ทุจริต?
ทุจริตอย่างไร?
ใบหน้ากลมมนของอาจารย์ซุนแดงก่ำด้วยความร้อนรน
“พี่ฉี ฉันไม่ได้ห่างเธอไปแม้แต่ก้าวเดียวขนาดเธอไปเข้าห้องน้ำยังตามไปด้วย อาหารกลางวันก็กินในห้องพักครูไม่มีทางทุจริตได้อย่างแน่นอน!”
อาจารย์ฉีรีบปลอบรุ่นน้องที่กำลังกระวนกระวาย
“อย่าร้อนใจไป ฉันเชื่อว่าเธอเป็คนมีความตั้งใจและเป็คนมีความรับผิดชอบคะแนนของเธอมันค่อนข้างเหนือความคาดหมายน่ะ”
เมื่อมั่นใจว่าอาจารย์ซุนไม่ได้ป้ำเป๋ออาจารย์ฉีจึงนำกระดาษคำตอบและคะแนนสอบส่งให้แก่อาจารย์ร่วมระดับชั้น เหล่าวัง [1] ประจำมัธยมปลายปีสามก็สงสัย “ไม่มีใครหลุดเผยคำตอบให้จริงๆ หรือ? เช่นนั้นนักเรียนคนนี้ก็เข้าเรียนกลางภาคได้แล้วสิ”
“จะหลุดคำตอบได้อย่างไรกัน วันศุกร์นี้ไม่ใช่ว่าปีสามมีสอบจำลองหรือ? ฉันเอาข้อสอบชุดนั้นมาใช้กับเธอก่อนคำถามก็เป็เหล่าอาจารย์แต่ละวิชาออก ใครจะสามารถได้คำตอบก่อนการสอบจำลองได้กัน?”
และอย่าลืมว่าอาจารย์ฉีเป็คนนำข้อสอบกลับบ้านด้วยตนเอง
อีกอย่างสามีของเธอก็เป็อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษซึ่งภาษาอังกฤษของเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนดีที่สุด
แต่ข้อสอบนี้ไม่ใช่สามีของเธอเป็ผู้ออกครอบครัวเธอและเซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดต่อกันอาจารย์ฉีเป็คนทำสิ่งใดด้วยความเที่ยงตรงจึงคิดว่าเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีทางได้คำตอบล่วงหน้าแน่นอน
สีหน้าของเหล่าวังอัศจรรย์ใจมาก
“จบมัธยมต้นแล้วศึกษาด้วยตัวเองที่บ้านหรือ?”
จุดที่เซี่ยเสี่ยวหลานเสียคะแนนไปล้วนเป็วิชาอย่างภาษาจีนและรัฐศาสตร์ซึ่งจำเป็ต้องท่องจำ ชีววิทยาก็คะแนนไม่ดีแต่คะแนนรวมวิชาชีววิทยาแค่เท่าไรเอง? ส่วนภาษาจีนและรัฐศาสตร์ใช้การตั้งมั่นท่องจำในระยะเวลาสั้นๆสามารถเพิ่มพูนคะแนนให้มากขึ้นได้อย่างแน่นอน สิ่งอื่นไม่ขอกล่าวถึง จริงๆ แล้วคะแนนวิชารัฐศาสตร์ที่เลวร้ายจนทนดูไม่ได้นั่นสามารถนำจุดที่ไม่ควรเสียคะแนนของวิชาภาษาจีนโปะเข้าไปคะแนนรวมของเซี่ยเสี่ยวหลานยังสูงขึ้นได้อีก 40 คะแนนแบบหายห่วง!
40 คะแนนเชียวนะ!
เหล่าวังหัวเราะชอบใจ มีต้นกล้าดีๆ เช่นนี้เพิ่มมาอีกต้น ถ้าเธอตอบว่าศึกษาด้วยตนเองก็ต้องยกนิ้วยอมรับเลย
อย่างไรเสียหากสุดท้ายเธอสอบติดแล้ว ใครจะสนว่าพื้นฐานของเธอคือการเรียนที่บ้านหรือไม่คนอื่นรับรู้เพียงแต่นักเรียนจากเซี่ยนอีจงสอบติดแล้วอัตราการเข้าเรียนก็เป็ของเซี่ยนอีจง!
เหล่าวังจัดการเก็บกระดาษคำตอบของเซี่ยเสี่ยวหลานไว้อย่างระมัดระวัง
“รีบเถอะ ต้องแจ้งผลให้นักเรียนคนนี้!”
