เพียงพริบตา กลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรกว่ายี่สิบตนก็ถูกกู่ไห่สังหารสิ้น ซึ่งการโจมตีของเขานั้น ขอเพียงบนร่างของุ์เหล่านี้มีาแ กลุ่มควันดำของกระบี่เจวี๋ยเซิงในมือเขา ก็จะพุ่งเข้ากัดกินเืเนื้ออีกฝ่ายทันที
ไม่นาน ก็จะเหลือเพียงกองกระดูกยี่สิบกองเท่านั้น
กลุ่มคนครึ่งอสูรเมื่อเห็นเช่นนั้น ต่างกลัวจนตัวสั่น บ้างก็คิดจะยอมแพ้ แล้วหนีเอาชีวิตรอด
ฉึก!
แม้ยามนี้เขาจะได้เปรียบ แต่ก็ยังพลาดท่า โดนหนึ่งในกลุ่มคนครึ่งอสูรตรงหน้า ลอบโจมตีด้านหลัง ที่แผ่นหลังกว้างจึงมีาแจากคมกระบี่ลากยาว จนโลหิตสีแดงสดไหลริน
“สำเร็จ! ข้าสามารถจู่โจมกู่ไห่ได้แล้ว เร็วเข้า! ทุกคนร่วมมือกัน” คนผู้นั้นะโอย่างตื่นเต้น
ฉึกๆ!
ชายหนุ่มพลิกกระบี่ในมือ ฟันข้อมือขวาของอีกฝ่ายทันที
“อ๊าก!”
“ไป!” หนึ่งในกลุ่มคนครึ่งอสูรร้องเสียงดัง
กู่ไห่กัดฟัน อดกลั้นต่ออาการาเ็ กวัดแกว่งกระบี่เจวี๋ยเซิงในมืออีกครั้ง เมื่อสบโอกาส จึงวิ่งฝ่าวงล้อมออกมา
“ไม่! กู่ไห่… หากเก่งนัก ก็อย่าหนี!”
“ย๊าก!”
“ล้อมมันไว้ อย่าปล่อยให้มันหนีไปได้!”
“อ๊าก!”
“กู่ไห่กำลังจะหนีไปแล้ว ทางนั้น ช่วยกันจับมันให้ได้!”
“ย๊าก!”
กลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรใช้ความพยายามอย่างหนัก ในการเข้าโอบล้อมกู่ไห่ บ้างก็ถูกสังหาร บ้างก็ถูกทำร้ายจนาเ็สาหัส เสียงร้องโหยหวนด้วยความเ็ป จึงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ
เพียงพริบตา กองกระดูกของคนครึ่งอสูรก็มีมากถึงห้าสิบกอง เมื่อเห็นเช่นนั้น กลุ่มคนที่คิดจะล้อมจับในคราแรก ก็เริ่มเกิดอาการขวัญผวา บ้างก็เริ่มล่าถอย เมื่อเห็นความโเี้ของเขา
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มใจเสีย กู่ไห่ก็เล็งเห็นถึงความได้เปรียบของตน จึงไม่รอช้า รีบปราดเข้าใส่กลุ่มคนที่เหลืออย่างไร้ความปรานีทันที
“อ๊าก! ไม่ๆ! อ๊าก...!”
บัดนี้ เสียงร้องโหยหวน ดังก้องโสตประสาท
...
บริเวณด้านนอก
ชาวบ้านเกือบสองหมื่นคน และผู้ฝึกตนหลายร้อยคน ช่วยกันปิดกั้นทางเข้าออกค่ายกลของสำนักซ่งเจี่ยอย่างเต็มกำลัง แต่ขณะเดียวกัน ก็อดกังวลต่อความปลอดภัยของกู่ไห่ไม่ได้
ทว่าทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงร้องของกลุ่มคน ดังขึ้นจากด้านในหุบเขา
“ผู้มีพระคุณกำลังต่อสู้กับอสูรหรือ?”
