“เอ่ออ...”
เยาอวี้และหมันก้านตกตะลึงอ้าปากค้างในทันที เล่นกันง่ายๆ อย่างนี้เลยรึ สองเผ่ารบราฆ่าฟันกันมาหลายวันแต่เ้าพูดออกมาคำเดียวก็จะเอาไป แล้วอย่างนี้จะให้พวกเขาทำตัวกันอย่างไรต่อไป? จะไปบอกกล่าวต่อเหล่าผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างไร? แล้วกลับเผ่าไปจะพูดอธิบายต่อคนในเผ่าอย่างไร?
“นายท่านผู้ยิ่งใหญ่! พวกท่านมีฐานที่มั่นแห่งหนึ่งแล้ว...” ในที่สุดหมันก้านก็ทนไม่ไหวจึงบ่นอุบอิบออกมาเบาๆ เยาอวี้เองก็ส่งสายตามองมาทางเย่ชิงหานอย่างรู้สึกแปลกประหลาด
“ฐานที่มั่นเทพแห่งความตายไอพลังชั่วร้ายรุนแรงจนเกินไปพวกเ้าต้านทานไม่ไหว ดังนั้นให้เขตปกครองเทพาช่วยพวกเ้าดูแลไว้จะดีกว่า...” เย่ชิงหานไม่สนใจต่อสีหน้าดำคล้ำและสายตาดูถูกของทั้งสองคน แล้วพูดขึ้นต่อ “ฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาวิวทิวทัศน์ไม่เลวเหมาะแก่การพักรักษาตัว ยกให้พวกเ้าก็แล้วกัน!”
เย่ชิงหานพูดจบสีหน้าของหมันก้านและเยาอวี้ราวกับคนที่สูญเสียบิดามารดาอย่างไรอย่างนั้น ไม่น่าดูอย่างถึงที่สุด แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะแสดงอะไรออกมาทำได้เพียงนิ่งเงียบฟังต่อไป หลงไซ้หนานที่อยู่ข้างๆ แม้ใบหน้าจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา แต่ภายในใจนั้นยิ้มแย้มเบิกบานเป็อย่างมาก
“หืม? พวกเ้าไม่พอใจอย่างนั้นรึ?” เย่ชิงหานมองเห็นทั้งสองคนไม่พูดไม่จาจึงพูดเน้นเสียงออกมาพร้อมกับคิ้วที่ขมวดขึ้น
“แน่นอนว่า...ไม่ใช่” หมันก้านฝืนยิ้มออกมา เพียงแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่น่ากลัวเดิมทียิ้มออกก็ไม่น่าดูอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ฝืนยิ้มออกมายิ่งดูดุร้าย
“คิกๆ คุณชายเย่คิดเผื่อข้าน้อยถึงเพียงนี้ ข้าน้อยมีรึจะกล้าไม่ปฏิบัติตาม!” หลังจากที่เยาอวี้ครุ่นคิดอยู่เพียงชั่วครู่จึงตอบรับไปอย่างจำใจ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเขตปกครองเทพายังเหลือทหารนับแสนที่ทั้งกำลังและขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยม เอาแค่เด็กหนุ่มหน้าใสที่อยู่เบื้องหน้านี้เผ่าปีศาจมีใครที่สามารถรับมือเขาได้?
คิดได้ทุกอย่างจนเข้าใจดังนั้นแล้วนางจึงไม่อิดๆ ออดๆ เหมือนหมันก้านแน่นอน รีบรับปากอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดในทันที จากนั้นหยุดคิดอีกครู่หนึ่งถึงได้ถามขึ้นต่อ “ฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาให้ใครครอง? ถ้าหากคุณชายเย่ยินดียกให้เผ่าปีศาจตัวข้ายินดีรับปากท่านทุกเงื่อนไข!”
