ย้อนเวลากลับมาเป็แฟนหนุ่มที่ดีแบบ 300%
Chapter 11
/
(พาร์ทอดีต)
ความสัมพันธ์ของเรามันกลายเป็แบบนี้ั้แ่เมื่อไรนะ?
แซคตั้งคำถามกับตัวเองั้แ่ออกจากห้องจวบจนกระทั่งถึงบาร์ประจำที่มักจะมากับกลุ่มเพื่อนบ่อยครั้ง ซึ่งต่างจากวันนี้ที่เขาเลือกจะมาคนเดียวเพราะอยากจะทบทวนความรู้สึกของตัวเองเงียบ ๆ เพียงลำพัง...
แซคมีคนรักที่คบกันมาั้แ่ปีสอง อีกฝ่ายเป็พวกเข้าสังคมไม่เก่ง ทำอาหารไม่เป็ อินโทรเวิร์ตขั้นสุด แน่นอนว่าทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนต่างจากเขาโดยสิ้นเชิงและแซคเคยมองว่ามันไม่ได้แย่อะไร จนกระทั่งวันนี้
เรายังคงกอดกันเหมือนเดิม มีเซ็กซ์กันเหมือนเดิมและบอกรักกันเหมือนเดิม ทว่าสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคงเป็ความรู้สึกของเขาที่ไม่แม้แต่จะกล้ายอมรับว่ามันเริ่มน้อยลงเสียจนน่าใจหาย
เขาเบื่อหน่าย
รำคาญใจ
แต่ก็ไม่ได้อยากจบความสัมพันธ์
ครืด ครืด
เสียงมือถือที่ถูกวางไว้บนโต๊ะทรงสูงส่งเสียงร้องจ้าละหวั่น แต่กระนั้นเ้าของมันก็เลือกที่จะกดปิดเครื่องอย่างไม่สนใจไยดีทั้ง ๆ ที่เหลือบเห็นั้แ่แรกว่าเ้าของปลายสายคือคนรักที่เพิ่งมีปากเสียงกันไปเมื่อชั่วโมงก่อน
“มาคนเดียวเหรอครับ” ระหว่างที่กำลังขบคิดอะไรเพลิน ๆ เ้าของกลิ่นฟีโรโมนหอมฟุ้งก็ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ กัน โดยถือวิสาสะเท้าคางหันหน้ามาทางเขาด้วยรอยยิ้มที่ร้อยทั้งร้อยเห็นก็คงใจยวบไปตาม ๆ กัน
“ครับ” แซคตอบกลับอย่างมีมารยาท ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนเกือบหมด
“คุณดื่มไม่เป็เหรอ” อีกฝ่ายเอ่ยถาม
“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”
“ถ้าอยากลิ้มรสคุณควรจะค่อย ๆ จิบมัน ไม่ใช่กระดก...แบบนี้” นิ้วเรียวเกลี่ยลงบนกลีบปากหนาเบา ๆ ก่อนจะนำมันเข้าปากของตัวเอง แล้วใช้ปลายลิ้นทำความสะอาดแอลกอฮอล์ที่ติดนิ้วมาด้วยความบรรจง—แซคมองการกระทำเ่าั้ด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะเผลอเปรียบเทียบคนตรงหน้ากับจานินและพบว่าคนรักของตนนั้นช่างน่าเบื่อหน่าย ไร้ซึ่งความร้อนแรง
“ผมมีแฟนแล้ว” ไม่ใช่การบอกกล่าวแต่เป็เหมือนการเรียกสติตัวเองเสียมากกว่า
“แล้วไหนอะแฟน”
“ไม่ได้มาครับ”
“งั้นถือว่าไม่มีนะ”
บทสนทนาที่ดูติดขัดในคราแรก บัดนี้เริ่มไหลลื่นราวกับคนทั้งคู่รู้จักกันมานานโข, เสียงพูดคุยบวกกับเสียงหัวเราะในบางจังหวะทำให้ผู้คนรอบข้างรับรู้ถึงความเข้ากันของคนทั้งคู่ได้เป็อย่างดี แน่นอนว่าสองร่างที่ใบหน้าแทบจะชิดติดกันอยู่รอมร่อก็รู้สึกไม่ต่างกัน
“คุณดูเป็พวกรักอิสระเกินกว่าจะมีแฟน...ถามได้ไหมทำไมถึงตัดสินใจหาบ่วงมาคล้องคอตัวเอง” เ้าของเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสีขาวสะอาดเอียงคอลอบถามชายหนุ่มตรงหน้าอย่างน่ารัก และคนที่มีสติรับรู้ไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็เลือกที่จะพูดความจริงออกไป โดยไม่คำนึงว่ามันอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในอนาคต
“เขาเป็โอเมก้าตัวท็อปของรุ่นน่ะ ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นเมามั้ง อยู่ ๆ เขาเดินมาบอกชอบตอนแรกก็ไม่อะไรหรอก เฉย ๆ ด้วยซ้ำเพราะไม่ใช่สเปก...”
