ตอนที่ 7 ก้าวย่างเมฆา...
เสี่ยวเฉินเดินโซซัดโซเซออกจากหอตำรา แสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องลงมาทำให้เขารู้สึกแสบตาเล็กน้อย ร่างกายทุกส่วนของเขากรีดร้องด้วยความเ็ปจากการรับกระบวนท่าของผู้าุโเสี่ยวเทียนซิน แต่ในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยินดีอย่างถึงขีดสุด
ในมือข้างหนึ่งของเขาคือม้วนคัมภีร์ก้าวย่างเมฆา ฉบับสมบูรณ์ ส่วนในแขนเสื้ออีกข้างคือตำราเคล็ดวิชาบำเพ็ญเพียรระดับปฐีขั้นสูงอีกสองเล่มที่เขาหยิบติดมือออกมาเป็ฉากบังหน้า
[...กำลังวิเคราะห์สภาพร่างกายของโฮสต์ พบรอยร้าวขนาดเล็กที่กระดูกซี่โครง 3 ซี่ กล้ามเนื้อฉีกขาดระดับไมโครทั่วร่างกาย อวัยวะภายในได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย กำลังเปิดใช้งานระบบซ่อมแซมนาโนแมชชีนระดับสูงสุด คาดว่าจะกลับสู่สภาพปกติได้ภายใน 6 ชั่วโมง]
“แค่หนึ่งในสิบส่วน ยังร้ายกาจถึงเพียงนี้” เสี่ยวเฉินพึมพำกับตัวเองพลางไอออกมาเป็ลิ่มเืเล็กๆ “ยอดฝีมือในโลกใบนี้ ช่างน่ากลัวกว่าที่ข้าคิดไว้นัก”
แต่ความน่ากลัวนั้นกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่น ตรงกันข้าม มันกลับจุดไฟแห่งความทะเยอทะยานในใจของเขาให้ลุกโชนขึ้นไปอีก! ในโลกที่แล้ว เขาถูกสร้างขึ้นมาให้เป็ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่กลับถูกตีกรอบและควบคุมไว้ด้วยเทคโนโลยี แต่ในโลกใบนี้ ขีดจำกัดของความแข็งแกร่งนั้นสูงส่งจนแทบจะไร้ที่สิ้นสุด!
เมื่อกลับถึงเรือนพัก เขาก็ปิดประตูลงกลอนทันที ไม่สนใจแม้แต่เหมยหลินที่มองมาด้วยความเป็ห่วง เขาทรุดตัวลงนั่งขัดสมาธิบนเตียง แล้วคลี่ม้วนคัมภีร์ก้าวย่างเมฆา ออก
ทันทีที่คัมภีร์ถูกเปิดออกจนสุด...
กริ๊ก!
เสียงกลไกเล็กๆ ดังขึ้นจากแกนไม้ของม้วนคัมภีร์ มันแยกตัวออกจากกัน เผยให้เห็นช่องว่างเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใน ที่นั่น มีหินสีดำสนิทขนาดเท่านิ้วก้อยนอนนิ่งอยู่ มันคือหินิญญาเยือกแข็งา!
หินก้อนนั้นดูธรรมดามาก ไม่มีความแวววาวใดๆ แต่ทันทีที่มันัักับอากาศภายนอก ไอเย็นที่บริสุทธิ์และหนาแน่นกว่า ปราณาเยือกแข็ง ของเขาหลายสิบเท่าก็แผ่กระจายออกมาอย่างรวดเร็ว!
[!!! ตรวจพบแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ระดับสูง! โครงสร้างพลังงานตรงกับ ปราณาเยือกแข็งของโฮสต์ 99.8%! หากดูดซับพลังงานนี้ จะสามารถยกระดับการบำเพ็ญเพียรของท่านได้อย่างก้าวะโ!]
เสี่ยวเฉินหยิบหินก้อนนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ความเย็นะเืของมันแทรกซึมผ่านิัจนเขารู้สึกชาไปทั้งฝ่ามือ
“หลู่ปิง เริ่มกระบวนการดูดซับพลังงาน พร้อมกับซ่อมแซมร่างกายไปพร้อมกัน”
[รับทราบ กำลังสร้างช่องทางเชื่อมต่อพลังงาน ปรับเปลี่ยนนาโนแมชชีนให้ทำหน้าที่เป็ตัวกรองและเร่งปฏิกิริยา กระบวนการจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง คำเตือน: ในระหว่างกระบวนการ โฮสต์จะได้รับความเ็ปอย่างรุนแรงจากการที่พลังงานเย็นเข้าชำระล้างและปรับโครงสร้างร่างกาย โปรดเตรียมใจให้พร้อม]
เสี่ยวเฉินแค่นยิ้ม ความเ็ปงั้นรึ? สำหรับคนที่เคยผ่านการฝึกฝนใน ‘โปรเจกต์ เจเนซิส’ มาแล้ว ความเ็ปทางกายนั้นไม่ต่างอะไรกับสายลมที่พัดผ่านิั
เขากำหินิญญาไว้ในมือแน่น แล้วเริ่มโคจรพลังปราณตามเคล็ดวิชาดูดซับพลังงานที่ปรากฏขึ้นในหัวจาก คัมภีร์โอสถา
วูบ!
