หงสาร้องก้องนภาะเืเก้าชั้นฟ้า
เฟิงอวิ๋นเซียวสีหน้าแปรเปลี่ยน ดวงตาทอแววพรั่นพรึง
วิหคเทพสีทองมลังเมลืองปรากฏอยู่เื้ัของเซียวเฉิน วิหคเทพอาบเปลวเพลิงทั่วร่าง ปีกมีห้าสีสัน หรูหราสง่างามอย่างเด่นชัด เท้าเหยียบอัคคีร้อนระอุ ขนหางเก้าเส้นมีเปลวเพลิงสีทองม่วงลุกไหม้จางๆ งดงามเจิดจรัส
ทุกคนต่างตกตะลึง
“สัตว์เทพหงสา!”
สีหน้าของศิษย์สำนักในก็แปรเปลี่ยนไปในชั่วขณะนี้ และถึงขั้นดวงตาฉายแววอิจฉาตาร้อน เคล็ดวิชาของเซียวเฉินแกร่งกร้าวดุดันกว่าตำราทลายคุกของเฟิงอวิ๋นเซียวไม่ใช่แค่เล็กน้อย เซียวเฉินถึงกับเคล็ดวิชาของสัตว์เทพหงสา พวกเขาที่อยู่ห่างไกลต่างรู้สึกได้ถึงอานุภาพกดดันที่แผ่มาจากร่างของสัตว์เทพ
เนตรงามของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์เปล่งประกาย
“เป็วิหคเทพหงสาจริงๆ...”
เฟิงอวิ๋นเซียวมีสัตว์ร้ายทลายคุก แต่เซียวเฉินกลับมีสัตว์เทพหงสา
จากบางความหมาย เซียวเฉินเป็ฝ่ายครองความเหนือกว่าอย่างชัดเจน สายโลหิตหงสาจากเมื่อกลียุคครั้งาได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว เหนือชั้นกว่าสัตว์ร้ายทลายคุกลิบลับ สิ่งที่เซียวเฉินใช้คือพลังแห่งสายโลหิต ส่วนสิ่งที่เฟิงอวิ๋นเซียวใช้กลับเป็เพียงเคล็ดวิชา
พลังของทั้งสองฝ่าย เทียบกันไม่ได้เลย
กี๊ซ!
ั์ตาของหงสาเปล่งแสงรัศมี ศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทาน ปากพ่นอัคคีร้อนระอุ พริบตาก็ล้อมกรอบสัตว์ทลายคุกไว้ สัตว์ทลายคุกร้องโหยหวนอย่างเ็ป พริบตาก็มอดไหม้ เหลือไว้เพียงความว่างเปล่า
ฆ่าในเสี้ยววิ!
ส่วนเฟิงอวิ๋นเซียวกระอักโลหิตสดออกมา ร่างส่ายโงนเงนและล้มคว่ำ
การต่อสู้ครั้งนี้ใกล้จบแล้ว
เห็นเฟิงอวิ๋นเซียวล้มไปกองกับพื้น ทุกคนต่างร้องอุทาน
เซียวเฉินชนะแล้ว
หงสากลายเป็แสงเสวียนหายเข้าร่างของเซียวเฉิน จากนั้นเซียวเฉินเดินไปยังเบื้องหน้าของเฟิงอวิ๋นเซียว
“ข้าบอกแล้วว่าข้าจะสังหารเ้า!”
รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบที่ส่งมาจากในน้ำเสียงของเซียวเฉิน ในที่สุดดวงตาของเฟิงอวิ๋นเซียวก็ฉายแววพรั่นพรึงต่อความตาย สีหน้าก็เปลี่ยนเป็ซีดเผือด
“อย่าฆ่าข้า!”
