“เอ่อ” อันนานิ่งเงียบเพราะคำพูดของเขามองกู้หลานอันด้วยสีหน้ายุ่งเหยิงเป็เวลานานจากนั้นเข้าไปหาเขาอย่างระมัดระวังและถามอย่างไม่แน่ใจ “ลูกพูดจริงเหรอ?”
“จริงครับ” กู้หลานอันยืนยัน
“ดีมาก” อันนาได้ยินดังนั้นก็เปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหัน กอดกู้หลานอันด้วยความตื่นเต้นตบหลังเขาเบาๆพร้อมกล่าวชม “สมกับเป็ลูกชายของฉันจริงๆสุดยอดเลย”
กู้หลานอันสีหน้าตกตะลึง เอ่ยถามอย่างมึนงง “แม่ครับ แม่ไม่ต่อต้านเหรอ?”
“ต่อต้านอะไรกัน” อันนาปล่อยเขา มองกู้หลานอันที่สภาพมึนงง “ชายรักชายดีจะตาย เกย์คือหนทางแห่งกษัตริย์ไม่ใช่รึไง”
“ฮ่าฮ่าฮ่า…...” กู้หลานอันถูกแม่ทำให้หัวเราะลั่นเขามองเธอและหยอกล้อว่า “แม่ครับดูไม่ออกเลย ว่าแม่จะเป็สาววายผู้ช่ำชอง! ”
“จะให้ลูกดูออกได้ยังไง” อันนากลอกตา นั่งลงบนเก้าอี้ นั่งไขว่ห้างพูดกับกู้หลานอัน “หลายปีมานี้แม่แกคนนี้น่ะไม่อยากให้ภาพลักษณ์สาววายของตัวเองทำให้ลูกเบี่ยงเบนงานอดิเรกที่ชอบที่สุดก็ต้องซ่อนเอาไว้ให้มิด”
“แม่สนับสนุนหนุ่มวายไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่้าให้ผมเป็คนรักร่วมเพศล่ะ?” กู้หลานอันนั่งลงถาม
“สนับสนุนกับไม่คาดหวังมันคนละเื่กันที่แม่สนับสนุนเพราะว่าพวกเขารักกันไปแล้ว กำหนดแล้วว่าต้องเดินไปด้วยกันอีกอย่างพวกเขาเป็คนนอก; ลึกๆแล้วที่แม่ไม่้าให้ลูกเป็เพราะการจะคบกันในฐานะคนรักร่วมเพศมันเป็หนทางที่ยากลำบาก คลอดลูกในไส้ออกมาทั้งคนลูกจะรักใครยังต้องเจอเื่ยากลำบากอีก” นานๆ จะเห็นอันนาเคร่งขรึม แต่ก็เคร่งขรึมได้ไม่ถึงวินาทีเธอถูมือพร้อมกับเผยรอยยิ้มอันน่ากลัวและกล่าวว่า “แต่ในเมื่อลูกหลงรักผู้ชายเองแบบนี้ ก็โทษแม่ไม่ได้แล้วนะ”
“ลูกจ๋า จะเป็หนุ่มวายต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุดเจาเยี่ยที่ลูกหมายตา แม่เคยดูข่าวและรายการที่เกี่ยวกับเขา เขาดูดีทีเดียวไม่มีเื่อื้อฉาวและโตกว่าลูกไม่กี่ปี ก็แค่เ็าไปนิดแต่จะพูดไปบุคลิกแบบนี้แหละถึงจะเหมาะเป็ฝ่ายรุก ไม่ต้องเหมาะสมกับลูกมากนักหรอกในเมื่อลูกชอบเขา งั้นก็พาเขามาบ้านมาให้แม่ดูก่อน ถ้าเข้าตาแม่จะไปพูดกับพ่อเอง”
“บุคลิกแบบเขาเหมาะจะเป็ฝ่ายรุก เป็ฝ่ายรับชัดๆ ว่าไหม?” แม้ว่าตัวเองในชาติก่อนจะเป็ฝ่ายรับก็ตามแต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีของตัวเอง กู้หลานอันก็ขอโต้แย้งไว้ก่อน เขากล่าวต่อว่า “ขอบคุณการสนับสนุนของแม่นะครับแต่ผมยังไม่สามารถพาเขากลับมาเจอแม่ได้ภาพจำของผมกับเขาตอนนี้มากสุดก็เป็แค่คนแปลกหน้า ผมยังไม่ได้เริ่มจีบเขาเลยครับ”
“คนแปลกหน้าเดี๋ยวก็ค่อยๆ สนิทกันได้ไม่ใช่เหรอ? ลูกแม่ ตามจีบไม่ใช่แค่ปากพูดนะ ไม่ควรให้มันเป็ไปตามยถากรรมต้องตามจีบอย่างจริงจัง” อันนาพูดสอนเมื่อรู้สึกไม่ได้ดั่งใจเห็นกู้หลานอันยังคงเหม่ออยู่ก็เตือนว่า “วันเกิดพรุ่งนี้ของลูกพ่อจะจัดให้อย่างยิ่งใหญ่ไม่ใช่เหรอ? ลูกก็สามารถเชิญเขามาได้นี่”
เมื่อได้ยินแม่พูดแบบนี้กู้หลานอันก็ได้สติทันทีเมื่อสักครู่ได้ยินพ่อพูดว่าจะเชิญแขก เขาไม่อยากขัดแค่คิดว่าถ้าทำให้เขามีความสุขก็ปล่อยให้ทำไปแต่ไม่คิดเลยว่าจะสามารถใช้วิธีนี้เพื่อเชิญเจาเยี่ยมาได้ ที่สำคัญเจาเยี่ยชื่นชมแม่เขามาโดยตลอดถ้ามีโอกาสได้เจอตัวเป็ๆ เขาไม่ทิ้งโอกาสนี้ไปแน่
“แม่ผมฉลาดสุดๆ ไปเลย” กู้หลานอันพูดชม ลุกขึ้นแล้วรีบกุลีกุจอเดินขึ้นตึก “ผมจะไปส่งข้อความให้เขาเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้องรีบ งานจัดประมาณเย็นวันพรุ่งนี้ ยังมีเวลาถมเถกินอะไรก่อนสิ” อันนาหันไปมองด้านหลังเขา
“ไม่กินแล้วครับ อิ่มแล้ว” กู้หลานอันพูดทิ้งไว้ แล้ววิ่งขึ้นตึก
“แบบนี้ก็จะไปแล้ว?” อันนาหันหน้าไปมองอาหารที่ดูไม่ออกเลยว่าเคยถูกแตะส่ายหัวพร้อมอุทาน “คิดถึงลูกสะใภ้จนลืมกินข้าว” อุทานไม่หมด ก็เผยรอยยิ้มออกมา ใช้มือลูบคางพลางหรี่ตา “พรุ่งนี้ก็จะได้เจอลูกสะใภ้แล้ว ดีมาก ดีมากคิดไม่ถึงเลยว่าฉันเพิ่งจับคู่ให้ชายรักชายไปคู่หนึ่ง แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว……[1]
คำอธิบายเสริมจากนักเขียน
[1] จากนี้สาววายก็เริ่มจินตนาการแบบบรรเจิด