“นางงูพิษ!” หมันก้านเมื่อได้ยินก็สบถด่าออกมาทันที นางจิ้งจอกเ้าเล่ห์นี่ถึงกับเสนอเอาตัวเข้าแลกเลยรึ เงื่อนไขทุกอย่าง? เห็นได้ชัดว่าอยากที่จะมอบกายให้แก่เย่ชิงหาน เพียงแต่หลังจากที่ด่าออกไปแล้วพลันคิดถึงตนเองว่าไม่มีของอะไรจะให้เย่ชิงหาน ด้วยความจำใจจึงกัดฟันพูดออกมา
“นายท่านเย่ ถ้าหากท่านยกฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาให้ข้าละก็ ข้า...ข้าจะมอบกางเกงในตัวนั้นให้ท่าน ข้าจะบอกอะไรให้...กางเกงในตัวนั้นไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป มันเป็ถึงสมบัติล้ำค่าระดับวิเศษคุณภาพระดับสูงที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ กางเกงในตัวนี้สามารถทำให้ัตาเดียวของผู้สวมใส่แข็งแรงโด่ไม่รู้ล้มและอดถึกทนสู้ศึกได้ยาวนาน อาศัยกางเกงในตัวนี้คืนหนึ่งข้าสามารถออกศึกกับหญิงสาวได้เป็สิบ...”
“ไปให้พ้นเลย!”
เย่ชิงหานไม่ได้เอ่ยปากพูด แต่หลงไซ้หนานที่อยู่ข้างๆ ทนฟังต่อไปไม่ไหว คิ้วรูปกระบี่กระตุกขึ้นพร้อมกับร้องด่าออกมา
“กางเกงในของเ้าตัวนั้นเ้าเก็บเอาไว้ใช้เองเถอะ เยาอวี้เ้าก็ไม่จำเป็ต้องใช้วิชาเสน่ห์เพื่อล่อลวงข้าหรอกเพราะรู้สึกมันจะไม่มีผลอะไรกับข้า!” เย่ชิงหานถูจมูกไปมาพร้อมกับพูดขึ้นต่อ “เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเ้าใครจะได้ฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาไปให้์เป็ผู้กำหนดเถอะ!”
เย่ชิงหานหยิบกริชัเขียวออกมาจากภายในอกพร้อมกับพูดขึ้นต่อทั้งสองคน “พวกเ้าคนหนึ่งเลือกตัวกริชอีกคนเลือกด้ามกริช เดี๋ยวข้าจะโยนกริชขึ้นไปกลางอากาศจากนั้นรอดูว่าด้านไหนของกริชตกลงสู่พื้นถือว่าคนนั้นชนะ ถ้าใครเล่นตุกติกจะถูกปรับแพ้ในทันที พวกเ้าคิดว่าอย่างไร?”
“ตกลง! แบบนี้ยุติธรรมดี! ข้าเลือกด้านตัวกริช!” หมันก้านพยักหน้าเห็นด้วย ไม่ต้องมอบสมบัติล้ำค่าที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษก็สามารถได้รับฐานที่มั่นอย่างยุติธรรม แน่นอนว่าเขาไม่มีปัญหา
“ข้าก็เห็นด้วย อย่างนั้นข้าเลือกด้ามกริชก็แล้วกัน!” เยาอวี้มองเย่ชิงหานอย่างขุ่นเคืองราวกับว่ากำลังตำหนิเขาที่ไม่รู้จักทะนุถนอมสาวงาม
ฟิ้ว!
เย่ชิงหานไม่พูดไร้สาระใดๆ อีก โยนกริชขึ้นไปบนอากาศหมุนคว้างอยู่พักหนึ่งแล้วหล่นลงมาสู่พื้นอย่างรวดเร็ว
ปัง!
กริชัเขียวหล่นลงสู่พื้นอย่างแรง สุดท้ายแล้วก็เป็ด้ามกริชที่หล่นลงสู่พื้นก่อน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนรับรู้ได้ว่ากริชัเขียวตกลงสู่พื้นอย่างเป็ธรรมชาติไม่ได้มีใครเล่นตุกติกแต่อย่างใด
“คิกๆ ฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาเป็ของข้า ขอบคุณคุณชายเย่...คำที่ข้าพูดไปเมื่อสักครู่ยังถือว่ามีผลอยู่ คืนนี้พี่สาวยังคงรออยู่นะ...” เยาอวี้อารมณ์ดีเป็อย่างมาก ยิ้มพรายออกมาพร้อมกับพูดเชื้อเชิญเงื่อนไขที่น่าสนใจออกมาอีกครั้ง จากนั้นจึงเดินจากไป
หมันก้านสีหน้าดำมืดราวกับสูญเสียบิดาผู้เป็ที่รักไป มองดูเย่ชิงหานที่กำลังจะจากไปรีบออกวิ่งตามไปพูดอ้อนวอนขึ้น
“นายท่าน! กางเกงในสีแดงของข้าไม่เลวจริงๆ นะ นายท่านจะไม่พิจารณาดูอีกสักครั้งหน่อยรึ? ท่านยกฐานที่มั่นเทพแห่งิญญาให้ข้า ข้าจะถอดให้ท่านเดี๋ยวนี้เลย...หรือว่าเดี๋ยวข้าเรียกสาวงามเผ่าคนเถื่อนสิบคนมาแสดงให้ท่านดู ดูผลลัพธ์แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้...”
