“ท่านอาห้า เช่นนั้นข้าออกไปก่อน เมื่อท่านและท่านน้าเล็กทำธุระเสร็จแล้ว รีบมาทานข้าวนะเ้าคะ” ซ่งหยวนหยวนยืนรออยู่ เมื่อมิมีผู้ใดสนใจ นางจึงหมุนตัวจากไป
ความจำของเด็กผู้นี้แย่ยิ่งนัก เมื่อครู่เขามิได้บอกให้นางเรียกจิ่นเซวียนว่าอาสะใภ้ห้าหรือ?นางเรียกจิ่นเซวียนว่าน้าเล็กอีกแล้ว
ซ่งจื่อเฉินมองตามแผ่นหลังของซ่งหยวนหยวน และบ่นพึมพำอย่างมิพอใจ
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เขาว่าจะกลับไปรอจิ่นเซวียนที่ห้อง บางหนเขารู้สึกกลัวจริงๆ ว่าจิ่นเซวียนจะอยู่ในมิติไปตลอดชีวิต มิสนใจเขาอีก
จิ่นเซวียนออกมาจากมิติหลังอาบน้ำเสร็จ ในขณะที่ซ่งจื่อเฉินนอนฟุบหน้า ใจลอยอยู่ที่โต๊ะ จิ่นเซวียนเดินไปยืนอยู่ข้างหลังเงียบๆ และยื่นมือไปปิดตาเขา “ท่านลองทายว่าข้าคือผู้ใด?”
“แน่นอนว่าเ้าคือภรรยาที่งดงาม จิตใจดีและอ่อนโยนที่สุดของข้า” ซ่งจื่อเฉินกุมมือเล็กและบอบบางของจิ่นเซวียนเอาไว้ พร้อมดึงมือของนางออกจากตาของเขา
“ทุกคนรอกินข้าวกับพวกเราอยู่ พวกเราไปกินข้าวกันก่อน คืนนี้ถึงจะมีแรงทำงาน” ซ่งจื่อเฉินลุกขึ้นยืน และส่งยิ้มบางให้จิ่นเซวียนอย่างมีลับลมคมใน
“ท่านทำตัวมิจริงจังอีกแล้ว ดูมิเหมือนนิสัยของท่านเลย” ใบหน้าได้รูปสวยของจิ่นเซวียนแดงระเรื่อทันที หลังอยู่กับซ่งจื่อเฉินมานาน นางพบว่าซ่งจื่อเฉินทำตัวคาดเดามิเคยได้
“ภรรยาคิดไปถึงที่ใดกัน ข้าหมายถึงหมักเหล้าต่างหาก” ซ่งจื่อเฉินหัวเราะลั่น เขายื่นมือไปหยิกแก้มของจิ่นเซวียน “หากเ้าอยากคิดไปในแง่นั้น ข้าก็มิถือสาหรอก”
“ไปกินข้าว ท่านอย่าไร้สาระ” จิ่นเซวียนผลักซ่งจื่อเฉินออก นางเดินอ้อมไปข้างหน้าแล้วตรงไปที่ห้องโถงใหญ่
ซ่งจื่อเฉินเห็นนางเดินไปไกล จึงรีบเดินตามไปด้วย
ห้องโถงใหญ่มีโต๊ะทานข้าวสองตัว คนในบ้านซ่งมีมากมาย โต๊ะตัวเดียวจึงมิพอนั่ง
พานซื่อกับซ่งหยวนหยวนทำหมูสามชั้นอบน้ำแดงและเนื้อหมูผัดซอส ทุกโต๊ะมีเนื้อสัตว์สามจานและผักสองจาน ส่วนน้ำแกงคือถั่วขาวต้มบวบ
จิ่นเซวียนค่อนข้างชอบดื่มน้ำแกงบวบ นางจึงตักให้ตนเองหนึ่งชาม
จิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินนั่งโต๊ะตัวเดียวกับสามพี่น้องบ้านซ่ง ซ่งเฉวียน ซ่งหยวนหยวน และซ่งเหมย ส่วนคนอื่นๆ อยู่นั่งอีกโต๊ะหนึ่ง
ซ่งหวานึกถึงเื่กลับไปเยี่ยมบ้านซย่าของจิ่นเซวียนได้ เขาจึงหันไปพูดกับนาง “เซวียนเซวียน วันพรุ่งนี้พวกเ้ากลับไปเยี่ยมบ้านซย่า ให้อาเฉวียนไปเป็เพื่อนเถิด เขาขับรถม้าให้พวกเ้าได้”
“เช่นนั้นก็ดีเลย ขอบคุณพี่ใหญ่เ้าค่ะ” เดิมทีจิ่นเซวียนอยากจะปฏิเสธ แต่ซ่งหวาเป็พี่ชาย คำขอร้องของเขาก็มิได้มากเกินไป นางจึงยินยอม