“นั่นมันเสียงของอสูร เป็เสียงร้องของอสูรใช่หรือไม่?”
“ผู้มีพระคุณกำลังสังหารอสูรพวกนั้นอยู่หรือ?”
ฝูงชนต่างส่งแรงใจไปให้กู่ไห่
ผู้ฝึกตนหลายร้อยคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือ ตอนนี้ต่างเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
ก่อนหน้านี้ ขณะที่ชายหนุ่มไล่สังหารอสูรไปหลายตน พวกเขาก็ได้เห็น และนึกประหลาดใจมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้นี่สิ?...
“เมื่อครู่ ที่กู่ไห่ะเิูเา ซึ่งอยู่ในค่ายกลผนึกเกราะทอง ก็เพื่อปิดกั้นทางออก... หรือว่าเขา้าที่จะต่อสู้กับอสูรทั้งหมดเพียงลำพัง?”
“ข้าเข้าใจไม่ผิดใช่หรือไม่? กู่ไห่ในตอนนี้ มิใช่ว่ามีพลังอยู่ในระดับก่อ์หรอกหรือ? แต่นั่นมันก็ั้แ่เมื่อครึ่งปีที่ก่อนแล้ว”
“ข้างในมีอสูรอยู่ถึงห้าพันหกพันตนใช่หรือไม่?”
“เป็ไปได้อย่างไร ที่กู่ไห่จะสามารถจัดการกับอสูรห้าพันหกพันตนเ่าั้ได้?”
“แต่เสียงต่อสู้และเสียงกรีดร้อง มันดังมาจากข้างในนะ”
“ใช่แล้ว! เสียงร้องโหยหวนนั่น ต้องเป็พวกอสูรแน่”
“กู่ไห่เป็เพียงผู้ฝึกตนระดับก่อ์จริงๆ หรือ?”
เมื่อคิดเช่นนั้น เหล่าผู้ฝึกตนหลายร้อยคน ต่างก็นึกพิศวงกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้
ส่วนการต่อสู้ระหว่างไต้ซือหลิวเหนียน และอสูรทะเลอย่างฟู่เสวี่ย ที่อยู่ด้านนอก กลับไม่อาจดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ เท่ากับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นภายในค่ายกลผลึกเกราะทอง
ในใจของพวกเขาตอนนี้ จดจ่ออยู่แต่กับการต่อสู้ ระหว่างกู่ไห่และกองทัพครึ่งอสูร
มนุษย์หนึ่งคน เผชิญหน้ากับกองทัพครึ่งอสูรกว่าห้าหรือหกพันตน?
นี่จะเป็ไปได้อย่างไร?
แม้ก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มจะทำการกวาดล้างพรรคต้าเฟิง ที่มีคนมากถึงสองหมื่นคนได้สำเร็จ แต่ที่ทำเช่นนั้นได้ ก็เพราะมีค่ายกลใหญ่ แต่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ค่ายกล ทั้งยังมีแค่ตัวคนเดียว แล้วจะทำได้อย่างไร?
“อ๊ากๆ! ปีศาจ... เ้ามันเป็ปีศาจ!”
“อย่าฆ่าข้า... อ๊าก!”
เสียงร้องด้วยความหวาดกลัวยังคงดังก้อง ทั้งยังสร้างความสับสน ให้กับผู้ฝึกตนหลายร้อยคนมากยิ่งขึ้น... เกิดบ้าอะไรขึ้นในนั้น?
และขณะเดียวกัน
คนครึ่งอสูรกว่าห้าพันคน เมื่อได้ยินเสียงร้องของพรรคพวกตน ก็ยิ่งตื่นตระหนก
“ผู้าุโ ช่วยด้วย... ผู้าุโ... อ๊าก!”
“กู่ไห่ อย่าเข้ามา... อย่าเข้ามานะ!”
“กู่ไห่มาแล้ว... รีบหนีเร็วเข้า!”
“ไม่ๆ... อ๊าก!”