เซียวเฉินหัวร่อหยัน “แต่เมื่อครู่เ้าจะสังหารข้า ข้าจะไม่ทิ้งเ้าไว้เป็เภทภัยแก่ข้าในภายหลังเด็ดขาด” ว่าแล้วก็ฟาดหนึ่งฝ่ามือ พลังฝ่ามือประทับลงบนทรวงอกของเฟิงอวิ๋นเซียว ทรวงอกของเขายุบลงในพริบตา
โลหิตพุ่งออกจากปาก แถมยังมีเศษอวัยวะภายในปะปนมาด้วย
ล้มลงกับพื้นช้าๆ ตายตาไม่หลับ
ดวงตาเปี่ยมไปด้วยความหวาดหวั่นและไม่ยินยอม
ด้านล่างเวทีเงียบกริบ
เมื่อพวกเขาเห็นว่าคนที่เซียวเฉินจะท้าประลองคือเฟิงอวิ๋นเซียวแห่งสำนักใน ก็นึกว่าเซียวเฉินต้องตายแน่นอน แต่บัดนี้เซียวเฉินสามารถยืนอยู่ตรงนั้นได้โดยไม่บุบสลาย ส่วนเฟิงอวิ๋นเซียวกลับสิ้นชีพ
เซียวเฉินทำให้ทุกคนตกตะลึงจนไม่มีอะไรจะกล่าว
ดวงตาทอประกายชื่นชม
เซียวเฉินผุดขึ้นเร็วเกินไป แรกเข้าสู่สถานศึกษามีความสามารถแค่ขั้นแรกกำเนิดห้าชั้นฟ้าก็เอาชัยโจวเจ๋อที่อยู่ขั้นแรกกำเนิดแปดชั้นฟ้าได้ ต่อมายังสังหารเฟิงอวิ๋นเสียงที่อยู่ขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้า บัดนี้กลางเวทีประลองเป็ตาย ก็ใช้ความสามารถขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้าข้ามขั้นไปสังหารเฟิงอวิ๋นเซียวผู้เข้มแข็งขั้นตานฟ้าแห่งสำนักใน
ความสำเร็จนี้ทิ้งห่างศิษย์สำนักนอกนับไม่ถ้วนจนไม่เห็นฝุ่น
แม้แต่ศิษย์สำนักในก็รู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของเซียวเฉิน
รู้สึกว่าอันตรายอยู่จางๆ
สีหน้าที่มองเซียวเฉินก็เปลี่ยนจากดูแคลนในตอนแรกมาเป็ตกตะลึง
ด้วยพร์ของเซียวเฉิน เมื่อเข้าสู่สำนักในต้องทิ้งนามอันเจิดจรัสไว้บนผังชางหวงแน่นอน
เซียวเฉินะโลงจากเวทีต่อสู้ เดินมาถึงเบื้องหน้าของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ ยิ้มกล่าว “ศิษย์พี่มู่หรง ข้าไม่ได้ทำให้เ้าขายหน้านะ ข้ากลับมาอย่างปลอดภัย”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ทุบเซียวเฉินแล้วเอ่ย “ฮึ ถือว่าเ้าผ่านด่านแล้ว” เื่ที่เซียวเฉินไม่รู้คือ เมื่อครู่อีกนิดเดียวมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ก็จะพุ่งขึ้นไปพาเขาลงมา แต่นางยังอดกลั้นไว้ เพราะในใจของนางเชื่อมั่นในตัวเซียวเฉินอย่างบอกไม่ถูก
จากนั้นเซียวเฉินก็พูดกับหลินหนิง “หลินหนิง ข้าช่วยแก้แค้นแทนพี่ใหญ่หลินและพี่ใหญ่สือให้แล้ว นับจากวันนี้ไป จะไม่มีใครมาหาเื่พวกเ้าอีก”
“อืม อืม” หลินหนิงขอบตาแดงก่ำ ผงกศีรษะซ้ำๆ
ในเวลาเดียวกันนี้ มีเสียงแหวกอากาศดังมา ชายชราผมขาวคนหนึ่งมาถึงตรงนี้อย่างกะทันหัน ศิษย์สำนักในทุกคนเห็นชายชราผู้นี้ก็ร่างสะท้าน
“คารวะ อาจารย์ใหญ่!”