“ไปให้พ้นเลย!”
.................................
ความมืดมิดของค่ำคืนค่อยๆ มาเยือน ดวงจันทร์ที่ลอยเด่นสาดส่องแสงสว่างไปทั่วทั้งทุ่งหญ้าสีเื เป็ภาพที่ดูแล้วชวนให้แปลกประหลาดและลึกลับอย่างที่สุด
คืนนี้ทั้งเผ่ามนุษย์ เผ่าปีศาจ และเผ่าคนเถื่อนทุกคนล้วนไม่มีใครข่มตาหลับลงได้ ต่างกำลังมองดูเพลิงที่กำลังลุกไหม้คุโชนซึ่งกำลังเผาไหม้ร่างไร้ิญญาจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนของทหารนักรบเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อน เปลวไฟที่ลุกโชนส่องสว่างใบหน้าของทุกคน ส่องสว่างความเศร้าระทมทุกข์ภายในดวงตาของทุกคน...
พรุ่งนี้จะเป็วันสุดท้ายของงานประลองาระหว่างเขตปกครองที่ดำเนินมาเป็เวลาหนึ่งปี พวกเขาจะถูกเคลื่อนย้ายออกไปยังลานโล่งกว้างใหญ่ด้านหน้านครแห่งเทพ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาแต่ละคนต่างผ่านสิ่งต่างๆ ทั้งความเป็ความตาย ความสุขสมหวัง ความเ็ปเสียใจ ผ่านการต่อสู้ที่สำคัญที่สุดในชีวิตครั้งหนึ่ง ผ่านการเดินทางที่ยากจะลืมเลือนมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตบนเกาะแห่งความมืดมิดแห่งนี้...
หลงไซ้หนานผ่านประสบการณ์การบัญชาการกองทัพขนาดใหญ่ ผ่านประสบการณ์ของความวิตกกังวลและร้อนรนใจก่อนการทำศึกใหญ่ ผ่านประสบการณ์ความพ่ายแพ้และกระวนกระวายใจ ผ่านประสบการณ์ของความเสียใจที่พลาดพลั้งและอับจนปัญญาจากความล้มเหลว ผ่านประสบการณ์ความรู้สึกปลื้มปีติยินดีและเป็สุขที่มีชีวิตรอดกลับมาได้อีกครั้ง...
เยว่ชิงเฉิงผ่านประสบการณ์การสู้รบที่สำคัญสนามหนึ่งในชีวิตของนาง สู้รบกับศัตรูและสู้รบกับเย่ชิงหาน สุดท้ายได้รับชัยชนะในการสู้รบและชนะใจของเย่ชิงหาน...
เย่ชิงหานก้าวข้ามผ่านจุดเปลี่ยนที่สำคัญมากในชีวิต พลังฝีมือบรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบ วิชาต่อสู้ร่างอสูรพัฒนาขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ สุดท้ายกลายเป็บุคคลอันดับหนึ่งของวัยรุ่นหนุ่มสาวหน้าใหม่ของเขตปกครองเทพา เปลี่ยนตนเองจากลูกหลานของตระกูลเย่คนที่เจ็ดเป็นายน้อยลำดับเจ็ดแห่งตระกูลเย่อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สำคัญที่สุดคือเขาสะสมคะแนนได้มากพอ น้องสาวที่นอนรออยูู่เาด้านหลังตระกูลในที่สุดก็มีโอกาสช่วยเหลือให้ตื่นขึ้นมาได้...
