ไม่ไกลออกไปมีสตรีหลายคนกำลังกระซิบกระซาบกันอยู่
“สตรีที่อยู่กับศิษย์พี่ชิงเซียวเป็ใครกันนะ หน้าตางดงามเหลือเกิน!”
“ใช่แล้ว งดงามยิ่งนัก! งดงามกว่าหลันเยว่หรูโฉมงามจอมเ็านั่นมากทีเดียว!”
“หลันเยว่หรูนับเป็อะไรได้ วันๆ เอาแต่ทำหน้าตาบึ้งตึง คิดว่าตนเองเลิศเลอกว่าผู้อื่น ซ้ำยังเข้าข้างตัวเองเรียกศิษย์พี่ชิงเซียวว่าเป็คนรู้ใจของตนเอง ทว่าแต่ไรมาศิษย์พี่ชิงเซียวไม่เคยยอมรับ นางหน้าไม่อายเกินไปแล้ว!”
“ที่แท้เป็เช่นนี้ ข้าเกือบถูกหลอกเสียแล้ว คิดว่านางและศิษย์พี่ชิงเซียวเป็คนรักคู่หนึ่ง!”
“ไม่ใช่น่ะสิ! ศิษย์พี่ชิงเซียวมิได้ดวงตาไร้แววถึงเพียงนั้น!”
ข้างหลังสตรีหลายคนเหล่านี้ หลันเยว่หรูยืนถือตำราเล่มหนึ่งอยู่ด้านหลังชั้นหนังสือ นางได้ยินคำพูดของพวกนางทั้งหมด มือจึงกำหมัดแน่น โทสะแล่นขึ้นมาเป็ริ้วจนต้องขบฟันแน่น
แม้คนเหล่านี้จะทำให้นางหงุดหงิดรำคาญใจ แต่ที่ทำให้นางหงุดหงิดรำคาญใจที่สุดยังคงเป็เฟิ่งเฉี่ยน!
เมื่อกลางวันได้รับข่าวที่พี่ชายแจ้งมาว่าแผนการล้มเหลว นางถึงกับตกตะลึง ที่ทำให้นางไม่อยากจะเชื่อก็คือ พี่ชายถึงกับถูกให้ออกจากตำแหน่งขุนนางด้วยสาเหตุนี้ และยังเกือบจะต้องถูกจำคุก นางคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าฝ่าาจะทรงปกป้องเฟิ่งเฉี่ยนถึงเพียงนี้ เฟิ่งเฉี่ยนผู้นี้เป็ดั่งเช่นปมปริศนา ทำให้คนคาดเดาไม่ออก!
ที่คิดไม่ถึงยิ่งไปกว่านั้นก็คือคืนนี้ยังพบนางที่หอตำราที่นี่!
นางและศิษย์พี่ชิงเซียวมาหอตำราทำอันใดกัน นางตัดสินใจตามขึ้นไปดู
มู่ชิงเซียวนำทางเฟิ่งเฉี่ยนมาจนถึงชั้นหนังสือหลายชั้นที่อัดแน่นไปด้วยตำราแพทย์ ทั้งยังแนะนำว่า “ตำราแพทย์ของสำนักศึกษาล้วนรวบรวมอยู่ในชั้นหนังสือหลายชั้นนี้ ท่านเปิดอ่านดูได้ตามสบาย หาก้ายืมออกไปข้างนอก ให้ใช้ชื่อของข้าในการลงทะเบียนยืมได้ แต่ยืมได้มากที่สุดสิบเล่มต่อหนึ่งครั้ง”
เฟิ่งเฉี่ยนผายมือ “ไม่จำเป็ต้องยืมออกไปข้างนอก ข้าอ่านผ่านๆ ครู่หนึ่งก็พอแล้ว”
พูดแล้วนางก็เขย่งปลายเท้าเพื่อยื่นมือไปหยิบตำราเล่มหนึ่งที่อยู่มุมซ้ายบนชั้นที่สูงที่สุดลงมาอ่าน สวบๆๆๆ นางพลิกเปิดตำราเร็วขึ้นเรื่อยๆ!
