หลินซย่าจื้อถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงดัง
นางลุกจากเตียง สิ่งแรกที่ทำคือดูข้อมือทั้งสองข้างของตัวเอง
แผลล่ะ?
นางเลิกแขนเสื้อขึ้นดูอย่างละเอียด พบว่าไม่มีรอยแผล แม้แต่รอยข่วนก็ยังไม่มี
เกิดกระไรขึ้นกับนาง?
ร่างกายเหนียวเหนอะหนะและมีกลิ่นสาบ…
สีหน้าหลินซย่าจื้อจมลงทันที
หรือว่า…
หรือนางจะฝันร้ายจนปัสสาวะราด?
แต่เหตุการณ์เมื่อคืนแจ่มชัดมาก เสมือนเกิดขึ้นจริง
แต่หากเป็เื่จริง เช่นนั้นจะอธิบายเื่ที่ข้อมือนางไม่มีาแว่าอย่างไร?
สมองหลินซย่าจื้อสับสนอยู่สักพัก คิดว่าตัวเองคงฝันร้ายเป็แน่
“จะกลัวเพราะเหตุใด! ครอบครัวนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ไม่รู้ อีกอย่าง ต่อให้ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นักโทษ ดิ้นรนเอาชีวิตรอดอยู่ที่หย่าโจวอันไกลโพ้นนู่น!”
หลินซย่าจื้อปลอบใจตัวเอง
“เหนียงจื่อบ้านหลิน…เหนียงจื่อบ้านหลิน…เปิดประตูหน่อย!”
“มีกระไร ร้องไว้ทุกข์กระไรแต่เช้า?” หลินซย่าจื้อกำลังหงุดหงิดเพราะ ‘ฝันร้าย’ และไม่มีที่ระบาย ตอนนี้มาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอกก็โมโห
“ไอ๊หยา…นี่มันสายโด่แล้ว เหนียงจื่อบ้านหลินช่างโชคดียิ่งนัก ได้นอนตื่นสายทุกวัน อีกอย่าง หากจะบอกว่าข้าร้องไว้ทุกข์ก็เป็ชื่อของเ้านะ… เพิ่งจะปีใหม่แท้ๆ มีกระไรคิดไม่ตกถึงต้องแช่งตัวเองกัน”
สตรีด้านนอกไม่ใช่จะยอมคน ตอบโต้กลับมาทันที
หลินซย่าจื้อโมโห ลุกจากเตียงไปหยิบเสื้อนอกมาคลุม เปิดประตูแล้วง้างมือเตรียมตบ
“ไอ๊หยา…นี่มันกลิ่นกระไร ทั้งเหม็นทั้งสาบ?” ฟู่เหรินหน้าประตูเอี้ยวตัวหลบไปยืนปิดจมูกพูดเหยียดหยามที่ด้านข้างอย่างว่องไว
“เป็บ้ากระไร ค่าเช่าที่เ้าจ่ายใช้หมดแล้ว จะอยู่ต่อหรือไม่ ถ้าอยู่ก็จ่ายเงินมา ไม่อยู่ก็ไสหัวไป” สตรีด้านนอกเป็เ้าของบ้าน หลินซย่าจื้อเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองปัสสาวะรดที่นอนก็ตอนอีกฝ่ายะโเช่นนี้!
“ที่ซอมซ่อเช่นนี้ ข้าไม่อยู่ต่อแล้ว!” นางกลับเข้าห้องแล้วปิดประตู เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ ห่อเสื้อผ้าสกปรกให้เรียบร้อยและรีบวิ่งออกไป
ไท่ไท่เ้าของบ้านเช่าดึงนางไว้ไม่ทัน หลังจากนางออกไป ไท่ไท่เ้าของห้องเช่าเข้าไปตรวจสอบห้องพัก จากนั้นก็ต้องใกับกลิ่นปัสสาวะและกลิ่นเหงื่อเหม็นสาบที่ซ่อนใต้ผ้าห่ม
นางเปิดบ้านตัวเองเป็โรงเตี๊ยมเพื่อหารายได้เล็กๆ น้อยๆ แต่นี่หาเงินได้ไม่เท่าไรกลับต้องมาเจอแขกเช่นนี้
“นังหญิงแพศยาชาติชั่ว ข้าต้องซวยเพียงใดกันถึงได้ให้โสเภณีแบบเ้ามาเช่าห้อง มารดามันเถิด แค่ฉี่ตัวเองยังคุมไม่อยู่ ข้าร้องไว้ทุกข์ให้เ้าก็ถูกแล้ว คนเช่นนี้ไม่ได้อายุยืนแน่!”