“เฉินชิ่งห้อง 3 แนะนำมา...”
“อย่างนั้นก็วานเฉินชิ่งนำทางไปเลย!”
อาจารย์ในตอนนี้มีความกระตือรือร้นมากเลยทีเดียว
ฟื้นฟูเกาเข่าได้ระยะหนึ่งมาตรฐานเหล่าอาจารย์ของเซี่ยนอีจงอาจไม่ทัดเทียมเมืองใหญ่ทว่าจรรยาบรรณของอาจารย์ส่วนมากไม่เป็ที่กังขา การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนหนึ่งคนได้อย่างแน่นอนผู้เข้าสอบบางคนถึงขนาดเรียนซ้ำปีแล้วปีเล่า ยังไม่เคยยอมละทิ้งการสอบเกาเข่าเลยด้วยซ้ำตอนนี้ผู้มีความหวังร่วงหล่นลงมาจากความว่างเปล่า ถ้าไม่รู้ก็ไม่เกิดอะไรหากรู้เข้าเซี่ยนอีจงต้องไม่ปล่อยคนไปอยู่แล้ว
เฉินชิ่งถูกเรียกตัวออกมาเหล่าวังและอาจารย์ฉีรอให้เฉินชิ่งหยุดเรียนกลับบ้านไม่ไหว บอกว่าจะไปหาเซี่ยเสี่ยวหลานที่หมู่บ้านชีจิ่งด้วยกันในทันที
เหล่าวังเอาแต่ถามไถ่เื่ของเซี่ยเสี่ยวหลานตลอดทาง เช่นนักเรียนหญิงคนนี้ทำไมเมื่อก่อนไม่เรียนหนังสือปกติเวลาอยู่บ้านทบทวนบทเรียนอย่างไร เฉินชิ่งจะรู้อะไรได้ เขาไม่รู้สถานการณ์เมื่อก่อนของเซี่ยเสี่ยวหลานในหมู่บ้านต้าเหอเลยแม้แต่น้อยบางทีหลังจากเซี่ยเสี่ยวหลานเลิกเรียนกลางคัน เธอคงใช้เวลาอย่างหนักในการศึกษาเล่าเรียนที่บ้านเองจริงๆ ?
อย่างไรเสียดูจากท่าทางของอาจารย์ทั้งสองแล้วเสี่ยวหลานต้องผ่านการสอบของโรงเรียนแล้วแน่นอน
เหล่าวังยังคงปล่อยให้เขาสงสัยต่อไปไม่ยอมปริปากบอกว่าตกลงแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานสอบได้คะแนนเท่าไร
“รอถึงบ้านเธอ เราก็ได้รู้แล้ว”
อาจารย์ทั้งสองคนพาเฉินชิ่งไปด้วยสามคนขี่จักรยานไปยังหมู่บ้านชีจิ่ง ไม่ต้องบอกเลยว่าเฉินชิ่งสงสัยมากขนาดไหน
สามคนขี่จักรยานด้วยความไวแสงเมื่อถึงหมู่บ้านชีจิ่งก็ร้อนจนเหงื่อแตก เฉินชิ่งเคาะประตูอยู่นานสองนาน ทว่าไม่มีคนบ้านหลิวเปิดประตูตอบรับออกมาเลยสักคน
ที่แท้เป็เพราะอีกสักพักหลิวหย่งจะเตรียมตัวออกไปทำงานไกลจึงใช้เวลาที่เหลืออยู่ก่อนออกเดินทางไกลช่วยเซี่ยเสี่ยวหลานมากขึ้นอีกหน่อยตอนนี้การเก็บเกี่ยวประจำฤดูใบไม้ผลิผ่านพ้นไปแล้ว กลางวันไปส่งเทาเทาที่โรงเรียนเสร็จผู้ใหญ่สามคนก็ออกไปรับซื้อปลาไหลแทนเซี่ยเสี่ยวหลาน
ถึงแม้ทุกสองวันจะส่งปลาไหลเข้าเมืองซางตูถึง 100 กว่าชั่ง แต่อ่างน้ำในบ้านได้ตุนไว้หลายร้อยชั่งแล้ว
เวลานี้ในมือของเซี่ยเสี่ยวหลานมีเงินไม่มากพอจริงๆเธอเลยไม่กล้ามือเติบซื้อเนื้อซื้อซี่โครงทั้งวันแล้ว ่นี้คนในครอบครัวเลือกรับประทานปลาหมูมากที่สุดสิ่งนี้นำกลับมาเล็กน้อยพร้อมกับตอนรับซื้อปลาไหล เพราะราคาถูกยิ่งนัก
อาจารย์ทั้งสองรอคอยจนคอแห้งผาก
เฉินชิ่งจึงพาเหล่าวังและอาจารย์ฉีไปบ้านของเขาเพื่อพักดื่มน้ำดื่มท่า
อาจารย์มาเยี่ยมบ้าน!