มู่ชิงเซียวมองกิริยาอ่านตำราอันแปลกประหลาดของนางแล้วรู้สึกแคลงใจอย่างที่สุด แต่เขาไม่ได้ถามออกไป ได้แต่ยืนเฝ้าอยู่เงียบๆ ด้านข้าง ขณะเดียวกันกลับรู้สึกศรัทธาในตัวนางขึ้นมาอย่างหาเหตุผลไม่ได้
นางอ่านตำราแพทย์เล่มที่หนึ่งจบลงอย่างรวดเร็ว มู่ชิงเซียวรับตำรามา “ท่านยัง้าอ่านเล่มไหนอีก ข้าช่วยหยิบให้ท่าน!”
เฟิ่งเฉี่ยนเองก็ไม่ได้เกรงใจเขาเช่นกัน นางชี้ไปบนชั้นหนังสือที่สูงที่สุด “ท่านหยิบเล่มนั้นให้ข้า ข้าต้องอ่านตำราทุกเล่มรอบหนึ่ง!”
ตำราแพทย์ที่นี่และตำราแพทย์ของวังหลวงมีเนื้อหาบางส่วนที่ซ้ำกัน แต่ก็มีเนื้อหาใหม่และคำอธิบายที่แตกต่างกัน นางตัดสินใจอ่านตำราแพทย์ทั้งหมดในนี้รอบหนึ่ง เพื่อปะติดปะต่อรายละเอียดที่แตกต่างกัน และเพื่อป้องกันมิให้ตกหล่นรายละเอียดที่สำคัญ
มู่ชิงเซียวได้ยินนางพูดเช่นนี้ เขาถึงกับโง่งมไปทันทีด้วยคิดว่าตนเองฟังผิด จึงถามนางย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ท่าน้าอ่านตำราแพทย์ที่อยู่บนชั้นหนังสือทั้งหมดนี้หนึ่งรอบใช่หรือไม่”
“ถูกต้อง!” เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า ในมือเริ่มเปิดตำราเล่มใหม่ไปด้วย
เห็นสีหน้าท่าทางเอาจริงเอาจังของนางไม่เหมือนกำลังล้อเล่น มู่ชิงเซียวไม่ลังเลใจอีกต่อไป เขาให้ความร่วมมือโดยการส่งตำราแพทย์ให้นาง
แม้จะไม่รู้ว่าเหตุใดนางจึงต้องทำเช่นนี้ และจะได้อะไรกลับมาหรือไม่ แต่เขารับรู้ได้อย่างชัดเจนว่านางกำลังพยายามคิดหาวิธีช่วยรักษาท่านปู่ของเขา
ดังนั้นไม่มีอะไรให้ต้องคลางแคลงใจอีก เขาให้ความร่วมมือกับนางอย่างเต็มกำลัง
ไม่ไกลออกไป หลันเยว่หรูมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่นี่ด้วยหัวใจอันหม่นหมอง
“นางกำลังทำอะไรกันแน่ อ่านหนังสือก็ไม่เหมือนอ่านหนังสือ...หรือในหนังสือมีสิ่งของมีค่าอันใดซ่อนอยู่”
ตอนนี้เองที่นางเห็นผู้าุโหนวดเคราขาวโพลนเดินมาจากไกลๆ ดวงตานางเป็ประกายเมื่อคิดแผนการร้ายได้ จึงรีบเดินขึ้นไปรับหน้า
“ผู้น้อย หลันเยว่หรู คารวะท่านผู้าุโ!”
ผู้าุโหยุดเดินแล้วมองประเมินหลันเยว่หรู ในแววตาปรากฏทอประกายกล้า พยักหน้ากล่าวว่า “จอมยุทธ์ขั้นสี่ ไม่เลวๆ!”