ไท่ไท่เ้าของบ้านเช่าเก็บของไปด้วย ก่นด่าไปด้วย เสียงนางดังมาก ทุกคนในซอยจึงรู้กันหมดว่าเหนียงจื่อบ้านหลินที่มาพัก่สองสามวันมานี้เป็โสเภณีที่ฉี่รดที่นอน
เนื่องจากซอยแห่งนี้อยู่ห่างจากโถงดีงามไม่ไกล บวกกับหลินซย่าจื้อไม่เคยทำตัวสงบเสงี่ยม ชาวบ้านที่อาศัยในละแวกนั้นจึงรู้กันหมดว่าสามีนางกำลังรักษาตัวที่โถงดีงาม
ไม่นาน ข่าวลือก็แพร่มาถึงโถงดีงาม บ่ายวันนั้น หลินซย่าจื้อเอาแต่รู้สึกว่าหลายคนในโถงดีงามมองนางด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งยังพูดคุยกระซิบกระซาบกัน
นางรู้สึกอึดอัดมาก หมอกู่ส่งคนมาแจ้งข่าวลือที่กำลังแพร่กระจายอยู่ด้านนอกให้นางฟัง ให้นางรีบไปเช่าที่พักแห่งอื่นและย้ายตัวโจวเอ้อร์เหนิงออกไปด้วย
หลินซย่าจื้อ “…”
นางกลายเป็โสเภณีได้อย่างไร?
แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ มีบุรุษมาถามราคาจากนางด้วย
“ท่านหมอกู่ ข้าเองก็ไม่มีเงิน…เอาเช่นนี้แล้วกัน ข้าพาสามีกลับหมู่บ้านเลยดีกว่า” หลินซย่าจื้อ
หมอกู่พูดว่า “เ้ากลับหมู่บ้านไปก่อน เอาค่าเช่าบ้านจากแม่รองเ้า เขาาเ็หนัก หากเดินทางแค่ระยะใกล้ๆ คงไม่เป็ไร แต่หากเดินทางไกล เกรงว่าจะไม่รอดชีวิต ไว้หาบ้านเช่าได้แล้วข้าจะไปตรวจอาการถึงที่บ้านให้เอง”
หลินซย่าจื้อรู้สึกว่าที่หมอกู่พูดมาก็มีเหตุผล นางไม่อยากอยู่ในโรงหมอแล้ว ทนรับสายตาที่ทุกคนมองมาไม่ไหว
มารดามันเถิด อย่าให้นางรู้นะว่าผู้ใดนินทานางลับหลัง มิเช่นนั้นนางจะกระชากลิ้นจนหลุดให้ดู
บัดซบเอ้ย
ทำนางเดือดร้อน
“เช่นนั้นข้าขอตัวกลับหมู่บ้านก่อน สามีข้า…”
หมอกู่ “วางใจเถิด โรงหมอไม่ได้จะโยนเขาออกไป แต่เ้ารีบกลับมาเร็วหน่อย”
มีคำรับรองจากหมอกู่ หลินซย่าจื้อรีบกลับหมู่บ้านเค่าซาน กลับบ้านไปหาจางซื่อ แต่หลินชุ่ยบอกว่าจางซื่อไปอำเภอั้แ่เช้าแล้ว
บอกว่าไปหาบ้านเช่าในอำเภอ โจวเอ้อร์เหนิงรักษาตัวในโรงหมอคงไม่สะดวก
ต้องใช้ห้องครัวร่วมกับคนอื่น ฟื้นตัวได้ไม่ดี
หลินซย่าจื้อได้ยินดังนั้นก็รีบเดินทางไปอำเภอ นางนั่งเกวียนกลับมาที่หมู่บ้าน แต่ตอนจะกลับเข้าอำเภออีกครั้ง เนื่องจากสายมากแล้วจึงไม่มีเกวียนรับส่งอีก
ได้แต่อาศัยขาสองข้างมาวิ่งกลับอำเภอ กว่าจะมาถึง ขานางก็แทบพิการ
ไปที่โรงหมอ จางซื่อกับโจวเอ้อร์เหนิงต่างก็ไม่อยู่ จะไปถามจากหมอกู่ หมอกู่ก็ออกไปตรวจไข้ ไม่มีผู้ใดในโรงหมอรู้ว่าโจวเอ้อร์เหนิงย้ายไปอยู่ที่ใด
หลินซย่าจื้อจะเป็บ้าแล้ว
แต่แล้วอย่างไรเล่า?
