หน้าอกอวบนูนเต่งตึง เอวบางเพียงคว้าแรงหน่อยก็คงหักใบหน้าเล็กผิวขาวผ่อง ดวงตาสวยสะกดใจ
แรงโจมตีที่เซี่ยเสี่ยวหลานมอบแด่มารดาจูฟ่างช่างหนักหนานักมารดาจูฟ่างถึงกับเปิดสัญญาณเตือนภัยระดับสูงสุดแล้ว! รูปลักษณ์น่ารำคาญและเรียกร้องความสนใจได้มากที่สุดในสายตาของสตรีมักจะเป็ประเภทที่บุรุษนิยมชมชอบมากที่สุด เป็หน้าตาที่ผู้ใหญ่ไม่ถูกใจแต่จูฟ่างโปรดปรานเหลือเกิน เมื่อเจอเซี่ยเสี่ยวหลาน ั์ตาของจูฟ่างก็เปล่งประกายมารดาเขากลับรู้สึกว่าโลก์ช่างมืดมนไปเสียหมด
“เสี่ยวหลาน วันนี้เธอมาสาย ไม่ได้เกิดเื่ระหว่างทางสินะ?”
“ขอโทษค่ะ ทำให้คุณรอนานเลย วันนี้ฉันนำสินค้ามาเยอะไปหน่อยจึงเสียเวลาไปบ้าง”
เซี่ยเสี่ยวหลานยิ้มแย้มเจือความรู้สึกผิด
เธอเคยทักทายกับจูฟ่างหลายต่อหลายครั้งนอกจากครั้งแรกที่หูหย่งไฉนำมา ที่เหลือก็ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ไม่คาดคิดว่าจะได้พบหญิงวัยกลางคนผู้มีภูมิฐานพอสมควรเซี่ยเสี่ยวหลานยังนึกว่าเป็คนของภัตตาคารหวงเหอด้วยซ้ำ จูฟ่างกลับบอกว่านี่คือมารดาของเขา
“สวัสดีค่ะคุณน้า ฉันส่งของเสร็จเดี๋ยวก็ไปแล้วค่ะ”
เซี่ยเสี่ยวหลานจะรู้ความคิดมารดาของจูฟ่างได้ที่ไหนและก็ไม่รับรู้ว่าคนเขาตั้งใจรอเธอโดยเฉพาะอยู่หลายชั่วโมงเธอยังรู้สึกว่าตนเองรบกวนจูฟ่างและมารดาแล้วด้วยซ้ำ
“เสี่ยวหลานสินะ เธอรอก่อน น้ามีบางอย่างอยากจะคุยกับเธอเสียหน่อย”
มารดาจูฟ่างผ่อนน้ำเสียงให้อ่อนลง ใบหน้าก็เค้นรอยยิ้มออกมา
ห้ามโกรธเด็ดขาด ยิ่งแข็งกระด้างจูฟ่างจะยิ่งไม่เชื่อฟังเซี่ยเสี่ยวหลานคนนี้สวยกว่าที่ตนเองคาดไว้เสียอีก ทำเอาจูฟ่างหลงใหลได้ขนาดนี้
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้ว่ามีอะไรต้องพูดกับมารดาของจูฟ่างอีก
ทว่าในเมื่อคนเขาเรียกเธอไว้ เซี่ยเสี่ยวหลานจึงทำได้เพียงตั้งใจรับฟังด้วยความเคารพ
“ดูลูกสิ ทำไมไม่เรียกคนมาเอาปลาไหลที่เสี่ยวหลานนำมาเข้าไปข้างในเล่า?”
