ข้ามมิติมาเป็นสาวน้อยนักทำฟาร์ม 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     สะใภ้สกุลฟางพิจารณาหญิงสาวตรงหน้า ถึงแม้ท่าทางจะอายุสิบสี่สิบห้า แต่กลับเกล้าผมเช่นสตรีที่ออกเรือนแล้ว คิดแล้วคงเป็๲สตรีที่แต่งงานแล้วเป็๲แน่

        ใบหน้ารูปไข่เรียบเนียน คิ้วโค้งเรียวราวกับแกนใบไม้ จมูกรั้นเล็กๆ นั่นโด่งสวยจนรู้สึกว่าสตรีนางนี้เป็๞คนที่มองโลกในแง่ดีมาก นิ้วเรียวยาวแบบหญิงสาวชาญฉลาด รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น รูปร่างเช่นนี้ ควรจะใช้ประโยคนี้จริงๆ อะไรที่ควรจะใหญ่ก็ใหญ่ อะไรที่ควรจะเล็กก็เล็ก การพูดการจาก็รู้จักการเข้าออกอย่างมีชั้นเชิง แค่มองดูก็รู้ว่าเป็๞คนที่มีมารยาท ราวกับเป็๞คนที่ถูกสั่งสอนมาอย่างดี

        ในสายตาของสะใภ้สกุลฟางมีความอิจฉา ความสงสัยถูกพัดผ่านไป อิจฉาที่นางคนนี้มีผิวเนียนนุ่ม ยิ่งอิจฉามากขึ้นไปอีกที่นางมีองค์ประกอบบนใบหน้างดงาม สงสัยที่คนที่ดีขนาดนี้ ทำไมถึงเป็๲คนที่แต่งงานแล้ว แต่กลับไม่เห็นตัวบุรุษของนาง

        เมื่อรู้ว่าสถานะของตนเองจะเป็๞หัวข้อพูดคุยหลังกินข้าวของบรรดาบุรุษในหมู่บ้าน เฉินเนี้ยนเองกลับพูดคุยได้อย่างเป็๞ธรรมชาติ พร้อมทั้งบอกที่มาและสถานะของตนเอง

        “อืม เป็๲ความรู้สึกที่ดีนักที่ได้เรียกท่านว่าพี่สะใภ้ พวกเราสามคนพี่น้องเพิ่งจะมาถึง หวังว่าพี่สะใภ้กับเหล่าผู้คนในหมู่บ้านต่อไปจะช่วยดูแลกันและกันนะเ๽้าคะ” สายตาของนางกวาดตามองหัวคนที่มองมาอยู่ไม่ไกล คนในหมูบ้านนี้น่ะ พอมีเ๱ื่๵๹อะไรหน่อย อีกครู่เดียวก็คงจะรู้กันทั้งหมู่บ้าน

        “ฮาๆ พูดเ๹ื่๪๫อะไรกันน่ะ นี่เป็๞เ๹ื่๪๫ที่เพื่อนบ้านควรทำอยู่แล้วนะ”

        “อืม จริงด้วยเ๽้าค่ะ เฮ้อ พูดไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ พวกเราเป็๲ญาติห่างๆ ของลุงหลัว หลังจากข้าออกเรือนไป สามีก็ไปเป็๲ทหารอยู่ด้านนอก ที่บ้านก็ต้องรองรับอารมณ์ของแม่สามีและพี่สะใภ้อีก ต่อมาลุงหลัวรู้เ๱ื่๵๹ราวของพวกเราเข้า จึงพูดออกมาอย่างเสียสละว่าเขาจะช่วยให้ย้ายออกจากบ้านหลังนั้น ดังนั้นข้าจึงขอยืมเงินป้าสะใภ้แล้วย้ายมาอยู่ที่นี่ ตัดปัญหาข้าถูกแม่สามีและพี่สะใภ้รังแก”

        คำพูดของนางดูเหมือนกำลังทอดถอนใจ แต่กลับเป็๞การเปิดเผยสถานะของตนเองออกไปด้วย ทั้งยังวางตนเองเป็๞ฝ่ายที่ถูกรังแกอีกต่างหาก

        ใจคนเราน่ะ ส่วนมากไม่ชอบเห็นใครได้ดีไปกว่าตัวเอง หากเห็นใครอาภัพกว่าตน เช่นนั้นก็จะมีความเห็นใจ หรือมีความรู้สึกสมน้ำหน้า เช่นว่า ดูเอาเถิด คนคนนี้หน้าตาก็ดี แต่สุดท้ายก็ยังมีชะตาชีวิตไม่ได้ดีไปกว่าข้า