วันนี้นางเหนื่อยมากจริงๆ
เมื่อคืนฝันร้ายมาทั้งคืน ตอนกลางวันถูกคนใส่ร้ายแบบไม่รู้เื่ จากนั้นยังต้องเดินทางกลับไปกลับมาสองรอบ!
นางจะซวยกระไรขนาดนั้น!
“พี่สะใภ้ เ้ารีบไปเสียเถิด ควรกลับบ้านก็กลับบ้าน ประตูเมืองปิดขึ้นมาจะทำอย่างไร? มีเงินเช่าโรงเตี๊ยมหรือไม่?”
เงินเช่าโรงเตี๊ยมก็มีอยู่หรอก แต่มันแพง!
หลินซย่าจื้อจ่ายไม่ลง
มีแต่ต้องลากขาสองข้างออกจากเมืองกลับไปที่หมู่บ้านเค่าซาน!
นางออกจากเมืองได้ไม่นานก็มีรถม้าคันหนึ่งมาจอดด้านข้าง
หลินซย่าจื้อดีใจ รีบเดินเข้าไปใกล้ พบว่าเป็รถม้าของบ้านเจียง คนขับคือเจียงไฉ
“ไท่ไท่บ้านหลินนี่เอง ท่านจะกลับหมู่บ้านเค่าซานหรือ?” เจียงไฉถาม
หลินซย่าจื้อพยักหน้าระรัว “ใช่ กลับหมู่บ้านเค่าซาน!” ถึงอย่างไรนางก็มีศักดิ์เป็พี่สาวหลินหวั่นชิว คนขับบ้านหลินน่าจะเห็นแก่จุดนี้ ไม่กล้าล่วงเกินนางจึงหยุดรถ
มีรถม้าให้นั่ง หลินซย่าจื้อดีใจมาก ขานางล้าแทบไม่ไหวแล้ว ปวดบวมไปหมด
“บังเอิญจริงๆ เ้าก็จะกลับหมู่บ้านเหมือนกันหรือ”
“นั่นสิขอรับ บังเอิญจริงๆ หลินไท่ไท่ต้องรีบเดินหน่อยนะขอรับ ฟ้าใกล้มืดแล้ว ฟู่เหรินตัวคนเดียวไม่ปลอดภัย!”
เจียงไฉพูดจบก็สะบัดแส้ม้า ม้ารีบวิ่งออกไปเพราะโดนแส้ฟาด ฝุ่นลอยตลบใส่หน้าหลินซย่าจื้อ
หลินซย่าจื้อ “…”
เ้าหยุดรถเพื่อพูดกับข้าแค่นี้หรือ?
(เจียงไฉ “ไม่ใช่อยู่แล้ว ข้าอยากเห็นเ้าถูกหักหน้าต่างหาก…”)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้