“ขอคั่นหน่อยดิ แล้วสเปกเธอนี่เป็แบบไหนเหรอ”
“แบบเธอมั้ง” เราสบตากันครู่หนึ่งก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาราวกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูดนั้นเป็เื่ตลกนักหนา คนตัวหอมอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะปล่อยให้คนตรงหน้าพูดต่อโดยที่ฝ่ามือของทั้งคู่เริ่มััปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างของกันและกัน...
“ผมรู้สึกชนะมั้ง อารมณ์แบบเออ คนชอบเขาตั้งเยอะแต่เขาดันมาชอบผมที่ไม่เคยคิดจะสนใจเขาเลย แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไปขอเขาคบคิดว่าสักสามเดือนค่อยขอเลิก แต่นี่ผ่านมาสามปีแล้วผมยังขึ้นจากหลุมที่ตัวเองขุดไม่ได้เลย ฮ่า ๆ” ยามนึกถึงใบหน้าน่ารักที่งอง้ำยามถูกเขากลั่นแกล้ง รอยยิ้มกว้างก็จุดขึ้นบริเวณมุมปากและในขณะเดียวกันความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่ข่มเอาไว้ก็กลับมามีบทบาทอีกครั้ง มือหนาที่เคยวางลงบนต้นขาขาวก็รั้งกลับมาวางลงบนหน้าขาตัวเองเช่นเดิม
“แล้วตอนนี้ยังมีความคิดจะเลิกอยู่ปะ”
“ไม่ อาจจะเบื่อบ้าง รำคาญบ้างแต่นึกภาพอนาคตที่ไม่มีเขาอยู่ไม่ออกจริง ๆ”
“ว้า เสียดายอะ อุตส่าห์จะรอเคลม” คนที่รับบทเป็ที่ปรึกษาให้แฟนชาวบ้านเอ่ยอย่างติดตลกก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มโดยที่ปล่อยให้หยาดน้ำสีอำพันไหลรินตามแรงโน้มถ่วงเสียจนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมใส่แนบลู่ลงไปกับผิวเนื้อจนเห็นยอดอกเต่งตึงวับ ๆ แวม ๆ
อึก
แซคกลืนน้ำลายลงลำคออันแห้งผากของตัวเอง เขาพยายามโฟกัสสายตาไปทางอื่นทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวร้อนรุ่มไปด้วยตัณหาราคะ
“หันมานี่เร็ว” สองมือประกบเข้าที่แก้มสาก ก่อนใบหน้าหวานจะเคลื่อนเข้าไปใกล้และหยุดลงในจังหวะที่ปลายจมูกของทั้งคู่ัักัน แซคผ่านเหตุการณ์เช่นนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังจะสื่ออะไร
ในเมื่อไม่ยอมเข้ามา เขานี่แหละจะล้ำเส้นออกไปเอง
สิ่งหนึ่งที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์คือความรู้สึกยับยั้งชั่งใจซึ่ง ณ เวลานี้แซคไม่มีมัน เขาโยนทิ้งทุกตรรกะบนโลกก่อนจะกระโจนลงขุมนรกที่ตัวเองสร้างขึ้นและปล่อยให้มันแผดเผาจนเหลือเพียงเถ้าธุลี
เราทั้งคู่เอากันไม่ต่างจากสัตว์ สอดใส่ ตอกตรึงอย่างรุนแรงและถี่รัว ทุกััที่เคยมอบให้คนรักในขณะเดียวกันเขามอบมันให้กับคนอื่นอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกผิด
แซคโทษฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ โทษโอเมก้าที่เข้ามายั่วยวนทั้ง ๆ ที่ในความเป็จริงหากเขาไม่สานต่อเซ็กซ์ครั้งนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด..