“ครอบครัวเดียวกัน มิต้องเกรงใจหรอก”
ซ่งหวารู้สึกขอบคุณจิ่นเซวียนเล็กน้อย หากมิใช่เพราะนาง ลูกชายคนเล็กของเขาคงมิได้เข้าไปรียนในสำนักศึกษา
“จริงด้วยพี่ใหญ่ วันพรุ่งนี้ท่านช่วยไปที่สำนักศึกษาจวี้จือ แล้วถามเ้าสำนักว่าเขายังรับนักเรียนอยู่หรือไม่ หากเขายังเปิดรับอยู่ ก็ให้อาเจี๋ยกับอาฉีเข้าไปเรียนก่อน เมื่อท่านถามรายละเอียดเรียบร้อยแล้ว ข้าจะนำค่าเทอมมาให้ท่าน จากนั้นท่านค่อยพาพวกเขาไปที่สำนักศึกษา” ซ่งจื่อเฉินมิหวังให้อาเจี๋ยกับอาฉีสอบได้ตำแหน่งจอหงวน เขาให้เด็กๆ ไปเรียนที่สำนักศึกษาก่อน หากพวกเขามีความสามารถสอบได้ถงเชิง นั่นนับเป็โชคของพวกเขา หากสอบมิติด เขาก็มิคิดโทษเด็กๆ
“ท่านอาห้า สำนักศึกษาใกล้ปิดชั้นเรียนแล้ว มิสู้ไปตอนเปิดชั้นเรียนใหม่เล่าขอรับ” ซ่งเจี๋ยมิอยากให้ท่านพ่อไปเสียเที่ยว เขาสามารถทบทวนวิชาอยู่ที่บ้านได้ เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน เขาค่อยไปที่สำนักศึกษา อีกอย่างเขาหายจากสำนักศึกษาไปนาน กลับไปครานี้มิรู้ว่าอาจารย์จะยอมรับเขาอยู่หรือไม่
“ท่านอาห้า ข้ากับน้องสี่จะอยู่บ้านอ่านหนังสือกันก่อน หากเปิดเรียนแล้วค่อยไปขอรับ” ซ่งฉีเองก็มิอยากกลับไปที่สำนักศึกษาเช่นกัน เขาคิดว่าเขาควรอยู่ช่วยงานใน่ที่บ้านยุ่งที่สุด
“เช่นนั้นก็ฟังพวกเ้า ต่อไปนี้หากพวกเ้าทำงานบ้านได้ก็ทำ ทำมิได้ก็ตั้งใจอ่านหนังสือ เมื่อเปิดเรียนแล้วก็พยายามสอบเข้าห้องอันดับหนึ่งให้ได้”
สำนักศึกษาแบ่งห้องออกเป็อันดับหนึ่ง สอง สาม และสี่ ห้องอันดับหนึ่งเป็ห้องที่มีผลการเรียนดีที่สุด นักเรียนทุกคนโดดเด่น แน่นอนว่าบางคนก็ใช้เส้นสายเข้ามา
“เป่าจู คืนนี้เ้ารับหน้าที่ล้างจาน เ้าทำอาหารมิเป็ พวกเรามิไปเคี่ยวเข็ญ แต่จานชามเ้าต้องล้าง” เฉินซื่อสั่งซ่งเป่าจูให้ไปล้างจาน หลังทานอาหารเสร็จ เดิมทีซ่งเป่าจูอยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อซ่งจื่อเฉินปรายตามอง นางจึงรีบสงบปากสงบคำ
“พี่สี่ ท่านไปล้างจานกับข้าเถิด จานพวกนี้มากมายยิ่งนัก ข้าล้างผู้เดียวมิเสร็จแน่เ้าค่ะ” ซ่งเป่าจูเก็บจานพลางยิ้มประจบซ่งเหมย นางอยากให้ซ่งเหมยไปช่วยนางทำงาน
“เป่าจู วันนี้พี่สี่ของเ้าตามพวกข้าไปกำจัดวัชพืชในทุ่งข้าวฟ่าง นางเหนื่อยล้ายิ่งนัก จานชามมิกี่ใบ เ้าล้างเองเถิด” ซ่งหวามิให้ซ่งเหมยไปช่วยซ่งเป่าจู ซ่งเป่าจูรู้สึกแค้นเคืองเล็กน้อย นางรู้สึกว่านางมิมีสถานะใดในครอบครัวเลย น่าอนาถยิ่งนัก
