ขณะที่หยางหนิงกำลังเตรียมที่จะขุดกำแพงให้เป็ปากถ้ำนั้น ก็ได้ยินกู้ชิงฮั่นพูดขึ้นมาว่า “หนิงเอ๋อร์ มือของข้าไม่มีแรงเลย มัน...มันมัดไม่ได้!” เสียงของนางอ่อนแรงยิ่งนัก
หยางหนิงเก็บมีดสั้น แล้วพูดเบาๆ ว่า “เดี๋ยวข้าช่วยท่านเอง” เขาอาศัยความรู้สึกขยับเข้าหากู้ชิงฮั่น สายตาเริ่มชินกับความมืดแล้ว ถึงแม้จะมองไม่ชัด แต่ก็สามารถมองเห็นภาพของกู้ชิงฮั่นคร่าวๆ ได้ เขาเห็นกู้ชิงฮั่นลุกขึ้นนั่ง เขายื่นมือไปรับผ้าจากมือกู้ชิงฮั่นมา แล้วอ้อมไปทางด้านหลังของกู้ชิงฮั่น ช่วยนางมัดผ้าปิดจมูก
ในเวลานี้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมาก ถึงแม้หยางหนิงจะปิดจมูกไว้แล้ว แต่ก็รู้สึกว่ากลิ่นของดอกไห่ถังมันยังหอมอยู่เนืองๆ ไม่เพียงแค่นั้น กลิ่นหอมจากตัวของกู้ชิงฮั่นเองก็ลอยเข้ามาในจมูกเช่นกัน เมื่อกลิ่นทั้งสองมารวมกันหยางหนิงรู้สึกว่ามันหอมอย่างบอกไม่ถูก คิดอยากจะสูดมันเข้าไปตลอด
แต่ว่าเขารู้ดีว่า กลิ่นดอกไห่ถังจู่ๆ ก็ลอยมาเช่นนี้ มันไม่ควรดมเข้าไป
เขาช่วยกู้ชิงฮั่นปิดผ้าจนเสร็จ ขณะที่กำลังจะกลับไปที่ริมกำแพง ก็เห็นกู้ชิงฮั่นพุ่งตัวเข้ามาจากด้านหลัง ปฏิกิริยาแรกของหยางหนิงก็เหมือนจะกอดนางไว้ เมื่อััถูกตัวของนางก็รู้สึกได้ว่ามันอ่อนนุ่มเหลือเกิน ผมของกู้ชิงฮั่นมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เขารีบย้อนถามกลับไปว่า “ซานเหนียง ท่านเป็อะไรไป?”
กู้ชิงฮั่นถูกหยางหนิงกอดเอาไว้ ก็รู้สึกแปลกๆ ใบหน้าของนางเริ่มร้อนผ่าว คิดอยากจะลุกขึ้นนั่ง แต่ว่าร่างกายของนางก็ไม่มีเรี่ยวแรง คิดอยากจะเอนตัวลงนอนตลอดเวลา นางพูดด้วยน้ำเสียงไม่มีแรงว่า “หนิงเอ๋อร์ เ้า... เ้าปล่อยให้ข้าเอนกายเถอะ ข้ารู้สึกเหนื่อย เ้า... เ้าปล่อยข้าก่อน!” เสียงของนางอ่อนแรงนัก
ตอนนี้หยางหนิงรู้สึกว่าเืในกายของตัวเองกำลังสูบฉีดอย่างแรง กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว แต่ในชั่วขณะนั้นเขาก็ตั้งสติได้ รีบปล่อยกู้ชิงฮั่นลง แล้วเว้นระยะจากนาง แล้วพูดเบาๆ ว่า “ซานเหนียง ท่านรอก่อนนะ พวกเรา... พวกเราจะได้ออกไปแล้ว” เขาเห็นกู้ชิงฮั่นบิดตัวไปมาอยู่ที่พื้น มือของเขาก็จับมีดสั้นไว้แน่น แล้วก็จับไปที่กำแพงอีกครั้ง
หยางหนิงคลำไปที่กำแพง รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองร้อนราวกับไฟเผา จึงถอดเสื้อตัวนอกออก แต่ก็รู้สึกว่าเหมือนจะไม่มีประโยชน์อันใด เืลมภายในมันสูบฉีดมาก เขารู้สึกใ แอบคิดว่าหรือว่าในลมปราณที่อยู่ในจุดตันเถียนของเขาจะกำเริบขึ้นมา?