กระแสพลังงานเย็นเยียบที่รุนแรงราวกับธารน้ำแข็งถล่มทะลักเข้าสู่ร่างกายของเขาทันที!
“อ๊าาาาาา!”
แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เสี่ยวเฉินก็ยังอดไม่ได้ที่จะคำรามออกมาด้วยความเ็ป! มันคือความรู้สึกราวกับถูกน้ำแข็งแห้งนับล้านชิ้นบดขยี้เข้าไปในเส้นเืทุกสาย! เส้นชีพจรปราณของเขาที่เพิ่งถูกซ่อมแซมมาใหม่ๆ ถึงกับสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับจะฉีกขาดออกจากกันอีกครั้ง!
แต่เขาก็กัดฟันแน่น! เืไหลซึมออกมาจากไรฟัน!
เขาอดทน... ปล่อยให้พลังงานอันป่าเถื่อนนั้นไหลผ่านไปทั่วร่าง ในขณะเดียวกัน นาโนแมชชีนก็นับล้านก็กำลังทำงานอย่างบ้าคลั่ง พวกมันคอยซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ป้องกันอวัยวะสำคัญ และนำทางพลังงานที่บริสุทธิ์เ่าั้ให้ไหลไปยังตันเถียนอย่างเป็ระบบ
มันคือการต่อสู้กันระหว่างการทำลายล้าง และการเยียวยา ที่เกิดขึ้นพร้อมกันในร่างกายของเขา!
เวลาผ่านไปทีละชั่วยาม...
ร่างกายของเสี่ยวเฉินถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งสีดำสนิทจนดูเหมือนรูปสลักน้ำแข็ง เปลวเทียนในห้องสั่นไหวอย่างรุนแรงก่อนจะดับวูบลงเพราะไอเย็นที่แผ่ออกมา
และแล้ว 5 ชั่วโมงที่ยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์ก็ผ่านพ้นไป
แคร่ก!
เกล็ดน้ำแข็งที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาพลันปรากฏรอยร้าว ก่อนจะแตกสลายออกเป็ผุยผง!
เสี่ยวเฉินลืมตาขึ้นช้าๆ...
ฟู่ว...
ลมหายใจที่เขาผ่อนออกมากลายเป็ไอเย็นสีขาวบริสุทธิ์ ในดวงตาของเขาที่เคยดำสนิท บัดนี้กลับมีประกายสีม่วงเข้มวูบวาบอยู่ภายในอย่างน่าประหลาด
[...กระบวนการดูดซับและซ่อมแซมเสร็จสิ้น กำลังประเมินผล...]
[...ระดับการบำเพ็ญเพียรของโฮสต์: ทะลวงสู่ขอบเขตหลอมรวมปราณ ขั้นที่สาม!]
[...ความแข็งแกร่งทางกายภาพ: เพิ่มขึ้น 200%]
[...ความบริสุทธิ์ของปราณาเยือกแข็ง: เพิ่มขึ้น 400%]
[...สรุป: พัฒนาการแบบก้าวะโ!]
เสี่ยวเฉินค่อยๆ คลายมือออก หินิญญาในมือของเขาได้กลายเป็ผงฝุ่นสีเทาไปเสียแล้ว เขาลุกขึ้นยืนช้าๆ ััได้ถึงพลังที่เอ่อล้นอยู่ในร่างกายจนแทบจะะเิออกมา! หากเปรียบพลังของเขาก่อนหน้านี้เป็เพียงลำธารสายเล็กๆ ตอนนี้มันก็ได้กลายเป็แม่น้ำที่เชี่ยวกรากแล้ว!
เพียงแค่หินิญญาชิ้นเล็กๆ ชิ้นเดียว ยังสามารถทำให้เขาพัฒนาได้ถึงเพียงนี้!