        ตอนที่เฉินเนี้ยนหรานแสดงความอ่อนแอออกมา ก็ได้รับความเห็นใจจากพี่สะใภ้ฟางทันที แม้แต่บรรดาสตรีที่ออกเรือนแล้วทั้งหลายที่มาแอบฟังอยู่ไม่ไกลก็รู้สึกสงสารนางจับใจ

        มีใครไม่รู้บ้างว่าคนที่ออกไปเป็๲ทหารในสมัยนี้ ส่วนมากเต็มสิบ ล้วนตายไปเก้ารอดเพียงหนึ่งกลับมาทั้งนั้น

        แม่หญิงคนนี้หน้าตางดงามอ่อนหวาน พี่สะใภ้ในบ้านก็เยอะ เช่นนั้นจะต้องถูกเหยียดหยามแค่ไหนกันนะ คิดดูแล้วสายตาของเหล่าบรรดาบุรุษทั้งหลายคงมองไปที่นางตาเป็๞มัน ต้องทำเอาบรรดาภรรยาต่างพากันหึงหวงเป็๞แน่ แถมแม่สามีที่เลือกมาก…ก็ดันไม่เป็๞มิตรด้วย…ชีวิตของสตรีนางนี้ช่างน่าสงสารเสียจริง

        ในห้วงความคิดของทุกคนต่างมีภาพของหญิงสาวถูกแม่สามีรังแก ทำให้สายตาตอนที่มองไปยังเฉินเนี้ยนหราน มีความอิจฉาลดลง แต่เพิ่มความเห็นใจเข้ามาแทน

        โดยเฉพาะพี่สะใภ้ฟาง ถึงแม้นางเองจะเป็๞คนที่ขยันทำงาน แต่แม่สามีที่บ้านก็ยังคงไม่ชอบใจนางอยู่ดี

        ปกติแล้วถึงนางจะทำดีแค่ไหน แม่สามีก็จะหาไข่ไก่ออกมาจากกองกระดูก [1] ได้อยู่ดี

        พอมาเจอมาได้ยินแม่นางคนงามว่ามีชะตากรรมเช่นเดียวกับตน ความเห็นใจของนางก็ยิ่งลุกโชนขึ้นมา

        จูงมือเฉินเนี้ยนหรานพูดกันอยู่นาน จนกระทั่งเสี่ยวเปาจื่อคอยเร่งให้กลับเรือนอยู่ด้านข้างตลอด เฉินเนี้ยนหรานถึงได้กล่าวลาแล้วกลับเรือนไป

        ตอนที่บอกลา พี่สะใภ้ฟางก็ได้ตัดผักกาดขาวในแปลงให้นางเอากลับมาทำอาหาร อย่างไรพวกนางก็เพิ่งจะมาถึง พืชผักอะไรก็ไม่ได้ปลูกเอาไว้ มีข้าวแล้ว จะกินแต่ข้าวอย่างเดียวก็คงไม่ได้

        ด้วยเหตุนั้นตอนที่กลับมาถึงบ้าน เฉินเนี้ยนหรานกับเสี่ยวเป่าก็พากันถือผักกาดขาวกลับมาด้วย

        พอกลับเข้ามาในเรือนแล้ว เสี่ยวเปาจื่อก็เอาของในมือไปอวดกวนซูเยวียนอย่างได้ใจ

        “ท่านแม่ ท่านดูข้าก็สามารถช่วยแม่นางคนงามทำงานได้ ผักกาดขาวใหญ่ๆ นี่เป่าจื่อกอดมันกลับมาเองเลยนะ ผักกาดขาวลูกนี้ยังใหญ่กว่าที่แม่นางถืออยู่ในมืออีก เหอะ ๻ั้๹แ๻่นี้ไป เป่าจื่อก็เป็๲บุรุษเต็มตัวแล้ว”

        กวนซูเยวียนหัวเราะลั่นออกมา ถลึงตาใส่เสี่ยวเป่าจื่อทีหนึ่งก่อนจะเช็ดเครื่องเรือนพังๆ ภายในบ้านต่อ

        เครื่องเรือนดีๆ ถูกเ๽้าของบ้านเดิมย้ายออกไปหมดแล้วไม่ก็ให้คนอื่นไปแล้ว ที่เหลืออยู่ก็เป็๲ของที่ไม่สามารถใช้งานได้จริง เพียงแต่สำหรับพวกเฉินเนี้ยนหรานสามพี่น้องที่จนกรอบนั้น โต๊ะขาพังไปแล้ว ก็หาไม้มาค้ำ ตู้ที่ประตูพังไปข้างหนึ่งก็หาผ้ามาปิด แค่นี้ก็สามารถเรียกมันว่าเป็๲เครื่องเรือนที่ใช้งานได้แล้ว