เสียงะโด้วยความสิ้นหวัง ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่นานทุกอย่างก็เงียบสงัด... พวกเขาถูกสังหารไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
ศิษย์หนึ่งร้อยคนถูกกู่ไห่สังหารจนหมดสิ้น?
ใบหน้าของเหล่าคณาจารย์พลันถอดสี
“เกิดเื่ขึ้นหรือ?” หนึ่งในอาจารย์เอ่ยถามเสียงเรียบ
ใครบางคนเหาะขึ้นไปยังยอดเขาที่อยู่ข้างๆ เพื่อไขข้อข้องใจ
ตามคาด ไกลออกไป กู่ไห่กำลังไล่ล่าศิษย์สามคน ที่กำลังหนีตายอย่างสุดชีวิต
เหลือเพียงสามคน?
“นั่นไงกู่ไห่!... พวกเ้าไปจับมันมา”
เหล่าอาจารย์าุโต่างเบิกตากว้าง เมื่อได้ยินชื่อของชายหนุ่ม
ตูมๆ!
เมื่อได้ยินคำสั่ง ศิษย์กว่าห้าร้อยคนก็ทะยานร่างออกไป ดั่งสายน้ำหลาก
“อ๊าก!”
“อ๊าก!”
“อย่า... อ๊าก!”
มนุษย์ครึ่งอสูรสามตน ที่กำลังหนีตายอยู่นั้น ท้ายที่สุดก็ไม่อาจรอดพ้นเงื้อมมือกู่ไห่ เพียงชั่วครู่ ก็ถูกกระบี่เจวี๋ยเซิงกลืนกินไปจนหมด
าแลึกสองแห่งบนร่างของชายหนุ่ม สมานตัวอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่กระบี่เจวี๋ยเซิงได้กลืนกินเืเนื้อ พลังจากหนึ่งในพันส่วนก็จะถูกส่งต่อมายังกู่ไห่ เพื่อฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นเพียงพริบตา าแทั้งสองจึงหายเป็ปกติ
“ฆ่ามัน!”
“จับกู่ไห่มาให้ได้!”
“กระบี่ของกู่ไห่ช่างร้ายกาจนัก พวกเ้าระวังตัวด้วย”
ศิษย์ซ่งเจี่ยกว่าห้าร้อยคนพุ่งเข้าใส่กู่ไห่ ราวกับสายน้ำหลาก ชายหนุ่มมองดูกลุ่มคนที่กำลังทะยานมาทางตน ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น
ไม่มีแม้แต่ความหวั่นไหว บนใบหน้ามีแต่ความเฉยชา
การต่อสู้กับคนครึ่งอสูรกว่าร้อยตนก่อนหน้านี้ ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ยามนี้เขาได้รับประสบการณ์การต่อสู้มากมาย จากการสังหารกลุ่มอสูร
ฟึ่บๆ!
ร่างกายของเขาผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ด้วยพลังชี่ต้นกำเนิด พละกำลังและความเร็วของเขา จึงะเิออกมามากขึ้นจนน่าใ
เขาตระหนักได้ว่า ขณะเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ ตนไม่ควรพุ่งตัวเข้าไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ควรใช้จุดแข็งเพื่อกลบจุดอ่อนของตนเอง
ทั้งยังต้องหาจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ให้เจอ ใช้ความแข็งแกร่งของตน บีบบังคับให้พวกเขาถอยหนี ต้อนศัตรูให้ตกอยู่ในความพรั่นพรึง จนไม่อาจลุกขึ้นมาต่อสู้ได้... นี่คือข้อได้เปรียบของเขา
ฆ่าคนที่อ่อนแอให้สิ้น แล้วคนที่เหลือก็จะค่อยๆ จมเข้าสู่ความอ่อนแอ ในใจมีแต่ความหวาดผวา
“ฆ่า!”
กู่ไห่แผดเสียง ก่อนกระโจนเข้าใส่กลุ่มคนกว่าห้าร้อยคนตรงหน้า
“หืม? กู่ไห่ยังกล้าบุกเข้ามาหาพวกเราก่อนอย่างนั้นหรือ?”