“นี่เป็เพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” เขากำหมัดแน่น
เมื่อร่างกายกลับสู่สภาพสมบูรณ์และแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า เขาก็ไม่รอช้าที่จะเริ่มศึกษาเคล็ดวิชาก้าวย่างเมฆาทันที
[หลู่ปิง สแกนและวิเคราะห์คัมภีร์ สร้างโปรแกรมจำลองการฝึก]
[รับทราบ กำลังสแกน วิเคราะห์สำเร็จ! เคล็ดวิชาก้าวย่างเมฆา แบ่งออกเป็ 9 ระดับหลักการสำคัญคือการใช้พลังปราณสร้างแท่นเหยียบ ที่มองไม่เห็นในอากาศเพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ จำเป็ต้องมีการควบคุมพลังปราณที่ละเอียดอ่อนและแม่นยำอย่างยิ่ง]
ด้วยความช่วยเหลือของหลู่ปิง การทำความเข้าใจเคล็ดวิชาที่ซับซ้อนนี้จึงกลายเป็เื่ง่ายดาย เขาสามารถข้ามขั้นตอนการทำความเข้าใจที่ต้องใช้เวลาเป็ปีๆ ไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม
ณ ลานฝึกซ้อมส่วนตัวหลังเรือนในยามดึกสงัด
ร่างของเสี่ยวเฉินเคลื่อนไหวไปมาราวกับภูตพรายในความมืด
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เท้าของเขาแทบจะไม่ได้ััพื้นดิน! เขาก้าวจากเงาของต้นไม้ต้นหนึ่ง ไปยังเงาของก้อนหินอีกก้อนหนึ่งได้อย่างเงียบเชียบและรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ! นี่เป็เพียงผลจากการฝึกฝนเคล็ดวิชาระดับแรก เงาไร้ร่องรอย เพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น!
หากมีใครมาเห็นเข้า คงต้องคิดว่าตัวเองกำลังฝันไปเป็แน่!
หลายวันต่อมา ณ เรือนพักของเสี่ยวจื่อหาน
บรรยากาศนั้นแตกต่างจากเรือนของประมุขโดยสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยความโอ่อ่า หรูหรา และ ความทะเยอทะยาน
เสี่ยวจื่อหานกำลังนั่งเช็ดกระบี่เล่มงามของเขาอย่างใจเย็น ตรงหน้าของเขามีชายชุดดำผู้หนึ่งคุกเข่าอยู่
“เรียนนายน้อย จากการสืบข่าวใน่หลายวันที่ผ่านมา นายน้อยเฟิงหลิวเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในเรือน ไม่ออกไปไหนเลยขอรับ แต่มีเื่น่าแปลกคือ เขาได้เบิกสมุนไพรและเตาหลอมโอสถไปจำนวนมาก และทุกคืนจะมีไอเย็นประหลาดแผ่ออกมาจากเรือนของเขาขอรับ”
“หึ... ไอเย็นประหลาดงั้นรึ” เสี่ยวจื่อหานแค่นยิ้ม “คงจะกำลังฝึกวิชามารอะไรของมันอยู่กระมัง ปล่อยมันไป ไม่ต้องไปสนใจมัน”
“แต่ว่า...” ชายชุดดำลังเลเล็กน้อย “เมื่อสองวันก่อนท่านผู้นั้น จากสำนักสาขาเมืองหลวงได้ส่งข่าวมา เขาสนใจเื่ของนายน้อยเฟิงหลิวมาก และกำลังจะส่งคนมา ตรวจสอบในเร็วๆ นี้ขอรับ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเสี่ยวจื่อหานพลันแข็งค้างไป!
ท่านผู้นั้น คืออาของเขาแท้ๆ ซึ่งเป็ถึงผู้าุโของตระกูลเสี่ยวสาขาใหญ่ในเมืองหลวง! เป็ผู้อุปถัมภ์ ผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของฝ่ายพวกเขา!
“ว่าอย่างไรนะ! ท่านอาจะส่งคนมางั้นรึ!”
“ขอรับ... ดูเหมือนท่านจะสนใจในวาสนา ที่นายน้อยเฟิงหลิวได้รับมาเป็อย่างมาก”
เสี่ยวจื่อหานขมวดคิ้วแน่น นี่มันเื่ดีหรือไม่ดีกันแน่? การที่ตระกูลใหญ่เข้ามาแทรกแซง อาจจะช่วยกำจัดเสี่ยวเฟิงหลิวไปได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน หากวาสนา ของมันเป็ของจริงล่ะ? มันอาจจะถูก่ชิงไปโดยตระกูลใหญ่แทน!
“ช่างเถอะ!” เขาสะบัดความคิดนั้นทิ้งไป “ก่อนที่คนของตระกูลใหญ่จะมาถึง ข้าจะต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อน!”
เขาหันไปมองลูกน้องอีกคนที่ยืนรออยู่ “เื่ที่ข้าให้เ้าไปจัดการล่ะ?”