หมันก้านก็ผ่านประสบการณ์ความล้มเหลวที่เ็ปอย่างแสนสาหัสครั้งหนึ่งในชีวิต ไม่เพียงสูญเสียนิ้วกลางข้างหนึ่งไป ยังทำให้กองกำลังระดับยอดฝีมือจำนวนมากของเผ่าต้องเสียหายเกือบทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้รับอะไรสักอย่าง...
เฟิงจื่อก็ผ่านประสบการณ์...
ทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนได้ครั้งหนึ่งของชีวิต พรุ่งนี้จะเป็วันสิ้นสุดงานประลองาระหว่างเขตปกครองที่แปลกประหลาดนี้ ภายในใจของทุกคนล้วนสับสนวุ่นวายหลากหลายอารมณ์ ดีใจเศร้าเสียใจคละเคล้ากันไป คืนนี้จะมีใครหลับลงได้อย่างไร? จะมีใครข่มตาให้หลับได้อย่างไรกัน?
เย่ชิงหานนั่งอยู่ด้านหน้าของกองไฟเล็กๆ แห่งหนึ่งกับพวกนายน้อยและคุณหนูทั้งหลาย จิตใจเลื่อนลอยไป เขาคิดถึงน้องสาวที่นอนหลับอยู่ทีู่เาหลังตระกูล คิดถึงภาพที่นางเหาะลอยขึ้นไปบนอากาศในสวนเมามาย จากนั้นผมดำกลายเป็ผมขาว นึกถึงตอนที่นางหลับตาลงแล้วยิ้มออกมาอย่างเป็สุขใจ มันทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน...
เย่สือซานและเย่สือชีนึกถึงสิ่งที่เย่ชิงหนิวสั่งกำชับคืนก่อนออกเดินทาง นึกถึงพวกเย่อีและเย่จิ่วที่ะเิทำลายตัวเอง นึกถึงัดำที่น่ากลัวในหุบเขาัดำ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขานึกถึงมากที่สุดคือสีหน้าอาการของครูฝึกและท่านหัวหน้าตระกูลที่ได้รับรู้ว่าเย่ชิงหานสามารถสยบศัตรูทั้งกองทัพนับหมื่นแสนได้ด้วยตัวคนเดียว และสีหน้าที่ได้รับรู้ว่าเย่ชิงหานมีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่เทียบได้กับเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับเทพ...
เยว่ชิงเฉิงไม่ได้คิดอะไร นางทำเพียงจ้องมองเย่ชิงหานอย่างหลงใหล ยิ่งนานวันนางยิ่งรู้สึกว่าขอแค่เพียงมีเย่ชิงหานอยู่อะไรนางก็ล้วนมีแล้วทุกอย่าง ภายในหัวของหญิงสาวที่มีความรัก นอกจากชายคนรักแล้วอย่างอื่นล้วนไม่คิดที่จะหันไปมอง เรียกได้ว่าเป็โรคประจำตัวที่รักษาไม่หายของเหล่าหญิงสาวทั้งหลาย และแน่นอนว่าถึงจะมีฐานะเป็ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่อย่างนางก็ไม่มีข้อยกเว้น
หลงไซ้หนาน เฟิงจื่อ ฮวาเฉ่า...คนอีกมากมายที่กำลังคิดถึงวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้พวกเขาจะถูกเคลื่อนย้ายไปยังนครแห่งเทพ เหล่าตัวแทนของตระกูลทั้งหลายที่รอต้อนรับพวกเขาอยู่ที่นครแห่งเทพเมื่อได้รับรู้ว่าพวกเขาได้รับชัยชนะในศึกใหญ่ตัดสินสุดท้าย แถมอัตราการาเ็ล้มตายยังต่ำมากอีกด้วย ไม่รู้ว่าสีหน้าอาการของพวกเขาจะแสดงออกมาอย่างไร?
ค่ำคืนดึกสงัดแต่กลับเริ่มมีลมพัดขึ้น พัดพาเอากองเถ้ากระดูกที่อยู่ด้านหน้าฐานที่มั่นเทพแห่งความตายลอยไกลออกไป ในขณะเดียวกันก็พัดพาเอาความคิดของทุกคนลอยไกลออกไป ไกลออกไปยังนครแห่งเทพที่ตั้งสูงเด่นอยู่เหนือสิ่งอื่นใดอยู่บนขุนเขาสูงใหญ่ที่ตั้งตระหง่านลูกนั้น...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้