“เหตุใดพลังชี่ที่ะเิออกมา จึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้? นี่มันพลังระดับแก่นทองคำมิใช่หรือ?”
“ศิษย์สำนักเราทั้งร้อยคน ถูกสังหารจนหมดสิ้น?”
“ระวังกู่ไห่ด้วย!”
ตอนนี้ เหล่าอาจารย์ของสำนักซ่งเจี่ย ต่างกำลังประเมินความแข็งแกร่งของกู่ไห่
ตูม!
การปะทะกันอย่างเป็ทางการของทั้งสองฝ่าย ได้เริ่มขึ้นแล้ว!
การโจมตีของกระบี่เจวี๋ยเซิงนั้น กระบี่ธรรมดาของบรรดาศิษย์ครึ่งอสูรไม่อาจต้านทานได้ กระบี่ในมือของศิษย์บางคน จึงถูกคมกระบี่ของชายหนุ่มฟันจนแตกออกเป็เสี่ยงๆ แรงโจมตีที่ผ่านกระบี่ไปนั้น ตัดร่างของศิษย์ครึ่งอสูรเป็สองส่วนทันที
“อาวุธวิเศษนั่น ทรงพลังมาก!” ใครบางคนอุทานเสียงดัง ด้วยความประหลาดใจ
ด้วยกระบี่กระดูกนี่ กระบี่ธรรมดาของพวกเขา ไม่สามารถสู้ได้เลย
“ฆ่ามัน!”
กู่ไห่กวัดแกว่งกระบี่เข้าใส่เหล่าคนครึ่งอสูรอย่างต่อเนื่อง
หากเทียบกับก่อนหน้านี้ คนกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ศัตรูในตอนนี้ มีความแข็งแกร่งกว่าเดิมถึงห้าเท่า
“กู่ไห่ เอาคมกระบี่ของข้าไปกินเสีย!”
ทันใดนั้น คลื่นกระบี่ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น และพุ่งตรงไปยังกู่ไห่
ดวงตาคมหรี่ลง ก่อนที่ร่างกำยำของชายหนุ่มจะะโหลบอย่างรวดเร็ว
“ระดับแก่นทองคำ? ฮึ่ม! ไว้ข้าจะมาตัดหัวเ้า!” กู่ไห่แค่นเสียงเ็า ก่อนหันไปมองทางอื่น
“อย่าหนีนะ… หยุด!” ครึ่งอสูรระดับแก่นทองคำะโลั่น
รอบๆ ตัวกู่ไห่ในยามนี้ มีแต่ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำ ขืนสู้ต่อไป ก็รังแต่จะเป็การมัดมือมัดเท้าตนเองเสียเปล่าๆ
ฉึก!
“อ๊าก!”
“แขนข้า… อ๊าก!”
“กู่ไห่ ข้าไม่มีทางปล่อยเ้าไว้แน่!”
“อ๊าก!”
ท่ามกลางฝูงชน ชายหนุ่มยังคงสังหารผู้คนที่อยู่รอบตัว เสียงร้องด้วยความเ็ป ยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก้องไปทั่วทั้งหุบเขา
บางคนถูกสังหารโดยกู่ไห่ บ้างก็ถูกกระบี่เจวี๋ยเซิงกลืนกินร่างจนไม่มีเหลือ บนพื้นในตอนนี้ มีแต่กองกระดูกนับสิบกระจายไปทั่วบริเวณ
เหล่าผู้ฝึกตนครึ่งอสูร เมื่อมองดูกองกระดูกและซากศพจากฝีมือของกู่ไห่ พลันรู้สึกเย็นวาบขึ้นในใจ
“จับมันไว้ กู่ไห่ใช้พลังชี่ และแกว่งกระบี่ต่อสู้มานานเช่นนี้ มันต้องอ่อนแรงแน่ เราแค่ต้องรอเวลานั้น” หนึ่งในกลุ่มคนเอ่ยขึ้น
“ใช่! อีกไม่นาน… ย๊าก!”