ต้วนฉางไห่สั่งเอาไว้ว่าห้ามเขาเดินลมปราณเด็ดขาด เขาจำได้ขึ้นใจ ตอนนี้ก็ไม่ได้มีโอกาสจะเดินลมปราณ แต่ตอนนี้เืในตัวเขาไหลเวียนสูบฉีดแปลกๆ
“หนิงเอ๋อร์ เ้า... เ้าทำอะไรอยู่?” กู้ชิงฮั่นนอนอยู่ที่พื้น บิดตัวไปมา เสียงอ่อนโยนที่เย้ายวน “ข้าเหมือนจะ... เหมือนจะไม่สบาย ร่างกายมันร้อนราวกับไฟเผาเลย...!”
หยางหนิงใ เหมือนกับว่าเขานึกอะไรออก
ตอนแรกเขานึกว่าร่างกายของเขาร้อนเพราะลมปราณที่จุดตันเถียน แต่กู้ชิงฮั่นไม่เคยเรียนวรยุทธ์ แต่ตอนนี้ร่างกายก็รู้สึกร้อนเช่นกัน ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่ามันไม่น่าจะใช่ปัญหาของลมปราณ และน่าจะเป็เพราะกลิ่นดอกไห่ถังที่ลอยมา
ขณะที่อีกฝ่ายจับกู้ชิงฮั่นมา ก็ใช้ยาสลบ แสดงว่ากลิ่นของดอกไห่ถังก็น่าจะเป็ฝีมือของอีกฝ่ายแน่นอน
“หนิงเอ๋อร์ พื้นมันเย็นมากเลย เ้า... เ้ามาพยุงข้าที” น้ำเสียงของกู้ชิงฮั่นเย้ายวนยิ่งนัก พอหยางหนิงได้ยิน ก็รู้สึกว่าตัวเองพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้แค่รู้สึกว่าความร้อนในร่างกายมันเพิ่มมากขึ้น เืลมสูบฉีดแทบจะะเิออก ในใจก็แอบคิดว่าหรือว่ากลิ่นดอกไห่ถังนี่จะเป็ยาปลุกอารมณ์?
กู้ชิงฮั่นพูดด้วยความอ่อนโยนว่า “เ้ารีบมานี่เร็วๆ สิ เ้า... เ้าไม่เชื่อฟังข้าแล้วรึ?”
หยางหนิงรู้ดีว่าหากตัวเขาโดนยาปลุกจริง กู้ชิงฮั่นเองก็ไม่น่ารอด ตัวเองเป็ผู้ชายและผู้ชายก็ความ้าสูง แรงของกู้ชิงฮั่นสู้แรงเขาไม่ได้แน่นอน หากเข้าใกล้กู้ชิงฮั่นในตอนนี้ ไม่น่าจะเป็เื่ดี เขาไม่ได้เป็ห่วงว่าทั้งสองคนจะมีอะไรกันหรือไม่ เพราะอย่างไรเสียตัวเขาก็สวมรอยจิ่นอีโหว ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับกู้ชิงฮั่นเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าหากเื่แบบนี้แพร่งพรายออกไป มันก็จะไม่เป็ผลดีกับตัวกู้ชิงฮั่น
อีกทั้งอีกฝ่ายก็ปล่อยกลิ่นดอกไห่ถังมา เป้าหมายก็เพื่อให้พวกเขามีอะไรกันในคลังหินนี่ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำเพื่ออะไร แต่ในใจรู้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็จะให้มันเกิดขึ้นไม่ได้เด็ดขาด
“โอ๊ย!” ทันใดนั้นเองกู้ชิงฮั่นก็ร้องขึ้นมา เหมือนชนถูกอะไรเข้า หยางหนิงรีบถามขึ้นว่า “ซานเหนียง ท่าน...ท่านเป็อะไรไป?”
