ราชสีห์หิรัณย์ตื้นตันใจมาก นึกไม่ถึงว่าหลงเหยียนจะมอบหญ้าวิเศษทีมีค่ามากเพียงนี้ให้ตน
“พี่เหยียน ความจริงข้า…”
“ห้ามพูด เ้าเก็บไว้เถิด ไยทำหน้าบูดเช่นนี้?” หลงเหยียนนั่งขัดสมาธิ หลับตาลง แล้วเริ่มฝึกวิชา
ขณะที่ราชสีห์หิรัณย์กำลังตื้นตันนั้น อยู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลงเหยียนพรูลมหายใจ เพราะเขารู้ว่าคนที่อยู่ข้างนอกคือใคร?
พลังการรับรู้จากพลังิญญาบอกเขาว่านั่นคือรังสีพลังของบิดา บิดาที่เข้มงวดกับตนมาตลอด
หลงเหยียนเปิดประตูห้องแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านพ่อ”
เมื่อเห็นหลงเหยียนยิ้ม หลงอีก็ใช้มือทั้งสองข้างกอดหลงเหยียนแน่น
“ลูกเอ๋ย อีกสองวันเ้าก็จะออกเดินทางแล้ว ให้ข้าจะดูเ้าอีกสักหน่อย” หลงเหยียนหลีกทางให้หลงอีเข้ามาในห้อง เมื่อก่อนพวกเขาสองคนมักตื่นเช้ามาวิ่ง มีโอกาสพูดคุยกันเสมอ ทว่าภายหลัง เื่ในตระกูลมีมาก ทั้งสองก็สื่อสารกันน้อยลง
“ท่านพ่อ ที่ท่านมาหาลูก คงไม่ใช่เพราะอยากมาดูหน้าข้าอย่างเดียวใช่หรือไม่ ท่านต้องมีธุระแน่ ท่านพูดมาเถิด…”
หลงอีจับไหล่หลงเหยียน “ไม่ว่าจะเป็่ใด หลงเหยียนของข้าก็ยังเก่งกาจไร้ที่ติ ดูจากท่าทางเ้าแล้ว ข้าก็นึกว่าเ้ายังเป็เด็กที่ไม่รู้ประสีประสาเสียอีก ข้ามีเื่อยากคุยกับเ้า”
“หลังจากไปเมืองหยุนจง เ้าห้ามก่อเื่ในเมือง ที่นั่นเป็สถานที่รวมตัวของเด็กอัจฉริยะ ด้วยพร์ที่เ้ามี ความจริงข้าอยากให้เ้าอยู่เมืองัไปตลอด”
“เมืองหยุนจงไม่เหมือนเมืองัของเรา เมื่อเ้าเดินไปตามถนน ต้องระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เข้าใจหรือไม่ แม้ข้าไม่เคยออกไปยังโลกภายนอก ถึงอย่างไรข้าก็พอรู้ว่าโลกภายนอกนั้นอันตรายมากเพียงใด”
หลงเหยียนพยักหน้า “ท่านพ่อ ลูกจำไว้แล้ว ท่านวางใจเถิด ข้าไม่มีทางก่อเื่แน่ ทว่าหากมีใครมาหาเื่ข้าก่อน ข้าก็ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปเหมือนกัน ถึงอย่างไรข้าก็เข้าร่วมตระกูลอู่ตี้แล้ว เชื่อว่ามีตระกูลอู่ตี้คุ้มกะลา คนนอกคงไม่กล้าหาเื่ข้าง่ายๆ หรอก”
“เหยียนเอ๋อ เ้าใสซื่อเกินไปแล้ว ในเมืองใหญ่ เหล่ามหาอำนาจมีมากกว่าเมืองของเรา ในเมืองมีมหาอำนาจน้อยใหญ่ เ้าอย่าเอาแต่หวังกับตระกูลอู่ตี้ เ้ามั่นใจหรือว่าจะอยู่ตระกูลอู่ตี้ไปชั่วชีวิต? อีกทั้งยังมีคนมากมายที่อยากจัดการกับตระกูลอู่ตี้”
