“ด้วยระดับการบ่มเพาะแค่นั้น อาจถูกพลังนั่นกดทับจนตายอย่างน่าอนาถ” เสียงกระซิบกระซาบดังไม่หยุด และมีคนมากมายต่างมองเย่เฟิงด้วยสายตาดูถูก
ทว่าเย่เฟิงไม่สนใจคำพูดของคนเ่าั้ ตอนนี้เขากำลังต่อสู้กับพลังกดดันที่แผ่ปกคลุมร่างเขา จากนั้นเขาเพียงคิดพลังพลันประหลาดปะทุออกจากร่าง ก่อนจะค่อย ๆ พุ่งไปตามจังหวะเดียวกับอำนาจฟ้าดิน
หมื่นสรรพสิ่งล้วนมีต้นกำเนิดเดียวกัน ทั้งกฎและวิถีก็เช่นกัน เย่เฟิงตั้งจิตให้สงบและทะลวงพันธนาการอย่างต่อเนื่อง ก่อนเท้าจะร่อนลงบนบันไดเถาวัลย์ ในตอนนั้นเองมีสายตาเย็นเยือกหลายคู่มองมาที่เย่เฟิงอย่างไม่ต้อนรับ
“ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 แต่กล้ามารนหาที่ตายที่นี่ ยังไม่ไสหัวไปอีก!” มีผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 คนหนึ่งเห็นเย่เฟิงมาก็ตวาดใส่ พร้อมปล่อยหมัดโจมตีเย่เฟิง ้าเอาชนะเย่เฟิงภายในหมัดเดียว
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบก่อนจะปล่อยฝ่ามือภูผาพิฆาตออกไป เพียงพริบตาหมัดของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นก็ถูกทำลายสิ้น และซัดร่างอีกฝ่ายจนปลิวออกจากสนามรบ
“อ่อนหัดขนาดนี้กลับกล้าโอหังต่อหน้าข้างั้นหรือ?” เย่เฟิงแสยะยิ้มแล้วกวาดตามองคนเ่าั้ที่จ้องจะจัดการเขา จู่ ๆ ทำให้คนไม่น้อยถอยหลังไป
เขาไม่ชอบรังแกคนและยิ่งไม่ชอบถูกคนอื่นรังแก คนเหล่านี้เห็นเขาอยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 จึงอยากเตะเขาออกไป แต่มีหรือเขาจะยอม?
ในโลกที่มีแต่ผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ เมื่อเ้าแสดงพลังอันแกร่งกล้า คนอื่นจึงจะเกรงกลัวเ้า เช่นเดียวกับการกระทำของเย่เฟิงในตอนนี้ ซัดผู้ฝึกยุทธ์กระเด็นปลิว คนอื่น ๆ จึงไม่กล้ายั่วยุ
ด้านเฉินอ้าวเทียน เขาบุกฝ่าด้วยความเร็วจนมิอาจต้านทานได้ เพื่อที่จะเข้าสู่สนามรบนี้ เขาจึงกดระดับการบ่มเพาะของตนให้อยู่จุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายา แม้กดระดับการบ่มเพาะ แต่ว่าบนบันไดเถาวัลย์แห่งนี้มีคนจำนวนมากที่มีพลังทัดเทียมและสู้กับเขาได้ ตอนนี้เขายืนอยู่ที่ด้านหน้าผลเทียนเสวียนพร้อมกับมีพลังประหลาดเข้าปกคลุมร่างเขา จากนั้นเขาทำจิตให้มั่นและใช้จิตไปัักับพลังนั่น
ครู่ต่อมาเฉินอ้าวเทียนลืมตาขึ้นและหันไปมองหนานกงหลิงซวงที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมกล่าวขึ้น “หลิงซวง เดี๋ยวข้าจะไปเอาผลเทียนเสวียนมาให้เ้า”
“อืม” หนานกงหลิงซวงพยักหน้าพลางรู้สึกอบอุ่นใจ นาทีต่อมาเห็นเฉินอ้าวเทียนเอื้อมมือไปคว้าผลเทียนเสวียน เขานั้นอยู่ขั้นรวมชี่ที่ 6 และได้เรียนรู้พลังอำนาจแล้ว ทำให้อำนาจฟ้าดินที่ปกคลุมร่างกายทำอะไรเขาไม่ได้ เขาจึงคว้าผลเทียนเสวียนได้สำเร็จ
“แกร่งมาก!” ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างต้องใจเต้นโครมคราม
“ผลเทียนเสวียนผลแรกตกเป็ของเฉินอ้าวเทียน เฉินอ้าวเทียนสมกับเป็ผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 3 แห่งรายนามขั้นรวมชี่ ทว่าสองอันดับแรกไม่อยู่ที่นี่ แล้วใครเล่าจะสู้ด้วยได้!” ผู้คนคิดในใจ พวกเขากวาดมองฝูงชนในที่แห่งนี้ก็พบว่าไม่มีใครสามารถต่อกรกับเฉินอ้าวเทียนได้ เห็นทีผลเทียนเสวียนทั้ง 9 ผลอาจตกเป็ของเฉินอ้าวเทียนแต่เพียงผู้เดียว ใครจะสามารถหยุดเขาได้?
นาทีนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เฉินอ้าวเทียน แม้กระทั่งคนที่ต่อสู้อยู่ก็หยุดชะงัก แววตาของพวกเขาลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ เฉินอ้าวเทียนคว้าผลเทียนเสวียนผลแรกไปได้ พวกเขาจำต้องยอมรับ
อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้คนกำลังใกับเฉินอ้าวเทียนที่คว้าผลเทียนเสวียนผลแรก ก็ได้มีเงาร่างหนึ่งฝ่าฝูงชนขึ้นไปยังบันไดขั้นที่สอง เงาร่างนี้เคลื่อนไหวอย่างเป็อิสระ พลังกดดันที่สร้างขึ้นจากอำนาจฟ้าดินก็หยุดเขาไม่ได้ ราวกับว่าผสานเป็หนึ่งกับอำนาจฟ้าดิน เขาเดินหน้าโดยไม่มีอะไรหยุดยั้งได้
“ตุบ!” หลังจากทะลวงพันธนาการ เงาร่างนั้นก็ไปเยือนบันไดขั้นที่สองได้สำเร็จ วินาทีนี้ทุกคนละสายตาจากเฉินอ้าวเทียนไปมองเงาร่างนั้นพลางหัวใจเต้นระรัว
“เป็เขา! ผู้ที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 เขาขึ้นบันไดขั้นที่สองได้แล้วงั้นหรือ?”
“หมอนี่คิดจะทำอะไร? หรือเขาอยากได้ผลเทียนเสวียนผลที่สอง?” มีคนกล่าว คนแรกที่ขึ้นบันไดขั้นที่สองได้คือเย่เฟิง นี่ทำให้พวกเขาต่างต้องตกตะลึง
เฉินอ้าวเทียน หนานกงหลิงซวง โจวมู่ไป๋ ซ่างกวนหง เซิ่งจื่อแห่งนิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ ฉินเยียนหราน เฟิงเฉียน รวมถึงไป๋หลิง ซุนจิ้ง และคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านล่าง พวกเขาต่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“ตุบ!” เสียงฝีเท้าหนักอึ้งดังกังวาน พวกเขาเห็นเย่เฟิงก้าวไปหาผลเทียนเสวียน ทันใดนั้นอำนาจฟ้าดินของบันไดเถาวัลย์ขั้นที่สองที่รุนแรงยิ่งกว่าเข้าปกคลุมร่างเย่เฟิง
เย่เฟิงขมวดคิ้ว เขาเหมือนกับแบกูเาไว้บนหลัง มันหนักเป็อย่างมาก ทำให้เสียงกระดูกดังลั่น แต่เย่เฟิงยังคงยืนหลังตรงดุจพู่กัน ราวกับไม่มีสิ่งใดมากำราบเขาได้ ทุกย่างก้าวราวกับมีท่วงทำนองพิเศษที่สามารถสื่อสารกับฟ้าดินได้ เย่เฟิงพยายามผสานเป็หนึ่งกับจังหวะของอำนาจฟ้าดินที่ถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอำนาจฟ้าดินทรงพลังกว่าของบันไดเถาวัลย์ขั้นที่หนึ่งมาก ทุกย่างก้าวทำให้เขารับอำนาจฟ้าดินหนักขึ้นหลายเท่า แต่บันไดเถาวัลย์เหมือนสั่นไหวเล็กน้อยในตอนที่เย่เฟิงเดิน ท่ามกลางอากาศก็ยังมีอำนาจฟ้าดินไร้ที่สิ้นสุด จนดูเหมือนเย่เฟิงจมอยู่ในนั้น และร่างเขาก็หลอมเป็หนึ่งกับอำนาจฟ้าดิน ในที่สุดหลังจากเดินได้สิบก้าว เย่เฟิงก็ไปถึงเบื้องหน้าผลเทียนเสวียน
“หมอนี่...” ผู้คนเห็นฉากนี้ต่างก็ตาค้าง อำนาจฟ้าดินของบันไดขั้นที่สองแข็งแกร่งกว่าขั้นที่หนึ่งมาก และไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนรับไหวได้
เย่เฟิงอยู่เพียงขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 แต่กลับเดินสิบก้าวก็ไปเยือนยังเบื้องหน้าผลเทียนเสวียนผลที่สองได้แล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้พวกเขาตื่นใเป็อย่างมาก
พวกเขาเห็นเย่เฟิงเอื้อมมือไปคว้าผลเทียนเสวียน พลันพลังประหลาดของมันหลั่งไหลเข้าสู่ร่างเย่เฟิง ซึ่งพลังที่อยู่ในผลเทียนเสวียนนี้ช่างน่าทึ่งมาก
