เกิดใหม่ชาตินี้ ขอเป็นเศรษฐีนีในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        ทุจริต?

        ทุจริตอย่างไร?

        ใบหน้ากลมมนของอาจารย์ซุนแดงก่ำด้วยความร้อนรน

        “พี่ฉี ฉันไม่ได้ห่างเธอไปแม้แต่ก้าวเดียวขนาดเธอไปเข้าห้องน้ำยังตามไปด้วย อาหารกลางวันก็กินในห้องพักครูไม่มีทางทุจริตได้อย่างแน่นอน!”

        อาจารย์ฉีรีบปลอบรุ่นน้องที่กำลังกระวนกระวาย

        “อย่าร้อนใจไป ฉันเชื่อว่าเธอเป็๞คนมีความตั้งใจและเป็๞คนมีความรับผิดชอบคะแนนของเธอมันค่อนข้างเหนือความคาดหมายน่ะ”

        เมื่อมั่นใจว่าอาจารย์ซุนไม่ได้ป้ำเป๋ออาจารย์ฉีจึงนำกระดาษคำตอบและคะแนนสอบส่งให้แก่อาจารย์ร่วมระดับชั้น เหล่าวัง [1] ประจำมัธยมปลายปีสามก็สงสัย “ไม่มีใครหลุดเผยคำตอบให้จริงๆ หรือ? เช่นนั้นนักเรียนคนนี้ก็เข้าเรียนกลางภาคได้แล้วสิ”

        “จะหลุดคำตอบได้อย่างไรกัน วันศุกร์นี้ไม่ใช่ว่าปีสามมีสอบจำลองหรือ? ฉันเอาข้อสอบชุดนั้นมาใช้กับเธอก่อนคำถามก็เป็๞เหล่าอาจารย์แต่ละวิชาออก ใครจะสามารถได้คำตอบก่อนการสอบจำลองได้กัน?”

        และอย่าลืมว่าอาจารย์ฉีเป็๲คนนำข้อสอบกลับบ้านด้วยตนเอง

        อีกอย่างสามีของเธอก็เป็๞อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษซึ่งภาษาอังกฤษของเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนดีที่สุด

        แต่ข้อสอบนี้ไม่ใช่สามีของเธอเป็๲ผู้ออกครอบครัวเธอและเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดต่อกันอาจารย์ฉีเป็๲คนทำสิ่งใดด้วยความเที่ยงตรงจึงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางได้คำตอบล่วงหน้าแน่นอน

        สีหน้าของเหล่าวังอัศจรรย์ใจมาก

        “จบมัธยมต้นแล้วศึกษาด้วยตัวเองที่บ้านหรือ?”

        จุดที่เซี่ยเสี่ยวหลานเสียคะแนนไปล้วนเป็๞วิชาอย่างภาษาจีนและรัฐศาสตร์ซึ่งจำเป็๞ต้องท่องจำ ชีววิทยาก็คะแนนไม่ดีแต่คะแนนรวมวิชาชีววิทยาแค่เท่าไรเอง? ส่วนภาษาจีนและรัฐศาสตร์ใช้การตั้งมั่นท่องจำในระยะเวลาสั้นๆสามารถเพิ่มพูนคะแนนให้มากขึ้นได้อย่างแน่นอน สิ่งอื่นไม่ขอกล่าวถึง จริงๆ แล้วคะแนนวิชารัฐศาสตร์ที่เลวร้ายจนทนดูไม่ได้นั่นสามารถนำจุดที่ไม่ควรเสียคะแนนของวิชาภาษาจีนโปะเข้าไปคะแนนรวมของเซี่ยเสี่ยวหลานยังสูงขึ้นได้อีก 40 คะแนนแบบหายห่วง!

        40 คะแนนเชียวนะ!

        เหล่าวังหัวเราะชอบใจ มีต้นกล้าดีๆ เช่นนี้เพิ่มมาอีกต้น ถ้าเธอตอบว่าศึกษาด้วยตนเองก็ต้องยกนิ้วยอมรับเลย

        อย่างไรเสียหากสุดท้ายเธอสอบติดแล้ว ใครจะสนว่าพื้นฐานของเธอคือการเรียนที่บ้านหรือไม่คนอื่นรับรู้เพียงแต่นักเรียนจากเซี่ยนอีจงสอบติดแล้วอัตราการเข้าเรียนก็เป็๲ของเซี่ยนอีจง!

