ทุกปีที่มีการประกาศผลคะแนน กระทรวงศึกษาธิการจะติดประกาศไว้หน้ากระทรวง
ปีนี้ก็เช่นกัน
วันที่ประกาศคะแนน ยังไม่ทันได้แปะใบประกาศ เหล่าผู้ปกครองที่หวังว่าบุตรของตนจะสอบติดก็มายืนรอที่หน้าประตูั้แ่เช้าตรู่
ใกล้ถึงเวลาติดประกาศ อู๋อู๋ให้คนขับรถเมอร์เซเดสเบนซ์มาส่ง ระหว่างที่มองซ้ายมองขวาหาที่จอดรถก็เห็นรถ BMW ของตระกูลอวี๋พอดี
“พี่หรงก็มาดูคะแนนเหมือนกันหรือคะ ผลสอบของอวี๋ฉิงเป็ยังไงบ้าง”
อู๋อู๋ถามด้วยท่าทีกระตือรือร้น แต่อันที่จริงไม่ได้รู้สึกแบบนั้น
หลายปีมานี้แม้เธอจะไม่เคยเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง แต่ในฐานะคู่แข่ง เื่คุณหนูเ้าอารมณ์ของตระกูลอวี๋อย่างอวี๋ฉิงมีผลการเรียนไม่ดีนักเป็สิ่งที่เธอรู้มานานแล้ว
แม้ว่าท่าทางของอู๋อู๋จะไม่ดูน่าสงสัย แต่ทำไมหรงชิวจะไม่รู้ว่าอู๋อู๋คิดอะไรในใจ
อวี๋ิกวงเป็คนอารมณ์ดี ท่าทีเย่อหยิ่งของอวี๋ฉิงสืบทอดมาจากมารดาผู้สูงส่งคนนี้ หลายปีที่ผ่านมาทางบ้านให้การสนับสนุน สามีก็เอาอกเอาใจ ทำให้บ่อยครั้งที่เธอยังคงติดนิสัยแบบคุณหนูในตอนวัยเยาว์
แล้วทำไมเธอต้องเสียเวลากับอารมณ์ของอู๋อู๋
“ยังไม่ได้ติดประกาศ ฉันจะรู้ได้ยังไง แต่ว่าอินอินของพวกเธอมีผลการเรียนดีมาตลอดนี่นา ครั้งนี้คะแนนสอบก็คงออกมาไม่เลว ไม่ใช่สิ ตอนนี้อินอินไม่ใช่คนของตระกูลหลิงแล้ว ตอนนี้เด็กคนนั้น…เหมือนจะชื่อเมิ่งเมิ่งใช่ไหม ผลการเรียนของเธอเป็ยังไงบ้าง”
เธอทำให้หน้าของอู๋อู๋เปลี่ยนสีได้สำเร็จ หรงชิวลูบรอยยับที่แทบจะไม่มีบนเสื้อสูท รักษากิริยาท่าทางและเดินตรงไปยังจุดติดประกาศทันที
สีหน้าของอู๋อู๋ที่อยู่ด้านหลังเปลี่ยนไปมากกว่าเดิม
เธอพอจะรู้ว่าเมิ่งเมิ่งทำคะแนนสอบได้ไม่ดี แต่ในใจยังคงคาดหวัง ไม่แน่ว่าเมิ่งเมิ่งอาจทำได้ดีก็เป็ได้
เธอหอบความหวังนั้นมุ่งหน้าไปยังบอร์ดประกาศคะแนน
แปดโมงเช้า เ้าหน้าที่กระทรวงศึกษาธิการนำโปสเตอร์แผ่นเล็กใหญ่มากมายที่ใช้ประกาศผลคะแนนสอบของนักเรียนออกมา จากนั้นค่อยๆ ติดลงบนผนังทีละแผ่น โดยเรียงตามลำดับคะแนน ้าเขียนชื่อวิชาต่างๆ เช่น ภาษา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์และเคมี และประวัติศาสตร์การเมือง
ทุกปีมีเด็กนักเรียนเข้าสอบขึ้นมัธยมปลายหลายหมื่นคน ในขณะที่พื้นที่ของกระทรวงศึกษาธิการมีจำกัด ไม่สามารถติดรายชื่อได้ทั้งหมด ปกติแล้วจะติดประกาศแค่นักเรียนที่สอบได้หนึ่งพันอันดับแรก ส่วนคนที่เหลือสามารถโทรตรวจสอบได้หลังจากสิบโมงเป็ต้นไป
เ้าหน้าที่หลายคนแยกกันออกไปติดผลคะแนน ผู้ปกครองที่คาดหวังว่าบุตรของตนเองจะได้คะแนนดีๆ พากันมายืนรออยู่ด้านหลังและพยายามมองหารายชื่อบุตรของตนเอง