หลันเยว่หรูตอบกลับอย่างถ่อมตน “ท่านผู้าุโเอ่ยชมเกินไปแล้ว ล้วนเป็เพราะอาจารย์และผู้าุโสั่งสอนได้ดีเ้าค่ะ”
ผู้าุโหรี่ตาลงและกล่าวหัวเราะ “แม้อาจารย์ท่านนั้นของเ้าจะเป็สตรี แต่ก็เป็สตรีที่ไม่พ่ายแพ้แก่บุรุษแม้แต่น้อย เ้าตั้งใจศึกษาร่ำเรียนให้ดี วันหน้าอนาคตของเ้าต้องก้าวหน้าไปไกลแน่นอน!”
อาจารย์ของหลันเยว่หรู ก็คือมู่ฮูหยิน มารดาผู้ให้กำเนิดของมู่ชิงเซียวนั่นเอง นางมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับท่านผู้าุโท่านนี้ ดังนั้นในยามปกติจึงเอาใจใส่ต่อหลันเยว่หรูเป็พิเศษ
“ศิษย์จะจดจำคำสอนของผู้าุโเอาไว้เ้าค่ะ!” หลันเยว่หรูตอบ
“อืม” ผู้าุโย่างเท้าจะจากไป หลันเยว่หรูเอ่ยปากรั้งเขาเอาไว้ “ท่านผู้าุโ โปรดรั้งอยู่ก่อนเ้าค่ะ!”
“ยังมีเื่อันใดอีกหรือ” ท่านผู้าุโถาม
หลันเยว่หรูพูดอึกอัก “เมื่อวานคณะคาราวานสินค้าของบิดาเพิ่งกลับมา ได้มอบใบไม้ทองคำให้ข้าสามแผ่น ข้าเห็นแล้วยินดียิ่งนัก จึงพกพาติดตัวเอาไว้ เมื่อสักครู่ข้าเข้าไปในหอตำรายังอยู่กับตัว ตอนนี้กลับหาไม่เจอเสียแล้วเ้าค่ะ! ท่านผู้าุโ ท่านเป็ผู้าุโที่ควบคุมดูแลหอตำรา จะช่วยข้าหาได้หรือไม่เ้าคะ มิใช่เพราะมันเป็สิ่งของมีราคา แต่เป็เพราะเป็ของขวัญที่บิดามอบให้ เต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง ข้าเกรงว่าหากทำสูญหายจะมิอาจอธิบายแก่บิดาได้เ้าค่ะ!”
ผู้าุโมีหน้าตะลึงงัน “แน่ใจว่าทำตกหล่นในหอตำรา”
หลันเยว่หรูพยักหน้ามั่นใจ “จะต้องตกหล่นอยู่ในหอตำราแน่นอนเ้าค่ะ...ยามกลางวันข้าพลิกหาในตำราแพทย์หลายเล่ม อ่านตำราไปสักพักจึงพบว่าใบไม้ทองคำหายไปเสียแล้ว...”
ผู้าุโ “เื่นี้ไม่ยาก ข้าให้คนลองค้นหารอบๆ ชั้นหนังสือที่วางตำราแพทย์!”
หลันเยว่หรูแสร้งทำทีท่าเป็กังวล “แต่หากมีคนพบแล้วล่ะเ้าคะ แล้วแอบซ่อนเอาไว้ล่ะเ้าคะ”
ผู้าุโรู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล เขาไตร่ตรองดูแล้วจึงกล่าวว่า “เช่นนั้นปิดล้อมหอตำราก่อน หากหาไม่พบ ค่อยค้นตัวคนทั้งหมดที่อยู่ในนั้น สิ่งของย่อมไม่สูญหายไปไหนแน่นอน!”
หลันเยว่หรูลอบกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ บนใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความยินดี ทว่ากลับเอ่ยวาจาแบ่งรับแบ่งสู้ “ยังคงเป็ท่านาุโที่คิดการรอบคอบเ้าค่ะ!”