มารดาของจูฟ่างตั้งใจกันลูกชายออกไปจูฟ่างเองรู้สึกเหนียมอายไม่น้อย แม้ว่าเขาจะมั่นใจในคุณสมบัติของตนเองมากและคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่รังเกียจเขาทว่าทางบ้านจะจัดหางานให้แก่เซี่ยเสี่ยวหลานเช่นนั้นถือเป็การเผยเจตนาให้ชัดเจนแล้ว... จูฟ่างกระแอมเบาๆ
“แม่... แม่คุยกับเสี่ยวหลานดีๆ นะ อย่าทำเสี่ยวหลานกลัว”
จูฟ่างวิ่งไปแล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานหวั่นเกรงอยู่ในใจ
มารดาจูฟ่างรอจนลูกชายหายไปลับตาจากนั้นจึงกล่าววาจาที่มีนัยยะค่อนข้างลึกซึ้ง
“เสี่ยวหลานสินะ อยู่ที่บ้านจูฟ่างพูดถึงเธอหลายครั้งหลายหนบอกว่าเธอเป็หญิงสาวตัวคนเดียวขายปลาไหลเลยลำบากไม่น้อย ฉันเองก็เข้าใจเธอยังนับถือเธอเสียด้วยซ้ำ ใครจะไม่คาดหวังชีวิตที่ดีกว่ากันเล่า? แต่ชีวิตที่ดีนี่ต้องฝ่าฝันด้วยตนเอง ต่อสู้ด้วยตนเองสตรีค้ำแผ่นฟ้าไว้ครึ่งหนึ่ง ไม่อาจฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการแต่งงานได้...น้าชอบเธอมากนะ ทว่าั้แ่โบราณกาลจนตอนนี้ การแต่งงานเป็การให้ความสำคัญกับฐานะและสังคมที่เหมาะสมคู่ควรกันน้าไม่เห็นด้วยกับเื่ของเธอและจูฟ่าง เ้าลูกชายจูฟ่างคนนี้จริงใจเอื้อเฟื้อบอกว่าทนเห็นเธอทำธุรกิจส่วนตัวไร้ความมั่นคงอย่างยากเย็นแสนเข็ญไม่ได้ น้าพอหาเส้นสายให้เธอได้จัดการเื่งานให้เธอได้ มหาวิทยาลัยไม่ได้สอบเข้าง่ายขนาดนั้นจูฟ่างบอกว่าสถานะทางบ้านของเธอไม่ดี ใช้ชีวิตอย่าหวังสูงทั้งที่ความสามารถน้อยเลยอยู่กับความจริงทำงานเสียไม่ดีกว่าหรือ? ”
ปีศาจสาวพราวเสน่ห์ท่าทางมากชู้หลายชายเช่นนี้ มารดาจูฟ่างคงต้องบ้าไปแล้วถึงจะสู่ขอกลับบ้านแทนลูกชายเธอ
ตระกูลจูพอมีอิทธิพล เื่หางานย่อมทำให้ได้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานเป็ทะเบียนบ้านชนบท นอกจากหน้าตาสะสวยแล้วก็ไม่มีอะไรดีอาศัยหน้าตานั่นฝืนยัดเข้าเป็บริกรภัตตาคารได้ แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ภัตตาคารหวงเหอ
มารดาจูฟ่างคิดคำนวณทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วการกระทำของเธอเหมือนกับ ‘แม่สามีใจโหด’ ผู้ดูแคลนฝ่ายหญิงในละครไอดอล [1] ของอนาคต ทว่าแม่สามีใจโฉดในละครไอดอลมักร่ำรวยและจองหองโดยปกติแล้วจะเป็ ''เธอ้าเงินเท่าไรถึงจะยอมปล่อยลูกชายฉันไป'' จากนั้นโยนเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งล้านให้หนึ่งใบเหยียดหยามนางเอกสักหนึ่งยก แล้วจากไปด้วยความหยิ่งยโส
วันนี้มารดาของจูฟ่างแสดงเป็แม่สามีใจโฉดฉบับงบน้อย
ช่วยไม่ได้ ต่อให้เป็ตระกูลสูงศักดิ์ที่แท้จริงปัจจุบันนี้ก็ไม่มีใครสามารถโยนเงินหนึ่งล้านหยวนออกมาเพื่อให้หญิงสาวสักคนคิดลาจากลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเองได้อยู่ดี
รายได้ต่อหัวไม่กี่สิบหยวน ครอบครัวมีเงินหมื่นก็ถือเป็คนรวยแล้วใครจะเคยพบว่าคนมีเงินล้านหยวนมีชีวิตเป็อย่างไรบ้าง?!