“อ๊ะ อา เรากับเมียเธอใครเด็ดกว่ากัน”
“ซี้ด ตอนนี้มีแค่เรา”
“...”
“อย่าเพิ่งพูดถึงคนอื่นเลย”
มวลความสุขสมพุ่งทะยานไปยังจุดสูงสุด มันทั้งตื่นเต้นและเร้าใจที่ได้ทำอะไร ๆ ลับหลังแฟน—คำสัญญา วาจาบอกรัก, เขาลืมสิ้นไปหมดแล้ว
/
“เจ็ดโมงเช้าไอ้แซค ตอนนี้มันเพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า!”
ฟากที่ถูกเพื่อนสนิทโทรปลุกให้ตื่นมารับที่ชั้นล่างของคอนโดหรู ชูนิ้วกลางใส่ไปหนึ่งทีด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
“เมื่อคืนทะเลาะกับจานินเหรอ เห็นมันโทรมาถามว่ามึงอยู่กับกูไหม” ทันทีที่ก้าวเข้ามาภายในห้องกว้าง ฟากที่มักจะเงียบขรึมอยู่เสมอก็ยิงคำถามใส่แขกไม่ได้รับเชิญอย่างตรงไปตรงมา ่นี้มันสองคนมีปัญหากันค่อนข้างบ่อย ห้องเขากับห้องไอ้แบร์จึงเป็ฐานลับที่ไอ้แซคมักจะใช้เป็ที่ซุกหัวนอนในบางครั้งบางครา
“อืม ทะเลาะกัน”
“แล้วนี่มึงไปนอนไหนมา”
“โรงแรม” แซคเอ่ยออกไปตามตรงก่อนจะสาวเท้ายาว ๆไปหยิบบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะกลางโซฟาพร้อมกับไฟแช็กจากนั้นจึงเดินออกไปยังระเบียงกว้างราวกับที่นี่เป็ห้องของตัวเองก็ไม่ปาน
เ้าของร่างสูงที่วันนี้ดูเงียบผิดปกติ สูดนิโคตินเข้าปอดหนัก ๆ พร้อมกับปล่อยความรู้สึกให้ดำดิ่งลงไปพร้อม ๆ กับกลุ่มควันที่เพิ่งพ่นออกมาเมื่อครู่ แซคมองมันลอยละล่องไปในอากาศก่อนจะค่อย ๆ จางหาย จะเหลือก็เพียงรสชาติขมปร่าและกลิ่นคละคลุ้งที่ติดอยู่ตามเนื้อตัว...
“ขอไฟแช็กหน่อย—”
“ฟาก”
“ว่า”
“กู...กูไปนอนกับคนอื่นมาว่ะ”
ภาพความทรงจำรวมถึงเสียงครวญครางเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนตีตื้นขึ้นมาในหัวสมองจนเขาต้องอัดบุหรี่เข้าปอดอีกครั้งเพื่อหวังระบายความอัดอั้นภายในใจ
“มึงหมายความว่าไงแซค”
“กูไปเอากับคนอื่นมา เพิ่งไปเอากันมา—”
พลั่ก!