คนในครอบครัวเฉินชิ่งเกือบจะเลี้ยงดูปูเสื่ออาจารย์ทั้งสองแล้วเฉินวั่งต๋าออกคำสั่ง มารดาเฉินชิ่งทั้งจะฆ่าไก่ทั้งจะซื้อเนื้อเหล่าวังรั้งไว้ได้ทันท่วงที “พวกเราไม่ได้มาเพื่อกินข้าวหรอกแค่อยากรีบหาตัวนักเรียนเซี่ยเสี่ยวหลานให้พบโดยเร็ว หากล่าช้าสักหนึ่งวันอนาคตเธออาจจะสอบได้น้อยลงหลายคะแนน แบบนี้จะเป็ผลดีได้อย่างไร?”
เหล่าวังจดจ่อกับประโยชน์ของส่วนรวมทั้งใจ
เฉินวั่งต๋าจึงกระตือรือร้นมีน้ำใจมากไปกว่านี้ไม่ได้
“เด็กเสี่ยวหลานคนนี้มีความคิดที่ดีนะ สถานะทางบ้านก็ไม่ค่อยดี ทว่าโชคดีที่รู้จักก้าวไปข้างหน้า”
เฉินวั่งต๋าได้วานคนไปตามตัวหลิวหย่งกลับมา
หลิวหย่งตื่นเต้นเสียขนาดตะกร้าใส่ปลาไหลแทบเทกระจาดเลยทีเดียว
“เสี่ยวหลานสอบผ่านแล้ว?! ปีหน้าเธอจะได้สอบมหาวิทยาลัยแล้วจริงๆ หรือ?”
ปลาไหลแดดิ้นอยู่เต็มพื้นรอให้จับ ทว่าหลิวหย่งไม่สนใจมันแล้ว
เงินนั้นสำคัญแน่นอน แต่หากมองให้กว้างไกลขึ้นเงินเล็กน้อยก็ไม่ได้นับเป็อะไร ถ้าปีหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานสอบติดมหาวิทยาลัยสิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือโชคชะตาทั้งชีวิตของเธอ!
เหล่าวังหัวเราะร่วนพร้อมพูดปลุกใจหลิวหย่ง
“ยังเหลือเวลาอีกหลายเดือน หากนักเรียนเซี่ยตั้งใจเรียนระดับปริญญาตรีก็หนีไม่พ้นหรอก”
โดยหลักการแล้วเพียงแจ้งผลการสอบกับสมาชิกในครอบครัวของเซี่ยเสี่ยวหลานจากนั้นให้เธอรายงานตัวต่อเซี่ยนอีจงโดยเร็วที่สุดหน้าที่ของอาจารย์สองคนก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แต่คนสอบติดปริญญาตรีของเซี่ยนอีจงในปีที่แล้วมีแค่ 8 คนเพียงเท่านั้น เหล่าวังไม่ได้พูดไร้สาระไปเรื่อยเขาให้ความสำคัญกับต้นกล้าอย่างเซี่ยเสี่ยวหลานผู้นี้มากทีเดียว
เขาอยากพบกับเซี่ยเสี่ยวหลานเสียหน่อย
อดทนรอให้ความตั้งใจนี้เป็จริงแทบไม่ไหว รอถึงพรุ่งนี้ก็ยิ่งไม่ได้
หลิวหย่งตบต้นขาฉาด “เสี่ยวหลานไปส่งของในเมืองซางตูแล้ว...”
“เช่นนั้นก็ไปเมืองซางตู”
อาจารย์ฉีเองก็สงสัยจนจะขาดใจเสียให้ได้ ภาษาอังกฤษเรียนได้ทำไมผลสอบภาษาจีนถึงออกมาแย่ขนาดนั้น? เธออยากพบหน้าเซี่ยเสี่ยวหลานเช่นกัน จะต้องคุยกับเซี่ยเสี่ยวหลานด้วยเหตุผลอย่างเป็เื่เป็ราว!
วันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานอยู่ที่เมืองซางตูค่อนข้างนาน
ที่บ้านตุนปลาไหลไว้ตั้งหลายร้อยชั่งใจเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ใช่ไม่รีบ เลี้ยงไว้ชั่วคราวนั้นไม่มีปัญหาแต่ถ้าเลี้ยงนานไปแล้วปลาไหลผอมลง คนที่จะขาดทุนคือเธอ อีกอย่างสินค้าตั้งหลายรอยชั่งก็ใช้เงินทุนจำนวนมากหากเซี่ยเสี่ยวหลานไม่ขายจำนวนมากหน่อย คงไม่เหลือต้นทุนไปรับซื้อของกันพอดี! เงินที่ได้จากการขายกากน้ำมันก็เอามารับซื้อปลาไหลหมดแล้ววันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานจึงบรรทุกเพิ่มเป็ร้อยกว่าชั่งรีบไปให้ทันตลาดสินค้าเกษตร่เช้ารวมสองแห่งทั้งทางเหนือและใต้ของเมืองแถมยังสอบถามพวกภัตตาคารหรือร้านบะหมี่ว่ารับปลาไหลหรือไม่ไปตลอดทางทำงานยุ่งจนเที่ยงวัน เธอถึงได้เปลี่ยนปลาไหลที่นำมาเป็เงินสดใส่ไว้ในกระเป๋าได้
เสียเวลาไปมากกว่าครึ่งวัน ถ้าไม่รีบไปส่งสินค้าอีกก็จะสายแล้ว
ทางด้านภัตตาคารหวงเหอจูฟ่างรู้ว่าวันนี้เซี่ยเสี่ยวหลานต้องมาส่งของแน่เวลาส่งของที่ชัดเจนไม่เคยระบุไว้แต่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เคยผิดนัดสองวันส่งของหนึ่งครั้ง คราวก่อนต่อให้มีธุระเซี่ยเสี่ยวหลานก็วานลุงของเธอมาแทน ความสัตย์ซื่อน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจของเซี่ยเสี่ยวหลานเป็ที่ประจักษ์แล้ว
มารดาจูฟ่างฉุนกึกอยู่ทีเดียวอย่างไรเสียในมือก็พอมีอิทธิพลอยู่บ้างวันนี้เตรียมพร้อมมาพบกับปีศาจสาวพราวเสน่ห์ที่ทำจูฟ่างหลงใหลหัวปักหัวปำ
มารดาจูฟ่างแต่งกายพิถีพิถันเป็พิเศษ เสื้อผ้าที่ใส่รองเท้าที่สวม ทรงผมที่ตกแต่งอย่างละเอียดลออ ท่าทางที่สงบนิ่งสง่างามแค่เห็นก็แตกต่างกับคนงานธรรมดาสามัญ
จูฟ่างลูกรักมารดาคนนี้คิดเพียงว่ามารดาของเขาให้ความสำคัญต่อเซี่ยเสี่ยวหลานอันที่จริงเธอตั้งใจจะวางอำนาจต่อเซี่ยเสี่ยวหลานต่างหาก
แต่อาจเป็เพราะรอนานไปเสียหน่อย ความยิ่งใหญ่ของมารดาจูฟ่างจึงเบาบางลงไปบ้างเซี่ยเสี่ยวหลานยังคงไม่โผล่มา ราวกับกลายเป็เซี่ยเสี่ยวหลานที่แสดงอำนาจต่อเธอแทนเมื่อเซี่ยเสี่ยวหลานขี่จักรยานปรากฏตัวในสายตาเปลือกตาของมารดาจูฟ่างก็เบิกโพลงอย่างบ้าคลั่ง
ไม่ได้ ไม่ได้ ทรงเสน่ห์ยิ่งกว่าที่เธอจินตนาการไว้เสียอีก ตระกูลจูจะยอมรับปีศาจสาวเช่นนี้ไม่ได้หรอก!
เชิงอรรถ
[1]老 เหล่าใช้เรียกนำหน้าในหมู่คนที่สนิทสนมกัน แสดงถึงความาุโของผู้ที่ถูกเรียกบางครั้งก็เป็การเรียกเพื่อหยอกเย้า