“เมื่อไรที่เ้าอยู่คนเดียว คนอื่นพร้อมทำร้ายเ้าทุกเมื่อ ความจริงทุกคนต่างก็มีเื้ัของตนและมีอำนาจจากตระกูล ไม่แน่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับมหาอำนาจน้อยใหญ่ในเมือง ความสัมพันธ์ของคนในเมืองซับซ้อนนัก เ้าไม่มีทางรู้ได้หรอก อีกสิ่งหนึ่ง ต่อให้จะเป็ตระกูลอู่ตี้เองก็ซับซ้อนมากเหมือนกัน ไม่ว่าอย่างไร เ้าต้องรู้จักป้องกันตัวและอดกลั้น ที่สำคัญคืออย่าแสดงพละกำลังตัวเองออกมาทั้งหมด ไม่อย่างนั้นฝ่ายตรงข้ามจะรู้ขีดกำจัดของเ้า”
หลงเหยียนมองบิดา เขาจำทุกคำพูดของบิดาเอาไว้ในใจหมดแล้ว หลงเหยียนดีใจเหลือเกินที่บิดาเป็ห่วงตนเช่นนี้ ทันใดนั้น หลงเหยียนก็นึกถึง่เวลาในวัยเด็ก ตอนที่ตนอยู่กับมารดา นั่นเป็่ชีวิตที่ไร้ความกังวลมากเพียงใด ตอนนั้นตนยังไม่ถูกทดสอบิญญายุทธ์ ส่วนคนอื่นๆ ในตระกูลล้วนเป็เพื่อนกับเขาทั้งหมด
ตอนนั้นหลงเอ้าอวียังเป็ม้าให้เขาขี่เล่นเป็ประจำ เพียงชั่วพริบตา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป หลงเหยียนคิดถึง่เวลาวัยเด็กเหลือเกิน
น่าเสียดาย อายุเพิ่มมากขึ้น เติบโตขึ้น มารดาของเขาจากไป บิดาก็ต้องแบกรับหน้าที่ผู้นำตระกูล เมินตนเป็ประจำ ทั้งยังถูกคนในตระกูลรังแกเพราะไร้ิญญายุทธ์ ทำให้เขาที่เป็ชายหนุ่มอายุสิบหกปีกลับมีนิสัยที่โตเกินอายุ
เมื่อนึกถึงหลงเอ้าอวี เขาตายไปนานแล้ว หลงหยุนฉีเป็น้องสาวเพียงคนเดียวของเขาในตระกูล มีนางคนเดียวที่เห็นหลงเหยียนเป็มิตร
อยู่ๆ เขาก็ได้ิญญายุทธ์มาอย่างคาดไม่ถึง ล้มหลงเอ้าอวี ล้มเซียวปิงหลาน รวมไปถึงพี่ใหญ่หลงอวี่ซี จากนั้นก็ล้มทุกคนที่ยืนขวางหน้า
หลงเหยียนใช้พละกำลังศิโรราบทุกคน แม้กระทั่งผู้าุโแห่งตระกูลหลงกับคนอื่นๆ ก็ต้องมองเขาใหม่
เป็เหตุให้บิดาใส่ใจตนมากขึ้น ทว่าในตอนที่เขาวางหน้าที่ผู้นำตระกูล อยากใส่ใจหลงเหยียนอย่างจริงจัง หลงเหยียนกลับต้องจากบ้านแล้ว
วินาทีที่หลงอีเปิดประตู หลงเหยียนก้าวไปด้านหน้า กอดร่างใหญ่สูงใหญ่ของบิดาเอาไว้
นี่เป็ครั้งแรกที่เขาััได้ว่าบิดามีชีวิตด้วยความยากลำบากและเหน็ดเหนื่อย โคนผมเริ่มเปลี่ยนเป็สีขาว
“ท่านพ่อ…” เป็ครั้งแรกที่เขากอดบิดาอย่างแท้จริง ไร้ซึ่งความโกรธ ไร้ซึ่งความโมโหและเ็ป
“ท่านพ่อ ท่านเหนื่อยเกินไปแล้ว หากเป็ไปได้ ปล่อยวางทุกอย่างแล้วพักบ้างเถิด”