“เมื่อมันอ่อนแรงลง ก็ฆ่ามันเสีย! ย๊าก!”
มีบางอย่างที่ศิษย์ครึ่งอสูรเหล่านี้ไม่มีวันรู้ นั่นคือกู่ไห่ไม่เคยนึกกังวลเกี่ยวกับเรี่ยวแรงของตัวเอง เพราะเมื่อร่างของศัตรูถูกฉีกออกเป็ชิ้นๆ และถูกกลืนกินจนหมด เขาก็จะได้รับพลังจากกระบี่เจวี๋ยเซิงไปด้วย
บนร่างของชายหนุ่ม มีาแกระจายมากขึ้น แต่เขาก็หาได้สนใจไม่ ยังคงต่อสู้กับกลุ่มคนตรงหน้าอย่างสุดชีวิต
ยิ่งฆ่ามากเท่าใด ก็ยิ่งเผยความป่าเถื่อนออกมา
เขาได้กลายเป็อสูรร้าย ผู้ไร้ซึ่งความปรานี และมองกลุ่มคนกว่าห้าร้อยคนตรงหน้า ไม่ต่างไปจากแกะตัวน้อย
“ย๊าก......!”
กู่ไห่ยังคงลงมือสังหารต่อไป โดยใช้กระบี่เจวี๋ยเซิงเข้าต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่หยุดพัก
จนในตอนนี้ บนร่างมีาแจากการต่อสู้เพิ่มขึ้นถึงสามแห่ง ในมือยังคงกุมกระบี่เจวี๋ยเซิงไว้มั่น
ชายหนุ่มแสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยว พร้อมเอ่ย “ข้าบอกแล้ว ว่าจะมากุดหัวเ้า!”
สิ้นคำพูดที่น่ากลัวนั่น กระบี่ยาวก็พุ่งไปยังร่างของชายคนหนึ่ง ซึ่งถูกตรึงไว้ เพียงพริบตา ผู้ฝึกตนระดับแก่นทองคำคนนั้นก็กลายเป็โครงกระดูก และหล่นกระจายไปทั่วพื้นเบื้องล่าง ก่อนที่กลุ่มควันสีดำจะย้อนกลับไปวนรอบกายกู่ไห่เช่นเดิม เพื่อทำการสังหารผู้อื่นต่อไป ตามแต่ใจของผู้เป็นาย
บริเวณรอบนอก ชาวบ้านเกือบสองหมื่นคน และผู้ฝึกตนหลายร้อยคน ยังคงได้ยินเสียงกรีดร้องด้วยความทรมานของคนครึ่งอสูร ออกมาจากด้านในอย่างต่อเนื่อง
พวกชาวบ้านจึงพากันโห่ร้องอย่างสาแก่ใจ
ส่วนผู้ฝึกตนหลายร้อยคน กลับพากันตื่นตะลึง
“เสียงร้องที่ได้ยิน มีมากถึงสามร้อยห้าสิบเสียงแล้วหรือ? กู่ไห่สังหารอสูรไปมากมายขนาดไหนกัน?”
“เขามิใช่ผู้ฝึกตนระดับก่อ์หรอกหรือ?”
