่จือจือพูดก็มีผู้ชายหลายคนเข้าไปจับคนล้มลุกคลุกคลานเอาไว้
“ไป ส่งไปสถานีตำรวจให้หมด” มีคนะโขึ้น
.............................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้