หลงอีร่างชะงักอยู่กับที่ เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าหลงเหยียนเป็ห่วงตนมากเพียงใด หลายปีมานี้ เขาเป็ผู้นำตระกูล ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ เพื่อหลงเหยียน เขาไม่คิดหาคู่ชีวิตใหม่มาแทนที่
ดูออกว่าหลงเหยียนรอคอยมารดามาเสมอ ในใจคะนึงหาไม่เคยเปลี่ยน
“ท่านพ่อ ข้ารู้ว่าท่านยังมีเื่อยากพูด วางใจเถอะ หลังจากไปถึงเมืองหยุนจง ข้าต้องพูดแต่ข้อดีของท่านแน่ บอกว่าท่านคิดถึงนางมากเพียงใด”
น้ำตาอุ่นๆ ไหลลงจากหางตาของหลงอี มันคือความรู้สึกอันลึกซึ้งที่กลั่นออกมาจากก้นบึ้งหัวใจ ความรู้สึกแท้จริงถูกหลงเหยียนพูดออกมาจนได้
“เหยียนเอ๋อ เ้าต้องถามไถ่นางแทนข้าด้วยนะ…”
หลงเหยียนส่งยิ้มเล็กๆ “วางใจเถิด ข้าจำได้อยู่แล้ว” คำพูดที่เก็บมานาน ในที่สุดก็ออกจากปากเสียที
หลงเหยียนรู้ว่าบิดาเป็คนที่ห่วงภาพลักษณ์ยิ่งนัก แม้ตนจะเป็บุตรชายก็ตาม…
บิดาจากไปแล้ว ่ดึกที่ผ่านมา พวกเขาทั้งสองคุยเื่ในวัยเด็กมากมาย หลงอีเพิ่งตระหนักขึ้นได้ว่าตนมอบความสุขในวัยเด็กให้แก่หลงเหยียนน้อยมากจริงๆ ละเลยต่อบุตรชายมากเกินไปแล้ว
บิดาจากไป หลงเหยียนรู้สึกประหลาดใจนัก
เวลาผ่านพ้นไปสองวัน หลงหยุนฉีหายไปจากตระกูล ตามกำหนดการณ์คือตนกำลังจะเดินทางออกจากตระกูลแล้ว คนที่อาลัยอาวรณ์ที่สุดก็คือนาง แล้วเหตุใดตอนนี้นางถึงหายไปเล่า?
เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง หลงเหยียนเดินวนอยู่ในจวน เขาอยากมองทุกซอกทุกมุม ทั้งต้นไม้ใบหญ้าทั้งหมดของจวนแห่งนี้ คนในตระกูลมองหลงเหยียนด้วยสายตานับถือ ไม่ได้กระทำกับหลงเหยียนเหมือนเคยแล้ว การจะออกเดินทางของเขาทำให้ทุกคนต่างก็อาวรณ์ หากไม่มีหลงเหยียน คนในจวนต้องแย่แล้วเป็แน่
ไม่นาน ที่สวนดอกไม้หลังบ้านตระกูลหลง เขาเจอลุงสองหลงจ้านจึงรีบเดินเข้าไปหา หลายครั้งที่เจอหน้ากัน หลงจ้านไม่กล้าสบตาหลงเหยียนเลย
“เหยียนเอ๋อ เ้ามาหาข้ามีเื่อะไรหรือ เดี๋ยวเ้าก็จะออกเดินทางแล้ว ลุงสองมีเื่มากมายที่อยากบอกเ้า กลับพูดไม่ออก”
หลงเหยียนยิ้ม “ลุงสอง ท่านอยากพูดอะไร มีหรือที่ข้าจะไม่รู้ วางใจเถิด เื่ในอดีตนั่นผ่านพ้นไปหมดแล้ว พวกเราต่างก็ต้องมองข้างหน้า สองวันมานี้ท่านพ่อเคียงข้างข้าเสมอมา ทำให้ข้าเข้าใจอะไรหลายอย่าง ท่านวางใจเถิด”
“ก็ดี เช่นนั้นก็ดี!”
“จริงสิ ไม่รู้ว่าสองวันนี้น้องหยุนฉีหายไปไหนหรือ?”
หลงจ้านเงยหน้าขึ้นมองหลงเหยียน “นางไม่ได้บอกเ้าหรอกหรือ เห็นนางบอกว่ามีของขวัญจะมอบให้เ้า คิดว่าคงอยากสร้างความประหลาดใจให้เ้ากระมัง วางใจเถอะ นางออกไปสองวัน เชื่อว่าพรุ่งนี้ก็คงกลับมาแล้ว”
เมื่อพูดจบ เขาก็ออกไปจากสายตาของหลงเหยียนอย่างลึกลับ
เมื่อนึกถึงนาง หลงเหยียนก็รู้สึกเป็ห่วงขึ้นมาทันที หากอนาคตมีโอกาส เขาต้องกลับมาพานางไปเมืองหยุนจงแน่ ยิ่งกว่านั้น เขาอยากพานางออกไปท่องโลกที่กว้างใหญ่ ออกไปเปิดหูเปิดตา
ตอนนี้ตระกูลเซียวถูกกำจัดแล้ว ที่เหลือก็เป็แค่ผู้ฝึกยุทธ์ที่มีพลังต่ำเท่านั้น หยุนฉีออกไปอย่างนี้ เชื่อว่าคงไม่มีอันตรายเกิดขึ้น
หลงเหยียนจับถุงผ้าเฉียนคุน ตอนนี้บนตัวมีเหรียญเงินหนึ่งพันสองร้อยตำลึง รวมกับยาบำรุงและยาซ่อนิญญาอีกส่วนหนึ่ง ทั้งยังมีแผ่นเหล็กลึกลับ ตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้ ฉะนั้นเมื่อวานเขามอบวิชาสะท้านปฐีให้บิดาแล้ว
หากไปถึงเมืองหยุนจง ไม่คุ้นเคยพื้นที่ ทั้งยังไม่มีเหรียญเงิน คิดว่าชีวิตคงลำบากนัก
“สิงโตน้อย เ้าหลอมเซียนหอมหมื่นลี้แล้วหรือยัง?” หลงเหยียนก้มหน้ามองราชสีห์หิรัณย์
“ยังเลย ข้ารู้ว่าท่านอยากเห็นหน้าตาที่หล่อเหลาของข้า ข้ากลัวท่านจะอิจฉาน่ะสิ แหะๆๆ” ราชสีห์หัวเราะ
ความจริงหากราชสีห์หิรัณย์ใช้ไปก็เหมือนเป็การเสียของเปล่าๆ อยากแปลงกายเป็คน เขาต้องมีพลังอยู่ระดับมายาขั้นที่ห้า มันเก็บหญ้าวิเศษเอาไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน นำมันมอบให้หลงเหยียนก็ยังไม่สาย ส่วนหลงเหยียนสามารถรวบรวมิญญาั พละกำลังก็เลื่อนขึ้นเร็ว
ก้าวขึ้นระดับชีพัขั้นที่แปด หลงเหยียนััหยกัที่อยู่ในร่างกาย มันส่งสัญญาณให้เขา นำทางไปยังเมืองหยุนจง ที่นั่นอาจมีิญญาัที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า
วันที่สามมาถึง…
่เช้าเป็พิธีฝังศพของหลงป้าเทียน คนในตระกูลหลงต่างก็เสียใจเป็อย่างยิ่ง หลงเหยียนวางมีดเงาโลหิตไว้ข้างโลงของเขา
่เที่ยง หลงเหยียนทานอาหารกลางวันกับคนในตระกูลเป็ครั้งสุดท้าย ่บ่ายเขาจะออกเดินทางไปยังเมืองหยุนจงแล้ว เก็บข้าวของทั้งหมด เปิดประตูห้อง ผู้าุโและคนในเผ่านับร้อยคนยืนมองเขาอย่างเงียบเชียบ
คนเดียวที่ยังไม่เจอแม้แต่เงาคือหลงหยุนฉี…
ผู้าุโยืนอยู่หน้าสุดพร้อมพูดกับหลงเหยียน “เหยียนเอ๋อ เหรียญหนึ่งพันตำลึงนี้ เ้าพกติดตัวไปเถิด ระหว่างทางไปเมืองหยุนจง เ้าต้องใช้มันไม่น้อย หากขาดเหลืออะไรก็ซื้อเอาได้”
คนอื่นๆ ต่างก็มอบของที่เตรียมไว้ให้หลงเหยียนทั้งหมด ในนั้นมีทั้งเสื้อผ้า ของใช้จำเป็ รวมไปถึงของกิน ลุงสองมอบยาและสมุนไพรให้ บิดาของเขามอบตำราการต่อสู้ระดับมายาอันมีค่าที่สุดในตระกูลให้แก่หลงเหยียน
“ท่านพ่อ ข้ามีพลังขั้นที่แปดเท่านั้น ตอนนี้ยังฝึกวิชานี้ไม่ได้ พกของที่มีค่าขนาดนี้ติดตัว เกรงว่าไปถึงเมืองหยุจงคงเป็ที่หมายตาของคนไม่น้อย!”
ทุกคนต่างก็กล่าวอำลา ใน่สุดท้าย พี่ใหญ่หลงอวี่ซีกอดหลงเหยียนแล้วพูดข้างหูเขาอย่างอ่อนโยน “หลงเหยียน พวกเราทุกคนรอการกลับมาของเ้า”
หลงเหยียนพยักหน้าหงึกหงัก แววตาเต็มไปด้วยความอาวรณ์ ทุกคนเดินมาส่งหลงเหยียนนอกประตูจวนแล้ว ขณะที่หลงเหยียนกำลังร้อนใจ เหตุใดหยุนฉีถึงยังไม่กล้ามาอีก เวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏอินทรี ลอยพุ่งตรงมายังด้านหน้าทุกคน
บนท้องฟ้าที่สูงห้าสิบเมตร หลงหยุนฉีร้อนใจนัก นางะโตีลังกาลงมา ตอนนี้นางมีพลังระดับชีพัขั้นที่ห้าแล้ว การะโลงมาในความสูงเท่านี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร
บนใบหน้าของนางมีรอยแผลมากขึ้น อีกทั้งบางรอยยังมีเืเปื้อน เมื่อพบหลงเหยียน นางก็หยิบต้นเก้าดาราออกมา
ต้นเก้าดาราเป็หญ้าวิเศษระดับทองคำขั้นที่เก้า มูลค่าสูงจนไม่จำเป็ต้องพูด เมื่อเห็นสภาพนางดูน่าอนาถ หลงเหยียนก็รู้แล้วว่านางต้องลำบากไม่น้อย
“หยุนฉี เ้าหนีไปไหนมา?” หลงเหยียนตื้นตันใจเหลือเกิน เพราะต้นเก้าดารางอกเพียงตรงกลางเหวเท่านั้น ที่นั่นเป็เหวลึก การจะหามันได้ไม่ใช่เื่ง่ายเลย หญ้าวิเศษต้นนี้ช่วยได้มาก หากหลอมมันก็สามารถช่วยผู้ฝึกยุทธ์ที่ใกล้ตายให้ฟื้นฟู อาการาเ็หายอย่างรวดเร็ว
หลงเหยียนนึกไม่ถึงว่าหลงหยุนฉีจะทำเพื่อเขา โดยการไปเหวลึกเพื่อตามหาหญ้าวิเศษที่หายาก!
“พี่เหยี่ยน มอบให้ท่าน!”
หลงเหยียนกอดนางไว้กลางอก ดั่งหัวใจของเขากำลังหลอมละลาย “หยุนฉี เ้าคงลำบากไม่น้อยใช่หรือไม่!”
หลงเหยียนเช็ดเืบนแผลของนางอย่างทะนุถนอม เมื่อมือัั นางก็ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บ
หลงเหยียนพูดข้างหูนางอย่างแ่เบาด้วยความสงสาร “หากเ้าไม่ใช่น้องสาวข้า ชาตินี้ ข้าต้องแต่งงานกับเ้าให้ได้!”
หลงหยุนฉีชะงักไป จากนั้นนางเงยหน้ามองหลงเหยียน
หลงเหยียนไม่เกรงใจ เก็บต้นเก้าดาราไว้ในถุงผ้าเฉียนคุน สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็บอกลาทุกคน แล้วเขากับราชสีห์ก็ลอยขึ้นไปบนหลังอินทรีวายุ…
การแยกจากกันครั้งนี้ หลงเหยียนมีความรู้สึกมากมายที่อยากบอก ทว่าาก็มิอาจกลั่นออกมาเป็คำพูด ่เวลาที่จากกันเป็เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ถึงอย่างไรมันกลับติดอยู่ในใจหลงเหยียนไม่จางหาย ภาพญาติมิตรมากมายมาส่งเขาเดินทางจะตราตรึงในใจหลงเหยียนตลอดไป
--------------------