ศิษย์สำนักนอกก็ร่างสะท้าน ค้อมกายคารวะเช่นกัน จั๋นอวี่แย้มยิ้มผงกศีรษะ จากนั้นมองเซียวเฉินที่อยู่ข้างกายของมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แล้วเอ่ยถาม “เ้าคือเซียวเฉินสินะ?”
เซียวเฉินอึ้งงัน จากนั้นผงกศีรษะ
“ศิษย์สำนักนอกเซียวเฉิน คารวะอาจารย์ใหญ่”
สายตาของจั๋นอวี่มองซากศพเฟิงอวิ๋นเซียวบนเวทีประลอง มีสีหน้าตะลึง จากนั้นถามต่อไปว่า “เ้าเป็คนฆ่าเฟิงอวิ๋นเซียวหรือ?” ฟังน้ำเสียงไม่ออกว่ายินดีหรือขุ่นเคือง เื่นี้ทำให้มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างมีสีหน้ากังวล
เซียวเฉินพยักหน้ากล่าว “ถูกต้อง”
จั๋นอวี่มองเซียวเฉิน ไม่ได้เอ่ยวาจา เวลาเหมือนหยุดนิ่ง ทุกคนก็มองเซียวเฉินและจั๋นอวี่ ไม่กล้าระบายลมหายใจแรงๆ
หลินหนิงกัดฟันเดินมาตรงเซียวเฉิน พูดกับจั๋นอวี่ “อาจารย์ใหญ่ เซียวเฉินสังหารเฟิงอวิ๋นเซียวเพื่อแก้แค้นให้พี่ชายข้าและพี่ใหญ่สือ หากจะลงโทษ ท่านก็ลงโทษข้าเถอะ”
จั๋นอวี่ยิ้ม “ข้าบอกว่าจะลงโทษเ้าั้แ่เมื่อไร”
“เอ่อ...” หลินหนิงสับสน
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างกลับวางใจ
จั๋นอวี่มองเซียวเฉิน ถามว่า “เซียวเฉิน เ้ายินดีเข้าสำนักในหรือไม่?”
ฮือฮา!
ที่นั่นเสียงดังเซ็งแซ่
อาจารย์ใหญ่รับเซียวเฉินเข้าสำนักในด้วยตนเอง นี่นับว่าเป็ครั้งแรกในประวัติการณ์
เกียรติยศเช่นนี้ พบเจอได้แต่แสวงหาไม่ได้!
เซียวเฉินยิ้ม
“ข้ายินดี!”
“ระดับขั้นของเ้าเป็อย่างไร?” จั๋นอวี่เอ่ยถาม
เซียวเฉินตอบตามจริง “ขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้าระดับต้น”
ดวงตาของจั๋นอวี่มีแววตะลึงวาบขึ้น เขารู้ว่าเฟิงอวิ๋นเซียวมีความสามารถขั้นตานฟ้าหนึ่งชั้นฟ้าระดับกลาง ทว่าเซียวเฉินอยู่แค่ขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้าก็สังหารเฟิงอวิ๋นเซียวได้ ความสามารถและพร์เช่นนี้เป็อัจฉริยะที่หาได้ยาก
ดวงตาของจั๋นอวี่มีประกายชื่นชม
หลังผงกศีรษะก็มองศิษย์สำนักในแล้วเอ่ยช้าๆ “ศิษย์สำนักในทุกคนให้กลับเข้าสำนักในทันที” จากนั้นมองมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์และเซียวเฉิน กล่าวว่า “ส่วนพวกเ้าสองคนตามข้ามา”
“ครับ/ค่ะ” มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์และเซียวเฉินผงกศีรษะ