“หนิงเอ๋อร์ ขาของข้า...!” กู้ชิงฮั่นพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่า “เ้ารีบมาตรงนี้ ข้า...ข้าจะตายแล้ว...!” ฟังน้ำเสียงของนางแล้ว มันช่างทรมานยิ่งนัก
หยางหนิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อให้ตัวเองเย็นลง แล้วคลำเข้าไปหากู้ชิงฮั่น แล้วถามว่า “ชนถูกอะไรเข้าหรือไม่?”
เขาเข้าไปใกล้กู้ชิงฮั่น ทันใดนั้นเองก็รู้สึกว่ามือของเขาถูกจับเอาไว้ กู้ชิงฮั่นใช้มือเรียวๆ ของนางจับแขนของเขาเอาไว้ หยางหนิงตัวสั่นไปทั้งตัว กู้ชิงฮั่นพูดขึ้นว่า “เ้า...เ้าพยุงข้าขึ้นมาก่อน ข้าไม่มีแรงเลย ลุกไม่ขึ้น...!”
เมื่อเข้าใกล้ เขาก็รู้สึกได้ว่ากู้ชิงฮั่นหายใจแรงกว่าเมื่อครู่นี้มาก
หยางหนิงร้อนไปทั้งตัว กำลังจะเอ่ยปากพูด ก็ได้ยินกู้ชิงฮั่นพูดขึ้นมาก่อนว่า “เมื่อครู่นี้เ้าไม่เชื่อฟังข้าใช่หรือไม่? เดี๋ยวนี้เ้า...เ้ากล้าเกินไปแล้วนะ...!” นางยกมือขึ้นมา แล้วตีไปที่หน้าของหยางหนิง นางไร้เรี่ยวแรง มือที่ตีไปนั้นก็ไม่มีแรง เหมือนกับลูบคลำหน้าธรรมดา จากนั้นใช้มือโอบไปที่ไหล่ของหยางหนิง แล้วพูดเหมือนคนี้เีว่า “เ้า...เ้าพยุงข้าขึ้นไปสิ”
มือของนางวางอยู่ตรงหน้าอกของเขา หยางหนิงรู้สึกว่ากู้ชิงฮั่นเอวบางร่างน้อย กลิ่นหอมลอยเข้าจมูกเรื่อยๆ ในสมองร้อนไปหมด แล้วพูดขึ้นว่า “ข้า...ข้าจะพยุงท่านขึ้นมานะ...!” เขารู้สึกว่าลมหายใจของกู้ชิงฮั่นอยู่ตรงหน้าเขา เขาเห็นใบหน้าของกู้ชิงฮั่นอยู่ห่างจากเขาเพียงสองนิ้วมือ ไม่รู้อะไรดลใจเหมือนอยากจะเข้าหาตลอดเวลา
กู้ชิงฮั่นโอบคอของหยางหนิงเอาไว้ แล้วก็พุ่งตัวเข้ามา น้ำเสียงเหมือนอยู่ในความฝัน “เ้ากอดข้าสิ ทำเช่นนี้...ถึงจะสบาย...!”
เสียงอ่อนแรงของนางทะลุเข้าหูหยางหนิง หยางหนิงเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ถึงแม้อยู่ในความมืดเห็นหน้าของกู้ชิงฮั่นไม่ชัดนัก แต่ในหัวกลับเห็นหน้าสวยๆ ของกู้ชิงฮั่นลอยเข้ามา ได้ยินเสียงลมหายใจของกู้ชิงฮั่น ปกติก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ตอนนี้กลับบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร ปากของนางกำลังใกล้เข้ามาหาเขาเต็มที ลมหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนรู้สึกว่าริมฝีปากอันเร่าร้อนกำลังัักับปากของเขา ตอนนี้เขาลืมไปแล้วว่าทั้งคู่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่
“หนิงเอ๋อร์ ช่วยข้า...ช่วยข้าถอดชุดของข้าออกที มันอึดอัด...!” กู้ชิงฮั่นพูดจาไม่รู้เื่ “ข้า...ข้าหายใจไม่ออก...!”
