สองแม่ลูกรู้สึกเพียงว่าด้านหน้ามืดมน รู้สึกเวียนหัวไปชั่วขณะคล้ายกำลังจะเป็ลม แข้งขาอ่อนแรงแทบล้มทั้งยืนต่างช่วยพยุงกันและกันเอาไว้
องค์ชายรอง องค์ชายรองบอกว่าเป็สหายกับเสี่ยวหง? นี่พวกนางสองคนแม่ลูกฝันไปใช่รึไม่?
พวกนางสองคนแม่ลูกไม่ได้หูฝาดไปใช่หรือไม่?
"ถวายพระพรองค์ชายรองเพคะ"
เสี่ยวชิงที่ตั้งสติได้ก่อนมารดาของตน ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนทำความเคารพหยางซูจวิ้นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดเล็กน้อย ฮูหยินหลิวเฟยที่เห็นเช่นนั้นก็รีบลุกขึ้นมาอย่างเก้ๆ กังๆ
หยางซูจวิ้นยกยิ้มมุมปากอย่างดูแคลน ก่อนจะปรายตามองเสี่ยวชิงครั้งหนึ่ง ไม่คาดคิดมาก่อนว่าท่านอาของเขาจะสายตามืดบอดเช่นนี้ เขาที่คลุกคลีกับเหล่าสตรีมาไม่น้อย มองเพียงปราดเดียวก็สามารถดูออกว่าสตรีตรงหน้านางนี้มีนิสัยใจคอที่อิจฉาริษยาเพียงใด
"องค์ชายรองยาที่เตรียมไว้กระหม่อมนำมาให้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
หยางซูจวิ้นพยักหน้าให้อวิ๋นหลัวซี ก่อนจะยื่นมือไปรับห่อยาจากมือของอวิ๋นหลัวซี แล้วเดินผ่านสองแม่ลูกที่ยืนย่อกายทำความเคารพค้างอยู่เช่นนั้น ไม่แม้แต่จะสั่งให้พวกนางได้ยืดตัวขึ้นเลยแม้แต่น้อย
เสี่ยวหงมองอวิ๋นหลัวซีที่มีสีหน้าเรียบเฉยด้วยแววตาสงสัย เหตุใดเขาจึงมาที่จวนของนางเวลามืดค่ำเช่นนี้กันนะ
แต่จะเพราะเหตุใดก็ตาม นางก็รู้สึกยินดีไม่น้อยที่ได้พบหน้าเขาอีกครั้ง
"ข้านำยาใหม่มาให้เ้า โชคดีที่ข้ารู้สึกมีลางสังหรณ์ประหลาดว่าเ้าจะยังไม่ทันได้ดื่มยาอาจมีมารผจญเสียก่อน จึงออกจากวังหลวงนำยาใหม่มาให้เ้า"
"อือ ขอบใจเ้ามาก"
เสี่ยวหงรับยามาจากหยางซูจวิ้นด้วยแววตาที่เหนื่อยล้า โชคดีที่เขาสองคนมาตอนนี้ มิเช่นนั้นนางเองก็ไม่รู้ว่าจะทัดทานสองแม่ลูกมหาภัยนี่ไหวรึไม่
ฮูหยินหลิวเฟยที่ทนกับการย่อเข่าจนนานเกินไปไม่ไหวนางจึงล้มทั้งยืนไปบนพื้นอย่างห้ามไม่ไหว หยางซูจวิ้นปรายตามองนางด้วยแววตายิ้มเยาะ ก่อนจะใช้สายตาที่แสดงถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ฮูหยินหลิวเฟยรีบลนลานลุกขึ้นมาย่อกายทำความเคารพอย่างตื่นตระหนกอีกครั้ง
"จวนท่านเสนาบดีนี่ช่างไม่ได้เื่เสียจริง อบรมสตรีเช่นไรกัน กิริยามรรยาทเบื้องต้นยังอดทนมิไหว มิสมกับการถูกเลือกให้ร่วมเป็พระญาติกับราชวงศ์เสียเลย แล้วยังกล่าววาจาล่วงเกินองค์ชายเช่นข้าอีก หากข้านำเื่นี้ขึ้นทูลต่อเสด็จแม่ละก็"
"หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ หม่อมฉันจะไม่กล่าววาจาล่วงเกินองค์ชายอีกแล้วเพคะ"
หยางซูจวิ้นยกยิ้มเ็าที่มุมปาก ก่อนจะมองสองแม่ลูกด้วยแววตากดดันอีกครั้ง
"สตรีจะมีกิริยามรรยาทงดงามรึไม่ขึ้นอยู่ที่การอบรมเลี้ยงดูจากมารดา เ้าเป็มารดานางแท้ๆ กลับไม่สามารถอบรมสั่งสอนนางได้ ช่างน่าดูแคลนยิ่งนัก"
"หม่อมฉันมิกล้าอีกแล้วเพคะองค์ชาย"
"ขอองค์ชายอย่าทรงกริ้วท่านแม่เลยเพคะ"
หยางซูจวิ้นพยักหน้าเล็กน้อย สายตามีแววสงสารเห็นใจไม่น้อย
"ก็ดี เช่นนั้นข้าจะไม่ลงโทษพวกเ้าสองคนแม่ลูกให้มากเกินไปนัก โบยคนละยี่สิบไม้ก็พอ อวิ๋นหลัวซีท่านจัดการด้วย"
"พ่ะย่ะค่ะ"
ฮูหยินหลิวเฟยกับเสี่ยวชิงมีสีหน้าซีดเผือดแทบจะล้มทั้งยืน ยี่สิบไม้เชียวหรือ เช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ นางเป็ถึงคู่หมั้นของชินอ๋องเสด็จอาของเขาเชียวนะ ไม่เห็นแก่หน้านางเขาก็ต้องเห็นแก่หน้าท่านอ๋องบ้าง เสี่ยวชิงรีบส่งสายตาให้เด็กรับใช้คนสนิทรีบไปรายงานเื่นี้กับชินอ๋อง หยางซูจวิ้นที่เดาความคิดของนางออกจึงหันไปส่งสายตาเ็าจนเสี่ยวชิงรู้สึกเย็นวาบที่สันหลัง
"ท่านอากำลังาเ็หนัก เ้าที่เป็คู่หมั้นไม่ไปดูแลยังพอเข้าใจ แต่กลับจะสร้างเื่ปวดหัวให้ท่านอาอีกหรือ อวิ๋นหลัวซีเพิ่มโทษเสี่ยวชิงเป็สามสิบไม้ ข้าไม่สนว่าเ้าจะมีความสัมพันธ์เช่นใดกับท่านอา แต่ในเมื่อไม่เคารพกฎระเบียบ มิรู้สิ่งใดเหมาะหรือควร ข้ามีสิทธิ์ลงโทษเ้า ท่านอาเองก็คงเห็นด้วยกับข้า ลากนางสองคนออกไปโบย!"
อวิ๋นหลัวซีพยักหน้าให้ทหารที่หยางซูจวิ้นแอบพาออกมาด้วยลากสองแม่ลูกออกไปจากเรือนกุ้ยฮวา เสียงร้องโหยหวนจากลานบ้านดังกึกก้องจนแทบทะลุชั้นฟ้า
อั๊ก!!
"คุณหนู!!!"
เสี่ยวหงที่อดทนมานานจนทนไม่ไหว นางกระอักเืออกมาคำโต อวิ๋นหลัวซีที่เห็นเช่นนั้นรีบวิ่งเข้าไปหานางอย่างร้อนรน ก่อนจะยื่นมือไปดึงห่อยาจากมือของเสี่ยวหงส่งให้อิ๋งเอ๋อร์ อิ๋งเอ๋อร์รับยาจากมือของอวิ๋นหลัวซีอย่างรู้งานก่อนจะรีบเดินออกไปที่ห้องครัว
อวิ๋นหลัวซีพยุงเสี่ยวหงให้เดินมาที่เตียง เขามีท่าทางเก้ๆ กังๆ ไม่น้อย เสี่ยวหงเองก็พอจะรู้ดีว่ายุคโบราณนั้นหญิงชายห้ามชิดใกล้
แต่นางเป็คนไม่ชอบยึดกฎระเบียบเช่นนี้หรอก!