        เหล่าวังจัดการเก็บกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานไว้อย่างระมัดระวัง

        “รีบเถอะ ต้องแจ้งผลให้นักเรียนคนนี้!”

        “เฉินชิ่งห้อง 3 แนะนำมา...”

        “อย่างนั้นก็วานเฉินชิ่งนำทางไปเลย!”

        อาจารย์ในตอนนี้มีความกระตือรือร้นมากเลยทีเดียว

        ฟื้นฟูเกาเข่าได้ระยะหนึ่งมาตรฐานเหล่าอาจารย์ของเซี่ยนอีจงอาจไม่ทัดเทียมเมืองใหญ่ทว่าจรรยาบรรณของอาจารย์ส่วนมากไม่เป็๲ที่กังขา การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนหนึ่งคนได้อย่างแน่นอนผู้เข้าสอบบางคนถึงขนาดเรียนซ้ำปีแล้วปีเล่า ยังไม่เคยยอมละทิ้งการสอบเกาเข่าเลยด้วยซ้ำตอนนี้ผู้มีความหวังร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่า ถ้าไม่รู้ก็ไม่เกิดอะไรหากรู้เข้าเซี่ยนอีจงต้องไม่ปล่อยคนไปอยู่แล้ว

        เฉินชิ่งถูกเรียกตัวออกมาเหล่าวังและอาจารย์ฉีรอให้เฉินชิ่งหยุดเรียนกลับบ้านไม่ไหว บอกว่าจะไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานที่หมู่บ้านชีจิ่งด้วยกันในทันที

        เหล่าวังเอาแต่ถามไถ่เ๱ื่๵๹ของเซี่ยเสี่ยวหลานตลอดทาง เช่นนักเรียนหญิงคนนี้ทำไมเมื่อก่อนไม่เรียนหนังสือปกติเวลาอยู่บ้านทบทวนบทเรียนอย่างไร เฉินชิ่งจะรู้อะไรได้ เขาไม่รู้สถานการณ์เมื่อก่อนของเซี่ยเสี่ยวหลานในหมู่บ้านต้าเหอเลยแม้แต่น้อยบางทีหลังจากเซี่ยเสี่ยวหลานเลิกเรียนกลางคัน เธอคงใช้เวลาอย่างหนักในการศึกษาเล่าเรียนที่บ้านเองจริงๆ ?

        อย่างไรเสียดูจากท่าทางของอาจารย์ทั้งสองแล้วเสี่ยวหลานต้องผ่านการสอบของโรงเรียนแล้วแน่นอน

        เหล่าวังยังคงปล่อยให้เขาสงสัยต่อไปไม่ยอมปริปากบอกว่าตกลงแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนเท่าไร

        “รอถึงบ้านเธอ เราก็ได้รู้แล้ว”

        อาจารย์ทั้งสองคนพาเฉินชิ่งไปด้วยสามคนขี่จักรยานไปยังหมู่บ้านชีจิ่ง ไม่ต้องบอกเลยว่าเฉินชิ่งสงสัยมากขนาดไหน

        สามคนขี่จักรยานด้วยความไวแสงเมื่อถึงหมู่บ้านชีจิ่งก็ร้อนจนเหงื่อแตก เฉินชิ่งเคาะประตูอยู่นานสองนาน ทว่าไม่มีคนบ้านหลิวเปิดประตูตอบรับออกมาเลยสักคน

        ที่แท้เป็๲เพราะอีกสักพักหลิวหย่งจะเตรียมตัวออกไปทำงานไกลจึงใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนออกเดินทางไกลช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานมากขึ้นอีกหน่อยตอนนี้การเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไปแล้ว กลางวันไปส่งเทาเทาที่โรงเรียนเสร็จผู้ใหญ่สามคนก็ออกไปรับซื้อปลาไหลแทนเซี่ยเสี่ยวหลาน

        ถึงแม้ทุกสองวันจะส่งปลาไหลเข้าเมืองซางตูถึง 100 กว่าชั่ง แต่อ่างน้ำในบ้านได้ตุนไว้หลายร้อยชั่งแล้ว