อวี๋ิกวงมีธุรกิจใหญ่โต ทำให้รู้จักคนในกระทรวงศึกษาธิการ พวกเขารู้ก่อนแล้วว่าผลการสอบครั้งนี้อวี๋ฉิงทำได้ดีมาก อยู่ลำดับห้าร้อยกว่าๆ หรงชิวกำลังไล่หารายชื่อ ไม่นานก็เจอ “อวี๋ฉิง” ลำดับที่ 520 เมื่อตรวจสอบชื่อและเลขประจำตัวนักเรียนแล้วก็มั่นใจว่าเป็บุตรสาวของพวกเธอไม่ผิดแน่นอน
ฉิงฉิงสอบได้ดีขนาดนี้เชียวหรือ
หรงชิวรู้ว่าบุตรสาวของตนเองไม่ใช่คนขยัน แต่เื่นั้นเธอไม่ใส่ใจ สำหรับครอบครัวของพวกเขา การที่บุตรสาวไม่ออกนอกลู่นอกทาง ประพฤติตัวดี รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดีถือเป็สิ่งสำคัญยิ่งกว่าผลการเรียน
ในสองประเด็นนี้ ฉิงฉิงทำได้ดีมาตลอด หรงชิวมีความสุขเช่นกันที่เห็นบุตรสาวเพียงคนเดียวแสดงท่าทีเย่อหยิ่ง เอาแต่ใจ เป็เ้าหญิงตัวน้อยที่ไร้ความกลัดกลุ้มใจ ทำอะไรได้อย่างไร้ขีดจำกัด
แต่ไม่คิดเลยว่า การสอบขึ้นมัธยมปลายในครั้งนี้ของฉิงฉิงทำให้เธอประหลาดใจมาก
เรียนไม่ดีไม่เป็ไร แต่ถ้าเรียนดีคนเป็แม่อย่างเธอก็ดีใจ
เมื่อไล่ดูเลขประจำตัวนักเรียนบนกระดาษขาว หญิงวัยกลางคนะโโลดเต้น ดีอกดีใจราวกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ หลังจากอารมณ์ตื่นเต้นสงบลงแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาอวี๋ิกวง
“เหล่าอวี๋ ฉันหาเจอแล้ว ฉิงฉิงมีชื่อติดอันดับด้วย ลำดับที่ 520 ค่ะ!”
“ตรวจสอบดูแล้วค่ะ เลขประจำตัวนักเรียนคือเลขของฉิงฉิง ไม่ใช่ชื่อซ้ำกัน”
อวี๋ิกวงที่อยู่ปลายสายเมื่อได้รับการยืนยันก็มีปฏิกิริยาไม่ต่างจากหรงชิวในตอนแรก แต่เขาเป็คนละเอียดรอบคอบ ไม่นานก็นึกบางอย่างขึ้นได้
“ผมจำได้ว่าฉิงฉิงเคยเล่าให้ฟัง ก่อนสอบซูอินติวให้เธอ คัดโจทย์ที่จะออกสอบมาให้มากมาย ดูเหมือนว่าแม้แต่โจทย์ข้อเขียนก็เดาถูก ที่ฉิงฉิงสอบได้คะแนนดีน่าจะเกี่ยวข้องกับเื่นี้ คุณลองดูซิว่าอินอินสอบได้ลำดับที่เท่าไร”
ถึงแม้หลายครั้งที่เจอกันจะไม่เคยพูดเื่นี้ แต่หรงชิวค่อนข้างชอบซูอิน
เด็กสาวผิวขาวผุดผ่อง ดูสะอาดสะอ้าน ความสะอาดแบบนั้นเปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ใครต่อใครต่างรู้สึกดีที่ได้เห็น ฉิงฉิงเลือกคบเพื่อนดีจริงๆ การบริจาคเงินช่วยเหลือเด็กนักเรียนยากไร้ในครั้งก่อนพิสูจน์ให้เห็นถึงศีลธรรมในตัวซูอิน
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะลองหาดู”
ข้างหน้าผู้คนมากมายเบียดเสียดกันอยู่ หรงชิวไม่มีเื่ต้องทำอยู่แล้ว เธอจึงค่อยๆ ไล่ดูรายชื่อต่อจนถึงอันดับที่หนึ่งพัน แต่ก็ไม่พบชื่อของซูอิน
จากนั้นหางตาของเธอเหลือบไปเห็นอู๋อู๋
“หาเจอหรือยังคะ”
ยังไม่ทันที่หรงชิวจะได้ถาม อีกฝ่ายก็ถามเธอเสียก่อน
“อืม เจอแล้วค่ะ ครั้งนี้อวี๋ฉิงทำคะแนนได้ไม่เลว อยู่ลำดับที่ห้าร้อยกว่า สอบย่อยทีไร เด็กคนนี้มักจะไม่รอบคอบ ไม่คิดว่าสอบใหญ่จะทำได้ดีขนาดนี้”
ใบหน้าของหรงชิวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เธอมีความสุขมากจริงๆ