เสี่ยวหงเอนตัวพิงหมอนอย่างเหนื่อยล้า ใบหน้าซีดขาวของนางดูอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
"เ้าไหวรึไม่?"
อวิ๋นหลัวซีที่ยืนอยู่ข้างเตียงนางเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เสี่ยวหงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับมือของอวิ๋นหลัวซีและดึงเขาให้นั่งลงข้างกายนาง อวิ๋นหลัวซีมีท่าทีขัดขืนนางเล็กน้อย ยิ่งเขาดิ้นเสี่ยวหงก็ยิ่งจับแขนเขาแน่นไม่ยอมปล่อย
"ข้าไหวเ้าค่ะ ทำไมรึ? ถ้าหากว่าข้าไม่ไหวจริงๆ ท่านจะนอนค้างที่เรือนกุ้ยฮวานี้เป็เพื่อนข้าได้หรือไม่?"
"เอ่ยวาจาเหลวไหลอันใดของเ้า ชายหญิงมิควรชิดใกล้!!!"
"ท่านจะสนใจกฎนั่นไปทำไมกัน ในเมื่อท่านอุตส่าห์มาหาข้าถึงที่นี่ก็ค้างคืนกับข้าที่นี่ ข้าไม่ถือสาหรอกเ้าค่ะ"
อวิ๋นหลัวซีใบหน้าแดงก่ำ ตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกคำพูดของนางทำให้เขารู้สึกขนลุกขนพองไปทั่วทั้งตัว
หยางซูจวิ้นซู้ดปากแววตาฉายแววเ้าเล่ห์ สหายรักของเขานางนี้ช่างร้อนแรงยิ่งนัก อีกไม่นานท่านพี่หลัวของเขาคงได้แต่งงานกับนางเป็แน่
อวิ๋นหลัวซีรีบดีดตัวเองลุกออกมาจากเตียงของเสี่ยวหง ก่อนจะก้าวเดินไปหยุดอยู่ข้างกายหยางซูจวิ้น เสี่ยวหงเองก็ไม่ถือสา นางหันไปมองอิ๋งเอ๋อร์ที่กำลังถือถ้วยยาเดินเข้ามา
"คุณหนูดื่มยาก่อนเ้าค่ะ"
"อืม"
เสี่ยวหงรับยามาดื่มรวดเดียวด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในชาติที่แล้วตอนเด็กนางเจ็บป่วยค่อนข้างบ่อย กินยาแทบจะทุกวันทั้งยาน้ำยาเม็ดยาต้มสมุนไพรโบราณ นางจึงชินชากับรสชาติขมของมันเสียแล้ว
"คุณหนูพุทราเชื่อมเ้าค่ะ"
"ไม่ต้อง ข้าทนไหว"
อิ๋งเอ๋อร์ขมวดคิ้วน้อยๆ ของนาง แต่ไหนแต่ไรคุณหนูกลัวการดื่มยาที่ขมมากๆ แต่ทำไมตอนนี้คุณหนูถึงไม่แสดงอาการต่อต้านใดเวลาที่นางนำยามาให้ดื่มเหมือนแต่ก่อน
"เ้าไม่ขมรึ?"