มารดาจูฟ่างคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานถูกตนเจาะทะลวงแผนการในใจเข้าจะหวั่นเกรงไร้หนทางหรืออับอายขุ่นเคืองหรือแม้แต่อาจแสดงอาการละโมบไม่ก็ชิงชังออกมาได้ทว่าสีหน้าของเซี่ยเสี่ยวหลานนั้นไม่อยู่ในความคาดหมายของมารดาจูฟ่าง
เซี่ยเสี่ยวหลานทำราวกับไม่ได้ยิน
ยังดีที่ประธานเซี่ยมีความรู้และประสบการณ์มาก สามารถใช้ชีวิตท่ามกลางเื่ราวพึลึกกึกกือใน่แรกของชีวิตได้เธอจึงสุขุมยิ่งนัก
เธอรู้ว่าจูฟ่างคงชอบเธอเข้าเสียแล้ว แต่เธอไม่ได้ชอบจูฟ่าง...หากคิดว่าโจวเฉิงบ้าบิ่นมากพอแต่อย่างน้อยโจวเฉิงยังบอกความในใจของตนเองออกมาอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งจูฟ่างไม่เคยเผยความรู้สึกที่แท้จริงต่อเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยซ้ำ อยู่ดีไม่ว่าดีก็เชิญมารดามาสนทนากับเธอทั้งตั้งรับและโจมตีในคราเดียว หากเปลี่ยนตัวเป็ ‘เซี่ยเสี่ยวหลาน’ ผู้หยิ่งทะนงคนเดิมไม่แน่ว่าอาจต้องพุ่งชนผนังอีกสักหนึ่งรอบ
เซี่ยเสี่ยวหลานแค่รู้สึกว่าเื่นี้ช่างน่าขันนัก
อย่างไรเสียชาติก่อนเธอเจอคนประเภทน่ารำคาญถึงขีดสุดมามากปัญหาเื่จูฟ่างไม่หนักหนา มารดาจูฟ่างเองก็เพียงทึกทักว่าตนสูงส่งกว่าเพียงเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่ปัญหาใหญ่
เซี่ยเสี่ยวหลานคิดว่าตนเองควรอธิบายให้เข้าใจกันเสียหน่อยเธอเห็นแก่การส่งปลาไหล 50 ชั่งมายังภัตตาคารหวงเหอทุกสองวันและไม่สามารถยอมรับข้อกล่าวหาที่ไม่ยุติธรรมได้
“คุณน้าคะ ฉันคิดว่าคุณเข้าใจผิด ฉันยังไม่เคยคิดเื่หาคู่หมายสำหรับธุรกิจส่งปลาไหลนี้ ถึงเดือนพฤศจิกายนฉันก็ไม่ทำแล้วค่ะ”
มารดาของจูฟ่างไม่เชื่อ
เธอคิดว่าปีศาจสาวเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้กำลังปล่อยเหยื่อให้ตายใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าน้าเข้าใจผิดไป แต่เื่งานน่ะเสี่ยวหลานไม่คิดลองฟังน้าหน่อยหรือ?”
ส่งปลาไหลถึงเดือนพฤศจิกายน หากปล่อยให้พวกเธอทำความรู้จักกันต่อไปมิใช่ว่าจะยิ่งทำให้จูฟ่างยิ่งหลงจนไม่ใช่เธอก็ไม่ยอมแต่งงานหรือ? มารดาจูฟ่างอยากจะจัดหางานให้เซี่ยเสี่ยวหลานไปอยู่ในที่ห่างไกลเป็บริกรดูเหมือนจะไม่เหมาะเท่าไร ต้องหางานที่หนักหนาสาหัสเอาให้นางมารร้ายเหนื่อยจนแทบตายเลยทีเดียวเธอจะได้ไม่มีกะจิตกะใจมายั่วยวนลูกชายของตนอีก!
มารดาของจูฟ่างวางตัวเองไว้สูงส่ง กำลังรอเซี่ยเสี่ยวหลานอ้อนวอนตนเอง
เซี่ยเสี่ยวหลานได้แต่คิด ท่องในใจย้ำๆ ว่า ฉันใจกว้างไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้อื่น
เตรียมพร้อมจิตใจให้กับตนเองไปพลาง ในขณะเดียวกันน้ำเสียงที่เปล่งออกมาก็ไม่ค่อยพอใจนักแต่ไหนแต่ไรประธานเซี่ยนั้นไม่ใช่คนรองรับอารมณ์ผู้น่าสมเพชอยู่แล้ว
“คุณน้า ขอบคุณในความหวังดีของคุณนะคะ แต่ฉันไม่เคยคิดจะหางานหนึ่งเดือนได้ไม่กี่สิบหยวนมันไร้ประโยชน์... ดูฉันพูดเข้าสิฉันไม่ได้รังเกียจว่างานที่คุณน้าหาให้จะไม่ดีแต่ฉันวางแผนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยน่ะค่ะ”
ธุรกิจขายปลาไหลเก็งกำไรเซี่ยเสี่ยวหลานทำถึงเดือนพฤศจิกายนเท่านั้น
เธอใส่ใจกับปริมาณรับซื้อของภัตตาคารหวงเหอไม่น้อยทว่าหากมีคนคิดจะใช้จุดนี้บีบท่อน้ำเลี้ยงชีวิตของเธอ เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่ยำเกรง
เมืองซางตูไม่มีภัตตาคารอื่นหรือ?
