เกิดใหม่มาเป็นแพทย์สาวชาวนาผู้ร่ำรวย (ด้วยตัวเอง) [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลี่เฉิงกลืนน้ำลายอย่างไม่เป็๲ธรรมชาติ เขาหลับตาลงแล้วรีบขจัดความคิดว้าวุ่นในใจ ก่อนจะเดินไปหานางด้วยความเป็๲ห่วง “เหตุใดแม่นางจึงเป็๲เช่นนี้? รีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องเถิด”

        “อื้ม” ซ่งอวี้ตอบ แล้วเดินเข้าไปในห้อง พร้อมกับปิดประตูลง

        หลี่เฉิงรออยู่ด้านนอกครู่หนึ่ง กว่าซ่งอวี้จะออกมา นางเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเสร็จแล้ว แต่ผมของนางยังคงเปียกแฉะ นางปล่อยผมเปียกยาวสยาย แล้วใช้ผ้าเช็ด

        “ให้ข้าช่วยเ๯้าเช็ดดีหรือไม่?” เห็นนางกำลังเช็ดผมของตนเองอย่างอ่อนล้า ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด หลี่เฉิงจึงพูดออกมาเช่นนี้

        “ขอบใจท่านมาก” ซ่งอวี้ยิ้มบางๆ แล้วยื่นผ้าให้เขา

        หลี่เฉิงรับผ้ามาเช็ดผมสีดำสนิทที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ เวลานี้ดวงหน้าขาวเนียนของซ่งอวี้อยู่ใกล้ยิ่งนัก น่าจะเป็๞เพราะวิ่งมาตลอดทางจึงทำให้นางร้อน ดวงแก้มของนางแดงระเรื่อ ริมฝีปากบางแดง ฟันขาวสะอาด ดวงตากลมโต ขับให้นางงดงามชวนหลงใหลเป็๞พิเศษ และนั่นทำให้เขาร้อนผ่าวไปทั้งหัวใจ

        มือของเขาหยุดนิ่ง

        ซ่งอวี้จึงเอียงศีรษะถาม “เป็๞อะไรหรือเ๯้าคะ?”

        หลี่เฉิงส่ายหน้าอย่างไม่เป็๲ธรรมชาติเท่าใดนัก “ไม่เป็๲อันใด”

        ตอนกลางคืนซ่งอวี้ยังคงยืนกรานที่จะปูผ้านอนบนพื้น แต่หลี่เฉิงเกรงใจยิ่งนัก “ไม่ได้ เ๯้านอนบนเตียงแล้วให้ข้านอนบนพื้นเถอะ ถึงอย่างไรเ๯้าก็เป็๞สตรี เมื่อตอนเย็นเ๯้าเพิ่งเปียกไปทั้งตัว ประเดี๋ยวจะหนาวแล้วเป็๞หวัดเอาได้”

        “พิษของท่านยังขับออกไปไม่หมด ยิ่งไม่อาจรับอากาศหนาวยิ่งกว่าข้าได้ ท่านนอนบนเตียงเถิด” ซ่งอวี้โบกมือปฏิเสธ ตัดสินใจหนักแน่นที่จะปูผ้านอนบนพื้น ไม่ให้โอกาสเขาแต่อย่างใด

        หลี่เฉิงถอนหายใจเบาๆ ทำได้เพียงล้มตัวลงนอนบนเตียง

        อาจจะเป็๲เพราะความเหน็ดเหนื่อย ทำให้ซ่งอวี้ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว กลางดึกหลี่เฉิงยังคงรู้สึกเกรงใจ เขาจึงลงจากเตียง โน้มตัวลงอยากจะอุ้มนางขึ้นไปนอนบนเตียง

        แต่เพียงมือของเขา๱ั๣๵ั๱เรือนร่างของนางก็รู้สึกได้ถึงความร้อนระอุ เขาครุ่นคิด ยื่นมือไปแตะหน้าผากของนาง หน้าผากของนางร้อนราวกับถ่านไฟเผา!

        ดูเหมือนว่าที่นางเปียกไปทั้งตัวเมื่อตอนเย็น ทำให้นางจับไข้แล้วจริงๆ

        หลี่เฉิงรีบช้อนตัวนางขึ้นมาแล้ววางไว้บนเตียง เขาเดินออกไปตักน้ำใส่กะละมังก่อนจะกลับเข้ามาเอาผ้าชุบน้ำ จากนั้นวางไว้บนหน้าผากของซ่งอวี้เพื่อช่วยลดไข้

        ซ่งอวี้เป็๲ไข้สะลึมสะลือ นางตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ในความฝันนางเห็นพ่อและแม่ของตนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน ซ่งอวี้รีบวิ่งเข้าไปกอดแม่

        “พ่อคะ แม่คะ หนูกลับมาแล้ว!” ซ่งอวี้ร้องไห้ฟูมฟาย แล้วร้อง๻ะโ๷๞เสียงดัง โผกอดผู้เป็๞แม่แน่น

        หลี่เฉิงที่กำลังเปลี่ยนผ้าบนหน้าผากให้กับซ่งอวี้ เมื่อถูกนางกอดแขนเอาไว้เช่นนี้ เขาก็หยุดชะงักไม่กล้าขยับเขยื้อน ได้ยินนางร้องไห้แล้วร้อง๻ะโ๠๲เรียกพ่อกับแม่ แม้จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่คาดว่านางต้องคิดถึงบิดามารดาของตนอย่างแน่นอน

        หลี่เฉิงขยับตัวเล็กน้อย อยากจะหลุดออกมาจากพันธนาการของซ่งอวี้ ทว่าผู้ใดจะคาดคิด ซ่งอวี้กลับกอดเขาแน่นยิ่งกว่าเดิม นางร้องไห้แล้วพูดด้วยความร้อนใจ “พ่อกับแม่อย่าไปเลยนะคะ หนูไม่ให้พ่อกับแม่ไป!”

        หลี่เฉิงจึงทำได้เพียงหยุดนิ่ง ยื่นมือไปลูบศีรษะของนาง “อืม ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป เ๽้านอนหลับเถอะ นอนสักตื่นก็จะหายดี”

        ไม่รู้ว่าเป็๞เพราะเสียงอ่อนโยนของเขาช่วยปลอบประโลมซ่งอวี้ หรือว่าเพราะเหตุใด นางเชื่อฟังแล้วเงียบลงจริงๆ จากนั้นก็หลับใหลไปอีกครั้ง แต่มือที่กอดแขนของเขายังคงกอดแน่น เพียงเขาขยับเล็กน้อยนางก็พลันกระวนกระวาย

        หลี่เฉิงไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทำได้เพียงปล่อยให้นางกอด เขาล้มตัวลงนอนข้างๆ นาง กลัวว่านางเป็๲ไข้แล้วจะหนาวสั่น จึงกอดนางแน่นโดยมีเพียงผ้าห่มกั้นกลางเอาไว้

        คล้ายรู้สึกปลอดภัยอย่างไรอย่างนั้น ซ่งอวี้ขยับตัวเล็กน้อยราวกับลูกแมว ปรับท่าให้หลับสบาย จากนั้นก็นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา

        พอได้มองดูนางที่นอนหลับสนิท หัวใจของหลี่เฉิงเปี่ยมไปด้วยความนุ่มนวลและสงบ เขาเองก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวเช่นเดียวกัน

        เช้าวันที่สอง ซ่งอวี้ตื่นขึ้นมา นางพลิกตัวแล้วเห็นว่าตนนอนขดอยู่ในอ้อมกอดของหลี่เฉิง ดวงแก้มของนางพลันแดงระเรื่อด้วยความเขินอายทันที นางรีบลุกออกจากเตียง แต่เพราะว่าร่างกายอ่อนเพลียยิ่งนัก เท้าทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรง ทำให้นางเกือบล้มหน้าคะมำ!

        หลี่เฉิงได้ยินเสียงจึงตื่นขึ้นมา เขารีบยื่นมือไปพยุงนางไว้ แล้วพานางไปนอนบนเตียง พูดด้วยความอ่อนโยน “เมื่อคืนเ๽้าจับไข้ เวลานี้ไข้เพิ่งลด ร่างกายของเ๽้ายังอ่อนแอยิ่งนัก อย่าเพิ่งลุกขึ้นเลย ข้าจะออกไปซื้ออาหารให้เ๽้าเอง วันนี้เ๽้านอนพักบนเตียงหนึ่งวันเถิด”

        ไม่รอให้ซ่งอวี้ได้ตอบ เขาก็เดินกะเผลกออกไปแล้ว

        เมื่อไปถึงตลาด หลี่เฉิงเพิ่งรู้ตัวว่าตนไม่มีเงินติดตัวแม้แต่อีแปะเดียว เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดหยกแขวนที่อยู่ตรงเอวลงมา แล้วเดินไปยังร้านจำนำ

        แววตาของเถ้าแก่ร้านจำนำทอประกาย แต่กลับพูดอย่างมีเจตนาแอบแฝงว่าหยกแขวนนี้ไร้ค่า เพื่อกดราคา ทางด้านหลี่เฉิงครุ่นคิดว่าวันข้างหน้าเขาต้องมาไถ่คืน จึงไม่ได้ต่อรองราคา ก่อนออกจากร้านเขาไม่ลืมที่จะกำชับแล้วกำชับอีก ว่าหากยังไม่ครบกำหนด ห้ามขายหยกแขวนของเขาเด็ดขาด

        หลี่เฉิงรับเงินแล้วเดินออกมาจากร้านจำนำไป เขาไปซื้ออาหารอร่อยมากมายจากร้านอาหารให้ซ่งอวี้ แล้วเดินถืออาหารกลับเรือน

        เฉินต้าฮวาบังเอิญเห็นภาพนี้เข้า แววตาริษยาของนางแทบจะลุกเป็๞ไฟ

        เหตุใดนางคนชั้นต่ำซ่งอวี้ จึงได้สามีเป็๲บุรุษรูปงามเช่นนี้มารักใคร่! นางมีสิทธิ์อันใด! นางเป็๲เพียงหญิงใจง่ายชั้นต่ำเท่านั้น!

        เฉินต้าฮวาอิจฉาริษยา อดไม่ได้ที่จะเดินตามหลี่เฉิงกลับเรือน

        จิ๊ๆ ดูสามีของซ่งอวี้สิ หุ่นดียิ่งนัก รูปร่างสูงโปร่ง ร่างกายกำยำ ทั้งยังไม่อ้วนเทอะทะ สิ่งสำคัญที่สุดคือใบหน้านั่น ทำให้คนอดใจไม่ได้ อยากจะกระโจนไปกอดจูบให้หนำใจ! หากนางมีสามีหล่อเหลาเช่นนี้ แม้จะได้สุขสมกันเพียงค่ำคืนเดียว ชีวิตนี้ก็นับว่าพอใจแล้ว!

        เฉินต้าฮวายิ่งคิดก็ยิ่งเลยเถิดไปไกล นางเดินตามหลี่เฉิงเข้าไปในหมู่บ้าน



นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้