“เรียบร้อยแล้วขอรับนายน้อย” ลูกน้องคนนั้นยื่นกล่องไม้เล็กๆ ส่งให้ “โลหิตอสูรวานร ตามที่ท่าน้าทุกอย่างขอรับ”
เสี่ยวจื่อหานรับกล่องนั้นมาเปิดดู ภายในมีขวดหยกเล็กๆ บรรจุของเหลวสีแดงเข้มที่ยังคงร้อนระอุและส่งกลิ่นคาวเืจางๆ ออกมา เขายิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“ดีมาก... ดีมาก!”
โลหิตอสูรวานร คือโอสถต้องห้ามชนิดหนึ่ง มันสามารถกระตุ้นศักยภาพของผู้ใช้ให้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาสั้นๆ ทำให้พลังปราณแข็งแกร่งขึ้น ร่างกายทนทานขึ้น แต่ผลข้างเคียงของมันก็ร้ายแรงเช่นกัน มันจะกัดกร่อนสติสัมปชัญญะของผู้ใช้ ทำให้คลุ้มคลั่งและดุร้ายราวกับสัตว์ป่า!
เขาตั้งใจจะใช้มันในการแข่งขันประลองสมุนไพร! เพื่อที่จะบดขยี้เสี่ยวเฟิงหลิวให้สิ้นซากต่อหน้าทุกคน!
“ไอ้ขยะ ข้าจะทำให้เ้ารู้ ว่าระหว่างอัจฉริยะที่แท้จริง กับพวกที่พึ่งพาแค่วาสนา มันแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน!”
ในขณะที่คลื่นใต้น้ำกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบงัน
เสี่ยวเฉินก็กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาใหญ่ในการฝึกฝนของเขา นั่นคือการขาดแคลน วัตถุดิบ
การหลอมโอสถตามคัมภีร์โอสถานั้น ต้องใช้สมุนไพรและวัตถุดิบที่แปลกประหลาดและหายากยิ่งกว่าตำราทั่วไปหลายเท่านัก แม้เขาจะมีป้ายหยกัเขียว แต่สมุนไพรบางอย่างก็ไม่มีอยู่ในคลังของตระกูลเสี่ยวเลย
โดยเฉพาะโอสถที่จะช่วยให้เขาทะลวงสู่ขอบเขตหลอมรวมปราณขั้นต่อไป โอสถเก้าหยินเปลี่ยนเส้นเอ็น
มัน้าแก่นของงูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง ซึ่งเป็สัตว์อสูรระดับสาม ที่อาศัยอยู่เฉพาะใน หุบเขาเมฆาเร้น ซึ่งเป็เขตแดนอันตรายที่อยู่ห่างจากเมืองหลิงโจวออกไปหลายร้อยลี้
“ดูเหมือนข้าคงต้องออกเดินทางสักครั้งแล้วสินะ” เขามองแผนที่ในมือพลางครุ่นคิด
การเดินทางครั้งนี้อันตรายอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่จากสัตว์อสูรในหุบเขา แต่ยังอาจจะมาจาก คนที่ไม่หวังดีอีกด้วย
แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น เวลาเหลือไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น เขาต้องแข็งแกร่งขึ้นให้เร็วที่สุด!
“หลู่ปิง วิเคราะห์เส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด และเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์อสูรในหุบเขาเมฆาเร้นทั้งหมด”
[รับทราบ กำลังสร้างแผนการเดินทางและยุทธวิธีรับมือ คาดการณ์ความเป็ไปได้ที่จะพบ งูอสรพิษเกล็ดน้ำแข็ง: 78% อัตราการรอดชีวิตของโฮสต์ในการต่อสู้: 55%]
“55% ไม่เลว” เขายิ้มบางๆ
ในคืนนั้นเอง เขาได้ทิ้งจดหมายสั้นๆ ไว้ให้บิดามารดา บอกเพียงว่าจะขอออกไปหาประสบการณ์และวัตถุดิบเพื่อเตรียมตัวสำหรับการประลอง แล้วจึงอาศัยความมืดมิดและเคล็ดวิชาก้าวย่างเมฆา ลอบออกจากจวนตระกูลเสี่ยวไปอย่างเงียบเชียบ
โดยที่เขาไม่รู้เลยว่า การเดินทางของเขาในครั้งนี้ อยู่ในสายตาของเงาร่างสายหนึ่งที่เฝ้าจับตาดูเขาอยู่จากบนยอดหลังคามาโดยตลอด
เงาของผู้าุโเสี่ยวเทียนซิน
“หึ... กล้าหาญดีนี่” ชายชราพึมพำกับตัวเองพลางลูบเครา “ไปเถอะ ไปให้โลกภายนอกได้ขัดเกลาเ้า ข้าอยากจะรู้นัก ว่าเ้าัน้อยตัวนี้ จะเติบใหญ่ไปได้ถึงเพียงใดกัน”