“พี่สะใภ้ห้า ข้าขอต่อรองได้หรือไม่ ข้าจะกวาดพื้นอย่างเดียวมิล้างจานเ้าค่ะ” สาเหตุที่ซ่งเป่าจูมิยอมล้างจานคือการล้างจานทำให้มือหยาบกร้าน ความจริงแล้วจิ่นเซวียนก็มิชอบล้างจานเช่นกัน มันเป็งานบ้านที่นางเกลียดที่สุด นางมิมีปัญหากับการทำอาหาร แต่อย่างไรก็มิชอบล้างจานอยู่ดี
“เ้ามิอยากทำก็ย่อมได้ เ้าเอาจานให้ผู้อื่นล้างแทนเ้า แล้วจ่ายค่าล้างจานสามสิบเหวินให้พวกเขา” จิ่นเซวียนมิชอบน้องสาวสามีผู้นี้จริงๆ หากมิเห็นแก่หน้าสามีกับซ่งผิง นางคงมิสนใจซ่งเป่าจู
“ท่านอาเล็กจ่ายข้ามาสามสิบเหวิน ข้าจะรีบไปล้างจานให้ท่านเลยเ้าค่ะ” แม่หนูน้อยซ่งหยวนหยวนยิ้มรับงานล้างจานจนตาหยี แต่ซ่งเป่าจูปฏิเสธ
“ข้าล้างเองดีกว่า พี่ห้ามิได้บอกให้ข้าพึ่งพาตนเองหรือ”
ซ่งหยวนหยวนอยากได้เงินจนบ้าไปแล้ว หากนางต้องให้เงินหยวนหยวนสามสิบเหวิน นางเก็บไว้ใช้เองมิดีกว่าหรือ
“หยวนหยวน ในเมื่ออาเล็กของเ้ารับปากว่าจะล้างจาน เ้าก็ไปทำความสะอาดห้องโถงใหญ่เถิด อากาศร้อนแล้ว จะทิ้งสิ่งสกปรกมั่วซั่วมิได้ ต้องรักษาความสะอาดในห้องให้ดี” ซย่าตงชิงบอกให้ซ่งหยวนหยวนช่วยทำความสะอาด ก่อนจะออกจากห้องโถงใหญ่
จิ่นเซวียนมิอยากรีบกลับห้อง นางคิดว่าจะออกไปเดินเล่นเพื่อย่อยอาหาร
“สามี ท่านกลับห้องไปก่อนเถิด ข้าจะออกไปเดินเสียหน่อย”
“เ้ายังมิได้ไปเดินรอบหมู่บ้านของพวกเราเลย ข้าจะพาเ้าไปเอง จะได้ถือโอกาสแนะนำสหายใหม่ด้วย” ซ่งจื่อเฉินพาจิ่นเซวียนไปเดินเล่นด้วยตนเอง จิ่นเซวียนดีใจยิ่งนัก
พวกเขาเดินไปตามถนนในหมู่บ้านช้าๆ ลมยามเย็นพัดโชย รู้สึกเย็นสบายยิ่งนัก
เดินมาได้มิไกล จิ่นเซวียนก็หยุดและเงยหน้ามองซ่งจื่อเฉิน “สามี ท่านรู้หรือไม่ว่าองุ่นในเมืองเป่ยซินมีราคาจินละเท่าใด?”
“ราคาถูกยิ่งนัก สองสามร้อยเหวินก็ซื้อได้หนึ่งจินแล้ว โดยเฉพาะ่ที่องุ่นโตเร็ว ราคาจะยิ่งถูก เพราะองุ่นอาจจะเน่าเสียได้ตลอดเวลา พ่อค้าองุ่นจึงต้องลดราคาเพื่อให้ขายออก” ซ่งจื่อเฉินคิดว่าหากจะซื้อองุ่น ควรซื้อตอนที่ราคาถูกจะดีที่สุด
พวกเขามีมิติ หากเก็บองุ่นเอาไว้ในมิติ จะเก็บได้นานขึ้น
่นี้เป็หน้าองุ่นพอดี พวกเขาต้องเดินทางจากอำเภอซิ่งหยางไปที่เมืองเป่ยซิน จะใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือน หากไปทางน้ำจะเร็วขึ้น
“เหล้าองุ่นเป็โอกาสทางธุรกิจที่ดีในการสร้างกำไร พวกเราจะนำเหล้าออกขายให้แคว้นอื่นๆ ด้วย ถึงต้นทุนขององุ่นจะสูงก็มิเป็ไร” จิ่นเซวียน้าใช้โอกาสนี้ทำเงินก้อนใหญ่ เหล้าชั้นดี ย่อมขายออกเสมอมิว่ายุคสมัยใด พวกคนรวยมิได้อยากดื่มอย่างจริงจัง พวกเขาดื่มเพื่อลิ้มรสกันในเรือนเท่านั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้