หมัดลุ่น ๆ ถูกหวดใส่ใบหน้าหล่อเต็มแรง ก่อนที่ฟากจะรั้งหัวไหล่แกร่งให้เข้ามาใกล้แล้วผลักร่างกำยำให้ล้มลงไปนอนกับพื้นและขึ้นคร่อมเพื่อซัดหน้ามันอีกหลาย ๆ รอบ
“มึงทำได้ไงวะไอ้เหี้ย”
“อึก”
“ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากมาย แต่จานินแม่งก็เพื่อนกู ถ้าไม่รักมันแล้วก็แค่เดินไปบอกเลิกไม่ใช่มาแอบทำตัวลับหลังเหี้ย ๆ แบบนี้!” ฟากสาดคำพูดรวมถึงอารมณ์ใส่คนที่นอนหายใจโรยรินอย่างไม่ยั้ง ใจจริงอยากจะฆ่ามันให้ตายไม่ก็กระทืบให้จมตีนเผื่อเืชั่ว ๆ ของแม่งจะถูกระบายออกบ้าง
“มึงไม่เคยมีแฟน แฮก มึงจะไปเข้าใจเหี้ยอะไร”
“งั้นรบกวนคนนอกใจแฟนอย่างมึง สงเคราะห์ให้คนไม่มีใครเข้าใจการกระทำเหี้ย ๆ ของมึงหน่อยเถอะ”
“กูไม่เคยนอกใจจานิน มะ...มันแค่พลาด”
“ถุย! เมื่อคืนพวกมึงเยXกันไปกี่รอบล่ะ ถ้าเกินหนึ่งรอบอันนี้ไม่เรียกว่าพลาดนะไอ้แซค”
“...”
“ถ้าหมดรักก็แค่เลิกราปะวะ”
“กะ...กูไม่รู กูไม่ได้อยากเลิก ฮึก ชีวิตที่มีเขามันดี ดีเหี้ย ๆ เลยมึงก็รู้”
“แต่มึงตอบแทนเขาแบบนี้น่ะเหรอ?”
“...”
“มึงเห็นแก่ตัวฉิบหายเลยแซค ปัญหานี้มึงก่อ มึงก็ต้องแก้เอง กูจะเตือนมึงแค่ครั้งเดียวไม่พูดซ้ำแต่ถ้ามึงยังเลือกที่จะทำระยำ ๆ อันนั้นก็สุดแต่มึงเถอะ”
...ชายหนุ่มใช้เวลาเยียวยาตัวเองเพียงลำพังซึ่งในระหว่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะตอบแชตคนรักเป็ระยะ ๆ เพราะไม่อยากให้อีกคนต้องเป็ห่วง นานเท่าไรแล้วก็ไม่รู้ที่เขาไม่ได้เฝ้ารอแชตจากใครบางคน ไม่ได้ตอบกลับในทันทีและเลือกที่จะปัดมันทิ้งอย่างละเลย
รสชาติเซ็กซ์ที่เคยหวานล้ำบัดนี้นั้นกลับห่วยแตก
อ้อมกอดที่เคยชอบนักหนาบัดนี้กลับกลายเป็เถาวัลย์ที่รัดแน่นจนหายใจไม่ออก
จากที่เคยมองหน้าคน ๆ หนึ่งได้เป็วัน ๆ ณ ตอนนี้นั้นแค่เผลอสบตาเพียงเสี้ยววิก็ผินหน้าหนีอย่างนึกรำคาญ
แกร๊ก!