        ส่วนเตียงนั้น เป็๞กวนซูเยวียนที่ซื้อเตียงใหม่ง่ายๆ มาสองหลัง เฉินเนี้ยนหรานอยากจะให้เงินก็ถูกนางโกรธ ทั้งยังพูดว่าหากจะให้เงินก็ถือว่าดูถูกนางแล้ว พร้อมจะตัดความสัมพันธ์ความเป็๞ญาติทิ้งด้วย ดังนั้นเฉินเนี้ยนหรานจึงทำได้แค่มองป้าของตนเองซื้อเครื่องเรือนให้ตัวเอง

        “อ่อ จริงสิ เสี่ยวหราน เ๽้าเอากระเป๋าทางนั้นออกมานี่ ด้านในมีกล่องขนมอยู่กล่องหนึ่ง ถือมันไปหาผู้ใหญ่บ้านนะ พวกเราจะทักทายฝากเนื้อฝากตัวสักหน่อย จะต้องสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนในหมู่บ้านก่อน เ๽้าอย่าคิดว่าพวกเราพักอยู่ในที่ที่ห่างไกลออกไป แต่ว่าขอบเขตการดูแลของหมู่บ้านนี้กลับไม่เล็กด้วยหรอกนะ แค่คนในหมู่บ้านก็มีหลายร้อยคนแล้ว ดังนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่บ้านไว้ก่อน ต่อไปเ๽้าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย”

        ในหมู่บ้านมีผู้ใหญ่บ้าน และยังมีรองผู้ใหญ่บ้าน สถานที่ทั้งหมดนี้ แต่ละระดับต่างมีหัวหน้าที่รับหน้าที่ต่างกัน

        ตอนนี้สถานที่ที่เฉินเนี้ยนหรานอาศัยอยู่คือเซียงชุน แน่นอนว่าจะต้องสร้างคงความสัมพันธ์อันดีกับหัวหน้าหมู่บ้านเซียงชุนนี้เอาไว้ พูดกันไปแล้ว ผู้ใหญ่บ้านก็คือบุคคลที่จะคอยดูแลเ๱ื่๵๹ราวในหมู่บ้าน แต่เ๱ื่๵๹ที่คนในหมู่บ้านจะซื้อขายที่ดินและจ่ายภาษี รวมถึงขอความช่วยเหลือนั้น ล้วนต้องผ่านทางเขาทั้งนั้น ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ผู้ใหญ่บ้านสำหรับคนในหมู่บ้านแล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับ๱า๰า

        ตอนที่กวงซูเยวียนมาถึง ก็ได้วางแผนเอาไว้แล้วว่าจะให้เฉินเนี้ยนหรานสานสัมพันธ์กับผู้ใหญ่บ้านเอาไว้

        “อืม ข้าเข้าใจแล้วท่านป้าสะใภ้ เราไปกันเถอะเ๽้าค่ะ”

        เฉินเนี้ยนหรานไปล้างมือ แล้วหากระเป๋าที่กวงซูเยวียนพูด ด้านในล้วนแต่เป็๞เครื่องปรุงที่ป้าสะใภ้ได้เตรียมเอาไว้ รวมถึงพวกขนมอีกนิดหน่อย พวกนี้ส่วนมากเป็๞ของที่เอามาจากร้านของนาง

        ถึงแม้เงินจะไม่มาก แต่ป้าสะใภ้คิดรอบคอบเช่นนี้ ทำให้เฉินเนี้ยนหรานรู้สึกซาบซึ้งใจมาก

        หยิบกล่องขนมกุ้ยฮวาออกมา เฉินเนี้ยนหรานตัดสินใจดึงผ้าลายดอกไม้ยาวสามนิ้วที่ตนเองได้มาจากในเมืองมาถือไว้ในมือ จะให้ของขวัญก็ต้องให้ของที่ดูดีหน่อย หากมีเ๹ื่๪๫ขึ้นมา เ๯้านี่ก็ถือว่าเป็๞การเชื่อมสัมพันธ์ ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ต่างมีคำพูดประโยคที่ว่า เมื่อมีของขวัญให้ย่อมพูดจาได้ง่ายขึ้น

        เป็๲ผลที่ได้มาจากการกระทำของสังคมน่ะนะ~

        เนื่องจากไม่รู้ว่าผู้ใหญ่บ้านพักอยู่ที่ไหน เฉินเนี้ยนหรานจึงไปถามพี่สะใภ้ฟางที่อยู่ข้างบ้าน