เมื่อนางพูดมาเช่นนี้ ร่างกายของหยางหนิงก็สั่นไปทั้งตัว ถึงแม้ตัวเขาจะร้อนจนทรมาน แต่ในตอนนี้กลับมีสติ จากนั้นเขาก็รีบผลักกู้ชิงฮั่นออก แล้วถอยหลังไป พิงติดกำแพง
เขากำลังสับสน แต่ในความสับสนของเขาก็ยังมีสติอยู่
ถึงแม้เสียงของกู้ชิงฮั่นนั้นไม่ชัดเจน แต่มันกลับน่าหลงใหลยิ่งนัก หยางหนิงรู้ว่า นางเป็คนนิ่งและระวังตัว ในสถานการณ์ปกติ ไม่มีทางมีปฏิกิริยาเช่นนี้ ตอนนี้เป็เพราะฤทธิ์ยา ทำให้นางขาดสติ
“เ้าผลักข้า...ผลักข้าทำไม?” กู้ชิงฮั่นยังคงเหมือนอยู่ในฝันแล้วพูดว่า “เ้ามาตรงนี้เดี๋ยวนี้นะ...!”
หยางหนิงยกมือขึ้นมาเช็ดหน้า ตอนนี้เขาเหงื่อออกท่วมตัว แอบคิดในใจว่าอีกฝ่ายกล้าใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้ ยาปลุกชนิดนี้ฤทธิ์แรงยิ่งนัก แม้แต่กู้ชิงฮั่นยังขาดสติไปในระยะเวลาอันสั้นได้ เขาพูดเสียงเข้มๆ ขึ้นมาว่า “ซานเหนียง ท่านรีบนึกให้ออกเร็ว จวนโหวของพวกเรามีคนกี่คน แต่ละคนได้เงินเดือนคนละเท่าไหร่?”
เขาหวังว่ากู้ชิงฮั่นจะนึกถึงเื่อื่น เพื่อเบี่ยงประเด็นเื่อารมณ์นี้ไป
เขาเองก็พยายามไม่ไปฟังอะไรที่กู้ชิงฮั่นพูด ในหัวของเขาคิดแต่เื่ที่อีกฝ่ายทำ อีกฝ่ายคิดใช้ยาปลุกให้ตัวเองกับกู้ชิงฮั่นมีอะไรกันในคลังหินนี่ พวกเขาทำเช่นนี้เพื่ออะไรกัน?
“ฉีหนิง เ้าเป็จิ่นอีซื่อจื่อ อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ย่อมได้ แต่ว่าผู้หญิงแบบนี้ เ้าคิดจะได้ก็ได้” ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงมาจากข้างนอก “พวกข้าสร้างโอกาสให้เ้าแล้ว เ้าต้องคว้ามันไว้ให้ดี ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสอย่างนี้อีก”
หยางหนิงรู้สึกโกรธมาก ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตู แล้วตะคอกกลับไปว่า “เ้าพวกต่ำช้า พวกเ้าทำอย่างนี้ทำไมกัน?”
“ฮูหยินสามแห่งตระกูลฉีงดงามดุจนางฟ้า เ้าเห็นร่างกายนั่นไหม ส่วนไหนควรมีเนื้อมีหนังก็มี ส่วนไหนที่ควรมีก็มี ส่วนไหนที่ควรเว้าโค้งก็เว้าโค้ง นางเป็สาวงามหนึ่งในหมื่นคนเลยนะ” เขาพูดเสียงเข้มๆ อีกว่า “ของดีๆ แบบนี้ หากท่านพลาดไป ชาตินี้ก็เสียชาติเกิดเลยนะ ซื่อจื่อ ทำช้าไม่สู้รีบทำ พวกท่านชายหญิงอยู่ในห้องกันสองต่อสอง บวกกับฤทธิ์ของควันไห่ถัง อย่างไรเสียพวกท่านก็ทนไม่ไหวหรอก”
“ควันไห่ถังอย่างนั้นรึ?” หยางหนิงยิ้มแล้วพูดว่า “เ้าคิดว่าอาศัยแค่กลิ่นหอมเช่นนี้ จะทำให้ข้าทำผิดพลาดได้หรือ?”