ภายในหอตำรา พลันมีเสียงตีระฆังดังขึ้น เสียงระฆังนั้นดึงดูดความสนใจของคนทั้งหมด ต่อมาได้ยินเสียงของท่านผู้าุโที่เปล่งเสียงผ่านพลังลมปราณออกมาให้ได้ยินทั่วกันทั้งหอตำรา...
“นับั้แ่ตอนนี้ ห้ามไม่ให้คนทั้งหมดเข้าออกหอตำรา!”
หอตำราเกิดความวุ่นวายในชั่วพริบตา คนทั้งหมดต่างคาดคะเนไปต่างๆ นานา
“เกิดเื่อันใดขึ้น”
“เหตุใดจึงปิดประตูกะทันหันเช่นนี้เล่า”
“ท่านผู้าุโ้าจะทำอะไรกันแน่”
ทางด้านชั้นวางหนังสือตำราแพทย์ เฟิ่งเฉี่ยนและมู่ชิงเซียวต่างได้ยินคำพูดของท่านผู้าุโ จึงได้แต่มองตากัน
“ข้าออกไปดูสักหน่อย” มู่ชิงเซียววางตำราในมือลงแล้วเดินออกไปด้านนอกประตู
เฟิ่งเฉี่ยนคิดในใจว่าเื่นี้ไม่เกี่ยวข้องกับนาง นางจึงไม่ใส่ใจ ก้มหน้าตั้งใจอ่านตำราต่อไป
มู่ชิงเซียวออกมาถึงหน้าประตู บรรดาศิษย์คนอื่นๆ ก็ค่อยทยอยเข้ามารวมตัวกันเพื่อ้าไถ่ถามว่าเกิดเื่อันใดขึ้น
“ท่านผู้าุโ เกิดเื่อันใดขึ้นขอรับ” มู่ชิงเซียวเอ่ยปากถาม
หลันเยว่หรูเห็นเขาจึงรีบก้าวออกมาอธิบายว่า “ศิษย์พี่ชิงเซียว ท่านก็อยู่ที่นี่เช่นกันหรือเ้าคะ ขออภัยด้วย รบกวนเวลาอ่านตำราของท่านแล้ว!”
มู่ชิงเซียวคาดไม่ถึงอยู่บ้าง “ศิษย์น้องหลัน? เื่นี้เกี่ยวพันกับเ้าหรือ”
หลันเยว่หรูพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงละอายใจ “ที่จริงก็ไม่ใช่เื่ใหญ่โตอันใด แต่ใบไม้ทองคำที่บิดามอบให้ข้านั้น เวลานี้ตกหล่นสูญหายในหอตำราแห่งนี้ ข้าร้อนใจยิ่งนัก ดังนั้นจึงขอให้ท่านผู้าุโช่วยข้าหาเ้าค่ะ”
คนทั้งหมดได้ยินเช่นนั้นจึงเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ทันที
“ที่แท้เป็เพราะใบไม้ทองคำหายไป!”
“ใบไม้ทองคำแผ่นหนึ่ง มีค่าเป็เงินเท่าใดนะ!”
“ไม่เสียแรงที่สกุลหลันเป็หนึ่งในตระกูลใหญ่ของพ่อค้าวาณิชย์ในแคว้นเป่ยเยียน แค่ยื่นมือออกมาก็มีใบไม้ทองคำ”
หลันเยว่หรูได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน ในใจรู้สึกลำพองใจ สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยท่าทีละอายแก่ใจ “ขอโทษทุกๆ คนจริงๆ ทำให้ทุกคนต้องมาพบกับความยุ่งยากเช่นนี้! แต่ข้าได้บอกกับท่านผู้าุโแล้วว่า ใบไม้ทองคำนั้นข้าวางไว้บนชั้นวางหนังสือตำราแพทย์ ขอเพียงหามันพบก็จะเปิดประตูใหญ่ทันที”