เสียงปลดล็อกประตูห้องทำให้คนที่นั่งกำสมาร์ตโฟนแน่นผุดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินเข้าไปหาคนรักที่มีปากเสียงกันเมื่อหลายวันก่อน จานินดวงตาร้อนผ่าวใช้สองแขนโอบกอดบั้นเอวของคนตรงหน้าเอาไว้แแ่ ห้องที่ไม่มีแซคมันกว้างเกินไป โดดเดี่ยวเกินไปจนเขารู้สึกกลัว
“เราขอโทษ” จานินไม่สนว่าใครถูกผิด เขาเอ่ยขอโทษอีกฝ่ายจากใจจริงก่อนจะรู้สึกบอบช้ำยิ่งกว่าเดิมเมื่อคนที่ควรจะกอดตอบกลับยืนนิ่งมิต่างอะไรจากหุ่นไล่กา
“ปล่อยก่อน แซคจะไปอาบน้ำ เหนียวตัว” ฝ่ามือหนาวางลงบนหัวไหล่ทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อย ๆ ดันตัวเขาออกห่างและในจังหวะที่ร่างบางเงยหน้าสบตาคนรัก ก้อนเนื้อในอกซ้ายกลับปวดหน่วงขึ้นมาเสียจนน้ำตาแทบรินไหล
แววตาของอีกฝ่ายนั้นช่างว่างเปล่าและเฉยชาจนน่าใจหาย
“อือ รีบ ๆ นะ เราสั่งไก่ทอดเ้าประจำมา—”
“เธอกินเลย แซคไม่หิว” ตอบปัดอย่างไร้เยื้อใยก่อนจะสาวเท้ายาว ๆ ออกจากบริเวณนี้โดยทิ้งให้จานินยืนนิ่งเพียงลำพัง...แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายแสดงออกว่ารำคาญกันนักหนา ทว่าเขาก็ไม่ชินชากับมันเสียทีซ้ำยังรู้สึกเ็ปทุกครั้งเมื่อรับรู้ว่าแววตาคู่นั้นไม่มีความรักให้กันอีกต่อไปแล้ว
หลังจากที่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานนานสองนาน ร่างบอบบางก็ตัดสินใจเผชิญหน้ากับความเป็จริง จานินย่างกรายเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ กับตัวเองเมื่อพบว่าคนรักกำลังนอนหลับซ้ำยังส่งเสียงกรนในลำคออย่างน่าเอ็นดู...
เขาเตรียมจะเดินไปปลุกให้อีกฝ่ายปรับเปลี่ยนท่านอน เพราะหากตื่นขึ้นมาแล้วเจ็บคอจะลำบากเอาได้ แต่ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้นสายตาดันเหลือบไปเห็นสมาร์ตโฟนที่วางอยู่บนหัวเตียงก่อนความคิดในแง่ร้ายจะสั่งให้หยิบมันขึ้นมาซึ่งแน่นอนว่าจานินทำตามอย่างไม่มีขัดข้อง
…คนตัวขาวพร้อมกับเครื่องมือสื่อสารของคนรักพากันเข้ามาหลบอยู่ภายในห้องน้ำเพื่อตรวจเช็กบางอย่างหวังคลายความรู้สึกหวาดระแวงของตัวเองลง—ตัวเลขเดียวกันจำนวนหกตัวถูกกรอกลงเพื่อปลดล็อกสมาร์ตโฟนอย่างคล่องแคล่ว ปลายนิ้วเรียวกดเข้าแอปพลิเคชันยอดฮิต ก่อนจะไล่เปิดดูทีละห้องแชตอย่างตั้งใจแต่กระนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนกระทั่ง...
