สตรีผู้นั้นรีบนำเสื้อคลุมของมู่เฟิงมาสวมใส่เพื่อปกปิดร่างกาย ก่อนจะรีบเข้าไปดูอาการของสามีที่อยู่มุมห้องทันที นางสวมกอดร่างไร้ิญญาของชายผู้เป็สามีด้วยน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลพราก
มู่เฟิงถอนหายใจ ก่อนจะเดินออกมาจากห้อง เขาปิดประตูจากด้านนอก กลุ่มโจรพวกนั้นยังคงทำการปล้นสะดมโดบไม่คิดจะหยุดมือ
“เสี่ยวเทียน สัตว์เดรัจฉานพวกนี้ ข้าอนุญาตให้เ้ากินเท่าไรก็ได้”
มู่เฟิงกล่าวกับเสี่ยวเทียนที่กำลังเลื้อยพันรอบแขนของเขาด้วยน้ำเสียงเย็นะเื
“ฟ่อ…!”
เสี่ยวเทียนส่งเสียงตอบรับด้วยความตื่นเต้น จากนั้นมันก็บินทะยานออกจากแขนของมู่เฟิงและกลายร่างเป็งูเจียวสีขาวร่างั์ที่มีความยาวมากกว่ายี่สิบเมตร ก่อนจะพุ่งกระโจนเข้าหาโจรผู้หนึ่งจากระยะไกล
โจรผู้นั้นเพิ่งออกมาจากเรือนพักพร้อมกับถุงอาหาร เขารับรู้ได้เพียงว่ามีลมกระโชกแรงงพัดมาทางเขาสายหนึ่ แต่กว่าจะตระหนักได้ว่ามันคือสิ่งใด เ้าสัตว์ประหลาดร่างั์ก็อ้าปากแยกเขี้ยวสังหารเขาภายในเสี้ยววินาทีแล้ว
“อ๊าก…!”
เมื่อได้เห็นฉากนี้ โจรผู้นั้นก็ใแทบสิ้นสติและทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่อ เปิดโอกาสให้เสี่ยวเทียนกัดหัวของเขาจนขาดในครั้งเดียว จากนั้นก็กลืนกินร่างของอีกฝ่ายเข้าไปทั้งตัว
อีกด้านหนึ่ง ไป๋จื่อเยว่กำลังวาดกระบี่ที่มีความยาวกว่าสี่ฟุตไปทางกลุ่มโจรตรงหน้า เพียงเขาแค่แทงกระบี่ออกมาหนึ่งครั้งก็ปรากฏเงากระบี่ขึ้นหลายเล่ม มันพุ่งทะลวงเสียบแทงร่างของกลุ่มโจรที่กำลังวิ่งเข้ามาโจมตีเขาอย่างรวดเร็ว
ประกายแสงสีโลหิตปรากฏขึ้นในมือของมู่เฟิง จากนั้นเด็กหนุ่มก็ฟาดฟันดาบโลหิตชูร่าอันทรงพลังในมือเข้าใส่กลุ่มโจรที่กำลังวิ่งเข้ามาในทันที
เมื่อกลุ่มโจรเห็นว่ามีคนคิดจะต่อต้าน พวกเขาก็แผดเสียงคำรามเพื่อข่มขวัญพวกมันในทันที
พลังปราณภายในร่างของเด็กหนุ่มกำลังเดือดพล่าน เขาไม่รอช้าที่จะสะบัดดรรชนีทองคำออกมา ลำแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งทะลวงเข้าที่ศีรษะของโจรผู้หนึ่งโดยตรง ร่างไร้ศีรษะของอีกฝ่ายพลันมีเืพุ่งกระฉูดออกมาทันที
“ตายเสีย!”
มู่เฟิงสถบ จากนั้นเขาก็ฟาดฟันดาบโลหิตชูร่าออกไปอย่างดุดัน โจรที่อยู่ตรงหน้าใจนใบหน้าซีดเผือด รีบร้อนยกดาบในมือขึ้นมาขวางเอาไว้
แกร๊ง!