ก่อนไป เซียวเฉินบอกกับหลินหนิง “หลินหนิง ข้าต้องไปสำนักใน คงไปเยี่ยมพี่ใหญ่หลินและพี่ใหญ่สือไม่ทัน ฝากเ้าบอกพวกเขาว่า หากมีเวลาว่างข้าจะไปเยี่ยม ตั้งใจฝึกวิชา พยายามเข้าสำนักในให้ได้เร็วๆ”
“อืม แน่นอน” หลินหนิงผงกศีรษะ
สำนักในแห่งสถานศึกษาชางหวงนั้นกว้างใหญ่และงดงามกว่าสำนักนอก นี่คือความรู้สึกแรกของเซียวเฉิน เนื่องจากข้างกายของเขามีมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์อยู่ด้วย ระหว่างทางเขาจึงไม่รู้สึกเบื่อหน่าย คนทั้งสองตามหลังจั๋นอวี่จนมาถึงลานกว้างที่อลังการแห่งหนึ่ง
บนลานกว้างในยามนี้ มีศิษย์สำนักในนับร้อย สิ่งที่เข้าสู่คลองจักษุคือเวทีสูง มีป้ายศิลาขนาดั์สูงประมาณสิบเมตรบนเวทีสูง วาดหงส์สลักับนป้ายศิลาและสลักอักษรสามตัวที่ทำให้เซียวเฉินใ
ผังชางหวง!
“นี่คือผังชางหวงหรือ...” เซียวเฉินส่งเสียงพึมพำ เขามองผังชางหวงตรงเบื้องหน้า ในใจแตกตื่นสุดขีด!
ส่วนจั๋นอวี่มองแวบหนึ่ง จากนั้นสะบัดมือ พลังแกร่งกร้าวขุมหนึ่งลบชื่อตำแหน่งที่ยี่สิบสามบนผังชางหวงออก จากนั้นสลักใหม่
อันดับที่ยี่สิบสามบนผังชางหวง เซียวเฉิน ขั้นแรกกำเนิดเก้าชั้นฟ้าระดับกลาง!
เซียวเฉินเบิกตาโต
ถึงกับเหยียบย่างเข้าสู่ผังชางหวงแล้ว แทนที่ตำแหน่งเดิมของเฟิงอวิ๋นเซียว
เซียวเฉินมองผังชางหวงแวบหนึ่ง ใจสะท้านอย่างรุนแรง
อันดับหนึ่งบนผังชางหวง ซูเฉินเทียน ขั้นตานฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับสูงสุด!
อันดับสองบนผังชางหวง ลั่วเฉินอวี่ ขั้นตานฟ้าเก้าชั้นฟ้าระดับต้น!
อันดับสามบนผังชางหวง โม่ซิวหยา ขั้นตานฟ้าแปดชั้นฟ้าระดับต้น!
อันดับสี่บนผังชางหวง มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์ ขั้นตานฟ้าเจ็ดชั้นฟ้าระดับกลาง!
---
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์อยู่สูงถึงอันดับสี่!
ขั้นตานฟ้าเจ็ดชั้นฟ้าระดับกลาง!
จากนั้นเซียวเฉินก็มองลงมาต่อ ผู้รั้งอันดับห้าสิบคนแรกบนผังชางหวงล้วนอยู่ขั้นตานฟ้าทุกคน ส่วนตนเองเป็เพียงคนเดียวที่อยู่ขั้นแรกกำเนิดในบรรดาคนเ่าั้ และถึงกับอยู่อันดับที่ยี่สิบสาม
เซียวเฉินอดยิ้มขื่นไม่ได้ เขามองมู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แล้วเอ่ย “ศิษย์พี่มู่หรง ตำแหน่งของข้าออกจะอันตรายไปสักนิดใช่หรือไม่?”
มู่หรงเชี่ยนเอ๋อร์แย้มยิ้มพยักหน้า “อืม นิดหน่อย”