เธอไม่ใช่บ้านของเราแล้ว
น่ารำคาญ
เบื่อ ไม่อยากเห็นหน้า
ชีวิตที่มีเธอมันไม่สนุกแล้ว
โคตรรำคาญ
รำคาญจานินฉิบหาย
อยากไปไกล ๆ ไม่อยากเห็นหน้า
แม่ง โคตรน่าเบื่อ
ข้อความยาวเหยียดที่เต็มไปด้วยถ้อยคำรุนแรงถูกส่งไปยังห้องแชต Keep memo และเท่า ๆ ที่ไล่ดูจากวันที่เ้าของสมาร์ตโฟนเครื่องนี้จมอยู่กับความรู้สึกเบื่อ รำคาญ ไม่อยากเจอหน้ามาเกินครึ่งปีแล้ว จานินไม่รู้เลยว่าระหว่างจับได้ว่าอีกฝ่ายนอกใจกับการที่ต้องมานั่งอ่านความในใจเหล่านี้อันไหนมันปวดใจมากกว่ากัน
เขาไม่รู้
ไม่รู้เลยจริง ๆ
จานินกดออกจากหน้าต่างแชตพร้อมกับปัดแอปพลิเคชันทิ้งทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาวางสมาร์ตโฟนเอาไว้ที่เดิมก่อนจะกระชับผ้าห่มให้คนรักแล้วเดินจากไปพร้อมกับเศษใจที่หวังจะนำมันประกอบขึ้นมาใหม่เป็ครั้งที่เท่าไรก็ไม่แน่ใจนัก เขาอยากทำตามความ้าของอีกฝ่ายแต่กระนั้นจานินก็ขลาดเกินกว่าจะเป็ฝ่ายบอกลาทั้ง ๆ ที่ใจนั้นยังรู้สึก...
เสียงลากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามทำให้คนที่นั่งมองไก่ทอดอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับคนรักที่ยังคงมีสีหน้างัวเงียแต่กระนั้นความดูดีก็ไม่ได้ถูกลดทอนลงเลยแม้แต่น้อย
“ตื่นแล้วเหรอ” จานินเอ่ยถาม
“ครับ”
“เธอจ้องให้ตายมันก็ไม่แปลงร่างหรอก”
“นั่นน่ะสิ”
บทสนทนามีเพียงเท่านั้นก่อนที่มือหนาจะฉีกน่องไก่แล้ววางมันลงบนจานใครบางคนด้วยความเคยชิน มันเป็ส่วนที่อร่อยที่สุดและแซคอยากให้เธอได้กิน ครั้งหนึ่งอีกฝ่ายเคยบอกกับเขาเช่นนั้น
“ฮึก”
“ร้องไห้ทำไมครับ”
“ป...เปล่า แค่เผ็ดน่ะ”
แค่เผ็ดเหรอ?
ร่างสูงกัดมันเข้าปากคำใหญ่ก่อนจะพบว่ามันไม่เผ็ดเลยสักนิด
“อืม เผ็ดจริงด้วย”
ทว่าเขาตอบในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความคิด เพราะไม่อยากมานั่งใส่ใจหาเหตุผลกับเื่ของอีกฝ่ายต่อไปแล้ว
/
วันเวลาผันผ่านแต่ทว่าความสัมพันธ์ไร้วี่แววที่จะดีขึ้น มีแต่จะแย่ลงและแย่ลงในทุก ๆ วัน จากที่เคยนอนร่วมเตียงกันทุกค่ำคืน บัดนี้เหลือเพียงสามวันต่อสัปดาห์, จากที่เคยบอกรักกันทุกครั้งที่มีโอกาส บัดนี้กลายเป็คำตอบตัดรำคาญในทุก ๆ ครั้งที่เขาเอ่ยถามว่ารักกันไหม
“นี่มันกี่โมงแล้ว ไหนบอกจะกลับห้าทุ่ม?” ทันทีที่ใครบางคนก้าวเข้ามาภายในห้องพร้อมกับกลิ่นเหล้าเหม็นฉึ่งที่ติดไปตามเนื้อตัว ทำให้คนที่นั่งรอมาเกือบสามชั่วโมงถึงกับหัวเสียเพราะความไม่เป็เวลาของคนรัก
“แซคแวะไปส่งไอ้แบร์มา”
“เราโทรถามแบร์แล้ว กับฟากเราก็ถาม คราวนี้จะแก้ตัวอะไรอีก”
“เธออย่ามาจับผิดได้ปะ แล้วมันใช่เื่เหรอที่ต้องโทรเช็กแซคกับคนนู้นคนนี้อะ” คราวนี้เป็ร่างสูงที่เริ่มหัวเสีย อาจจะเพราะมีความผิดติดตัวเลยทำให้เขาเริ่มร้อนรนเผลอสาดถ้อยคำแย่ ๆ ใส่ยอดดวงใจอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“งั้นเธอพูดความจริงมาดิ ว่าไปไหนมา”
“...”