หากอีกฝ่ายเป็ผู้ปกครองของนักเรียนที่ทำคะแนนได้ไม่ดี เธอคงสงวนคำพูด แต่คำกล่าวของอู๋อู๋ก่อนหน้านี้สื่อความหมายอย่างชัดเจน
บุตรสาวแท้ๆ ของตนเองไม่มีชื่อติดอันดับ แล้วบุตรสาวของฉันจะต้องตกอันดับไปด้วยหรืออย่างไร
เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยชื่นชมบุตรสาวของตนเองพร้อมถามอีกฝ่าย “ใช่ค่ะ อินอินสอบเป็ยังไงบ้างคะ เมื่อครู่ฉันลองไล่หาชื่อแต่ไม่เจอ เธอเปลี่ยนกลับไปใช้แซ่เดิมหรือยังคะ”
เมิ่งเมิ่งตกอันดับ อวี๋ฉิงทำคะแนนสอบได้ดี รวมไปถึงท่าทีดีใจจนตัวลอยของหรงชิว ทุกอย่างทำให้อู๋อู๋ไม่สบอารมณ์ เมื่อได้ฟังประโยคสุดท้ายที่หรงชิวเอ่ย ในใจของเธอก็เกิดความหวัง
ดูท่าซูอินคงทำคะแนนได้ไม่ดี หากเป็แบบนี้ก็ดี แต่คะแนนของเธอคงไม่แย่มากนัก เมื่อถึงเวลานั้นหล่อนอาจจะใช้เส้นสายให้เธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมลำดับที่หนึ่งประจำเมือง เมื่อถึงเวลานั้น หล่อนก็จะให้เมิ่งเมิ่งเข้าแทนที่
แต่วินาทีต่อมา เสียงประหลาดใจของผู้คนก็ดังขึ้น
“ปีนี้คนที่สอบได้ที่หนึ่งได้คะแนนสูงขนาดนี้เชียวหรือ”
“ได้ 575 คะแนนจาก 580 ขาดไปแค่ 5 คะแนน”
“ปีนี้โจทย์ยากมากไม่ใช่หรือ ลูกชายของฉันได้ 500 คะแนนพอดีถือว่าอันดับสูงมากแล้วนะ”
“คนที่ทำคะแนนได้สูงสุดชื่ออะไรหรือ”
มีเสียงถามขึ้น ผู้คนเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่นานคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าใกล้ใบรายชื่อมากที่สุดได้เงยหน้าและพูดชื่อที่อยู่บนสุดออกมาสองพยางค์
“หลิงอิน!”
เสียงผู้คนแตกตื่นราวกับน้ำที่หยดลงบนน้ำมันที่ปะทุ
“หลิงอินหรือ อยู่โรงเรียนไหน”
“ยังต้องถามอีกหรือ มีปีไหนบ้างที่นักเรียนที่ได้คะแนนอันดับหนึ่งไม่ได้มาจากโรงเรียนทดลอง”
“ใช่ เด็กนักเรียนจากโรงเรียนทดลอง ลูกชายของฉันเป็เพื่อนร่วมชั้นของเธอ เห็นว่าบ้านมีฐานะดี แต่เป็เด็กที่ไม่ค่อยทำตัวเด่น ดูลักษณะก็รู้แล้วว่าเป็เด็กเรียน”
“ที่บ้านฐานะดีหรือ นั่นมันเมื่อก่อน ลูกของฉันก็เรียนที่โรงเรียนทดลอง ได้ยินว่าอันที่จริงเธอเป็เด็กชนบทที่ถูกอุ้มสลับตัวน่ะ”
“เด็กชนบทหรือ มิน่าล่ะถึงตั้งใจเรียนแบบนี้”
ผู้คนถกเถียงกันไปต่างๆ นานา ถึงแม้คนเมืองบางคนจะดูถูกคนชนบท แต่พวกเขาไม่มีทางดูถูกเด็กนักเรียนที่ทำคะแนนได้สูงเป็อันดับหนึ่ง และทิ้งห่างอันดับสองตั้งยี่สิบคะแนนแบบนี้
บทสนทนาถกเถียงกันนั้นเข้าหูอู๋อู๋ ทำให้เธอแสดงสีหน้าไม่พอใจมากกว่าเดิม
อันดับหนึ่ง ที่หนึ่งของเมือง…แล้วต่อไปเธอจะทำอย่างไร
หรงชิวที่ยืนอยู่ข้างเธอกลับมีสีหน้าดีใจ และยังบอกว่าฉิงฉิงเลือกคบเพื่อนดี คบไปส่งๆ แต่ดันได้เพื่อนเป็ถึงนักเรียนที่มีคะแนนสอบสูงเป็อันดับหนึ่ง
“ฉันบอกแล้ว ปกติอินอินเป็เด็กมีผลการเรียนดี ยังไงคะแนนก็ต้องออกมาไม่แย่”
เมื่อถูกพูดจี้ใจดำ สีหน้าของอู๋อู๋ก็เคร่งขรึมมากกว่าเดิม