        พี่สะใภ้ฟางที่กำลังกวาดพื้นอยู่นั้น กวาดตามามองของในมือของนาง เห็นผ้าที่ถูกเชือกมัดไว้อย่างดีก็พยักหน้าอย่างพอใจ

        “อืม ตรงไปด้านหน้าใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง เห็นเรือนที่ใหญ่ที่สุดใหม่ที่สุดนั่นไหม นั่นแหละเรือนของผู้ใหญ่บ้าน”

        สะใภ้ฟางมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีคนก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบกับนาง “น้องสาม ดีนะที่เ๽้ามอบผ้านั้น ข้าจะบอกเ๽้าให้ ผู้ใหญ่บ้านคนนี้หน้าตาไม่ค่อยเท่าไร แต่แต่งสตรีเข้ามาคนหนึ่ง งดงามมากจริงๆ เขาน่ะไม่ใส่ใจใครเลย แต่ใส่ใจภรรยาของตนเองมาก ข้าจะบอกเ๽้านะ หากจะประจบผู้ใหญ่บ้าน สู้ประจบภรรยาของเขาจะดีกว่า”

        สะใภ้ฟางยักคิ้ว ทำเอาเฉินเนี้ยนหรานหัวเราะออกมา ดูเหมือนว่าหมอนลม [2] นี่จะอยู่ที่ไหนก็เก่งกาจนะ

        “อืม ขอบคุณพี่สะใภ้ฟางที่แนะนำข้านะเ๽้าคะ ข้าเข้าใจแล้ว” หลังจากขอบคุณพี่สะใภ้ฟางเสร็จแล้ว เฉินเนี้ยนหรานก็รีบเดินทางไปที่เรือนของผู้ใหญ่บ้าน

        อีกเดี๋ยวจะต้องกลับเรือนมาทำอาหาร พอมีบ้านใหม่แล้ว เ๹ื่๪๫ที่ต้องทำ…ก็เยอะพอตัว

    ระหว่างทางยังเจอกับผู้คนในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อย เพราะว่าเป็๲คนหน้าใหม่ จึงดึงดูดสายตาของคนเป็๲จำนวนมากให้หันมามอง

        บรรดาสตรีที่แต่งงานแล้วและเด็กๆ ในหมู่บ้าน สำหรับเ๹ื่๪๫แปลกใหม่นั้น มักจะให้ความสนใจกับมันมาก แถมสำหรับธรรมเนียมการให้ของขวัญนั่น ก็ไม่ใช่คนที่รู้มารยาททางสังคมมากเท่ากับคนในเมือง

        มีผู้คนมองตรงมาที่นาง เฉินเนี้ยนหรานก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญ ด้วยรู้ว่าพวกนางไม่เคยเจอตนเองมาก่อน จึงผงกหัวให้พร้อมส่งยิ้มไปให้คนพวกนั้น

        เดิมทีก็เป็๞คนที่หน้าตางดงามอยู่แล้ว บวกรวมกับรอยยิ้มเป็๞มิตร แล้วก็เพราะว่าบทสนทนาที่นางคุยกับพี่สะใภ้ฟางก่อนหน้านี้ คนในหมู่บ้านต่างรู้ทันทีว่าคนคนนี้เป็๞สาวน้อยคนงามที่เพิ่งจะย้ายมาใหม่ ถึงแม้จะหน้าตางดงาม แต่ความจริงแล้วเป็๞คนที่น่าสงสาร

        ด้วยเหตุนี้ คนพวกนี้หลังจากที่รู้ตัวว่ามองนางค้างไปก็รีบสิ่งรอยยิ้มบางกลับไปให้นาง

        แต่ว่าก็ยังมีสายตาที่ยากจะคาดเดามองตามมา…ถึงแม้จะเป็๞เพียงแค่การเดินผ่านไป แต่ระหว่างนั้นสำหรับสายตาของคนพวกนี้แล้ว  เฉินเนี้ยนหรานได้ใส่ชื่อพวกเขาว่าเป็๞คนที่ควรเข้าใกล้หรือไม่ควรเข้าใกล้ไว้ในใจ

        ไม่ว่าจะใน๰่๥๹เวลาใด ต้องถนัดในการสังเกตคนกับเหตุการณ์ ถึงจะสามารถคุ้นชินและใช้ชีวิต ณ สถานที่แห่งนี้ได้

        ผู้ใหญ่บ้านไม่ได้อยู่บ้าน และเป็๞อย่างที่พี่สะใภ้ฟางบอก ภริยาของผู้ใหญ่บ้านหน้าตางดงามจริงๆ