ดาบโลหิตชูร่าของมู่เฟิงทั้งคมกริบและทรงพลัง มันสามารถตัดดาบในมือของอีกฝ่ายได้ ก่อนจะพุ่งทะลวงผ่าร่างของเขาจนขาดเป็สองท่อนอย่างง่ายดาย
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
หลังจากจัดการสังหารโจรสามคนแล้ว มู่เฟิงก็ปล่อยให้ดาบโลหิตชูร่ากลับคืนสภาพสู่หยกเทพชูร่า จากนั้นมันก็ลอยไปยังด้านข้างของศพและเริ่มดูดกลืนพลังเืจากร่างศพเ่าั้ ในเวลาเดียวกัน หอกสีม่วงก็ปรากฏขึ้นในมือของเด็กหนุ่ม มันคือหอกจื่อเหลย
มู่เฟิงพลันยกหอกยาวขึ้นขวางคมดาบที่พุ่งเข้ามาในทันที และเพียงเขาตวัดหอกก็สามารถสลัดคมดาบเ่าั้ออกไปได้อย่างง่ายดาย ตามมาด้วยคลื่นสายฟ้าสีม่วงที่พวยพุ่งออกมา
เปรี้ยง!
คลื่นสายฟ้าจากตัวหอกพุ่งไปยังศีรษะของโจรผู้หนึ่ง และในเวลาเดียวกัน มู่เฟิงก็ปล่อยพลังหมัดสีขาวออกมา เสียงกระดูกลั่นดังขึ้นต่อกันสิบสองครั้งอย่างชัดเจน หมัดนี้ของเขากระแทกเข้าที่ร่างของโจรอีกคนอย่างแรง
ปัง...!
“อ๊าก…”
โจรผู้นั้นกรีดร้องโหยหวนออกมาในทันที หน้าอกของอีกฝ่ายถูกพลังหมัดกระแทกเข้าใส่จนกลายเป็หลุมลึกที่มีรอยเื ในขณะที่ร่างของเขาก็กระเด็นไปไกลกว่าสิบเมตร
จากนั้นมู่เฟิงก็ไม่รอช้า เขารีบตวัดดรรชนีนิ้วไปยังโจรคนที่สามต่ออย่างรวดเร็ว
กลุ่มโจรเหล่านี้ส่วนใหญ่มีวรยุทธ์แค่ระดับทงม่ายเท่านั้น ดังนั้นสำหรับมู่เฟิงแล้ว การสังหารพวกเขาก็ไม่ได้ต่างจากการเชือดไก่หรือสุนัข
เด็กหนุ่มส่งพลังปราณเข้าไปในตัวหอก ก่อนจะเหวี่ยงตวัดหอกเพื่อปลดปล่อยคลื่นสายฟ้าให้กวาดไปยังเบื้องหน้า
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
กลุ่มโจรสามคนถูกสายฟ้าฟาดใส่ร่างโดยตรง ทำให้ร่างของพวกเขาขาดครึ่งในทันที
ทางด้านเสี่ยวเทียนเองก็กำลังไล่สังหารพวกโจรอย่างสบายๆ เช่นกัน ทุกครั้งที่มันตวัดกรงเล็บก็จะมีพลังปราณน้ำแข็งสีขาวถูกปลดปล่อยออกมาทันที ซึ่งพลังน้ำแข็งนี้จะแช่แข็งร่างของกลุ่มโจรเ่าั้จนตาย
“โฮก…!”
เปลวเพลิงสีแดงอันร้อนระอุถูกพ่นออกมาจากปาก ก่อนจะกวาดไปยังกลุ่มโจรที่อยู่เบื้องหน้าอีกหลายคน
“อ๊าก…!”
ร่างของโจรกลุ่มนั้นถูกเปลวเพลิงแผดเผาจนมอดไหม้ และหลังจากที่ร่างกายของพวกเขาถูกแผดเผาแล้ว พลังเืที่ระเหยขึ้นบนอากาศก็ถูกดูดซับเข้าสู่หยกเทพชูร่าอย่างรวดเร็ว
ปัง...!