จัดการสินค้าในคลังที่บ้านจนเกลี้ยงได้อย่างมหัศจรรย์ในมือเธอก็ยังมีเงินอีกหลายร้อยหยวน ไปทำธุรกิจอื่นย่อมดีกว่า
หวังมั่งคั่งเติบโตจากการยากจนข้นแค้นนั้นไม่ง่ายเอาเสียเลยทว่าตอนนี้เซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินทุนสำหรับเริ่มต้นธุรกิจไม่กลัวที่จะเริ่มใหม่ั้แ่ต้นแล้ว
มารดาจูฟ่างถูกเซี่ยเสี่ยวหลานต้อนด้วยคำพูดที่ทั้งไม่อ่อนแอและไม่แข็งกระด้างทำเอาอึดอัดเพราะไม่ได้หายใจหายคออยู่นาน
หงุดหงิดอยู่ในอก ข่มเสียจนทรมาน
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่พวกยอมกลืนการเหยียดหยามและความอัปยศลงท้องวาจาของเธอไร้คำหยาบคาย แต่เธอไม่เคยไว้หน้าให้คนที่ดูถูกเธอข้ามคืนแน่มีความแค้นก็ต้องสนองทันทีทันใด มารดาจูฟ่างอยากก่นด่าเธอว่าหน้าไม่อายแต่จะเอาอะไรมาด่าได้? คงไม่อาจเพียงเพื่อพิสูจน์ว่าตนสุดยอดจึงยอมหางานที่ดีสักงานให้เซี่ยเสี่ยวหลานจริงๆหรอกนะ?
ไม่รู้ว่ามารดาจูฟ่างจะหาได้จริงหรือไม่ แต่ต่อให้หาได้เธอจะหาให้เซี่ยเสี่ยวหลานเพื่ออะไร!
ยังเอา ‘สอบเข้ามหาวิทยาลัย’ มาเป็ข้ออ้าง แปะทอง [2] บนหน้าตัวเองหรือ?
หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยง่ายดายขนาดนั้น ทุกปีจะมีนักเรียนที่เรียนจนหัวแทบแตกอีกหรือ?
อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง หากจูฟ่างสามารถเรียนมหาวิทยาลัยได้จะมาเป็คนจัดซื้อของภัตตาคารหวงเหอทำไม?!
จูฟ่างนำคนเอาปลาไหลไปยังหลังครัว จากนั้นก็เดินออกมาอย่างพิรี้พิไรเห็นใบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานประดับรอยยิ้มยังนึกว่าทั้งสองคนสนทนาเื่งานกันเรียบร้อยแล้ว
“เสี่ยวหลาน ฉันไม่มีความหมายอื่นและก็ไม่ได้คิดว่าเธอทำธุรกิจอิสระนั้นน่าอาย แค่อยากช่วยเหลือเธอ”
มารดาจูฟ่างปอดแทบะเิเพราะความโกรธเคือง ลูกชายตนนั้นสายตาแย่ไปหน่อยไหม?
เธอกำลังจะฟาดงวงฟาดงา ทางนั้นดันมีคนทักทายเซี่ยเสี่ยวหลานจากไกลๆ
“เสี่ยวหลาน หลานอยู่ที่นี่จริงด้วย!”
หลิวหย่งหอบหายใจหนัก เป็เขามันไม่ง่ายเอาเสียเลยนำคนมาซางตูด้วยกันตลอดทาง เหนื่อยแทบทนไม่ไหว ในที่สุดก็เจอเซี่ยเสี่ยวหลานที่ภัตตาคารหวงเหอจนได้
“ลุง! ลุงมาทำไมกัน...”
เหล่าวังทิ้งจักรยานไว้อีกด้าน ตนเองเบียดกายออกมาแนะนำตัวทันที
“เธอคือนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานใช่ไหม? เธอผ่านการสอบเข้าเรียนของเซี่ยนอีจงแล้ว!”
เชิงอรรถ
[1]偶像剧 ละครไอดอล หมายถึง ละครที่มีจำนวนตอนไม่ยาวมาก นักแสดงนำหน้าตาดีมีความรักโรแมนติกเป็แก่นหลักของเื่ ฉากหลังของละครอยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน
[2]给自己脸上贴金 แปะทองบนหน้าตัวเองหมายถึง คุยโวโอ้อวด