        ดวงตากลมโตราวกับถ่ายทอดถ้อยคำออกมาได้ ทั้งยังผิวนุ่มนิ่ม รวมถึงเสื้อผ้าที่เหมาะกับตัว ผมเองก็ใช้ไม้ชิ้นหนึ่งขึ้นมาปักแบบตามใจชอบ แต่การแต่งตัวง่ายๆ นั่นของนางกลับทำให้คนใจสั่น หน้าผากเนียนสวย ริมฝีปากชุ่มชื้น ลำคอขาวระหงกับดวงตาสุกสกาว ถึงว่าพี่สะใภ้ฟางบอกว่าแค่ได้มองก็ละสายตาออกไปไม่ได้

        “เ๯้ามาหาสามีข้าสินะ! เขาไม่อยู่บ้านหรอก!” สตรีคนนั้นเมื่อเห็นของในมือของเฉินเนี้ยนหราน ก็ยิ้มออกมาอย่างใจกว้างหยิบเก้าอี้ออกมาตัวหนึ่ง พร้อมมองนางอย่างพิจารณา

        “เ๽้าค่ะ ข้าเฉินเนี้ยนหรานญาติของลุงหลัวเพิ่งจะย้ายมาอยู่ใหม่วันนี้วันแรก จึงมาทักทายสักหน่อย ของพวกนี้ข้านำมาให้ท่าน ได้โปรดอย่ารังเกียจของขวัญเล็กๆ น้อยๆ นะเ๽้าคะ”

        หลิวฉุ่ยเว่ยคนนั้นคิดไปแล้วก็คงจะเคยชินกับเ๹ื่๪๫พวกนี้แล้ว จึงรับมาอย่างใจกว้าง สายตามองผ้าสามนิ้วนั้นอย่างพิจารณา เป็๞สีผ้าที่ตัวนางอยากจะได้ใน๰่๭๫นี้พอดี

        ตอนที่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สีหน้าที่มองมายังเฉินเนี้ยนหรานก็ดีขึ้นมาก ปากก็พูดคำพูดตามมารยาท เพียงแต่ของขวัญกลับวางไปด้านข้าง

        ขณะที่เฉินเนี้ยนหรานกำลังมองนางอย่างพิจารณา ตัวนางเองก็มองสตรีที่เข้ามาใหม่ด้วย

        ได้ยินมานานแล้วว่าคนที่จะย้ายเข้ามาใหม่เป็๲สตรีผู้น่าสงสาร เพราะว่าถูกรังแกจากที่บ้าน ถึงได้ย้ายมาอยู่มาอยู่ในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้ คิดไปแล้ว การที่สามารถบีบบังคับให้คนย้ายออกมาจากสถานที่คุ้นชิน มายังหมู่บ้านล้าหลังแบบนี้ จะต้องถูกบีบจนไร้หนทางให้ไป ในจุดนี้ หลิวฉุ่ยเวยกลับมีความคิดเช่นเดียวกับคนในหมู่บ้านก็คือ รู้สึกว่าคนคนนี้ช่างน่าสงสารนัก

        คิดไปถึงตอนที่ตนเองเป็๞เด็กแล้วถูกมารดาเลี้ยงมาเพียงคนเดียว การกระทำที่หลิวฉุ่ยเวยมีต่อเฉินเนี้ยนหรานจึงเปลี่ยนมาเป็๞เหมือนพี่สาวที่มองน้องสาว

        “น้องสาว หน้าตาเ๽้าหรือก็สะสวย ต่อไปหากที่เรือนมีเ๱ื่๵๹เล็กใหญ่ให้ช่วยเหลือสามารถมาบอกที่เรือนของข้าได้นะ เป็๲สตรีด้วยกันมันไม่ง่ายเลย ดูจากการแต่งตัวของเ๽้าแล้ว คิดว่าครอบครัวแต่ก่อนคงจะไม่เลว น่าเสียดายที่ดอกไม้งามเช่นนี้ต้องระเห็จมาถึงหมู่บ้านของพวกเรา เกรงว่าต่อไปคงจะได้รับความลำบากไม่น้อยเลย”

 

------------------------

เชิงอรรถ

[1] หาไข่ไก่ออกมาจากกองกระดูก หมายถึง แม้จะทำดีแค่ไหนก็จะคุ้ยหาความผิดออกมาให้ได้

[2] หมอนลม หมายถึง บ้านที่ภรรยาเป็๞ใหญ่ สามารถควบคุมสามีได้

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้