“หมอนี่คว้าผลเทียนเสวียนผลที่สองได้แล้ว!” ผู้คนต่างต้องตะลึงงัน พวกเขายังอยู่บนบันไดขั้นที่หนึ่ง แต่เย่เฟิงที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 กลับไปถึงขั้นที่สองแล้ว บางทีนี่อาจเป็ความแตกต่างของผู้คน
เย่เฟิงค่อย ๆ ผสานเป็หนึ่งกับอำนาจฟ้าดินรอบ ๆ ตัว จากนั้นอำนาจฟ้าดินที่พันธนาการร่างเขาเริ่มลดน้อยลง ทำให้เขาเคลื่อนไหวได้มากขึ้น
นาทีต่อมาเห็นเย่เฟิงคว้าผลเทียนเสวียนมาไว้ในมือ แสงพลันกะพริบถักทอกับอำนาจฟ้าดินรอบ ๆ จนสว่างไสวงดงาม แสงนั่นไม่รู้ว่าทรงพลังกว่าผลเทียนเสวียนผลแรกเท่าไร ส่วนผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็พลอยได้รับแสงนี้ไปด้วย
“แสงนี้ช่างทรงพลังยิ่งนัก!” ไป๋หลิงที่อยู่ด้านล่างอุทานด้วยความประหลาดใจ ส่วนซุนจิ้งที่อยู่ข้าง ๆ ก็มองเงาร่างชายหนุ่มบนบันไดขั้นที่สองด้วยแววตาซับซ้อน
“วูบ!!!” ในขณะนั้นมีสองเงาร่างทะยานขึ้นมาจากบันไดขั้นที่หนึ่ง ทว่ามีพลังกดดันจากบันไดขั้นที่สองกดทับสองเงาร่างนั้นในทันที หนักราวกับูเาลูกั์ก็ไม่ปาน แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้ แต่มีคนจำนวนมากรับรู้ถึงความรุนแรงของพลังกดดันนั่นได้ ทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก
“เป็เฉินอ้าวเทียนกับหนานกงหลิงซวง เขาได้ผลแรกไปก็คงไม่ยอมปล่อยผลที่สองไปง่าย ๆ เ้าคนที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 7 จะสู้กับเฉินอ้าวเทียนได้หรือ?” มีคนหนึ่งเอ่ยขึ้นขณะมองสองเงาร่างนั้น หากเฉินอ้าวเทียนลงมือชิงผลเทียนเสวียนผลที่สอง แล้วมีหรือเย่เฟิงจะมีโอกาส
พลังกดดันคำราม ห้วงอากาศราวกับแข็งตัว ดวงตาของเฉินอ้าวเทียนลุกโชนขณะกอดหนานกงหลิงซวง พลังขั้นรวมชี่ถูกปลดปล่อย ก่อนจะกวาดล้างทุกสิ่ง ราวกับเทพลงมาเยือนก็ไม่ปาน ทะลวงพันธนาการและไปเยือนบันไดขั้นที่สอง
“ผลิญญาผลนี้ เ้าไม่คู่ควรกับมัน!” หนานกงหลิงซวงกล่าว ความอัปยศอดสูที่เย่เฟิงมอบให้นางในวันทดสอบของสำนักยุทธ์เทียนเสวียน นางไม่มีวันลืมไปได้ง่าย ๆ และนางยังสาบานไว้ว่าสักวันหนึ่งจะแก้แค้น และลบล้างความอัปยศนั้นให้หมดสิ้น
ตอนนี้มีเฉินอ้าวเทียนคอยช่วยเหลือ ระดับการบ่มเพาะของนางจึงบรรลุจุดสูงสุดของขั้นบ่มเพาะกายา พลังเปลี่ยนไปจนแข็งแกร่งขึ้น ดังนั้นหนานกงหลิงซวงจึงมีความมั่นใจพอที่จะเอาชนะเย่เฟิงได้
“คนขี้แพ้ยังกล้าพูดจาอวดดีงั้นหรือ? ไม่รู้จริง ๆ ว่าเ้าไปเอาความใจกล้ามาจากไหน?” เย่เฟิงมองหนานกงหลิงซวงด้วยสายตาโอหังเช่นเดิม แม้ตอนนี้หนานกงหลิงซวงมีเฉินอ้าวเทียนหนุนหลัง แต่เย่เฟิงก็หาได้หวาดกลัว
“วันนั้นเ้าเอาชนะข้าได้ ความอัปยศเช่นนั้น ข้าจะเอาคืนเ้าหลายเท่าตัวเลยคอยดู!” แววตาของหนานกงหลิงซวงเผยประกายคมกริบ ิญญาาหงส์ถูกปลดปล่อยพร้อมเพลิงนิพพานลุกโชน
“ฝ่ามือภูผาพิฆาต!” เย่เฟิงแผดเสียงะโ จากนั้นปล่อยฝ่ามือภูผาพิฆาตที่ผสานด้วยเอกลักษณ์หอกออกไป ก่อนจะเข้าปะทะกับเพลิงนิพพานนั่น ตามมาด้วยเสียงะเิดังสนั่นหวั่นไหว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้