“ที่พวกเรามายังเกาะจิ๋วหวู่ เพื่อแย่งชิงลูกท้อร้อยปีจากกู่ไห่ ดูเหมือนจะเป็เพียงความฝันแล้วละ”
เสียงกรีดร้องโหยหวน ยังคงดังออกมาจากค่ายกลใหญ่ กลุ่มผู้ฝึกตนที่ได้ยิน ต่างพากันลอบกลืนน้ำลายด้วยความหวาดหวั่น
ผู้ฝึกตนหลายร้อยคนที่อยู่ด้านนอก ยังคงเสียวสันหลังวาบ แม้แต่กลุ่มศิษย์ครึ่งอสูรที่อยู่ในค่ายกล ก็รู้สึกสะพรึงกลัวไม่แพ้กัน
พรรคพวกของเขากว่าห้าร้อยคน ถูกกู่ไห่สังหารไปเกินครึ่ง แม้ว่าอีกฝ่ายจะได้รับาเ็ และมีาแมากมายกระจายทั่วร่าง แต่พละกำลังของเขา ดูจะไม่ลดลงแม้แต่น้อย ไม่มีอาการเหนื่อยล้า กลับกัน ยิ่งเขาฆ่าไปมากเท่าใด ก็ยิ่งดูสดชื่น ชายหนุ่มในตอนนี้ ป่าเถื่อนยิ่งกว่าอสูรเช่นพวกเขาเสียอีก
“อย่ามัวแต่กิน รีบออกไปช่วยกันเร็วเข้า รีบไปฆ่ากู่ไห่เดี๋ยวนี้!” เหล่าอาจารย์าุโ ตวาดใส่กลุ่มอสูรในหุบเขาอย่างเกรี้ยวกราด
ได้ยินเช่นนั้น กลุ่มคนครึ่งอสูรกว่าสี่ห้าพันตน ก็ทะยานออกจากหุบเขา ตรงไปยังชายหนุ่มที่อยู่ไกลออกไป
กู่ไห่เพียงคนเดียว แต่กำลังไล่ล่าคนครึ่งอสูรกว่าร้อยตน?
ดวงตาของศิษย์ครึ่งอสูรต่างสั่นระริก เมื่อมองภาพตรงหน้า
“ฆ่ากู่ไห่ ระวังกระบี่ของมันด้วย!”
“ย๊าก!”
ครึ่งอสูรสี่ถึงห้าพันตนคำรามก้อง พร้อมกระโจนเข้าใส่กู่ไห่ทันที
แม้แต่ชายหนุ่มที่เตรียมใจเอาไว้แล้ว ก็ยังเกิดอาการใจสั่นหวั่นไหว เมื่อเห็นจำนวนศัตรูที่พุ่งเข้ามา
อย่างไรก็ตาม กู่ไห่ไม่มีความคิดที่จะถอยหนี ยังคงปราดเข้าหากลุ่มคนตรงหน้า ด้วยท่าทีที่น่ายำเกรง
ตูม!
พลังกระบี่พุ่งออกไป พร้อมแรงพิโรธที่โหมกระหน่ำ
“อ๊าก!”
ไม่รอช้า ชายหนุ่มทะยานร่างโจมตีฝูงชนตรงหน้าอย่างเต็มกำลังทันที
“อสูร... พวกเ้าคืออสูร ฆ่าเสียให้สิ้น! ฮ่าๆๆๆ!” เสียงหัวเราะอันโเี้ของกู่ไห่ดังขึ้น ท่ามกลางกลุ่มคนครึ่งอสูร
ฉึกๆ!
การเข้าจู่โจมในครั้งนี้ ทิ้งาแลึกไว้บนร่างกู่ไห่ ความเ็ปเหลือคณาแล่นเข้าสู่สมอง แต่ชายหนุ่มกลับไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย ไม่ว่าาเ็มากเพียงใด ก็มิใช่เื่ใหญ่ เขายังคงวิ่งตรงไปเพื่อสังหารเหล่าอสูร
แต่ก็มิใช่ว่าจะกระหายการฆ่าฟัน จนไร้ซึ่งสตินึกคิด ชายหนุ่มหลีกเลี่ยงผู้ฝึกตนระดับหยวนอิง แล้วพุ่งเข้าใส่กลุ่มอสูรระดับก่อ์ เช่นเดียวกับตัวเอง
อสูร... ฆ่ามัน สังหารเสียให้สิ้น!
เสื้อคลุมบนร่างของกู่ไห่ปลิวไสว แผ่ตัวเป็วงกว้าง ดูราวกับจอมปีศาจ กำลังไล่ล่าเอาชีวิตอสูรนับพันกระนั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้