“วีกที่แล้วเหมือนกัน ที่บอกว่ากลับบ้านอะ อึก บ้านเธออยู่โรงแรมเหรอ?” ถ้าวันนั้นไม่ตามคุณศิระไปพูดคุยกับนักออกแบบ จานินคงไม่บังเอิญเห็นคนรักที่กำลังโอบประคองหญิงสาวเข้าไปในโรงแรมด้วยท่าทีสนิทสนม ทั้ง ๆ ที่ควรจะเดินหนีและแสร้งไม่รับรู้เหมือนที่ผ่านมาทว่าเขาเลือกที่จะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาใครบางคนเพื่อฟังถ้อยคำโกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
‘อยู่ไหน’
‘บ้านครับ แซคบอกั้แ่เมื่อเช้าแล้ว หรือเธอลืม?’
‘นั่นสิ เราลืมเลย’
‘บ๊องเอ๊ย! แซควางก่อนนะครับ ขออยู่กับพ่อก่อน’
‘อือฮึ รักเธอนะ’
‘มาแปลก แต่ก็รักเหมือนกันครับ’
คำว่ารักของอีกฝ่าย ทำให้จานินเลือกที่จะปิดตาข้างเดียวแล้วเริ่มหลอกตัวเองอีกครั้งว่าภาพที่เห็นเป็เพียงฝันร้ายเพราะความเป็จริงแซคยังรักกันอยู่...แซคยังรักจานินอยู่จริง ๆ นะ
“เราเจ็บจนทนไม่ไหวแล้วแซค เธออาจจะรำคาญที่เราถามบ่อย ๆ ว่าเธอรักเราไหม—”
“แซครักเธอ” โกหกอีกแล้ว
“ใช่ เพราะอย่างน้อยเธอก็ยังรักเรา เราถึงยังอยู่ตรงนี้” ถึงแม้จะเป็รักที่น้อยลงในทุก ๆ วันก็เถอะ จานินยอมรับว่าเขายึดติดกับอีกฝ่าย เพราะแซคเป็ชีวิต เป็โลกทั้งใบและเป็เหมือนบ้านหลังใหญ่ที่เขาโหยหามันอยู่ตลอด
“แซคขอโทษ ธะ...เธออย่าร้องไห้เลยนะ จะตบจะตีแซคยังไงก็ได้แต่อย่าร้องเลยนะ”
“...”
“แซครักเธอ รักมาก ๆ เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก แซคสัญญา” จานินมองคนรักที่คุกเข่าลงกับพื้นก่อนจะใช้สองแขนโอบกอดกันก่อนจะพร่ำบอกว่ารักซ้ำไปมาพร้อมกับปล่อยน้ำตาให้ไหลรินปานคนจะขาดใจ
มือเรียวยกขึ้นปาดน้ำตาตัวเองแรง ๆ หนึ่งทีก่อนจะเอ่ยปากไล่อีกฝ่ายให้ไปอาบน้ำ และคนที่มีความผิดติดตัวก็ยินยอมทำมันแต่โดยดี—ณ เวลานี้คำว่ารักของแซคยังคงมีอิทธิพลต่อเขา แต่เมื่อไรที่จานินไม่้ามันแล้ว เขาจะวิ่งหนีไปให้ไกลและไม่มีวันหวนกลับมาอย่างเด็ดขาด
Tbc
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้