จากนั้นเสี่ยวเทียนก็ตวัดหางของมันออกไป หางขนาดใหญ่ฟาดเข้ากับร่างของโจรผู้หนึ่ง ทำให้กระดูกภายในร่างของโจรผู้นั้นแตกหักทั้งหมด นอกจากนี้อวัยวะภายในยังถูกทำลาย ทำให้เขาเสียชีวิตในทันที
กระบี่ยาวในมือของไป๋จื่อเยว่กลายเป็เงากระบี่อีกครั้ง โดยปราณกระบี่สีขาวเ่าั้ได้พุ่งทะลวงออกไปโจมตีกลุ่มโจรทั้งหกคนที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้พวกเขาทั้งหมดถูกคมกระบี่สังหารตายในการโจมตีเดียว
“โฮก…”
สัตว์อสูรซึ่งเป็พาหนะของทั้งสองก็ไม่ได้อยู่เฉย พวกมันแผดเสียงคำราม จากนั้นเสือดาวหางอสรพิษก็พุ่งกระโจนเข้าใส่โจรผู้หนึ่งและกัดเข้าลำคอของเขา
ฉึก!
เขี้ยวอันแหลมคมเจาะทะลุคอของโจรผู้นั้นอย่างง่ายดาย จากนั้นเสือดาวหางอสรพิษก็พ่นลำแสงสีเหลืองออกมาะเิร่างของโจรอีกคนที่กำลังจะโจมตีมัน
เปรี้ยง...!
ลำแสงพลังปราณพุ่งทะยานเข้าไปทำลายศีรษะของโจรผู้นั้นโดยตรง
ส่วนทางด้านหมาป่าวายุก็แผดเสียงร้องคำรามออกมาเช่นกัน พลังในร่างกายของมันกำลังพลุ่งพล่าน เพียงไม่นานมันก็อ้าปากควบแน่นพลังขึ้นเป็คมมีดวายุสีคราม ก่อนจะปล่อยคมมีดให้พุ่งทะลวงศีรษะของโจรผู้หนึ่ง สัตว์อสูรสองตัวร่วมต่อสู้กันอย่างดุเดือด แน่นอนว่าพวกมันมีความโหดร้ายและความกระหายเืโดยสัญชาตญาณ
ในที่สุด หลังจากกลุ่มโจรถูกฆ่าไปมากกว่าสามสิบคน ตอนนี้พวกมันก็เหลือกันเพียงสิบกว่าชีวิตเท่านั้น จากผลลัพธ์นี้ทำให้พวกมันตระหนักได้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย ดังนั้นพวกที่ยังเหลือรอดจึงคิดที่จะหลบหนี และมีหลายคนรีบขึ้นไปบนหลังม้าในทันที
“โฮก…”
เมื่อเห็นดังนั้นเสี่ยวเทียนก็แผดเสียงคำรามออกมา ทำให้ม้าเ่าั้พลันใกลัวจนแข้งขาสั่นและไม่อาจก้าวขาออกไปได้
“คิดจะหนีอย่างนั้นหรือ คงต้องดูก่อนว่าพวกเ้าจะมีความสามารถที่จะหลบหนีได้หรือไม่?”
มู่เฟิงแสยะยิ้มอย่างน่ากลัว มือข้างหนึ่งของเขาถือหอกจื่อเหลย ในขณะที่กำลังย่างเท้าเข้าหากลุ่มโจรพร้อมกับไป๋จื่อเยว่อย่างใจเย็น
“พวกเ้าเป็ใครกัน? ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ เหตุใดต้องมายุ่งเื่ของพวกเราด้วย”
โจรผู้หนึ่งะโถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ผู้ฝึกยุทธ์ก็เป็มนุษย์เช่นกัน ในเมื่อพวกเ้าปฏิบัติต่อผู้อื่นราวกับไม่ใช่มนุษย์เช่นนี้ ข้าเองก็จะไม่ปฏิบัติต่อพวกเ้าในฐานะมนุษย์อีกต่อไป ฆ่าพวกเขา!”