หยางซูจวิ้นมองเสี่ยวหงด้วยแววตาที่แปลกใจไม่น้อย เขาที่เป็บุรุษเวลาดื่มยาแต่ละครั้งมันคือความทรมานด้วยซ้ำ แต่นางกลับมีสีหน้าเรียบเฉยไร้ซึ่งความรู้สึกใด
เสี่ยวหงมองหยางซูจวิ้นก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย
"ขึ้นชื่อว่ายามันก็ต้องขมเป็เื่ปกติ หากเื่เพียงเท่านี้เ้ายังทนไม่ไหว แล้วจะทนเื่อื่นไหวรึ ช่างอ่อนหัดนัก"
หยางซูจวิ้นบิดเบ้มุมปากตน นางหลอกด่าเขาอีกแล้ว
ระหว่างที่เขากลอกตาไปมานั้น สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่อิ๋งเอ๋อร์สาวใช้ข้างกายของเสี่ยวหง
เมื่อเขาได้มองพิจารณานางอย่างถี่ถ้วน หัวใจดวงน้อยของเขาก็เต้นไม่เป็จังหวะ
ใบหน้างดงามแดงระเรื่ออมชมพูเหมือนดอกไม้แรกแย้ม ริมฝีปากสีแดงสดของนาง เอวบางดั่งกิ่งหลิวของนางช่างปั่นป่วนในหัวใจของเขาไม่น้อย
อิ๋งเอ๋อร์ที่รู้ตัวว่าถูกจ้องมองก็พลันรู้สึกเห่อร้อนที่ใบหน้า นางก้มหน้างุดรีบยกถ้วยยาออกไปทันที หยางซูจวิ้นมองตามนางอย่างไม่ละสายตา
"โรคบ้าสตรีกำเริบอีกแล้วหรือเพคะองค์ชายรอง?"
หยางซูจวิ้นกลอกตาไปมาก่อนจะหันไปมองเสี่ยวหงด้วยแววตาเป็ประกาย
"สาวใช้เ้าช่างงามนัก"
"งามสู้สตรีในวังของเ้าไม่ได้หรอก"
"เสี่ยวหง!!! ข้าชอบสาวใช้ของเ้าเข้าแล้ว"
เสี่ยวหงเบ้ปากมองหยางซูจวิ้นอย่างดูแคลนแวบหนึ่ง
"สตรีในอ้อมกอดเ้ามากมาย อย่ามายุ่งกับอิ๋งเอ๋อร์ของข้า หากเ้าทำให้นางเดือดร้อนข้าจะทุบตีเ้าให้เหมือนกับลูกน้องหอเซียหวานั่น"
"รู้แล้วน่า!!! เ้ากล้าดีนักกล้าขู่องค์ชายเช่นข้ารึ?"
"ข้ากล้ามากกว่านี้ เ้าก็รู้"
หยางซูจวิ้นกระทืบเท้าไปมาเหมือนเด็กเอาแต่ใจ นางเถียงชนะเขาอีกแล้ว
อวิ๋นหลัวซียกยิ้มที่มุมปาก เขาสังเกตทุกคำพูดทุกการกระทำของนาง ความกล้าหาญที่นางมีรวมถึงเื่ราวที่นางแอบซ่อนเอาไว้มันช่างดึงดูดให้เขาอยากเข้าไปหานางอย่างไม่รู้ตัว
เสี่ยวหงรู้สึกได้ถึงการมองของอวิ๋นหลัวซี นางหันไปส่งยิ้มหวานให้เขาอย่างเปิดเผย
"ยิ้มเช่นนี้ แสดงว่าคืนนี้ท่านจะค้างกับข้าใช่หรือไม่"
อวิ๋นหลัวซีใบหน้าเห่อร้อน เขาหันไปถลึงตามองนางก่อนจะเดินออกจากเรือนกุ้ยฮวาไปเสียดื้อๆ
"ท่านพี่หลัวรอข้าด้วย!!! เสี่ยวหงไว้ข้าจะมาเยี่ยมเ้าใหม่ เ้าดื่มยาให้ตรงเวลาด้วยละรีบหายป่วยเร็วๆ"
เสี่ยวหงพยักหน้าก่อนจะยกมือขึ้นโบกไปมาให้หยางซูจวิ้น
ให้ตายสิ!!! คิดว่าคืนนี้เขาจะนอนค้างกับนางเสียอีก นางจะได้แอบเอาเปรียบเขานิดๆ หน่อยๆ
ค่ำคืนที่มีสายลมพัดผ่านมาเบาๆ ดอกกุ้ยฮวาปลิวไสวไปมาส่งกลิ่นหอมท่ามกลางสายลม บนกิ่งของต้นกุ้ยฮวามีร่างของชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งหลับตาเอนตัวพิงกิ่งไม้อยู่ในเรือนกุ้ยฮวา
เขาคืออวิ๋นหลัวซีนั่นเอง