“พวกข้าอาจจะทำให้ท่านทำไม่ได้ แต่ฮูหยินสามจะทนได้รึ?” เสียงนั้นพูดอีกว่า “อย่าว่าแต่เ้าเป็ชายชาตรีเลยแม้แต่ขันที เมื่อได้กลิ่นควันไห่ถัง ก็ทนไม่ไหว ท่านวางใจได้ ที่นี่ไม่มีคนอื่น พวกท่านค่อยๆ ดื่มด่ำกันให้เต็มที่พวกข้าจะเฝ้าอยู่ด้านนอกให้ ตอนนี้ท่านยังไม่ได้ััตัวของฮูหยินสามเลย รอเมื่อท่านได้ลิ้มลองแล้ว จะรู้สึกขอบคุณพวกข้าก็ได้ ถึงตอนนั้นต่อให้พวกข้าปล่อยพวกเ้าออกมา เ้าก็อาจจะไม่อยากออกมาแล้วก็ได้”
หยางหนิงถือมีดสั้นในมือ ตอนนี้อยากจะรีบพุ่งออกไปนอกประตูยิ่งนัก
“นี่มันเพิ่งเริ่มต้น เวลาอีกยาวนาน ยานี้มีฤทธิ์ร้ายแรง” น้ำเสียงค่อยๆ พูดต่อไป “ตอนนี้ซื่อจื่ออาจจะทนไหว แต่อีกเดี๋ยว ต่อให้เทพเ้าก็ยากที่จะควบคุมตัวเองได้ เมื่อถึงตอนนั้น ท่านก็จะเหมือนสัตว์ป่า ขาดสติ แม้แต่ตัวท่านเองก็จะไม่รู้ว่าท่านทำอะไรลงไป หากไม่ได้มีอะไรกัน ฤทธิ์ยาก็จะไม่หายไป” เขาหัวเราะเบาๆ “ข้าว่าพวกท่านรีบมีอะไรกันจะดีกว่านะ อย่างน้อยก็จะได้รู้สึกสบาย เพราะอีกเดี๋ยวก็จะไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปแล้ว ก็จะไม่รู้ว่าฮูหยินสามนั้นรสชาติดีเพียงใด”
เมื่อสิ้นเสียงของคนคนนั้น ก็ได้ยินเสียงเหมือนสุนัขลอยมา หยางหนิงขมวดคิ้ว ในใจคิดว่าคนพวกนี้พาสุนัขมาด้วยหรือ
“ร้อนจังเลย...!” เสียงของกู้ชิงฮั่นลอยมาช่างเย้ายวนและทรมานนักว่า “ข้าอยากกินน้ำ...!” หยางหนิงหันไปดู เห็นกู้ชิงฮั่นกำลังลูบคลำกำแพง ลุกขึ้นมานั่ง มือทั้งสองพยายามฉีกเสื้อผ้าของตัวเองทิ้ง ในใจของเขาก็ใ รู้ว่ากู้ชิงฮั่นน่าจะถูกยาแรงมากแล้ว
ถึงแม้หยางหนิงจะยังมีสติอยู่ แต่ในตอนนี้ร่างกายของเขาก็เหมือนอยู่ในเตาอบ เืในตัวของเขามันไหลเวียนรุนแรงมาก ในใจของเขาคิดว่าในสถานการณ์เช่นนี้หากเขาััถูกกู้ชิงฮั่น เื่หลังจากนั้นกู้ชิงฮั่นจะต้องตายแน่นอน เขาเลยพยายามข่มใจของตัวเองไว้
เขาไม่กล้าเข้าใกล้กู้ชิงฮั่นแม้แต่น้อย แล้ววิ่งกลับไปที่กำแพง ใช้มีดสั้น ขูดกำแพงหินอีกครั้ง เขาระวังมากกังวลว่าคนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน