หลี่เฉิงกลืนน้ำลายอย่างไม่เป็ธรรมชาติ เขาหลับตาลงแล้วรีบขจัดความคิดว้าวุ่นในใจ ก่อนจะเดินไปหานางด้วยความเป็ห่วง “เหตุใดแม่นางจึงเป็เช่นนี้? รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเถิด”
“อื้ม” ซ่งอวี้ตอบ แล้วเดินเข้าไปในห้อง พร้อมกับปิดประตูลง
หลี่เฉิงรออยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง กว่าซ่งอวี้จะออกมา นางเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเสร็จแล้ว แต่ผมของนางยังคงเปียกแฉะ นางปล่อยผมเปียกยาวสยาย แล้วใช้ผ้าเช็ด
“ให้ข้าช่วยเ้าเช็ดดีหรือไม่?” เห็นนางกำลังเช็ดผมของตนเองอย่างอ่อนล้า ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลี่เฉิงจึงพูดออกมาเช่นนี้
“ขอบใจท่านมาก” ซ่งอวี้ยิ้มบางๆ แล้วยื่นผ้าให้เขา
หลี่เฉิงรับผ้ามาเช็ดผมสีดำสนิทที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เวลานี้ดวงหน้าขาวเนียนของซ่งอวี้อยู่ใกล้ยิ่งนัก น่าจะเป็เพราะวิ่งมาตลอดทางจึงทำให้นางร้อน ดวงแก้มของนางแดงระเรื่อ ริมฝีปากบางแดง ฟันขาวสะอาด ดวงตากลมโต ขับให้นางงดงามชวนหลงใหลเป็พิเศษ และนั่นทำให้เขาร้อนผ่าวไปทั้งหัวใจ
มือของเขาหยุดนิ่ง
ซ่งอวี้จึงเอียงศีรษะถาม “เป็อะไรหรือเ้าคะ?”
หลี่เฉิงส่ายหน้าอย่างไม่เป็ธรรมชาติเท่าใดนัก “ไม่เป็อันใด”
ตอนกลางคืนซ่งอวี้ยังคงยืนกรานที่จะปูผ้านอนบนพื้น แต่หลี่เฉิงเกรงใจยิ่งนัก “ไม่ได้ เ้านอนบนเตียงแล้วให้ข้านอนบนพื้นเถอะ ถึงอย่างไรเ้าก็เป็สตรี เมื่อตอนเย็นเ้าเพิ่งเปียกไปทั้งตัว ประเดี๋ยวจะหนาวแล้วเป็หวัดเอาได้”
“พิษของท่านยังขับออกไปไม่หมด ยิ่งไม่อาจรับอากาศหนาวยิ่งกว่าข้าได้ ท่านนอนบนเตียงเถิด” ซ่งอวี้โบกมือปฏิเสธ ตัดสินใจหนักแน่นที่จะปูผ้านอนบนพื้น ไม่ให้โอกาสเขาแต่อย่างใด
หลี่เฉิงถอนหายใจเบาๆ ทำได้เพียงล้มตัวลงนอนบนเตียง
อาจจะเป็เพราะความเหน็ดเหนื่อย ทำให้ซ่งอวี้ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว กลางดึกหลี่เฉิงยังคงรู้สึกเกรงใจ เขาจึงลงจากเตียง โน้มตัวลงอยากจะอุ้มนางขึ้นไปนอนบนเตียง
แต่เพียงมือของเขาััเรือนร่างของนางก็รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุ เขาครุ่นคิด ยื่นมือไปแตะหน้าผากของนาง หน้าผากของนางร้อนราวกับถ่านไฟเผา!
ดูเหมือนว่าที่นางเปียกไปทั้งตัวเมื่อตอนเย็น ทำให้นางจับไข้แล้วจริงๆ
หลี่เฉิงรีบช้อนตัวนางขึ้นมาแล้ววางไว้บนเตียง เขาเดินออกไปตักน้ำใส่กะละมังก่อนจะกลับเข้ามาเอาผ้าชุบน้ำ จากนั้นวางไว้บนหน้าผากของซ่งอวี้เพื่อช่วยลดไข้
ซ่งอวี้เป็ไข้สะลึมสะลือ นางตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ในความฝันนางเห็นพ่อและแม่ของตนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ซ่งอวี้รีบวิ่งเข้าไปกอดแม่
“พ่อคะ แม่คะ หนูกลับมาแล้ว!” ซ่งอวี้ร้องไห้ฟูมฟาย แล้วร้องะโเสียงดัง โผกอดผู้เป็แม่แน่น
หลี่เฉิงที่กำลังเปลี่ยนผ้าบนหน้าผากให้กับซ่งอวี้ เมื่อถูกนางกอดแขนเอาไว้เช่นนี้ เขาก็หยุดชะงักไม่กล้าขยับเขยื้อน ได้ยินนางร้องไห้แล้วร้องะโเรียกพ่อกับแม่ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่คาดว่านางต้องคิดถึงบิดามารดาของตนอย่างแน่นอน
หลี่เฉิงขยับตัวเล็กน้อย อยากจะหลุดออกมาจากพันธนาการของซ่งอวี้ ทว่าผู้ใดจะคาดคิด ซ่งอวี้กลับกอดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม นางร้องไห้แล้วพูดด้วยความร้อนใจ “พ่อกับแม่อย่าไปเลยนะคะ หนูไม่ให้พ่อกับแม่ไป!”
หลี่เฉิงจึงทำได้เพียงหยุดนิ่ง ยื่นมือไปลูบศีรษะของนาง “อืม ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป เ้านอนหลับเถอะ นอนสักตื่นก็จะหายดี”
ไม่รู้ว่าเป็เพราะเสียงอ่อนโยนของเขาช่วยปลอบประโลมซ่งอวี้ หรือว่าเพราะเหตุใด นางเชื่อฟังแล้วเงียบลงจริงๆ จากนั้นก็หลับใหลไปอีกครั้ง แต่มือที่กอดแขนของเขายังคงกอดแน่น เพียงเขาขยับเล็กน้อยนางก็พลันกระวนกระวาย
หลี่เฉิงไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงปล่อยให้นางกอด เขาล้มตัวลงนอนข้างๆ นาง กลัวว่านางเป็ไข้แล้วจะหนาวสั่น จึงกอดนางแน่นโดยมีเพียงผ้าห่มกั้นกลางเอาไว้
คล้ายรู้สึกปลอดภัยอย่างไรอย่างนั้น ซ่งอวี้ขยับตัวเล็กน้อยราวกับลูกแมว ปรับท่าให้หลับสบาย จากนั้นก็นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา
พอได้มองดูนางที่นอนหลับสนิท หัวใจของหลี่เฉิงเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวลและสงบ เขาเองก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน
เช้าวันที่สอง ซ่งอวี้ตื่นขึ้นมา นางพลิกตัวแล้วเห็นว่าตนนอนขดอยู่ในอ้อมกอดของหลี่เฉิง ดวงแก้มของนางพลันแดงระเรื่อด้วยความเขินอายทันที นางรีบลุกออกจากเตียง แต่เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียยิ่งนัก เท้าทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ทำให้นางเกือบล้มหน้าคะมำ!
หลี่เฉิงได้ยินเสียงจึงตื่นขึ้นมา เขารีบยื่นมือไปพยุงนางไว้ แล้วพานางไปนอนบนเตียง พูดด้วยความอ่อนโยน “เมื่อคืนเ้าจับไข้ เวลานี้ไข้เพิ่งลด ร่างกายของเ้ายังอ่อนแอยิ่งนัก อย่าเพิ่งลุกขึ้นเลย ข้าจะออกไปซื้ออาหารให้เ้าเอง วันนี้เ้านอนพักบนเตียงหนึ่งวันเถิด”
ไม่รอให้ซ่งอวี้ได้ตอบ เขาก็เดินกะเผลกออกไปแล้ว
เมื่อไปถึงตลาด หลี่เฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่อีแปะเดียว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดหยกแขวนที่อยู่ตรงเอวลงมา แล้วเดินไปยังร้านจำนำ
แววตาของเถ้าแก่ร้านจำนำทอประกาย แต่กลับพูดอย่างมีเจตนาแอบแฝงว่าหยกแขวนนี้ไร้ค่า เพื่อกดราคา ทางด้านหลี่เฉิงครุ่นคิดว่าวันข้างหน้าเขาต้องมาไถ่คืน จึงไม่ได้ต่อรองราคา ก่อนออกจากร้านเขาไม่ลืมที่จะกำชับแล้วกำชับอีก ว่าหากยังไม่ครบกำหนด ห้ามขายหยกแขวนของเขาเด็ดขาด
หลี่เฉิงรับเงินแล้วเดินออกมาจากร้านจำนำไป เขาไปซื้ออาหารอร่อยมากมายจากร้านอาหารให้ซ่งอวี้ แล้วเดินถืออาหารกลับเรือน
เฉินต้าฮวาบังเอิญเห็นภาพนี้เข้า แววตาริษยาของนางแทบจะลุกเป็ไฟ
เหตุใดนางคนชั้นต่ำซ่งอวี้ จึงได้สามีเป็บุรุษรูปงามเช่นนี้มารักใคร่! นางมีสิทธิ์อันใด! นางเป็เพียงหญิงใจง่ายชั้นต่ำเท่านั้น!
เฉินต้าฮวาอิจฉาริษยา อดไม่ได้ที่จะเดินตามหลี่เฉิงกลับเรือน
จิ๊ๆ ดูสามีของซ่งอวี้สิ หุ่นดียิ่งนัก รูปร่างสูงโปร่ง ร่างกายกำยำ ทั้งยังไม่อ้วนเทอะทะ สิ่งสำคัญที่สุดคือใบหน้านั่น ทำให้คนอดใจไม่ได้ อยากจะกระโจนไปกอดจูบให้หนำใจ! หากนางมีสามีหล่อเหลาเช่นนี้ แม้จะได้สุขสมกันเพียงค่ำคืนเดียว ชีวิตนี้ก็นับว่าพอใจแล้ว!
เฉินต้าฮวายิ่งคิดก็ยิ่งเลยเถิดไปไกล นางเดินตามหลี่เฉิงเข้าไปในหมู่บ้าน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้