บทที่ 10 อยากทำการค้า
พอเื่บ้านเรียบร้อยน่าอยู่ขึ้น หยางชิงโมจึงได้มีเวลามานั่งดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะขึ้นใน่ปลายปี 1978- 1980 ซึ่งเธอได้ปริ้นออกมาหลายแผ่นด้วยกัน เธอ้าที่จะเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับเื่ราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ในเมื่อให้เธอย้อนอดีตมาแล้ว แถมยังให้มิติใส่ของมากมายมาด้วย ดังนั้นเธอจะต้องนำมาสร้างประโยชน์ด้วยสิ
เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดภายใน 2 ปีข้างหน้าคือการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองเซินเจิ้น ในมณฑลกวางตุ้ง ทางภาคใต้ของจีนเป็เขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งแรก ต่อมา ก็ขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นที่เมืองจูไห่, เซี่ยเหมิน และซ่านโถว (ซัวเถา) ระหว่างนั้น เซินเจิ้นเป็จุดสาธิตทดลองนโยบายปฏิรูปของเติ้ง และดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาในประเทศ
ซึ่งประจวบเหมาะที่เมืองจูไห่เป็เมืองที่พวกเธออาศัยอยู่พอดี หยางชิงโม่ อ่านดูบริเวณที่จะทำเป็เขตเศษจกิจพิเศษ ซึ่งเป็บริเวณทิศตะวันออกของเมือง ปัจจุบันเป็ที่อยู่อาศัยที่เก่าแก่มานานของชาวเมืองจะเรียกว่า สล้มก็ได้ ซึ่งบริเวณนั้นมีพื้นที่ประมาณ 10 กิโลเมตร อาคารเก่าปลูกติดกันเป็ห้องๆ แต่ด้านหลังนั้นกว้างมากสามารถที่จะขยายพื้นที่ออกไปได้อีกเยอะและเป็พื้นที่สะดวกต่อการขนส่งทางทะเลอีกด้วย นี้คือเหตุผลหนึ่งที่ทางรัฐบาลเลือกพื้นที่แถวนั้น
ซึ่งหยางชิงโมสนใจมากเธอ้าที่จะกว้านซื้อที่แถวนั้นเอาไว้ก่อน ถึงจะเป็สลัมแต่เมื่อนโยบายอนุมัติพื้นที่แถวนั้นจะถูกเวณคืนและจะได้ราคาสูงกว่าปัจจุบันหลายสิบเท่าเลยที่เดียว
และอีกแห่งที่น่าสนใจที่จะเป็พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษแห่งแรกนั้นคือเมืองเซินเจิ้น
เซินเจิ้นในปีที่2023 ที่เธอจากมานั้น คือเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด ที่ดินราคาแพงยิ่งกว่าทองคำ เพราะหลังจากเปิดประเทศเซินเจิ้นคือที่แรกที่รองรับการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้นักลงหลั่งไหลเข้าไปมากมาย โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมที่พักสุดหรู เกิดขึ้นเป็ดอกเห็ด ดังนนั้น ที่นั้นจึงเหมาะสมที่จะลงทุน และการกว้านซื้อที่ดินเอาไว้ ถ้าไม่สร้างโรงงานเองก็เอาไว้ปล่อยให้ต่างชาติมาเช่าเหมือนกับยุคปี 2023 ที่โรงงานส่วนใหญ่ในเซินเจิ้นเป็ต่างชาติที่เข้าและเช่าพื้นที
หยางชิงโม้าที่จะไปดูพื้นที่และหาลู่ทางในการที่จะจับจองเอาไว้ก่อน
อย่างที่ทราบเราเลือกพื้นที่ก่อนย่อมได้ทำเลทอง ราคาไม่แพง
เมื่อล็อกเป้าหมายได้แล้วหยางชิงโมก็เริ่มสำรวจดูว่าของที่เธอนำมาด้วยนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนเป็เงินได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญเธอต้องหาใครสักคนที่จะมารับซื้อไป เพราะตัวเธอที่มีลููกยังเล็กคงจะไม่สะดวกที่จะออกไปค้าขายอยู่ด้านนอกบ่อยๆ และั้แ่เธอย้อนเวลามาเธอยังไม่ได้ออกจากบ้านไปดูในเมือง ดูตลาด หรือสถานการณ์ปัจจุบันของเมืองนี้เลย ดังนั้นถือโอกาสตอนนี้ที่กำลังจัดการเื่บ้านเอาเด็กๆ ไปฝากกับแม่สามีและเข้าเมืองไปดูหน่อยดีกว่า
หยางชิงโมเตรียมน้ำตาลแดงกับปลากะพงตัวใหญ่2 ตัวแล้วออกจากบ้านเดินไปบ้านใหญ่ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ก่อนออกจากบ้านไปเธอให้เสี่ยวเฮยช่วยดูเด็กๆ ที่กำลังเล่นของเล่นอยู่ภายในห้องโถงของบ้าน ่นี้อากาศเริ่มจะเย็นลงเธอเลยลองติดเตาผิงเอาไว้ให้เด็กๆ ได้มานั่งเล่นนอนเล่นภายในห้องโถงกันก่อน.
เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านเธอเห็นน้องห้าที่กำลังกลับจากโรงเรียนมัธยมในเมืองพอดี จากความทรงจำน้องสาวของสามีคนนี้เป็เด็กเรียบร้อยมากและเรียนหนังสือเก่งมาก เธอสอบได้ที่หนึ่งของห้องมาตลอด และด้วยความรักการเรียนมาพี่ๆ ทุกคนของบ้านจึงได้ช่วยกันส่งเรียนหนังสือโดยช่วยกันออกเงินค่าเทอมให้น้องห้า
“พี่สะใภ้รอง สวัสดีค่ะ มาหาแม่หรือคะ?"
น้องห้าเฉินหรูอี้ทักทายพี่สะใภ้รองของเธอ
“ใช่จ้ะ น้องห้าเพิ่งกลับจากโรงเรียนหรือเปล่าจ๊ะ แล้วคุณแม่อยู่บ้านมั้ย”
“แม่อยู่หลังบ้านค่ะ กำลังเก็บผักจะทำอาหารเย็นนี้ ส่วนหนูเพิ่งกลับมาค่ะ พี่สะใภ้รองเข้ามาข้างในก่อนค่ะ เดียวหนูวิ่งไปตามแม่ให้”
“ขอบใจมาก เอานี้เข้าไปเก็บในครัวด้วยนะ พอดีพี่ได้ปลากะพงมา3-4 ตัวยังสดอยู่เลยเอาไว้ให้พี่สะใภ้ใหญ่ทำอาหารให้ทานจ๊ะ และยังมีน้ำตาลทรายแดงให้คุณแม่ด้วย”
เธอยื่นของให้กับน้องสามีแล้วเดินตามเข้ามาในบ้าน
ภายในบ้านค่อนข้างกว้างเพราะเมื่อก่อนอยู่กันหลายครอบครัวเยอะ แต่พอคุณพ่อเฉินให้แยกบ้านกัน ทำให้บ้านใหญ่มีพื้นที่กว่าขึ้น แต่ยังไรก็ตามด้วยความที่สร้างมานานทำให้ตัวบ้านทรุดโทรมมากเป็ธรรมดา
“สะใภ้รองมีอะไรรึถึงมาหาแม่? ”
คุณแม่เฉินเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับตะกร้าที่มีผักที่เก็บมาสดๆใหม่ๆ อยู่เต็มตะกร้า ตอนแรกนางไม่ได้เก็บเยอะ แต่พอหรูอี้ไปเรียกว่าสะใภ้รองมาหาพร้อมทั้งเอาน้ำตาลแดงกับปลามาให้ คุณแม่เฉินจึงเก็บผักเพิ่มขึ้นเพื่อจะได้แบ่งให้เธอเอากลับบ้านด้วย
“พอดีญาติทางเซียงไฮ้ส่งของมาให้ฉันค่ะแม่ ฉันเลยจะเข้าไปรับที่ไปรษณีย์ในเมือง เลยจะเอาพวกเ้าแฝดมาฝากคุณแม่หน่อยค่ะ ถ้าเอาไปด้วยน่าจะวุ่นวายเพราะฉันต้องหิ้วของด้วย”
เธอสร้างญาติปลอมจากเซียงไฮ้ เพื่อที่เวลาขนของกลับมาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าใครจะสงสัยถ้าเธอขนของกลับมาเยอะ
“ญาติฝากของมารึ? ได้สิจ๊ะให้แม่ไปเฝ้าที่บ้านหรือเอามาที่นี่ก็ได้เดียวแม่ดูแลให้เอง เธอไม่ต้องห่วงนะสะใภ้รอง”
แม่เฉินเอ่ยออกมาอย่างเอื้ออาทร เพราะนางทราบดีว่าลูกสะใภ้นั้นเป็นักศึกษาจากปักกิ่ง การที่ญาติจะติดต่อกันมาบ้างก็เป็เื่ธรรมดา และนี่ถึงขนาดส่งของมาให้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว นางจึงได้รับปากโดยไม่บ่นอะไรเลย
------------------------------------------------------
***ญาติเริ่มฝากของมาให้แล้วเนาะ..***
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้