มู่เฟิงตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า ฉับพลันนั้นร่างของเขากับไป๋จื่อเยว่ก็พุ่งทะยานออกไปราวกับลูกศร เสือดาวหางอสรพิษ หมาป่าวายุและเสี่ยวเทียนเองก็พุ่งออกไปด้วยเช่นกัน
หลังจากชาวบ้านที่เหลือรอดในหมู่บ้านเห็นว่ามีเด็กหนุ่มสองคนนำกลุ่มสัตว์อสูรมาจัดการกับกลุ่มโจรเหล่านี้ พวกเขาก็พลันตื่นตะลึงกับฉากที่ได้เห็นกันหมด
“ผู้ใหญ่บ้าน พวกเขาเป็ใครกัน ช่างน่าทึ่งนัก แม้แต่กลุ่มโจรพวกนั้นก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา”
ชายหนุ่มผู้หนึ่งกล่าวขึ้นด้วยความตื่นตะลึง
“พวกเขาล้วนเป็ผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งมาก”
ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีเทาพึมพำออกมา
เพียงไม่นาน โจรกลุ่มสุดท้ายก็ถูกสังหารจนเหลือเอาไว้เพียงสองชีวิตเท่านั้น ซึ่งนี่เป็ความตั้งใจของมู่เฟิงที่จะเก็บชีวิตของพวกเขาเอาไว้
คนทั้งสองกลิ้งไปตามพื้น พวกเขาเงยหน้ามองมู่เฟิงกับไป๋จื่อเยว่ด้วยความหวาดผวา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
กลุ่มโจรกว่าสี่สิบคนถูกเด็กหนุ่มสองคนและสัตว์อสูรอีกสามตัวสังหารจนแทบจะสิ้นซาก
“พวกเ้าเป็คนของกองโจรูเาหม่าซานหรือไม่?”
มู่เฟิงเอ่ยถามอย่างไม่แยแส
สถานที่แห่งนี้ห่างจากูเาหม่าซานไม่ไกลนัก ดังนั้นสิ่งแรกที่มู่เฟิงนึกถึงย่อมเป็กองโจรูเาหม่าซาน
“ถะ ถูกต้อง ข้าน้อยขอร้องคุณชายทั้งสองโปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเราเพียงมาปล้นชิงตามคำสั่งของหัวหน้าใหญ่เท่านั้น”
คนทั้งสองรีบคุกเข่าและร้องขอความเมตตาในทันที
“กองโจรูเาหม่าซานช่างกระทำตัวได้น่ารังเกียจนัก ปล้นสะดมยังไม่พอ ยังคิดจะลงมือฆ่าผู้บริสุทธิ์อีก”
ไป๋จื่อเยว่กัดฟันกรอด
“พวกโจรจะไปมีศีลธรรมได้อย่างไร”
มู่เฟิงกล่าวเสียงเรียบ บนโลกนี้ คนธรรมดาย่อมไม่มีสิทธิ์หรือมีอำนาจในชีวิตมากนัก
“พี่เฟิง เราจะจัดการกับสองคนนี้อย่างไรดี”
ไป๋จื่อเยว่ขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“โฮก…!”
เสือดาวหางอสรพิษแผดเสียงคำรามออกมาพร้อมกับแลบลิ้นเลียเขี้ยวของมัน มันจ้องมองอีกฝ่ายราวกับ้าจะกินพวกเขาเป็อาหาร
“เก็บไว้ก่อน เค้นถามสถานการณ์ในกองโจรให้ละเอียดแล้วค่อยว่ากัน มัดพวกเขาเอาไว้”
ไป๋จื่อเยว่พยักหน้า ก่อนจะนำเชือกออกมาและเดินไปมัดร่างของพวกเขาทั้งสองคนเอาไว้
ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านในหมู่บ้านก็พากันทยอยเดินออกมา เมื่อพวกเขาได้เห็นร่างไร้ิญญาที่อยู่ในสภาพน่าสังเวชกำลังนอนเกลื่อนไปทั่วบริเวณ พวกเขาทั้งหมดก็แสดงท่าทีตื่นตระหนกและหวาดกลัวออกมาทันที
“ขอบคุณคุณชายทั้งสองคนที่ช่วยชีวิตคนแก่และเด็กในหมู่บ้านของข้า”
ผู้ใหญ่บ้านเดินนำกลุ่มคนเข้ามา ก่อนจะรีบคำนับเด็กหนุ่มทั้งสองในทันที จากนั้นชาวบ้านก็โค้งคำนับเด็กหนุ่มทั้งสองเพื่อขอบคุณเช่นกัน
“ทุกท่านโปรดลุกขึ้นเถิด”
มู่เฟิงและไป๋จื่อเยว่รีบเข้าไปช่วยประคองชายชราให้ลุกขึ้น
จากนั้นพวกเขาก็สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของกองโจรูเาหม่าซานจากชาวบ้าน เพื่อคิดหาวิธีกำจัดอีกฝ่ายต่อไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้