        เวลานี้ในมือของเซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินไม่มากพอจริงๆเธอเลยไม่กล้ามือเติบซื้อเนื้อซื้อซี่โครงทั้งวันแล้ว ๰่๥๹นี้คนในครอบครัวเลือกรับประทานปลาหมูมากที่สุดสิ่งนี้นำกลับมาเล็กน้อยพร้อมกับตอนรับซื้อปลาไหล เพราะราคาถูกยิ่งนัก

        อาจารย์ทั้งสองรอคอยจนคอแห้งผาก

        เฉินชิ่งจึงพาเหล่าวังและอาจารย์ฉีไปบ้านของเขาเพื่อพักดื่มน้ำดื่มท่า

        อาจารย์มาเยี่ยมบ้าน!

        คนในครอบครัวเฉินชิ่งเกือบจะเลี้ยงดูปูเสื่ออาจารย์ทั้งสองแล้วเฉินวั่งต๋าออกคำสั่ง มารดาเฉินชิ่งทั้งจะฆ่าไก่ทั้งจะซื้อเนื้อเหล่าวังรั้งไว้ได้ทันท่วงที “พวกเราไม่ได้มาเพื่อกินข้าวหรอกแค่อยากรีบหาตัวนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานให้พบโดยเร็ว หากล่าช้าสักหนึ่งวันอนาคตเธออาจจะสอบได้น้อยลงหลายคะแนน แบบนี้จะเป็๲ผลดีได้อย่างไร?”

        เหล่าวังจดจ่อกับประโยชน์ของส่วนรวมทั้งใจ

        เฉินวั่งต๋าจึงกระตือรือร้นมีน้ำใจมากไปกว่านี้ไม่ได้

        “เด็กเสี่ยวหลานคนนี้มีความคิดที่ดีนะ สถานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี ทว่าโชคดีที่รู้จักก้าวไปข้างหน้า”

        เฉินวั่งต๋าได้วานคนไปตามตัวหลิวหย่งกลับมา

        หลิวหย่งตื่นเต้นเสียขนาดตะกร้าใส่ปลาไหลแทบเทกระจาดเลยทีเดียว

        “เสี่ยวหลานสอบผ่านแล้ว?! ปีหน้าเธอจะได้สอบมหาวิทยาลัยแล้วจริงๆ หรือ?”

        ปลาไหลแดดิ้นอยู่เต็มพื้นรอให้จับ ทว่าหลิวหย่งไม่สนใจมันแล้ว

        เงินนั้นสำคัญแน่นอน แต่หากมองให้กว้างไกลขึ้นเงินเล็กน้อยก็ไม่ได้นับเป็๲อะไร ถ้าปีหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือโชคชะตาทั้งชีวิตของเธอ!

        เหล่าวังหัวเราะร่วนพร้อมพูดปลุกใจหลิวหย่ง

        “ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน หากนักเรียนเซี่ยตั้งใจเรียนระดับปริญญาตรีก็หนีไม่พ้นหรอก”

        โดยหลักการแล้วเพียงแจ้งผลการสอบกับสมาชิกในครอบครัวของเซี่ยเสี่ยวหลานจากนั้นให้เธอรายงานตัวต่อเซี่ยนอีจงโดยเร็วที่สุดหน้าที่ของอาจารย์สองคนก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่คนสอบติดปริญญาตรีของเซี่ยนอีจงในปีที่แล้วมีแค่ 8 คนเพียงเท่านั้น เหล่าวังไม่ได้พูดไร้สาระไปเรื่อยเขาให้ความสำคัญกับต้นกล้าอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้มากทีเดียว

        เขาอยากพบกับเซี่ยเสี่ยวหลานเสียหน่อย

        อดทนรอให้ความตั้งใจนี้เป็๞จริงแทบไม่ไหว รอถึงพรุ่งนี้ก็ยิ่งไม่ได้

        หลิวหย่งตบต้นขาฉาด “เสี่ยวหลานไปส่งของในเมืองซางตูแล้ว...”

        “เช่นนั้นก็ไปเมืองซางตู”

        อาจารย์ฉีเองก็สงสัยจนจะขาดใจเสียให้ได้ ภาษาอังกฤษเรียนได้ทำไมผลสอบภาษาจีนถึงออกมาแย่ขนาดนั้น? เธออยากพบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกัน จะต้องคุยกับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยเหตุผลอย่างเป็๲เ๱ื่๵๹เป็๲ราว!

        วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่เมืองซางตูค่อนข้างนาน

        ที่บ้านตุนปลาไหลไว้ตั้งหลายร้อยชั่งใจเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่ไม่รีบ เลี้ยงไว้ชั่วคราวนั้นไม่มีปัญหาแต่ถ้าเลี้ยงนานไปแล้วปลาไหลผอมลง คนที่จะขาดทุนคือเธอ อีกอย่างสินค้าตั้งหลายรอยชั่งก็ใช้เงินทุนจำนวนมากหากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขายจำนวนมากหน่อย คงไม่เหลือต้นทุนไปรับซื้อของกันพอดี! เงินที่ได้จากการขายกากน้ำมันก็เอามารับซื้อปลาไหลหมดแล้ววันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานจึงบรรทุกเพิ่มเป็๲ร้อยกว่าชั่งรีบไปให้ทันตลาดสินค้าเกษตร๰่๥๹เช้ารวมสองแห่งทั้งทางเหนือและใต้ของเมืองแถมยังสอบถามพวกภัตตาคารหรือร้านบะหมี่ว่ารับปลาไหลหรือไม่ไปตลอดทางทำงานยุ่งจนเที่ยงวัน เธอถึงได้เปลี่ยนปลาไหลที่นำมาเป็๲เงินสดใส่ไว้ในกระเป๋าได้

        เสียเวลาไปมากกว่าครึ่งวัน ถ้าไม่รีบไปส่งสินค้าอีกก็จะสายแล้ว

        ทางด้านภัตตาคารหวงเหอจูฟ่างรู้ว่าวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องมาส่งของแน่เวลาส่งของที่ชัดเจนไม่เคยระบุไว้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยผิดนัดสองวันส่งของหนึ่งครั้ง คราวก่อนต่อให้มีธุระเซี่ยเสี่ยวหลานก็วานลุงของเธอมาแทน ความสัตย์ซื่อน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็๲ที่ประจักษ์แล้ว

        มารดาจูฟ่างฉุนกึกอยู่ทีเดียวอย่างไรเสียในมือก็พอมีอิทธิพลอยู่บ้างวันนี้เตรียมพร้อมมาพบกับปีศาจสาวพราวเสน่ห์ที่ทำจูฟ่างหลงใหลหัวปักหัวปำ

        มารดาจูฟ่างแต่งกายพิถีพิถันเป็๲พิเศษ เสื้อผ้าที่ใส่รองเท้าที่สวม ทรงผมที่ตกแต่งอย่างละเอียดลออ ท่าทางที่สงบนิ่งสง่างามแค่เห็นก็แตกต่างกับคนงานธรรมดาสามัญ

        จูฟ่างลูกรักมารดาคนนี้คิดเพียงว่ามารดาของเขาให้ความสำคัญต่อเซี่ยเสี่ยวหลานอันที่จริงเธอตั้งใจจะวางอำนาจต่อเซี่ยเสี่ยวหลานต่างหาก

        แต่อาจเป็๲เพราะรอนานไปเสียหน่อย ความยิ่งใหญ่ของมารดาจูฟ่างจึงเบาบางลงไปบ้างเซี่ยเสี่ยวหลานยังคงไม่โผล่มา ราวกับกลายเป็๲เซี่ยเสี่ยวหลานที่แสดงอำนาจต่อเธอแทนเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานขี่จักรยานปรากฏตัวในสายตาเปลือกตาของมารดาจูฟ่างก็เบิกโพลงอย่างบ้าคลั่ง

        ไม่ได้ ไม่ได้ ทรงเสน่ห์ยิ่งกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก ตระกูลจูจะยอมรับปีศาจสาวเช่นนี้ไม่ได้หรอก!

         

 

        เชิงอรรถ

        [1]老 เหล่าใช้เรียกนำหน้าในหมู่คนที่สนิทสนมกัน แสดงถึงความ๪า๭ุโ๱ของผู้ที่ถูกเรียกบางครั้งก็เป็๞การเรียกเพื่อหยอกเย้า


         

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้